คำพูดของเย่ม่าน เห็นได้ชัดว่าเป็นการไว้หน้าเขา เขายินดียอมรับแน่นอน เขารีบพูดว่า:”เจ้าบ้านเย่พูดถูก ตอนนี้ความจริงกระจ่างแล้ว การตายของลูกชายฉัน ตระกูลหลินเป็นคนทำ ถึงจะหา ฉันก็ต้องไปหาตระกูลหลิน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นขอตัวก่อนครับ !”
“ได้ ประธานเถียน เดินทางดีๆค่ะ!”เย่ม่านยิ้มพูด
หลังจากที่เถียนหวาเดินจากไป มีเพียงตระกูลซุน ตระกูลเย่ และตระกูลอ้าย แล้วหยางเฉินกับหม่าชาว
“คุณหยาง คุณยังมีอะไรจะสั่งอีกไหม? ถ้าไม่มี ผมขอตัวด้วยเหมือนกัน ไม่รบกวนคุณหยางแล้วครับ”
ซุนซวี่ก็ตรงมาหาหยางเฉิน โค้งคำนับเล็กน้อยแล้วถามอย่างประจบ
หยางเฉินเหลือบมองซุนซวี่ลึก ๆ แม้ว่าคนนี้จะไร้ยางอายเล็กน้อย และขี้กลัวหน่อย แต่คนแบบนี้แหละ ที่ควบคุมได้ง่าย
“เรื่องของวันนี้ ฉันอยากจะขอบคุณเจ้าบ้านซุนอย่างมาก จากนี้ไป เยี่ยนเฉินกรุ๊ปของฉัน ต้องขอให้เจ้าบ้านซุนช่วยด้วยครับ”
หยางเฉินแสดงรอยยิ้มเล็กน้อย และยื่นมือไปหาซุนซวี่
เมื่อซุนซวี่ได้ยิน ก็มองมือที่หยางเฉินยื่นมาก่อน เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งทันที และรีบจับมือหยางเฉินด้วยมือทั้งสอง แล้วพูดอย่างตื่นเต้น:”คุณหยางวางใจได้ครับ ต่อไปนี้ เยี่ยนเฉินกรุ๊ปจะเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดที่สุดของตระกูลซุน โครงการไหนที่เราสามารถร่วมมือกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป เราจะไม่ร่วมมือกับผู้อื่น”
“งั้นก็ขอบคุณมาก!”
หยางเฉินยิ้ม:”ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเจ้าบ้านซุนเดินทางดีๆครับ ว่างๆฉันจะเลี้ยงอาหารเจ้าบ้านซุน”
“ได้ครับๆ ลาก่อนคุณหยาง”
ซุนซวี่รีบพาคนออกไป
เย่ม่านก็เดินเข้ามา ยิ้มพูดว่า:”ไม่ทราบว่าคุณหยางยังมีอะไรจะสั่งอีกไหมคะ? ถ้าไม่มี ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
แม้ว่าหยางเฉินจะยอมรับตัวตนของเธอที่เป็นแม่ยายย่างเปิดเผยแลัว แต่เย่ม่านก็ยังไม่กล้าอวดดี และให้เกียรติหยางเฉินมาก
หยางเฉินเหลือบมองเธอแล้วพูดว่า:”ระหว่างเราไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันมากนัก ต่อไปเรียกชื่อผมเลยดีกว่า”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่ม่านก็ตกตะลึงโดยสิ้นเชิง
เมื่อกี้ หยางเฉินยอมรับตัวตนของเธอที่เป็นแม่ยายในที่สาธารณะแล้ว ซึ่งทำให้นางรู้สึกตื่นเต้น แต่ตอนนี้ หยางเฉินพูดเองว่า ระหว่างเขาและเย่ม่านไม่จำเป็นต้องเกรงใจกัน และขอให้เย่ม่านเรียกเขาด้วยชื่อ
ดวงตาของเย่ม่านแดง พยักหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น:”ได้ ได้ ได้!”
เมื่อเห็นความตื่นเต้นของเย่ม่าน หยางเฉินก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย สำหรับเขา ตราบใดที่เย่ม่านสามารถเป็นแม่ที่ดีได้ เขาก็จะไม่กันไม่ให้ฉินซีกับเย่ม่านสองแม่ลูกเจอกันเด็ดขาด
“ช่วงนี้ หลังจากทำงานเสร็จ ผมจะพาเสี่ยวซีไปหาคุณ คุณไปก่อนก็ได้!”หยางเฉินพูดอีกครั้ง
“ได้ ฉันจะรอพวกเธอ!”
เย่ม่านพูดจบ ก็หันหลังเดินจากไป เพราะควบคุมน้ำตาไม่ได้แล้ว ทันทีที่เธอหันหลัง น้ำตาก็ไหลอาบหน้า
สมาชิกในตระกูลเย่ก็จากไป ทันใดนั้นก็เหลือเพียงสมาชิกในตระกูลอ้าย
ในเวลานี้ บ้านตระกูลอ้ายขนาดใหญ่ก็เงียบ
ทุกคนในตระกูลอ้ายตื่นตระหนกถึงขีดสุด ได้แค่แอบมองหยางเฉิน
ดูเหมือนหยางเฉินจะไม่รู้สึกอะไร จู่ๆก็มองอ้ายหลิน และพูดว่า:”เราไปกันเลยไหม?”
อ้ายหลินพยักหน้าเล็กน้อย และมองอ้ายหมิงซวี่ อย่างกับมองคนแปลกหน้า พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสุดขีด:”เรื่องที่พวกเราก่อเอง พวกเราจะจัดการให้ดีเอง ต่อไปตระกูลอ้ายมีปัญหาอะไร ก็จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉันอีกต่อไป!”
พูดจบ อ้ายหลินหันหลังเดินไป
“เสี่ยวหลิน พ่อรู้ว่าผิดไปแล้ว!”
ในที่สุด อ้ายหมิงซวี่ก็พูดอย่างตาแดง:”พ่อรู้สึกผิดแล้วจริงๆ พ่อไม่คู่ควรกับตำแหน่งผู้นำตระกูลอ้ายเอง พ่อรู้สึกผิดกับลูกแล้ว”
“อย่าไปเลย พ่อจะคืนตำแหน่งผู้นำให้ลูก จากนี้ไปพ่อจะช่วยเหลือลูกอย่างสุดใจ ในชีวิตนี้จะไม่มีความหวังในตำแหน่งผู้นำอีกต่อไป ขอแค่ลูกกลับมา!”
อ้ายหมิงซวี่รู้สึกเสียใจจริงๆ หลังจากที่เห็นว่าหยางเฉินกับหม่าชาวแข็งแกร่งเพียงใด เขาเสียใจจะตายแล้ว
เขาไม่ได้อยากไล่อ้ายหลินออกไป แต่ว่าในใจของเขา ผลประโยชน์ของตระกูลมาเป็นอันดับแรก เพื่อตระกูล ก็ยอมเสียสละลูกสาวตัวเอง
ตอนนี้ เขาเห็นศักยภาพของอ้ายหลินแล้ว เพื่อนของอ้ายหลิน เป็นคนที่ผู้นำของแปดตระกูลในเยี่ยนตู ยังต้องคุกเข่า และทำให้พอใจอย่างระมัดระวัง
ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างอ้ายหลินและหยางเฉิน อนาคตของตระกูลอ้าย จะสูงแค่ไหน?
“เสี่ยวหลิน กลับมาเถอะ!”
“ใช่ ตระกูลอ้ายอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ เธอกลับมาเป็นผู้นำตระกูลอ้าย พวกเราจะช่วยเหลือเธออย่างสุดใจ”
“ไม่ว่ายังไง เธอก็คือสายเลือดของตระกูลอ้าย ต่อให้ตายไป สายสัมพันธ์ระหว่างเรามิอาจขาดหาย เธอจะจากไปไม่ได้เด็ดขาด!”
……
ตอนนี้ คนในตระกูลอ้ายต่างพูดขึ้นกันหมด ทุกคนขอร้องให้อ้ายหลินอยู่
จู่ๆ อ้ายหลินก็รู้สึกขำเล็กน้อย เธอหันหน้ามองไปยังฝูงชน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชา
“ตอนนี้รู้ให้ฉันอยู่แล้วเหรอ?”
“ตอนนี้รู้ว่าตระกูลอ้ายไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีฉันแล้วเหรอ?”
“ตอนนี้รู้ว่าฉันก็เป็นสายเลือดของตระกูลอ้ายแล้วเหรอ?”
“ถ้ายังเป็นเหมือนเมื่อก่อน ฉันไม่มีอะไรเลย ไม่มีเพื่อนที่สุดยอดอย่างเย่เฉิน พวกคุณยังจะคิดว่าฉันสำคัญอีกเหรอ?”
อ้ายหลินยิ้มอย่างประชดประชัน:”พอเถอะ เก็บความเสแสร้งของพวกคุณกลับไปเถอะ ตั้งแต่วินาทีที่พวกคุณบังคับให้ฉันไปตายที่ตระกูลหลิน หัวใจของฉันก็ไม่มีตระกูลอ้ายอีกต่อไป”
พูดจบ อ้ายหลินจับมือหม่าชาวแล้วพูดว่า:”ไปกันเถอะ!”
สมาชิกตระกูลอ้ายมองอ้ายหลินจากไป แต่ไม่สามารถยื้อไว้ได้
ทันทีที่อ้ายหลินจากไป ทุกคนในตระกูลอ้ายก็ตระหนักได้ว่า คราวนี้อ้ายหลินคงจะไปจากตระกูลอ้ายจริงๆ
“เจ้าบ้าน คุณรีบไปตามอ้ายหลินสิ!”
“อ้ายหลินเป็นลูกสาวของคุณ ขอแค่คุณอ้อนวอนเธอดีๆ เธอจะต้องยอมกลับตระกูลอีกครั้งได้แน่นอน”
“นั่นสิ เพื่อนของอ้ายหลินทรงพลังมาก ขนาดระดับผู้นำตระกูลมหาเศรษฐีในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู เจอเขาก็ต้องประจบประแจงเขาอย่างระมัดระวัง ขอแค่อ้ายหลินยังเป็นสมาชิกของตระกูลอ้าย ต่อไปตระกูลอ้ายอาจจะมีความหวังที่จะเป็นหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูอีกครั้ง”
เดิมทีสมาชิกตระกูลอ้ายยังเกลี้ยกล่อมอ้ายหมิงซวี่ ให้ไปขอร้องอ้ายหลินให้กลับตระกูล แต่พูดไปพูดมา สีหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เหมือนกับว่าเพราะอ้ายหลิน ตระกูลอ้ายจึงได้เป็นหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูแล้ว
“หุบปากไปซะ!”
ทันใดนั้นอ้ายหมิงซวี่ก็คำราม และทุกคนถึงจะเงียบ
ในเวลานี้ อ้ายหมิงซวี่คือคนที่ทรมานมากที่สุด เพื่อตระกูล เขาถึงไล่ลูกสาวของเขาออกจากตระกูล แต่สิ่งที่เขานึกไม่ถึงก็คือ เพื่อนของอ้ายหลินกลับแข็งแกร่งมาก
เขาเสียใจมานานแล้ว แต่นิสัยของลูกสาวของตน เขารู้ดีกว่าใครว่า
ตอนนี้ไปขอให้อ้ายหลินกลับบ้าน ก็คงจะถูกปฏิเสธ
“เจ้าบ้าน อ้ายหลินสนิทกับอดีตผู้นำมาตลอด ครั้งนี้อดีตผู้นำถึงขั้นออกจากตระกูลอ้ายเพื่อเธอ ฉันคิดว่าเรารับอดีตผู้นำกลับบ้านก่อนเถอะ”
“ขอแค่อดีตผู้นำกลับบ้าน เราค่อยเกลี้ยกล่อมให้อดีตผู้นำไปคุยกับอ้ายหลิน ถึงตอนนั้นอ้ายหลินจะต้องตกลงกลับมาตระกูลอ้ายอย่างแน่นอน”
มีผู้อาวุโสตระกูลอ้ายมองความคิดของอ้ายหมิงซวี่ออก จึงเกลี้ยกล่อมเขา
จู่ๆดวงตาของอ้ายหมิงซวี่ก็เป็นประกาย:”จริงสิ! ฉันเป็นคนไล่อ้ายหลินออกจากตระกูลเอง แต่เธอสนิทกับพ่อของฉันมาก ขอแค่พ่อของฉันยอมขอร้อง อ้ายหลินจะไม่ละทิ้งตระกูลอ้ายอย่างแน่นอน”