The king of War – บทที่ 801 ทำลายเซี่ยเหอให้ย่อยยับ

บทที่ 801 ทำลายเซี่ยเหอให้ย่อยยับ

ลั่วปิงรีบพยักหน้า “ท่านประธานไม่ต้องกังวล ผมสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้อะไรเกิดขึ้นกับโครงการเมืองจิ่วโจวอีก”

“ดี ไปทำงานเถอะ!” หยางเฉินกล่าว

ขณะที่ลั่วปิงเดินไปถึงประตู เขาก็นึกอะไรออกบางอย่างในทันใด เขาหยุดเดินแล้วรีบหันไปบอกหยางเฉินว่า “ท่านประธาน มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่าจำเป็นต้องบอกคุณ”

“พูดมา!”

หยางเฉินขมวดคิ้ว ไม่ค่อยชอบท่าทีของลั่วปิงเท่าไรนัก

ลั่วปิงรีบพูดว่า “เมื่อคืนที่ผ่านมา ศิลปินชายทั้งสามของทีมละครออนไลน์ได้ถูกส่งไปที่โรงพยาบาล ว่ากันว่าพระเอกอาเจียนออกมาเป็นเลือด”

หยางเฉินนึกไม่ถึงว่าลั่วปิงจะพูดถึงเรื่องนี้ เขาถามด้วยความสงสัย “แล้วยังไงต่อ?”

“ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกไม่ใช่เหรอว่า ให้เตรียมพร้อมเปลี่ยนตัวพระเอก?”

ลั่วปิงพูดอย่างระมัดระวัง “ถ้าเป็นไปได้ ครั้งนี้คือเป็นโอกาสที่ดี”

หยางเฉินถึงนึกออกว่า เมื่อวานเพิ่งถามลั่วปิงเรื่องการเปลี่ยนตัวพระเอกของละครออนไลน์

“ให้โอกาสอู๋เทียนโย่วอีกสักครั้งแล้วกัน!”

หยางเฉินกล่าว “ให้พวกเขาพักผ่อนสักวัน พรุ่งนี้กองถ่ายละครจะกลับมาถ่ายทำเหมือนเดิมอย่างเป็นทางการ”

“ครับผม!”

ลั่วปิงตอบกลับ

เกือบในเวลาเดียวกันในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

อู๋เทียนโย่วนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเผือด ข้างเตียงมีทีมงานละครหลายคน

“พี่เทียนโย่ว เจ้าหยางเฉินนี่ไม่ไหวเลย ถ้าเขาไม่ได้กรอกไวน์แดงให้คุณทั้งขวด คุณคงไม่ต้องกระอักเลือดสลบไป”

หลิ่วเหมยพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ฉันว่า ไม่ควรปล่อยไอ้เวรนี่ไปง่ายๆ แบบนี้นะ”

“เขาคิดว่ามีเซี่ยเหอคอยหนุนหลัง แล้วคิดจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ?“

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาทำลายเซี่ยเหอให้ย่อยยับ ให้เขารู้ว่าหากคิดสู้กับพี่เทียนโย่วแล้วจุดจบจะเป็นยังไง”

หลิ่วเหมยเป็นนางเอกของละครออนไลน์ ตอนนี้เธอถูกเซี่ยเหอดึงความสนใจไปหมดแล้ว บนอินเทอร์เน็ตยังมีหลายคนที่เอาเธอกับเซี่ยเหอมาเปรียบเทียบกัน ผลลัพธ์คือเกือบทุกคนคิดว่าหลิ่วเหมยไม่เหมาะสมจะเป็นนางเอกเลย

บางคนในอินเทอร์เน็ตยังด่าว่าเธอน่าเกลียด สำหรับผู้หญิงแล้ว สิ่งที่เกลียดที่สุดก็คือมีคนอื่นบอกว่าตัวเองน่าเกลียด

หลิ่วเหมยไม่ได้น่าเกลียด ตรงกันข้ามกลับหน้าตาสะสวยอยู่ เพียงแค่เวลาเทียบกับเซี่ยเหอ เธอนั้นสู้ไม่ได้เลย

เนื่องจากความไม่พอใจในตัวเองของคนอื่นๆ เธอจึงโยนทุกอย่างไปให้เซี่ยเหอ

ตอนนี้มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเธอที่จะกำจัดเซี่ยเหอด้วยความช่วยเหลือของอู๋เทียนโย่ว

เมื่อได้ยินหลิ่วเหมยบอกว่าต้องการทำลายเซี่ยเหอ คนอื่นๆ ต่างนิ่งเงียบ

ทุกคนรู้ดีว่า ละครออนไลน์ที่พวกเขากำลังถ่ายทำอยู่นั้นดังขึ้นมาเพราะความสวยของเซี่ยเหอ

ถ้าเซี่ยเหอถูกทำลาย เกรงว่าละครออนไลน์เรื่องนี้ก็จะถูกทำลายเช่นกัน

พวกเขาเป็นแค่นักแสดงปลายแถว เดินอยู่บนถนนก็ไม่มีใครจำได้

ทั้งหมดกำลังรอให้ละครออนไลน์เรื่องนี้สะสมความนิยมไปเรื่อยๆ หากละครเรื่องนี้ถูกทำลาย พวกเขาอยากจะถ่ายละครที่ได้รับความนิยมสูงแบบนี้อีก เกรงว่าจะเป็นเรื่องยากแล้ว

“พวกคุณแต่ละคนเป็นใบ้กันเหรอ? ทำไมไม่พูดล่ะ?”

หลิ่วเหมยเห็นไม่มีใครเห็นด้วยกับเธอ เธอก็มีสีหน้าไม่พอใจทันที

ในฐานะนางเอกก็ละครออนไลน์เรื่องนี้ หลิ่วเหมยได้เคยชินกับความโอหังนี้แล้ว เมื่อก่อนไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ทุกคนจะเห็นด้วยกับเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนทำให้เธอไม่พอใจมาก

“พี่เหมย ตอนนี้ละครออนไลน์เรื่องนี้กำลังอยู่ในช่วงได้รับความนิยมสูง ถ้าเราทำลายเซี่ยเหอ ผลกระทบของละครเรื่องนี้ต้องใหญ่มากแน่ๆ”

นักแสดงสาวคนหนึ่งกล่าวขึ้น “จะว่าไปแล้ว พวกเราจะเอาอะไรไปทำลายเซี่ยเหอได้? ต่อให้สามารถทำลายได้ ซิงเฉินมีเดียจะเห็นด้วยไหม?”

“แม้ว่าเราจะเก็บเป็นความลับ แต่หากถูกเปิดเผย บางทีพวกเราอาจต้องจ่ายค่าชดเชยจำนวนมหาศาล ไม่เพียงเท่านี้ เส้นทางในวงการบันเทิงของพวกเราเกรงว่าจะสิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์แล้ว”

แม้ว่าคนอื่นๆ จะไม่ได้แสดงท่าที แต่หลายคนก็พยักหน้าเห็นด้วย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเห็นด้วยกับนักแสดงหญิงคนนี้

“หยวนฟาง นี่คุณหมายความว่ายังไง?”

หลิ่วเหมยโมโหในทันที “พวกเราทุกคนล้วนเป็นคนกันเอง ถ้าจะทำลายเซี่ยเหอจริงๆ ถ้าพวกเราไม่พูด แล้วใครจะรู้?”

“พี่เทียนโย่วก็เดือดร้อนเพราะไอ้หน้าขาวที่เซี่ยเหอเลี้ยงไว้ หรือว่าความเดือดร้อนที่พี่เทียนโย่วได้รับ จะให้ปล่อยไปแบบนี้?”

“คุณยังมีมโนธรรมอยู่หรือเปล่า? ถ้าไม่ได้พี่เทียนโย่ว พวกคุณจะได้เล่นละครเรื่องนี้ไหม?”

“อย่าบอกนะว่า ในสายตาของพวกคุณ การจัดการกับผู้หญิงเลวๆ คนหนึ่งยังไม่สำคัญเท่าการแก้แค้นแทนพี่เทียนโย่ว?”

พูดจบหลิ่วเหมยก็ทำหน้าตาน่าเวทนา มองไปที่อู๋เทียนโย่วและกล่าวว่า “พี่เทียนโย่ว คุณดูสิ ปกติคุณดีกับพวกเขาขนาดนี้ พอสุดท้ายพวกเขาก็คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่มีใครอยากแก้แค้นให้คุณ”

คนอื่นมีสีหน้าย่ำแย่ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมากต่อหน้าอู๋เทียนโย่ว

อู๋เทียนโย่วกลับดูสงบนิ่ง เขาไม่ได้สนใจหลิ่วเหมย เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วอยู่เป็นระยะ

เขาไม่ได้บอกใครว่า บริษัทการบันเทิงแซ่เฉินได้โอนไปให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว นี่เป็นเรื่องที่เขาเพิ่งรู้มาเมื่อวานนี้

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีเรื่องค่าตัวจำนวนแปดล้านของเขา ก็ถูกลดลงเหลือสี่ล้าน

เขายังรู้อีกว่า เซี่ยเหอเพิ่งถ่ายละครเป็นเรื่องแรก แต่ค่าตัวนั้นเพิ่มขึ้นทวีคูณแล้ว

นี่เองที่ทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่ปกติ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินมัน

เขาเกิดภาพหลอนว่าตัวเองไปทำให้ใครขุ่นเคืองมาบ้าง

“พี่เทียนโย่ว ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่ต้องการแก้แค้นให้คุณ เพียงแต่เราหาเหตุผลไม่ได้จริงๆ!”

ในเวลานี้นักแสดงหนุ่มคนหนึ่งได้กล่าวว่า “เมื่อวานนี้เราดื่มจนกระอักเลือด แต่แฟนของเซี่ยเหอดื่มมากกว่าพวกเราตั้งเยอะ ถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ผมจะขายหน้ามาก”

“พวกเราทั้งกลุ่มถูกเขาคนเดียวมอมเหล้าจนสลบ มันก็ขายหน้ามากพออยู่แล้ว พวกเราจะทำอะไรได้อีก?”

นักแสดงชายอีกคนกล่าวว่า “พี่เทียนโย่ว ถึงยังไงซิงเฉินมีเดียก็เป็นกิจการของพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของคุณ ถ้าเซี่ยเหอถูกทำลายจริง จะมีผลกระทบอย่างมากต่อทีมงานละครของพวกเรา และยังจะนำมาซึ่งความสูญเสียอย่างมหาศาลมาสู่ซิงเฉินมีเดีย”

“ผมคิดว่าถ้าพี่เทียนโย่วต้องการจะแก้แค้นให้ได้ อาจจะขอคำแนะนำจากพี่สาวลูกพี่ลูกน้องก่อน เพื่อดูท่าทีของเธอ”

“ถ้าเธอคิดว่าการทำลายเซี่ยเหอจะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อย ผมก็เห็นด้วยกับการทำลายเซี่ยเหอ”

จากนั้นก็มีนักแสดงหญิงคนหนึ่งกล่าวว่า “พี่เทียนโย่ว ฉันก็เห็นด้วยว่าทำแบบนี้แล้วจะปลอดภัยแน่นอนกว่า ทำไมคุณไม่ลองไปถามพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของคุณดูล่ะ?”

อู๋เทียนโย่วที่นิ่งเงียบไม่พูดจามาตลอดได้เงยหน้าขึ้นมา กวาดสายตามองทุกคน

“พวกคุณทำให้ผมผิดหวัง!”

อู๋เทียนโย่วพูดได้แต่คำนี้

ได้ยินดังนั้นทุกคนก็พากันก้มหน้า มีเพียงหลิ่วเหมยคนเดียวที่มีสีหน้าภาคภูมิใจ ยิ้มเยาะกล่าวว่า “เวลาปกติก็พูดได้สวยงาม แต่พอพี่เทียนโย่วต้องการพวกคุณ พวกคุณกลับไม่มีใครเต็มใจช่วยเขา”

“หุบปาก!”

อู๋เทียนโย่วตะโกนอย่างฉุนเฉียว

หลิ่วเหมยรีบหุบปาก มองไปที่อู๋เทียนโย่วด้วยความคับข้องใจ

“เมื่อกี้นี้ผมได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า ทีมงานละครให้พวกเราพักผ่อนหนึ่งวัน พรุ่งนี้ค่อยเริ่มถ่ายทำกันใหม่”

อู๋เทียนโย่วพูดด้วยเสียงต่ำ “ตอนนี้ผมมีแผนอยู่ หากยินดีก็เป็นพี่น้องกับผมต่อไป แต่หากไม่ยินดี ก็ออกไปจากทีมละครเสียดีกว่า”

ได้ยินดังนั้น ทุกคนก็พากันเงยหน้าขึ้น สีหน้าตื่นเต้น

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท