ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1943 : 20 ล้านล้าน

ตอนที่ 1943 : 20 ล้านล้าน
  ปากของซุนหยานกระตุกไปตาม ไม่คิดเลยว่าเจ้าสำนักจะพูดออกมาแบบนี้
ทางที่จะสามารถช่วยซุนเหมิงได้นั้น คือต้องมีลูกหลานรึ ?
วิธีนี้…ไม่น่าอายไปหน่อยรึ ?
มันไม่ใช่แค่น่าอายแต่ยังฟังดูน่าตลกอีกต่างหาก !
แต่หากไม่นับเรื่องความอับอายแล้ว หากลองคิดดูดีๆวิธีนี้ก็เหมือนจะมีเหตุผลอยู่บ้าง
ทำไมซุนเหมิงถึงสามารถเปิดมิติในกล่องกระบี่ได้ ?
บางทีเพราะเลือดในตัวนางที่มีจิตของตระกูลซุนประทับเอาไว้ นอกจากนี้แล้วก็อาจจะมีองค์ประกอบอื่นๆ แต่สององค์ประกอบนี้น่าจะเป็นส่วนสำคัญมากกว่า
แค่ว่ามันไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆงั้นรึ ?
พวกเขาต้องทำแบบนี้จริงรึ ?   วิธีนี้น่าอายเกินไป มันยากที่จะรับได้ !
“ แน่นอนข้าแค่เสนอวิธีก็เท่านั้น จะตัดสินใจยังไงก็ขึ้นอยู่กับพวกเจ้า” จางหยูบอกกับซุนหยานและซุนวู
ซุนหยานและซุนวูต่างก็พากันเงียบไป พวกเขาไม่อาจจะตอบอะไรกลับมาได้ พวกเขารู้สึกว่าไม่ว่าจะตอบยังไงก็ดูน่าอายทั้งนั้น
แต่หากวิธีนี้สามารถที่จะช่วยซุนเหมิงได้จริงๆ งั้น…
แม้ว่าพวกเขาจะกลายเป็นเครื่องจักรผลิตลูกแต่พวกเขาก็ยอมที่จะทำ
เมื่อเห็นท่าทีของทั้งสองจางหยูก็กระแอมออกมา “ ในฝั่งทะเลโกลาหลนั้นวพวกเขาจะทำยังไงข้าไม่สน แต่อย่าสร้างความวุ่นวายในทะเลบรรพกาลก็พอ”
“ เจ้าสำนัก เราไม่…” ซุนวูแทบจะมุดแผนดินหนี
จางหยูโบกมือและพูดขึ้น “ ไม่ว่าพวกเจ้าจะเลือกยังไง ข้าก็เข้าใจได้”   ซุนหยานอ้าปากค้าง สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้ที่จะอธิบาย เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร
“ กล่องกระบี่นี่ข้าจะเก็บไว้ก่อน” จางหยูบอกกับทั้งสองคน “ เมื่อพวกเจ้าอยากทดสอบเปิดมันเมื่อไหร่ก็มาหาข้าได้เสมอ”
หากเป็นแค่กล่องกระบี่ จางหยูคงไม่สนใจและมอบมันให้กับซุนหยานและซุนวู ยังไงซะของนี่ก็เป็นของตระกูลซุนแต่เมื่อ ซุนเหมิงโดนดูดเข้าไปในมิติในกลอง จางหยูก็รู้สึกว่ากล่องกระบี่นี่มีค่ามากกว่านั้น เมื่อกล่องกระบี่อยู่ในมือของเขา งั้นก็ไม่มีใครชิงมันไปได้ หากอยู่ในมือทั้งสองคน มันอาจจะเกิดปัญหาขึ้นมา
ซุนหยานพยักหน้า “ กล่องกระบี่นี่เก็บไว้กับเจ้าสำนักจะปลอดภัยกว่า”
ทันใดนั้นซุนวูก็พูดขึ้นมา “ รบกวนเจ้าสำนักดูแลมันด้วย !”
หากกล่องกระบี่หายไป งั้นถึงพวกเขาจะหาใครเปิดกล่องกระบี่ได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีก
ในสายตาของพวกเขาแล้วกล่องกระบี่นี้มีค่าเท่ากับซุนเหมิง
จางหยูถอนหายใจออกมา ก่อนจะพูดว่า “ พวกเจ้าสบายใจได้ ”
หากทั้งสองไม่คิดโกรธเขาคงเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นความผิดของจางหยู กล่องกระบี่นี่เป็นของตระกูลซุน หาก จางหยูคิดจะยึดมันมาคงไม่ใช่เรื่องเหมาะสม…
ไม่นานทั้งสองคนก็ขอตัวกลับไป
จางหยูไม่รู้ว่าพวกนี้จะไปหาวิธีเปิดกล่องกระบี่รึไปหาคู่ครอง ยังไงซะในช่วงนี้ก็คงไม่มีใครเปิดกล่องกระบี่ได้
จางหยูตบไปที่กล่องกระบี่แล้วพึมพำออกมา “ ข้าหวังว่า ซุนเหมิงจะไม่เป็นอะไร ”
เขาไม่รู้ว่าซุนเหมิงเป็นยังไงบ้างในตอนนี้ ที่อยู่ในมิติด้านในกล่อง นางจะหลับอยู่รึปลอดภัยดีรึไม่เขาก็ไม่อาจจะรู้ได้
“ ซุนเหมิงเจ้าได้ยินข้ารึไม่ ?” จางหยูมองไปที่กล่อง เขาทำราวกับคุยกับกล่องกระบี่อยู่ “ เราจะพยายาม เราจะพยายามช่วยเจ้าออกมา ซุนหยานกับซุนวูรอเจ้าอยู่ ทุกคนในสำนักคังเฉียงรอเจ้ากลับมาอยู่”
กล่องกระบี่ไมได้ตอบสนอง มันยังแน่นิ่งอยู่ตรงหน้าจางหยูตามเคย มันแผ่คลื่นพลังเก่าแก่ออกมาเป็นบางครั้ง
จางหยูนั่งอยู่ในทะเลบรพรกาลและนึกย้อนถึงเรื่องของไป่หลิง ในใจเขากลับรู้สึกเศร้าขึ้นมา
เขานึกถึงจิ้งจอกน้อยที่ดุร้าย !

ที่เขตซื่อเซียว
ซื่อเซียวรอคอยอยู่ในมิติของตัวเอง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนเขากลับรู้สึกได้ถึงบางอย่าง เขาลืมตาขึ้นมาช้าๆ “ ในที่สุดก็มาสักที”
เขามองไปยังร่างแยกของ เย่าหยางและคนอื่นๆแต่เขาราวกับได้เห็นลูกปัดจิต  “ มีเรื่องต้องจัดการ เราเลยมาช้าเล็กน้อย” เย่าหยางอธิบาย
ซื่อเซียวรีบไปหาพวกนั้นและพูดขึ้น “ เจ้านำของทุกอย่างมารึไม่ ?”
หว่านเก่อมองไปที่เย่าหยางและอู่หมิง ก่อนจะดีดนิ้วแล้วส่งแหวนมิติให้กับซื่อเซียว
เมื่อซื่อเซียวรับแหวนไป หว่านเก่อก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงพอใจ “ ลูกปัดดั้งเดิม 5 ล้านล้านลูก ลูกปัดจิต 1 ลูก เจ้าลองนับดู”
ซื่อเซียวตรวจสอบด้านในก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา “ สมกับเป็นจักรพรรดิสตรีเพียงคนเดียวจริงๆ !”
หว่านเก่อแสดงสีหน้าเฉยเมยไม่ได้สนใจคำชมของซื่อเซียวแม้แต่น้อย
“ เราจะไปหลบในทะเลบรรพกาลได้ตอนไหน ?” หว่านเก่อมองไปที่ซื่อเซียวแล้วถามขึ้นมา
“ ไม่ต้องรีบร้อน” ซื่อเซียวยิ้มรับและพูดขึ้น “เมื่อเย่าหยางและอู่หมิงให้ของที่ตกลกันไว้กับข้า ข้าก็จะจัดการให้เอง สบายใจได้ ครั้งนี้กินเวลาไม่นาน ไม่เกิน 1 ปี”
เย่าหยางมองไปที่ซื่อเซียวและพูดขึ้น “ ข้าจะเชื่อเจ้าสักครั้ง หวังว่าเจ้าจะพูดความจริง”
เมื่อพูดจบเย่าหยางก็ได้ส่งลูกปัดดั้งเดิมและลูกปัดจิตให้กับซื่อเซียว
อู่หมิงไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาส่งลูกปัดดั้งเดิมและลูกปัดจิตให้กับซื่อเซียวต่อทันที
หลังจากที่ได้ลูกปัดเหล่านั้นมา ซื่อเซียวก็ตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย เขายิ้มออกมากว้างกว่าเก่า “ ด้วยของเหล่านี้แล้วข้ารับรองได้ว่าปีหน้าข้าจะกล่อมจักรพรรดิคังเฉียงเพื่อที่พวกเจ้าจะได้ไปพักพิงในทะเลบรรพกาลบได้ ถ้าไม่งั้นแล้วข้าจะคืนของพวกนี้ให้เจ้าทั้งหมด”
“ หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” ตงหยาง, หว่านเก่อและ อู่หมิงยังสงสัยในตัวซื่อเซียวในระดับหนึ่ง  “ พวกเจ้ากลับไปรอฟังข่าวดีได้เลย เชื่อข้าได้เลย พวกเจ้าจะได้ไปพักในทะเลบรรพกาลแน่” ซื่อเซียวพูดขึ้น
ทุกคนพากันพยักหน้าก่อนจะแยกย้ายกันกลับ
เมื่อพวกนั้นกลับไปแล้ว ซื่อเซียวก็ได้เอลูกปัดจิตทั้งสามออกมาพร้อมอารมณ์ที่ตื่นเต้นขึ้นกว่าเก่า “ สุดท้ายข้าก็ได้ลูกปัดจิตมา !ไ
ลูกปัดจิตที่ได้มาทดแทนนี้ถือว่าแทนความเศร้าที่เขาเสียลูกปัดไปไหด้
เขาแทบไม่เชื่อเลยว่าจะได้ลูกปัดจิตมาง่ายแบบนี้
สักพักซื่อเซียวก็ได้ทำการเก็บลูกปัดจิตก่อนจะทำการเก็บลูกปัดดั้งเดิมทั้งหมดไว้ในแหวนมิติแล้วหายตัวไป
ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง
จางลู่และคนอื่นๆกำลังดื่มด่ำกับวิวที่ท้องถนนด้านล่างพร้อมกับกินอาหารไปด้วย แต่ตอนนั้นพวกเขากลับได้รับข้อความจากซื่อเซียวพวกเขารีบเก็บเงินและตรงไปยังวังซื่อเซียวทันที พวกเขาเดินทางออกจากโถงกองทัพสังเกตการณ์ได้ไม่นานก็กลับมาที่วังซื่อเซียวอีกครั้ง
เมื่อเข้ามาในห้องโถงหลักจางลู่และคนอื่นๆก็พากันหยุด
ตรงหน้ารูปปั้นในห้องโถงนั้นมีชายคนหนึ่งที่ดูหน้าตาคล้ายกับรูปปั้นยืนรอพวกเขาอยู่
“ ซื่อเซียว” จางลู่ยิ้มออกมา “ เจ้าจัดการเรื่องฝั่งเจ้าเสร็จแล้วรึ ? เจ้าพร้อมจะไปพักที่ทะเลบรรพกาลแล้วรึ ?”
แม้ว่าจางลู่จะเป็นร่างแยกของจางหยู แต่ซื่อเซียวก็ยังต้องสุภาพต่อจางลู่อยู่ดี “ พร้อมแล้ว ไม่งั้นแล้วข้าจะกล้ารบกวนท่านจางลู่ได้ยังไง”
ซื่อเซียวพูดขึ้นต่อ “ นอกจากนี้แล้ว ตงหยาง, หว่านเก่อและอู่หมิงก็ตั้งใจจะไปพำนักด้านในทะเลบรรพกาล พวกเขาได้มอบหมายให้ข้ามอบลูกปัดดั้งเดิมให้กับท่าน ลูกปัดดั้งเดิมคนละ 5 ล้านล้านลูก ทั้งหมด 20 ล้านล้านลูก รับมันไว้ด้วย”
จางลู่รับแหวนมิติมาก่อนจะแผ่การรับรู้เข้าไปด้านใน จากนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มออกมา “ ดี ข้าขอเป็นตัวแทนทะเลบรรพกาลรต้อนรับพวกเจ้า”
ลูกปัดดั้งเดิมกว่า 20 ล้านล้านลูกเพียงพอสำหรับศิษย์และอาจารย์ให้ขึ้นเป็นแม่ทัพขั้นสูงสุดได้ มันอาจจะทำให้ทะเลบรรพกาลขยายตัวขึ้นเป็นร้อยเท่า
ด้วยของเหล่านี้สำนักคังเฉียงจะเติบโตขึ้นอีก มันจะไม่มีใครหยุดสำนักคังเฉียงได้ !
“ ขอบคุณ ขอบคุณ !” ซื่อเซียวเผยรอยยิ้มออกมา “ ท่านส่งข้าไปยังทะเลบรรพกาลได้รึยัง ?” เขาได้ทิ้งร่างแยกไว้ในมิติแยกส่วนแล้ว เขาสามารถเดินทางไปตอนไหนก็ได้
ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท