ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1931 : 5 ล้านล้านลูก

ตอนที่ 1931 : 5 ล้านล้านลูก

    แล้วข้าเปิดเผยเรื่องทะเลบรรพกาลให้คนอื่นรู้ได้รึไม่ ?  ซื่อเซียว ลังเลและถามขึ้นมา

    ทำไมจะไม่ได้ ?  จางหยูยิ้มออกมา ก่อนจะพูดว่า   เจ้ารู้แล้วทำไมพวกเขาจะรู้ไม่ได้ ? 

  ซื่อเซียวคิดตาม เมื่อจางหยูบอกเรื่องนี้กับเขา งั้นก็คงไม่ถือสาที่จักรพรรดิคนอื่นจะรู้ด้วย

  ซื่อเซียวพยักหน้าและพูดขึ้น   ได้ ข้าจะบอกพวกเขา ข้าเดาว่าพวกเขาเองก็เบื่อชีวิตในทะเลโกลาหลเหมือนกัน 

  ไม่มีใครอยากอยู่ในที่ที่อันตรายแบบนี้หรอก จักรพรรดิกุยหลิงเหมือนกับระเบิดเวลาที่ไม่รู้ว่าจะระเบิดตอนไหน เมื่อมันระเบิด งั้นจักรพรรดิก็ไม่กล้าบอกว่าจะรับมือกับมันได้

    ใช่สิ ถึงข้าจะต้อนรับเจ้ามาที่นี่ แต่ไม่ได้ให้เจ้ามาทำอะไรที่นี่ได้ตามใจ  จางหยูพูดขึ้น   นี่คือพื้นที่ของข้า ข้าต้อนรับเจ้าแต่ไม่ได้หมายความว่าจักรพรรดิคนอื่นจะต้อนรับเจ้าด้วย…หากเจ้าสร้างปัญหารึทำให้จ้าวแห่งทะเลบรรพกาลกังวล ข้าเกรงว่ามันคงกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก 

  เหตุผลที่แท้จริงคือ….ตอนนี้ทะเลบรรพกาลยังมีขนาดเล็กเกินไป หากทะเลโกลาหลเป็นทะเลแล้ว ที่นี่คงเป็นแค่บึงเล็กๆ หากให้ซื่อเซียวและคนอื่นๆเดินทางไปมารอบๆ งั้นพวกนี้ก็ต้องเห็นปัญหา จางหยูได้สร้างพื้นที่จำกัดรวมถึงจำกัดการรับรู้ของพวกเขาเอาไว้แล้ว ฉากภายนอกพื้นที่นี้จึงถูกปกปิดเอาไว้

  หลังจากที่ได้ยินคำพูดของจางหยู ซื่อเซียวก็พูดขึ้นมา   สบายใจได้ เจ้าให้ที่พักพิงกับเราก็ดีแล้ว เราไม่กล้าจะสร้างปัญหาให้เจ้าหรอก 

  อันตรายของทะเลโกลาหลนั้นมากเกินจนไม่อาจจะรับได้ ข้อจำกัดของทะเลบรรพกาลนี้จึงดูน้อยนิดไปเลย  ซื่อเซียวได้ตัดสินใจแล้ว เขาจะย้ายมาอยู่ที่ทะเลบรรพกาลโดยทิ้งร่างแยกไว้ที่ทะเลโกลาหล และสุดท้ายเขาก็สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆได้

  ถึงจักรพรรดิคนอื่นๆจะไม่มั่นใจแต่เขานั้นมั่นใจว่าจะทำเช่นนี้

    ใช่สิ อย่าลืมเรื่องลูกปัดดั้งเดิม  จางหยูพูดขึ้นมา   เรื่องนี้คงไม่มีปัญหาอะไรใช่หรือไม่ ? 

  จางหยูไม่ใช่แค่คิดจะปล้นจักรพรรดิเหล่านี้เท่านั้น เขายังคิดที่จะดึงคนพวกนี้มาเป็นพวกด้วย นี่เป็นการยิงศรดอกเดียวได้นกสองตัว ตอนนี้ดูเหมือนว่าความคิดของเขาจะเป็นไปได้สูง ดูจากท่าทีของซื่อเซียวแล้ว ดูเหมือนว่าแผนการที่เขาทำจะสำเร็จในไม่ช้าอย่างแน่นอน

  ซื่อเซียวลังเลและถามขึ้นมา   เจ้าต้องการเท่าไหร่กัน ?  เขากลัวว่าจางหยูจะต้องการลูกปัดจำนวนมากจนทำให้เขาหมดตัว ยังไงซะการดูแลเขตซื่อเซียวนั้นก็ต้องใช้ลูกปัดดั้งเดิมอยู่บ้าง แม้ว่าเขาคิดจะออกจากทะเลโกลาหลมาแต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมทิ้งโกลาหลของตัวเอง

    เจ้าให้ได้เท่าไหร่ ? ยิ่งเยอะก็ยิ่งดี  จางหยูถามขึ้นมา

  ซื่อเซียวลังเลอยู่สักครู่ ฟังจากคำพูดของจางหยูแล้ว เขาไม่รู้เลยว่าจางหยูต้องการลูกปัดมากแค่ไหน เขาได้แต่ถามหยั่งเชิงออกมา   สามล้านล้าน ? 

    ว่าไงนะ ?  จางหยูตัวสั่นเมื่อได้ยินตัวเลขมหาศาลนี้

  3 ล้านล้านงั้นหรือ ?

  เขากลัวขึ้นมาเมื่อนึกถึงภาพลูกปัดดั้งเดิมกว่าสามล้านล้านลูกมากองอยู่ตรงหน้า

  มันต้องน่าตกใจแน่ๆ

  จักรพรรดิร่ำรวยขนาดนี้เลยรึ ?

  สามล้านล้านกลับเป็นแค่ข้อเสนอแรกเท่านั้น !

  เมื่อเห็นท่าทีของจางหยู ซื่อเซียวก็คิดว่าจางหยูไม่พอใจ เขาเสียงสั่นและพูดขึ้นมา   ไม่พองั้นรึ ? งั้น… 5 ล้านล้านล่ะ ได้หรือไม่?  เขากลัวว่าจางหยูจะไม่พอใจและปฏิเสธไม่ให้เขาเข้ามาในทะเลบรรพกาลอีก เพราะเหตุผลนี้เขาจึงเพิ่มไปอีก 2 ล้านล้านก้อนทันที แม้ว่าลูกปัดดั้งเดิมจะมีประโยชน์กับเขาไม่มากนัก แต่การใช้ลูกปัดไปมากแบบนี้ในคราวเดียวก็ทำให้เขาปวดใจอยู่ดี

  ไม่ใช่แค่ 3 ล้านล้าน แต่เป็น 5 ล้านล้านก้อน !

    พอแล้ว  จางหยูได้สติกลับมาจึงพูดขึ้น เขาพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองแล้วพูดออกมา   5 ล้านล้านก็พอแล้ว 

  ตอนนี้ในใจของเขาตื่นเต้นอย่างมาก ลูกปัดดั้งเดิม 5 ล้านล้านลูก เพียงพอที่จะสร้างกองกำลังแม่ทัพขึ้นมาได้ มันจะทำให้ทะเลบรรพกาลขยายขึ้นจากเดิมมาหลายเท่า

  แม้ว่าเขาจะยังไม่อาจจะใช้พลังของจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลออกมาได้ แต่แน่นอนว่าเขาต้องเหนือกว่าจักรพรรดิคนอื่นๆ  เขามองซื่อเซียวด้วยสายตาเป็นมิตรมากกว่าเก่า ราวกับมองดูนายน้อยจากตระกูลที่ร่ำรวย ซื่อเซียวนี่ช่างเป็นคนดีเสียจริงๆ

  เมื่อเขาเอ่ยปากขออะไร ซื่อเซียวก็จะหามาให้ เขาคงหาคนที่ใจดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว

  เมื่อได้ยินที่จางหยูพูดมา ซื่อเซียวก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขารีบพูดขึ้นมาทันที   ตกลงลูกปัด 5 ล้านล้านลูก เมื่อร่างหลักของข้ามาที่นี่ ข้าจะเอามันมาให้เจ้าด้วย  เห็นได้ว่าเขาปวดใจนิดๆ แต่ลูกปัดดั้งเดิม 5 ล้านล้านลูกแลกกับการที่ได้เข้ามาในทะเลบรรพกาลนั้น เขาพอใจกับการแลกเปลี่ยนนี้อย่างมาก

  จางหยูพยักหน้าด้วยความพอใจ   ตกลง  

  เมื่อเห็นว่าตกลงกันเสร็จแล้ว ซื่อเซียวก็ได้พูดขึ้น   เจ้าช่วยส่งข้าออกไปที  

    รออีกสักเดี๋ยว  จางหยูพูดขึ้น   ข้ายังมีอีกเรื่องที่ต้องการจะรบกวนเจ้า    ซื่อเซียวใจสั่นขึ้นมาทันที เขากลัวว่าจางหยูจะเรียกร้องเกินความสามารถของเขา เขาจึงถามขึ้นมา   เรื่องอะไรกัน ? 

    เก่อเย่ …เจ้าช่วยยกเขาให้ข้าได้รึไม่ ?  จางหยูลังเลและถามขึ้นมา

    เก่อเย่งั้นรึ ? 

  เขาคิดไม่ออกว่าทำไมจางหยูที่เป็นจักรพรรดิถึงต้องมาสนใจแม่ทัพด้วย เก่อเย่สร้างปัญหาให้กับจางหยูงั้นรึ ?

  แต่เขาไม่ได้คิดอะไรมากและตอบกลับทันที   ได้แค่แม่ทัพ เจ้าต้องการจะทำอะไรเขาก็ทำเลย 

  แม้ว่าเก่อเย่จะเป็นคนที่เขาแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพด้วยตัวเอง และเป็นตัวแทนของเขาแต่มันก็ไม่อาจจะเทียบได้กับความปลอดภัยของเขาที่จะแลกมาในตอนนี้ เพื่อที่จะเข้ามาในทะเลบรรพกาล นี่ไม่ต้องพูดถึงการแลกตัวแม่ทัพคนเดียวเลย แม้ว่าต้องใช้แม่ทัพทั้งหมดของโกลาหลซื่อเซียวเขาก็ไม่ลังเล  ในสายตาของจักรพรรดิแล้ว แม้แต่แม่ทัพก็ไม่ได้ต่างอะไรจากมดปลวกเลย

  พวกเขาแค่ไว้หน้าอีกฝ่ายก็เท่านั้น

    ขอบคุณเจ้ามาก  เมื่อเห็นว่าซื่อเซียวไม่ถามหาเหตุผลและยกเก่อเย่ให้ทันที จางหยูก็พอใจอย่างมาก แม้แต่จักรพรรดิก็ต้องมีความรู้สึกไม่ต่างจากคนทั่วไปแค่ว่าพวกเขาสูงส่งและไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยก็เท่านั้น

  ความรู้สึกต่างๆล้วนแต่มีในตัวจักรพรรดิทุกคน

  อย่ามองท่าทีเป็นมิตรของซื่อเซียวที่มีต่อจางหยูเท่านั้น จางหยูรู้ดีว่าการที่ซื่อเซียวแสดงท่าทีเป็นมิตรแบบนี้ก็เพื่อจะได้เข้ามาในทะเลบรรพกาล

  หากจางหยูไม่ตกลงกับข้อเสนอนี้ งั้นบางทีท่าทีของซื่อเซียวอาจจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ได้

  จางหยูส่ายหน้าก่อนจะบอกกับซื่อเซียว   ข้าจะส่งเจ้าออกไป เจ้าจัดการเรื่องฝั่งนั้นเสร็จแล้วติดต่อหาร่างแยกข้าได้เลย ข้าจะให้เขาส่งเจ้าเข้ามาเอง 

  ทันทีที่พูดจบจางหยูก็ได้สร้างวังวนขึ้นมาเชื่อมต่อกับโลกป่า

  …

  ที่จวนของซื่อเซียว

  ซื่อเซียวเงียบไปและทำการครุ่นคิด   ทะเลบรรพกาล…  สีหน้าเขาดูอึ้งกับสิ่งที่ได้เห็นอยู่ไม่น้อย

  ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง เขาคงไม่เชื่อว่าด้านนอกทะเลโกลาหลนั้นจะมีสิ่งที่คล้ายกันอยู่ ที่น่าตกใจกว่านั้นคือเขาเพิ่งได้ยินตัวตนของจ้าวแห่งทะเลบรรพกาล มันคือตัวตนที่สูงส่งกว่าจักรพรรดิ เหนือกว่าจักรพรรดินั้นไม่ได้มีแค่จ้าวแห่งทะเลโกลาหลเท่านั้น

  ในทางกลับกันแล้วความกลัวที่มีต่อจักรพรรดิกุยหลิงก็ลดลงอย่างมาก

  จักรพรรดิกุยหลิงนั้นแข็งแกร่งและน่ากลัว แต่จะมาเทียบกับจ้าวแห่งทะเลโกลาหลได้ยังไง ?

    หวังว่าจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลจะไม่ประสงค์ร้ายต่อทะเลโกลาหล  ซื่อเซียวภาวนาในใจ ต่อหน้าตัวตนสูงสุดของทะเลบรรพกาล เขารู้สึกว่าหมดพลังจะต้านทาน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะหวังดีรึร้ายแต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อฟังคำสั่งของอีกฝ่าย แม้ว่าอีกฝ่ายจะอยากให้เขาตายแต่เขาก็ไม่มีความสามารถเพียงพอจะดิ้นรนได้

  ซื่อเซียวสูดหายใจเข้าลึกๆไม่คิดถึงเรื่องจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลต่อ

  เขาคิดว่าจะบอกจักรพรรดิมนุษย์ที่เหลือเรื่องทะเลบรรพกาลดีรึไม่

  ทุกคนอาจจะคิดว่าเขาโกหก จักรพรรดิคนอื่นๆไม่รู้เรื่องตัวตนของทะเลบรรพกาล พวกนั้นกลัวแต่จักรพรรดิกุยหลิง หากเขาทำได้ เขาไม่อยากบอกความลับเรื่องนี้กับจักรพรรดิมนุษย์คนอื่นๆ

  หลังจากนั้นสักพักเขาก็ตัดสินใจที่จะพูด !   ทะเลบรรพกาลไม่ใช่ดินแดนของเขา ต่อหน้าจางหยูแล้ว เขาไม่มีความกล้ามากที่จะปิดเรื่องนี้เป็นความลับ หากจักรพรรดิทุกคนร่วมมือกันอาจจะพอมีสิทธิ์จะพูดอะไรได้บ้าง อย่างน้อยก็ไม่ต้องเจียมตัวมากนักเมื่ออยู่ต่อหน้าจางหยู

  ถึงจะเข้าไปอยู่ในดินแดนของคนอื่น แต่พวกเขาก็ไม่อยากก้มหัวให้กับคนอื่น

    แต่ข้าจ่ายลูกปัดไป 5 ล้านล้านลูกแล้ว พวกนั้นก็ต้องจ่ายเช่นกัน  ซื่อเซียวสลดไปเมื่อนึกถึงลูกปัดที่เสียไป

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท