เป็นครั้งแรกที่เย่ม่านรับรู้ถึงคุณค่าของคำว่า “ครอบครัว”
ถึงหยางเฉินยังไม่ยอมรับแม่ยายอย่างเธอ แต่ภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง ในคืนนี้ หยางเฉินช่วยเธอตั้งสองครั้ง
เธอรู้สึกเหมือนโดนเยาะเย้ย เธออยู่กับคนตระกูลเย่มาห้าสิบกว่าปี จนถึงตอนนี้ คนในตระกูลเย่อยากให้เธอตาย แม้กระทั่งพ่อแท้ๆ ของเธอ ตอนที่เธอจะโดนฆ่า พ่อยังไม่แยแส
กลับกันลูกสาวที่เธอไม่ได้เลี้ยงดูอย่างฉินซี เธอโทรเพียงสายเดียว ลูกสาวก็ให้หยางเฉินมาที่ตระกูลเย่
ตอนนี้ หยางเฉินมายืนขวางหน้าเธอ แถมยังพูดแบบนั้น ทำให้เธอเศร้าใจมาก
“พี่เฉิน ไอ้เลวนี่ ให้ผมจัดการเอง!”
จู่ๆ หม่าชาวก้าวเข้ามายืนข้างหยางเฉิน เขามองจินกางด้วยแววตาเย็นยะเยือก และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม
หยางเฉินส่ายหน้า “นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”
เพียงประโยคเดียว ทำให้หม่าชาวรู้ว่าตัวเองยังห่างชั้นกับอีกฝ่ายมาก เขาไม่เซ้าซี้ และถอยหลังลงไป
แววตาของจินกางน่ากลัวมาก ตอนนี้เขามองหยางเฉิน ด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม
“ไอ้กระจอก แกเป็นใครกันแน่”
จินกางจ้องหยางเฉินอยู่นาน จึงเอ่ยถามขึ้น
พละกำลังและความเร็วที่หยางเฉินเผยให้เห็นเมื่อครู่ ทำให้เขารู้สึกกดดันมาก
การเป็นอันดับสามของสมาคมบูโด จึงไม่ต้องสงสัยเรื่องพละกำลัง
เขาจะฆ่า แต่กลับโดนชายหนุ่มที่อายุไม่ถึงสามสิบ เล่นงานจนเขาถอยหลัง
เขาไม่มีทางเชื่อ ถ้าบอกว่าไม่มีใครอยู่เบื้องหลังหยางเฉิน
“ฉันเป็นใครไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือ แกแน่ใจแล้วใช่ไหม ที่จะสู้กับฉัน”
หยางเฉินเอามือไขว้หลัง และมองจินกางด้วยสีหน้าราบเรียบ
เขายืนอยู่ตรงนั้น เหมือนเป็นราชาของที่นี่ เขาให้ความรู้สึกสูงส่ง และไม่เห็นใครอยู่ในสายตา
คนในตระกูลเย่ มองหยางเฉินอย่างเลื่อมใส
ก่อนหน้านี้ หยางเฉินจะจัดการตระกูลเย่ คนตระกูลเย่จึงเกลียดหยางเฉิน อยากให้เขาตายที่นี่
แต่ตอนนี้หยางเฉินช่วยตระกูลเย่อีกครั้ง พวกเขาจึงมองหยางเฉินดีขึ้นมา
แววตาของเย่ม่านเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ ตอนแรกเธอคิดว่า การที่สู้กับสมาคมบูโด หยางเฉินต้องตายแน่
แต่สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึง ตอนที่จินกางจะฆ่าเธอ หยางเฉินสามารถช่วยเธอจากเงื้อมมือของจินกางได้
ความสามารถอยู่ในระดับเดียวกับพวกจินกาง เมื่อเทียบกันแล้ว ฆ่าคนคงง่ายกว่าช่วยคนมาก
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หยางเฉินยังช่วยเธอ
แค่จุดนี้ ก็สามารถตัดสินได้แล้ว
จู่ๆ เธอรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมา ถ้าหยางเฉินกำราบจินกางได้จริง งั้นก็แสดงว่า ความสามารถของหยางเฉิน สามารถจัดการสมาคมบูโดได้ใช่ไหม
“ขนาดตัวตน แกยังไม่กล้าเปิดเผยเลย”
จินกางหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้น
ตอนนี้ ความอาฆาตบนตัวเขาหายไปแล้ว ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเล็กน้อย
การที่เป็นประธานสาขาใหญ่ เขตจิ่วโจว ไม่ใช่เพียงพละกำลังที่เหนือกว่าคนอื่น ถ้าไม่มีไหวพริบ ถึงเขาจะเก่งกว่านี้ คงไม่สามารถเป็นประธานสาขาใหญ่ได้หรอก
ถึงทั้งสองยังไม่ได้สู้กันจริงจัง แต่เขารับรู้ได้ถึงอันตรายจากตัวหยางเฉิน เขารู้สึกเหมือนทำพลาด ถ้าทั้งสองคนสู้กัน คนที่ตายอาจจะเป็นตัวเขาเอง
ยิ่งไปกว่านั้น หยางเฉินยังมีเบื้องหลังที่น่ากลัว ถึงเขาฆ่าหยางเฉินได้ คิดว่าเขาจะกล้าทำไหมล่ะ
“หยางเฉิน ลูกชายที่ถูกตระกูลอวี๋เหวินทอดทิ้ง!”
หยางเฉินลังเลเล็กน้อย จู่ๆ เขาก็พูดออกมา
เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ ถึงเขาไม่พูด จินกางก็สามารถสืบได้อย่างง่ายดาย
จากตัวตนของเขา จินกางพอจะเดาอะไรบางอย่างได้
เป็นไปตามคาด สีหน้าของจินกางเปลี่ยนไปเล็กน้อย แววตาเคร่งขรึมขึ้น
ถ้าเป็นแค่ลูกชายที่ถูกตระกูลอวี๋เหวินทอดทิ้ง คงไม่มีพละกำลังแข็งแกร่งเช่นนี้
หยางเฉินบอกแล้วว่าเขาคือลูกชายที่ถูกตระกูลอวี๋เหวินทอดทิ้ง งั้นแสดงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามี เขาได้มันมาด้วยตัวเขาเอง
จินกางสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่ง ที่แผ่ออกจากตัวหยางเฉินกับหม่าชาว คนประเภทนี้ จะต้องผ่านสนามรบมามากมาย ถึงมีพละกำลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้
“เหอะๆ ตระกูลอวี๋เหวินโง่จริงๆ สงสัยพวกเขาคงจะเสียใจอย่างมากเลยสินะ”
จินกางยิ้มและเอ่ยขึ้น จากนั้นจึงกวักมือ “กลับมาให้หมด!”
เมื่อเขาพูดจบ เหล่าผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโด ที่ล้อมหยางเฉินกับหม่าชาวเอาไว้ รีบถอยกลับมาทันที
คนตระกูลเย่มีสีหน้าสงสัย จินกางจะถอยเหรอ
“หยางเฉิน ฉันเลื่อมใสที่แกกล้าหาญ เดินออกมาจากที่นั่น เรื่องวันนี้ ฉันจะไม่ถือสาหาความ”
จู่ๆ จินกางพูดขึ้นมา เขาเลิกคิ้วขึ้น และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แต่ครั้งนี้ สมาคมบูโดของฉัน สูญเสียนายพลบู๊ไปคนหนึ่ง และเสียท่านแปดไปคนหนึ่ง ถ้าฉันพาพวกลูกน้องกลับไปเช่นนี้ จะทำให้ลูกน้องของฉันเจ็บปวดใจไม่ใช่หรือไง”
“แกต้องการอะไร” แววตาหยางเฉินนิ่งดั่งสายน้ำ
“ฉันต้องการข้อแลกเปลี่ยน คงไม่เกินไปใช่ไหม” จินกางถาม
หยางเฉินหันไปพูดกับเย่ม่าน “เอาตัวเย่หวูซวงให้พวกเขา!”
เมื่อได้ยินดังนั้น เย่ม่านมีสีหน้าสงสัย ส่วนคนตระกูลเย่พากันงุนงง
แต่เพียงครู่เดียว เย่ม่านตั้งสติ และให้คนยกศพเย่หวูซวง มาวางตรงหน้าจินกาง
จินกางเลิกคิ้วขึ้น “แกหมายความว่าอะไร”
“ท่านเก้าของสมาคมบูโด เป็นฝ่ายไปงานต่อสู้ที่เจียงผิง เพื่อต่อสู้กับฉัน และโดนฉันฆ่าตายบนเวที เรื่องนี้คงโทษฉันไม่ได้ใช่ไหม”
จู่ๆ หยางเฉินถามขึ้น
จินกางพยักหน้า “เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของหนิวเกนหุย ไม่ได้รับอนุญาต ก็ไปร่วมงานต่อสู้ที่เจียงผิง ตามอำเภอใจ ต่อสู้จนตาย เพราะหาเรื่องใส่ตัว”
หยางเฉินพยักหน้า “ส่วนท่านแปด ฉันไม่ได้มีอะไรแค้นเคืองกับเขา เพราะศพที่อยู่ใต้เท้าแก เขาบอกการเคลื่อนไหวของฉัน ให้ท่านแปดรู้”
“ท่านแปดมาขวางทาง ระหว่างทางที่กลับมาจากตระกูลเย่ และขู่ว่าจะฆ่าฉัน เพื่อแก้แค้นให้ท่านเก้า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน หัวหน้าจินคงจะไม่ปฏิเสธใช่ไหม”
เมื่อได้ยินดังนั้น จินกางขมวดคิ้ว ถ้าเป็นอย่างที่หยางเฉินพูดจริง แน่นอนว่าจะโทษหยางเฉินไม่ได้ เพราะคนของสมาคมบูโด เป็นฝ่ายไปหาเรื่องก่อน แต่เพราะฝีมือไม่ถึง เลยโดนฆ่าแทน
“ลือเหมิงเป็นฝ่ายหาเรื่อง เพราะเขาฝีมือไม่ถึง จึงโดนฆ่า ก็ต้องโทษที่ตัวเขาเองไม่ฝึกให้ชำนาญ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแก!” จินกางพูดขึ้นอีกครั้ง
“พูดถึงทรราช เพราะศพใต้เท้าแกอีกเช่นกัน เขาเป็นคนแจ้งข่าว ทรราชจะฆ่าเพื่อนฉัน ฉันจำเป็นต้องฆ่าเขา”
หยางเฉินยังคงมีท่าทีสบายๆ ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กๆ
เมื่อพูดออกมา จินกางไม่มีอะไรจะเถียง
ข้อแลกเปลี่ยนที่เขาต้องการคือคำอธิบาย ที่หยางเฉินฆ่าคนสำคัญในสมาคมบูโดถึงสามคน
แต่ตอนนี้ การตายของแต่ละคน เป็นการรนหาที่ตายเอง มาคิดให้ดี จะโทษหยางเฉินก็ไม่ได้
“สำหรับเรื่องในคืนนี้ ฉันขอโทษจริงๆ ตอนนี้หัวโจกโดนฆ่าตายแล้ว ไม่รู้ว่าข้อแลกเปลี่ยนนี้ หัวหน้าจินจะพอใจหรือไม่” หยางเฉินถามต่อ