หยางเฉินที่เมื่อกี้ยังอยู่ห่างตั้งหลายสิบเมตร ตอนนี้กลับมาปรากฏตัวอยู่ข้างเขาแล้ว
ในตอนนี้ อวี๋เหวินปิงรู้แค่ว่าตัวเองนั้นขนลุกไปทั้งตัวแล้ว
หยางเฉินไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย เตะขาออกไปอย่างรวดเร็ว จนร่างกายกลายเป็นภาพซ้อน และไปขวางอยู่ด้านหน้าของอวี๋เหวินปิงทันที
อวี๋เหวินปิงรู้สึกแค่ว่าขนลุกไปทั้งตัว สีหน้าซีดเซียวจนถึงขีดสุด ในแววตาก็มีเพียงความหวาดกลัวที่เต็มเปี่ยมเท่านั้น
เเล้วเห็นหยางเฉินซัดหมัดมาที่เขา พละกำลังอันมหาศาลก่อให้เกิดเสียงแหวกอากาศที่ดังลั่น
“หยางเฉิน แกห้ามฆ่าฉันนะ!”
อวี๋เหวินปิงตะโกนออกมา “ฉันรู้ความลับอย่างหนึ่งของแม่แก!” หยางเฉินที่ตั้งใจจะปลิดชีพอวี๋เหวินปิง หลังจากได้ยินความลับของแม่ตัวเองแล้ว หัวใจก็เริ่มสั่นคลอนขึ้นมาอย่างแรง
หมัดที่เขาซัดออกไป ถึงอยากชักมันกลับมา มันก็สายเกินไปแล้ว
“ตุบ!”
ในจังหวะหน้าสิ่วหน้าขวานนี้ หมัดที่ซัดออกไปของหยางเฉินก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นฝ่ามือ การโจมตีที่ต้องการเล็งไปที่หัวใจในตอนแรก ถูกเปลี่ยนตำแหน่งไปนิดหนึ่ง
ฝ่ามือของหยางเฉินซัดไปที่หน้าอกของอวี๋เหวินปิง แล้วเห็นร่างกายของอวี๋เหวินปิงกระเด็นออกไปหลายสิบเมตรราวกับว่าวที่ด้ายขาดไปแล้ว
นี่เป็นผลจากการที่หยางเฉินยั้งมือเอาไว้ ถ้าเมื่อกี้เกิดช้าไปแม้แต่นิดเดียว อวี๋เหวินปิงก็คงจะถูกฆ่าตายไปในชั่วพริบตาแล้ว
ถึงจะเป็นแบบนั้น อวี๋เหวินปิงที่ถูกฝ่ามือซัดใส่นั้น หน้าอกก็ถึงกับยุบ กระอักเลือดออกมาเฮือกใหญ่ จากนั้นก็หมดสติไปเลย
และในตอนนั้นเอง ชายชราในชุดดำก็ได้ไล่ตามมาทัน เขารีบเข้ามาขวางอยู่ตรงหน้าของอวี๋เหวินปิง จ้องมองหยางเฉินด้วยสีหน้าที่โกรธเกรี้ยว แววตาก็เปี่ยมไปด้วยความเย็นชา
“หลีกไป!”
หยางเฉินก้าวไปข้างหน้า และพูดออกมาเบาๆ
“หยาเฉิน นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”
สีหน้าของชายชราในชุดจีนเคร่งขรึมจนน่ากลัว น้ำเสียงยังแฝงด้วยความโมโหอย่างรุนแรง
“ผมบอกให้คุณไสหัวไปซะ!”
หยางเฉินตะคอกออกมา
เมื่อกี้ถ้าไม่ใช่เพราะอวี๋เหวินปิงตะโกนมาว่ารู้เรื่องความลับของแม่เขา ตอนนี้ก็คงได้กลายเป็นศพไปแล้ว
ถึงแม้ตอนนี้อวี๋เหวินปิงจะสลบไปแล้ว แต่หยางเฉินก็ยังจะเอาตัวอวี๋เหวินปิงไปด้วยอยู่ดี
ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับแม่ของเขา เขาก็ไม่มีทางปล่อยผ่านอย่างแน่นอน
ในความทรงจำของเขา เหมือนแม่จะไม่เคยพูดถึงคนในครอบครัวเลย
ตอนนี้ อวี๋เหวินปิงกลับมาบอกว่ารู้เรื่องความลับของแม่เขา แค่คิดก็รู้แล้ว ว่าหยางเฉินนั้นอยากรู้เรื่องความลับนี้มากแค่ไหน
“ไอ้หนู เธอมั่นใจจริงๆ เหรอว่าจะให้ฉันไป?”
“ถ้าฉันไปแล้วจริงๆ เธอจะต้องเสียใจแน่นอน!”
“ตอนนี้ เธออยู่ในที่แจ้ง ฉันอยู่ในที่มืด ถ้าฉันต้องการที่จะทำอะไรที่มันไม่ดีกับเธอ เธอคงต้องทรมานแน่ๆ เลยจริงมั้ย?”
จู่ๆ ชายชราในชุดจีนก็พูดออกมา เป็นคำพูดที่มีแต่การข่มขู่
สีหน้าของหยางเฉินค่อยๆ บูดเบี้ยวขึ้นมา ดวงตาสีดำคู่นั้น เหมือนมีลำแสงที่สามารถยิงใส่คนกำลังส่องแสงอยู่
“นี่คุณกำลังข่มขู่ผมอยู่อย่างนั้นเหรอ?”
หยางเฉินถามพร้อมกับหรี่ตา
ต่อให้เป็นชายชราในชุดจีน ในตอนนี้ ก็ยังรับรู้ได้ถึงจิตสังหารอันน่ากลัวที่ปกคลุมอยู่
“ถ้าเธอจะคิดว่ามันเป็นการข่มขู่ ก็ย่อมได้!”
ชายชราในชุดจีนพูด วันนี้ ฉันจำเป็นต้องได้ตัวอวี๋เหวินปิงไป!”
หยางเฉินไม่ได้พูดอะไร สายตาที่เย็นชาคู่นั้นกำลังจ้องมองไปที่ชายชราในชุดจีน
เขานั้นเข้าใจความหมายของอีกฝ่ายอยู่แล้ว เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอีกฝ่ายเลย แต่ข้อมูลทุกอย่างของเขานั้นกลับถูกเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน
ถ้าชายชราในชุดจีนอยากทำอะไรคนที่อยู่รอบตัวของหยางเฉินจริง ต่อให้หยางเฉินเก่งกาจแค่ไหน ก็ไม่มีทางดูแลได้อย่างทั่วถึงแน่นอน
นอกจากว่าหยางเฉินจะเอาทุกคนที่สำคัญกับเขามาอยู่รวมกัน แล้วอยู่กับพวกเขาไปตลอด
นี่มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย
จากความสามารถที่ชายชราในชุดจีนแสดงออกมานั้น ถ้าเขาคิดจะทำอะไรคนที่อยู่ข้างกายหยางเฉินจริง หยางเฉินก็ยังไม่มีกำลังมากพอที่จะปกป้องจริงๆ
“เรื่องในวันนี้ ให้มันจบลงแค่นี้!”
“ฉันจำเป็นตัวพาตัวอวี๋เหวินปิงไป แน่นอนถ้าเธอดึงดันที่จะเก็บเขาไว้ ฉันก็จะทิ้งเขาไว้เป็นไง?”
“แต่ว่า เธอต้องคิดถึงผลที่จะตามมาให้ดีซะก่อน!”
ชายชราในชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา คำพูดที่พูดมายังคงแฝงไปด้วยการข่มขู่
“เธอจะต้องเสียใจแน่นอน!”
จิตสังหารในตัวหยางเฉินค่อยๆลดน้อยลงไป สายตาที่เย็นชานั่น ไม่มีความรู้สึกเลยสักนิด
คำพูดที่เหมือนจะใจเย็นมากๆ แต่มันกลับทำให้ชายชราในชุดจีนรู้สึกถึงการข่มขู่อย่างรุนแรง
“อนาคตจะเสียใจรึเปล่าผมไม่รู้ แต่สิ่งที่ผมมั่นใจก็คือ อย่างน้อยตอนนี้ ผมก็ไม่เสียใจ!”
ชายชราในชุดจีนพูดจบ ก็ได้คว้าตัวของอวี๋เหวินปิงที่สลบไปแล้ว พอออกแรงยก อวี๋เหวินปิงที่สูงร้อยหกสิบร้อยเจ็ดสิบก็ถูกยกขึ้นไปพาดไว้บนไหล่
จากนั้น ก็หมุนตัวแล้วแบกอวี๋เหวินปิงจากไปทั้งอย่างนั้น
หยางเฉินไม่ได้ไล่ตามไป สายตาคู่นั้นเอาแต่จ้องมองไปยังอีกฝ่าย
“ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ งั้นจะยอมปล่อยให้คุณมีชีวิตต่อไปอีกสักพักแล้วกัน!”
รอจนชายชราในชุดจีนแบกอวี๋เหวินปิงหายไปจากสายตาของหยางเฉิน หยางเฉินถึงได้พูดออกมาอย่างไม่ชอบใจจากนั้นก็หันหลังแล้วเดินจากไป
ความสามารถที่ชายชราในชุดจีนแสดงออกมานั้น ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเลย ถ้าหยางเฉินต้องการฆ่าอวี๋เหวินปิงให้ตายนั้นมันง่าย แต่ถ้าต้องการจะเอาตัวอวี๋เหวินปิงไปนั้น มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ในทางเดียวกัน ถ้าหยางเฉินไม่ยอม ชายชราในชุดจีนก็พาตัวอวี๋เหวินปิงไปไม่ได้เหมือนกัน
แต่ว่า อวี๋เหวินปิงบอกว่าเขารู้เรื่องความลับอย่างหนึ่งของแม่หยางเฉิน เขาดันสลบไปก่อน ก่อนที่หยางเฉินยังไม่ได้รู้ความลับเรื่องนั้น ก็ไม่มีทางฆ่าอวี๋เหวินปิงแน่นอน
ไม่นาน หยางเฉินก็กลับมาถึงตึกร้างที่ยังสร้างไม่เสร็จเมื่อกี้ เฉียนเปียวที่กำลังจับตาดูโจวยู่ชุ่ยอยู่บนดาดฟ้า พอเห็นหยางเฉินกลับมาจึงได้รีบถามไปว่า “พี่เฉิน คนล่ะครับ?”
“ถูกพาตัวไปแล้ว!”
หยางเฉินตอบมาแค่คำเดียว มันก็ทำให้เฉียนเปียวตกใจจนตาค้างแล้ว ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ
ชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวแค่ไหน เขานั้นรู้ดีที่สุด
ตอนนี้ อวี๋เหวินปิงกลับถูกพาตัวไป แล้วชายชราในชุดจีนคนนั้นจะน่ากลัวถึงขนาดไหนกัน?
เห็นได้ชัดว่าหยางเฉินไม่อยากพูดอะไรมาก เฉียนเปียวก็ไม่กล้าถาม
“ยะ……หยางเฉิน!”
เมื่อโจวยู่ชุ่ยเห็นหยางเฉินปรากฏตัว เธอก็ทำหน้าหวาดกลัว แล้วล้มลุกคลุกคลานมาจนถึงตรงที่หยางเฉินยืนอยู่ เธอคุกเข่าทั้งสองข้าง แล้วพูดทั้งน้ำตาว่า “หยางเฉิน ฉันผิดไปแล้ว แกให้โอกาสฉันสักครั้งนะ ฉันจะปรับปรุงตัวเองให้ดีเปลี่ยนเป็นแม่ที่ดี เปลี่ยนเป็นแม่ยายที่ดี”
เธอนั้นตกใจจนช็อกไปแล้วจริงๆ แม้แต่คุณชายตระกูลอวี๋เหวินของแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูยังเกือบถูกหยางเฉินฆ่าตายเลย แล้วจะนับประสาอะไรกับเธออีก?
ตอนนี้ เธอแค่อยากมีชีวิตรอดต่อไปเท่านั้น!
ตอนแรกเธอนั้นเกลียดการถูกขังอยู่ในคุกเป็นที่สุด ถึงขั้นยอมตายก็ยังไม่อยากนอนอยู่ในที่แห่งนั้นต่อเลย
แต่มาตอนนี้ จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าการได้อยู่ในคุกมันก็คือสวรรค์ดีๆ นี่เอง การอยู่ในนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่มีอิสรภาพ อย่างน้อยก็ยังมีให้กินให้ดื่มให้นอน แต่ถ้าตายไป มันก็ไม่เหลืออะไรเลย
เธอไม่อยากตาย ไม่อยากตายเลยจริงๆ
“ตุบ!”
เฉียนเปียวตีบโจวยู่ชุ่ยจนกระเด็นออกไป แล้วพูดด้วยความโมโหว่า “เธอมันนังสารเลว แม้แต่ลูกสาวของตัวเองยังคิดจะทำร้าย แล้วตอนนี้ยังกล้ามาขอร้องให้พี่เฉินละเว้นอีกเหรอ?”
“ฉันผิดไปแล้ว ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ!”
โจวยู่ชุ่ยพูดไปร้องไห้ไป
“พี่เฉินครับ ผู้หญิงคนนี้ถึงตายไปก็ไม่น่าเสียดาย พี่เคยให้โอกาสมันไปตั้งกี่รอบแล้ว เป็นมันเองที่ไม่ยอมรักษาโอกาสในการมีชีวิตไว้ ถ้ายังปล่อยให้มันอยู่รอดต่อไป พอมันหาโอกาสที่จะได้แก้แค้น พี่จะต้องเสียใจแน่นอน!”
เฉียนเปียวรู้ดีว่าโจวยู่ชุ่ยนั้นเป็นแม่ยายของหยางเฉิน กลัวแต่หยางเฉินจะให้โอกาสโจวยู่ชุ่ยอีกครั้ง จึงได้พูดต่อว่า “พี่เฉิน ขยะแบบนี้ ไม่ต้องให้เปื้อนมือพี่หรอก ให้ผมจัดการก็พอแล้วครับ”