ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1952 : พนัน

ตอนที่ 1952 : พนัน

  หลังจากที่ซุนหยานและซุนวูกลับไปแล้ว จางหยูก็คิดว่าจะเพ่งสมาธิไปกับการเพิ่มพลังให้กับดาบบรรพกาลและเกราะบรรพกาลต่อ แต่ไม่คิดว่าจะมีคนมาหาเขา

    จักรพรรดิคังเฉียง  ซื่อเซียวยิ้มและทักทายออกมา

  หากเทียบกับความเป็นกันเองของซื่อเซียวแล้ว เย่าหยาง, หว่านเก่อและอู่หมิงนั้นดูจะสำรวมกว่า

  จางหยูมองไปยังจักรพรรดิทั้งสี่และยิ้มออกมา   พวกเจ้าชินกับการอยู่ในทะเลบรรพกาลรึยัง ? 

  ซื่อเซียวยิ้มออกมา   เราชินกันแล้ว ! 

  วันที่อิสระแบบนี้คือวันเวลาที่พวกเขาฝันถึง พวกเขาแทบไม่เชื่อว่านี่จะเป็นความจริงได้

  จนถึงตอนนี้พวกเขายังรู้สึกว่าตัวเองฝันอยู่ ต้องบอกว่าชีวิตที่อิสระและผ่อนคลายเช่นนี้คือชีวิตที่พวกเขาเกือบลืมไปแล้ว

    ก็ดี  จางหยูพอใจกับคนเหล่านี้อย่างมาก ไม่ว่าพวกนี้จะคิดอะไรแต่ตราบใดที่ไม่สร้างปัญหาสักหมื่นปีก็เพียงพอแล้ว   หากพวกเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย ข้าจะพยายามช่วย 

  ด้วยลูกปัดดั้งเดิมกว่า 20 ล้านล้านลูกที่ได้มา จางหยูก็ไม่รังเกียจที่จะดูแลพวกนี้เป็นพิเศษ

  ทั้งสี่คนมองหน้ากันก่อนที่ซื่อเซียวจะพึมพำออกมา   พูดไปแล้วเราก็ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าอยู่ เราอยากให้เจ้าร่วมมือด้วย 

  จางหยูมองไปยังทั้งสี่ด้วยความแปลกใจ   ร่วมมือรึ ? 

  ซื่อเซียวพยักหน้า   ข้าไม่รู้ว่าทะเลบรรพกาลนั้นบ่มเพาะจักรพรรดิกันยังไงแต่จักรพรรดิในทะเลโกลาหลนั้นจะดึงเอาจิตและพลังจิตจากทุกชีวิตในการบ่มเพาะ มันคือพลังหลักของเราแต่นอกจากนี้แล้วมันก็มีอีกทางที่จะเพิ่มระดับการบ่มเพาะของเราได้ มันคือลูกปัดจิต 

  พูดไปแล้วซื่อเซียวก็แสดงท่าทีตื่นตัวขึ้นมา   ลูกปัดจิตอัดแน่นขึ้นมาจากพลังจิตจำนวนมาก มันคล้ายกับลูกปัดดั้งเดิมแต่ลูกปัดดั้งเดิมเล็งเป้าไปที่จ้าวโกลาหล ลูกปัดจิตนั้นส่งผลโดยตรงกับจักรพรรดิ ตราบใดที่ดูดซับลูกปัดจิต ระดับการบ่มเพาะของจักรพรรดิก็จะเพิ่มขึ้น หากจำนวนลูกปัดจิตมีมากพอ งั้นความแข็งแกร่งของจักรพรรดิก็จะเพิ่มขึ้นมาอย่ามาก มากกว่าพลังจิตที่มีในมิติลับของเราอีก… 

  จางหยูแปลกใจยิ่งกว่าเก่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องลูกปัดจิต

  ลูกปัดดั้งเดิมนั้นไม่ได้ส่งผลอะไรกับเขาแต่ลูกปัดจิตนั้นไม่แน่

    แล้วทำไมพวกเจ้าถึงเพิ่งมาบอกข้าในตอนนี้ 

    ในทางทฤษฎีแล้วจักรพรรดิทุกคนสร้างลูกปัดจิตขึ้นมาได้ มันเหมือนกับจ้าวโกลาหลที่สร้างลูกปัดดั้งเดิมขึ้นมาแต่อันที่จริงแล้วไม่มีจักรพรรดิคนไหนที่จะเต็มใจสร้างลูกปัดจิตขึ้นมาเพราะมันเสียเวลาเกินไป มันถ่วงการบ่มเพาะของพวกเขา ดังนั้นวิธีที่จะได้ลูกปัดจิตมาจึงเหลือแค่ทางเดียวซึ่งก็คือ….แก่นกำเนิด ! 

    แก่นกำเนิด ?  จางหยูแปลกใจ

  ซื่อเซียวพยักหน้าตอบรับ   แก่นกำเนิดเต็มไปด้วยพลังจิตนับไม่ถ้วน พลังจิตเหล่านั้นกระจัดกระจายกันไม่ได้อยู่ในการควบคุมของใคร พลังจิตบางส่วนได้รวมตัวกันกลายเป็นก้อน หลังจากที่ขัดเกลาด้วยพลังจิตสักพักมันจะกลายเป็นสมบัติที่คล้ายกับลูกปัดจิต  หลังจากนั้นสักพักซื่อเซียวก็พูดขึ้นต่อ  ทุกๆร้อยล้านปีแก่นกำเนิดจะก้อนแก่นขึ้นมา ก้อนแก่นจะส่งผลไปทั้งแก่นกำเนิด ก้อนแก่นจะแผ่พลังพิเศษออกมา มันคล้ายกับลูกปัดจิต สุดท้ายแล้วก้อนแก่นจะเปลี่ยนเป็นลูกปัดจิต 

  แก่นกำเนิดเหมือนกับขุมทรัพย์ ไม่ใช่แค่สร้างจักรพรรดิทั้ง 9 แต่ยังมีแหล่งร่วมพลังจิตด้วย

    ตั้งแต่ที่เรารู้จักแก่นกำเนิดมา วงจรสำหรับปรากฏการณ์นี้ก็ยังไม่เคยเปลี่ยนไปแต่พลังของปรากฏการณ์นี้กลับเข้มข้นขึ้นกว่าเก่า ตอนที่เราขึ้นเป็นจักรพรรดิ มันเคยเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นครั้งหนึ่ง ตอนแรกก้อนแก่นนั้นให้ลูกปัดจิตแค่ไม่กี่ลูก หลังจากนั้นก็หลายสิบลูก ผ่านมาหลายล้านปี ก้อนแก่นก็ให้ลูกปัดจิตมากกว่าเดิมกว่าร้อยเท่า จำนวนลูกปัดจิตนั้นเพิ่มขึ้นไปถึงร้อยลูก 

  จากไม่กี่ลูกเป็นร้อยลูก แก่นกำเนิดนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากแต่ว่าจะให้ลูกปัดจิตกว่าร้อยลูกแต่เมื่อแบ่งกันแล้วก็ได้แค่คนละแค่ 10 กว่าลูกเท่านั้น

  ยิ่งไปกว่านั้นความแข็งแกร่งของเผ่าสวรรค์และมนุษย์ก็ไม่เท่ากัน จักรพรรดิเผ่าสวรรค์อาจจะไม่ยอมตกลงกับการแบ่งลูกปัดจิตกันอย่างเท่าเทียม

    ก่อนหน้านี้ 100 ล้านปีมีก้อนแก่นปรากฏขึ้นมา มันให้ลูกปัดจิตทั้งหมด 113 ลูกเราสี่คนได้มาแค่ 39 ลูก  ซื่อเซียว พูดขึ้นด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว   นั่นไม่ใช่ว่าเพิ่งเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เราก็ได้ลูกปัดจิตน้อยกว่าเผ่าสวรรค์ สถานการณ์มันแย่ลงเรื่อยๆ … 

  จางหยูพยักหน้าเขาไม่ได้แปลกใจกับเรื่องนี้ ยังไงซะความแข็งแกร่งของเผ่าสวรรค์ก็เหนือกว่ามนุษย์

  แม้ว่ามนุษย์จะได้เปรียบในตอนแรกแต่เมื่อเวลาผ่านไป ความได้เปรียบก็กลายเป็นเสียเปรียบ

    ก้อนแก่นจะปรากฏขึ้นมาในอีก 3 ล้านปี ฝั่งมนุษย์ยังเสียเปรียบ มันยากที่เราจะสู้กับเผ่าสวรรค์ได้ ดังนั้น…  ซื่อเซียวสูดหายใจเข้าลึกๆและมองไปที่จางหยู   เราหวังว่าทีมคังเฉียงนั้นจะเข้าร่วมกับเราและแข่งเพื่อแย่งเอาลูกปัดจิตมา 

  ด้วยความช่วยเหลือจากทีมคังเฉียง ซื่อเซียวก็มั่นใจว่าจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้

    ทีมคังเฉียงรึ ?  จางหยูยักคิ้ว  เจ้าหมายความว่าการสู้กันเพื่อแย่งลูกปัดจิตนี้ต้องพึ่งแม่ทัพรึ ?  

  ซื่อเซียวพยักหน้าและพูดขึ้น   การต่อสู้นี้จักรพรรดิไม่อาจจะยุ่งเกี่ยวด้วยได้ นี่คือข้อตกลงของเรากับเผ่าสวรรค์ ดังนั้นแม่ทัพจึงเป็นกุญแจสู่ชัยชนะ 

  อันที่จริงแม้ว่าจะไม่ได้ตกลงกันแต่จักรพรรดิทั้งสองฝ่ายก็กลัวที่จะออกไปสู้เอง ยังไงซะด้านนอกแก่นกำเนิดนั้นก็มีจักรพรรดิกุยหลิงอยู่ หากพวกเขากล้าเข้าไปในแก่นกำเนิด เดาว่าคงยังไม่ทันได้ลูกปัดจิต พวกเขาคงโดนจักรพรรดิกุยหลิงฆ่าเอาซะก่อน

  ความแข็งแกร่งของแม่ทัพรวมถึงจำนวนแม่ทัพนั้นจึงเป็นกุญแจสำคัญว่าใครจะได้ลูกปัดไปเท่าไหร่ !

    มันเป็นไปไม่ได้ที่ทีมคังเฉียงจะเข้าร่วม   จางหยูมองไปรอบๆ   ส่วนที่สำคัญคือข้าจะได้ประโยชน์อะไร ?  เขาเพิ่งจะรู้จักพวกนี้ หากเขาไม่ได้ประโยชน์มากกว่าครึ่ง งั้นเขาจะช่วยไปทำไม ?     หากทีมคังเฉียงยอมช่วย เราจะแบ่งลูกปัดกันอย่างเท่าเทียม เจ้าได้ไป 1 ใน 5  ซื่อเซียวมองไปที่จางหยูแล้วพูดขึ้น

  ตราบใดที่เอาชนะเผ่าสวรรค์ได้ แม้ว่าจะได้ลูกปัดน้อยลงแต่พวกเขาก็ไม่คิดมาก

  จางหยูส่ายหน้า  ไม่พอ 

    1 ใน 5 ยังไม่พออีกรึ ?  ซื่อเซียวคิ้วขมวด   เจ้านี่โลภจริงๆ.. .

  ในมุมมองของพวกเขาแล้วเงื่อนไขนี้ส่งผลดีต่อทุกคน การที่แบ่งให้ จางหยู 1 ใน 5 ส่วนถือว่าแสดงความจริงใจแล้ว

    เจ้ารู้ทางเข้าไปยังแก่นกำเนิดรึไม่ มันอยู่ในมิติลับของเรา ใครเข้าไปได้ไม่ได้นั้นขึ้นอยู่กับเราตัดสินใจ เรามาเสนอให้เจ้าร่วมมือด้วยนั้นก็ถือว่าเป็นการให้โอกาสเจ้าเช่นกัน  เย่าหยางพึมพำออกมา   ยิ่งไปกว่านั้น 1 ใน 5 ก็ถือว่ามากแล้ว เราให้ได้เต็มที่แค่ 1 ใน 5 ข้าเชื่อว่าเผ่าสวรรค์คงไม่อาจให้เงื่อนไขที่ดีแบบนี้ได้ไ  หว่านเก่อคิ้วขมดเขามองไปที่เย่าหยางด้วยสายตาไม่พอใจ   เรามาหาเขาด้วยความจริงใจ ทำไมต้องอ้างถึงเผ่าสวรรค์ด้วย ? 

    อีกแค่ 3 ล้านปี ก้อนแก่นก็จะปรากฏขึ้นมาไม่ใช่รึ ?  จางหยูถามขึ้นมา

  ซื่อเซียวพยักหน้า   ใช่ 

    อีก 3 ล้านปี…  จางหยูมั่นใจว่าตอนนั้นศิษย์และอาจารย์รวมถึงร่างแยกของเขาคงขึ้นไปถึงระดับแม่ทัพขั้นสูงสุดแล้ว   หากข้าบอกว่าเมื่อทีมคังเฉียงเข้าร่วมการต่อสู้นี้ เราจะได้ลูกปัดจิตมากกว่า 9 ใน 10 ของลูกปัดทั้งหมด พวกเจ้าจะเชื่อรึไม่? 

  พวกเขาคิดกันทันทีว่าเป็นไปไม่ได้

    หากทีมคังเฉียงทำได้ อย่าพูดถึง 1 ใน 5 เลย เจ้าเอาไปครึ่งหนึ่งเลยก็ได้ ฟังดูเป็นยังไง ?  อู่หมิงคิดว่าจางหยูพูดเล่น

  ซื่อเซียวแสดงท่าทีไม่พอใจออกมา   จักรพรรดิคังเฉียง เรามาหาเจ้าดีๆ ทำไมเจ้าต้องมาพูดปั่นหัวเราเช่นนี้ด้วย ?      เราซาบซึ้งกับการที่เจ้าให้ที่อยู่กับเรา แต่ไม่ใช่ว่าจะยอมให้เจ้าปั่นหัวเราได้  หว่านเก่อที่งดงามได้เผยท่าทีไม่พอใจออกมา

    ปั่นหัวรึ ?  จางหยูหัวเราะออกมา   ข้าไม่ได้ปั่นหัวพวกเจ้า 

  ทั้งสี่ยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมาจางหยูก็พูดต่อ  เมื่อพวกเจ้าไม่เชื่อ งั้นก็มาพนันกัน 

  ทั้งสี่มองหน้ากันก่อนจะมองไปที่จางหยู   พนันยังไง ? 

    หากทีมคังเฉียงเข้าร่วมและได้ลูกปัดจิตมามากกว่า 9 ใน 10 ข้าจะเอาลูกปัดจิตไปครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือเป็นของพวกเจ้า  จางหยูพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

    หากไม่ถึงล่ะ ?  ซื่อเซียวยักคิ้วและถามขึ้นมา

    หากไม่ถึงงั้นข้าจะช่วยเหลือฟรีๆ ข้าจะไม่เอาลูกปัดจิตแม้แต่ลูกเดียว  จางหยูพูดขึ้น

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน