และฉินซีได้รับปากกับเย่ม่านเมื่อวานนี้ว่าเธอจะไปรับตำแหน่งรักษาการแทนผู้จัดการใหญ่ให้แมมบ้าแดงกรุ๊ปในวันนี้
“ท่านประธานครับ นี่คือรายชื่อนักแสดงที่ผมเลือกสำหรับละครเรื่องเทพสงครามผู้ชนะ คุณลองดูสิครับว่าพอใจไหม? ”
ลั่วปิงถือใบรายชื่อมาที่ห้องทำงานของหยางเฉิน
หลังจากเกิดเรื่องขึ้นที่โรงพยาบาลเมื่อวานนี้ หยางเฉินก็ให้ลั่วปิงเริ่มหานักแสดง
หยางเฉินรับใบรายชื่อ ดูแบบผ่านๆ แล้วก็ขมวดคิ้ว
ในเวลานี้ยิ่งทำให้ลั่วปิงรู้สึกกังวล ถามอย่างระมัดระวังว่า “ท่านประธานครับ ถ้าหากท่านประธานมีคนที่ท่านจะแนะนำ ผมจะไปคุยกับอีกฝ่ายด้วยตัวเองครับ”
หยางเฉินพูดขึ้น “รายชื่อนักแสดงที่คุณให้ผมมา ผมไม่เคยได้ยินชื่อเลย แล้วจะให้พวกเขามาถ่ายละครเรื่องนี้ได้ยังไง ? ”
“ท่านประธานครับ นักแสดงเหล่านี้สั่งสมชื่อเสียงมาไม่น้อยแล้วครับ ”
ลั่วปิงรีบอธิบายว่า “เดิมที ผมว่าจะหาดาราดังๆ แต่ว่าตารางงานของพวกเขาเต็มหมดแล้ว ไม่สามารถมาร่วมถ่ายละครเรื่องนี้ได้ชั่วคราวครับ ”
“ ผมไม่สนว่าคุณจะใช้วิธีอะไร อย่างน้อยก็หานักแสดงที่ติด 1 ใน 20 ของประเทศมาให้ผม ” หยางเฉินพูด
ลั่วปิงปาดเหงื่อบนหน้าผาก รีบพูดขึ้นว่า “ครับ ท่านประธาน!”
เดิมทีหยางเฉินคิดว่าจะเปลี่ยนแค่ อู๋เทียนโย่ว เท่านั้น แต่เรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลเมื่อวานนี้ ทำให้หยางเฉินรู้สึกผิดหวังกับอู๋เทียนโย่วและคนของอู๋เทียนโย่วอย่างมาก
แม้ว่าพวกเขาจะเกรงกลัวภูมิหลังของอู๋เทียนโย่ว แต่พวกเขาก็ได้เลือกแล้ว เพราะฉะนั้นพวกเขาก็ต้องยอมรับผลของการเลือก
ในเมื่อเซี่ยเหออยากจะถ่ายละครเรื่องนี้ ถ้าอย่างนั้นก็หานักแสดงที่มีชื่อเสียงมาแสดงคู่กับเซี่ยเหอเพื่อถ่ายละครเรื่องนี้ให้ได้
ตราบใดที่เซี่ยเหอมีทักษะการแสดงที่ดี และด้วยรูปร่างหน้าตาที่สะสวยของเธอ จะต้องทำให้ละครเรื่องนี้ดังเป็นพลุแตกแน่ๆ
ในเวลาเดียวกัน ณ สถานกองถ่ายเหิงเตี้ยนเมืองเยี่ยนตู ทีมละครเทพสงครามผู้ชนะ
ในเวลานี้ ทีมงานละครล้วนมาถึงสถานที่ถ่ายทำแล้ว แต่ว่านักแสดงกลับมีเพียงเซี่ยเหอไม่มีคนอื่นเลย
ผู้กำกับเหลือบมองเวลา สีหน้าไม่สู้ดีนัก
“ผู้กำกับหวาง พวกเรารอมาเป็นชั่วโมงแล้ว อู๋เทียนโย่ว และคนอื่นๆยังมาไม่ถึงเลย รอแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ ! ”
ผู้ช่วยกองละครพูดด้วยสีหน้าร้อนใจ
“ผมโทรหาอู๋เทียนโย่วแล้วแต่เขาไม่รับสายผมเลย ”
ผู้กำกับหวางกัดฟันพูด
“เดี๋ยวผมลองติดต่อหาคนอื่นๆ ”
ผู้ช่วยพูดจบก็เริ่มโทรศัพท์
แต่ว่าทุกสายที่โทรหานั้นต่างก็ปิดเครื่อง
“นี่พวกเขากำลังแกล้งหายตัวไปพร้อมกันเหรอ? ”
ผู้ช่วยพูดอย่างโกรธจัด
“อู๋เทียนโย่ว ไม่ใช่ว่าดื่มจนกระเพาะเลือดออกเหรอ? เขาต้องอยู่ที่โรงพยาบาลแน่ๆ ไม่อย่างนั้น ผมลองไปคุยกับเขาที่โรงพยาบาลดีกว่า”
ผู้กำกับหวางพูดขึ้นทันใด
แม้ว่าเขาจะเป็นผู้กำกับ แต่ก็ไม่ใช่ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงอะไร ดังนั้น เขาจึงไม่สามารถทำอะไรอู๋เทียนโย่วและคนอื่นๆที่เป็นนักแสดงกระจอกๆได้
“ผู้กำกับหวาง ฉันจะไปกับคุณด้วยค่ะ! ”
เซี่ยเหอก้าวออกมาข้างหน้าพูดขึ้น
“โอเคครับ งั้นพวกเราไปด้วยกัน! ” ผู้กำกับหวาง ดีใจมากที่เซี่ยเหอออกตัวช่วยเหลือในเวลานี้
20 นาทีหลังจากนั้น รถชั้นธุรกิจคันหนึ่งก็หยุดที่ประตูทางเข้าโรงพยาบาลประชาชน
ผู้กำกับหวางกับเซี่ยเหอตรงไปที่ห้องพักผู้ป่วยของอู๋เทียนโย่ว
“ผู้กำกับหวาง คุณมาที่นี่ได้ยังไง ? ”
เมื่อเห็นผู้กำกับหวาง สีหน้าของอู๋เทียนโย่วก็ดูประหลาดใจมาก
นอกจากอู๋เทียนโย่วแล้ว ภายในห้องพักผู้ป่วยยังมีนักแสดงนำคนอื่นๆอยู่ด้วย
“เทียนโย่ว พวกเราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าละครจะเริ่มถ่ายอย่างเป็นทางการวันนี้? ทำไมคุณไม่ไปล่ะ ? ”
ผู้กำกับหวางที่เดิมทีโกรธจัด แต่หลังจากเห็นอู๋เทียนโย่ว แล้วกลับพูดด้วยน้ำเสียงต่ำลง
เขาเองก็อยากจะดังเพราะละครเรื่องนี้ หลิ่วเหมยถูกไล่ออกจากทีมแล้ว และเขาก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้ว
ถึงแม้จะไม่สบายใจนัก ก็ต้องคิดหาวิธีโน้มน้าวให้อู๋เทียนโย่วไปถ่ายละคร
อู๋เทียนโย่วพูดขึ้นว่า “ผู้กำกับหวาง คุณดูสิผมนอนอยู่ที่นี่ ยังจะบังคับให้ผมไปถ่ายละครอีกเหรอครับ? ”
ผู้กำกับหวางพูดว่า “ไม่ใช่ว่าผมจะบังคับคุณ แต่ซิงเฉินมีเดียแจ้งให้ทราบว่าพวกเราต้องเริ่มถ่ายทำวันนี้ คุณรู้แล้วนิ ผมเองก็ไม่รู้จะทำไง !”
“ผู้กำกับหวาง บริษัทไร้มนุษยธรรมมาก พี่เทียนโย่วป่วยขนาดนี้แล้วยังจะบังคับให้เขาไปถ่ายละครอีกเหรอ? ”
“ใช่แล้ว แม้ว่าพี่เทียนโย่วจะอยากไปถ่ายละคร แต่พวกเราก็ไม่เห็นด้วย”
“ใช่ พวกเราไม่ยอมให้พี่เทียนโย่วไปถ่ายละครหรอก”
เพียงชั่วครู่หลายคนต่างพากันพูดขึ้น
สีหน้าของผู้กำกับหวางยิ่งแย่ลงไปอีก
ในเวลานี้เซี่ยเหอเดินเข้ามาแล้วพูดว่า “อู๋เทียนโย่ว คุณไม่ต้องมาแกล้งทำ ฉันเพิ่งไปถามคุณหมอเจ้าของไข้คุณมา คุณหมอบอกว่า เมื่อวานตอนบ่ายคุณก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”
“ฉันรู้ที่คุณตั้งใจไม่ไปถ่ายละคร เป็นเพราะว่าฉันทำผิดกับคุณ คุณก็มาลงที่ฉันสิ อย่ามาถ่วงการทำงานของกองละคร ”
อู๋เทียนโย่วยิ้มเยาะ “ก็ได้ ในเมื่อเธอบอกให้มาลงที่เธอ งั้นฉันก็จะมาลงที่เธอ ถ้าตอนนี้เธอลาออกจากกองละคร พวกเราก็จะไปกองละครทันที”
เซี่ยเหอนึกไม่ถึงเลยว่า ตัวเองมาโน้มน้าวอู๋เทียนโย่วไปกองละครด้วยความหวังดี แต่อู๋เทียนโย่วกลับจะให้เธอลาออกจากกองละคร
หยางเฉินพูดแล้วว่าเขาคือประธานกรรมการซิงเฉินมีเดีย
ความสัมพันธ์ของเธอกับหยางเฉิน แน่นอนว่าหยางเฉินไม่สามารถไล่เธอออกจากกองละคร
ในทางกลับกัน แค่เพียงเธอเอ่ยปากก็สามารถทำให้หยางเฉินไล่อู๋เทียนโย่วออกจากกองละครได้
เธอมาโน้มน้าวอู๋เทียนโย่ว ก็หวังว่าการทำงานของทีมงานกองละครทั้งหลายจะไม่สูญเปล่าและไม่ต้องการให้เว็บซีรีส์หยุดชะงัก
“ไม่ได้ ! ”
เซี่ยเหอยังไม่ทันได้พูดอะไร ผู้กำกับหวางก็พูดขึ้นทันทีว่า “ใครจะลาออกจากกองละครก็ได้ ยกเว้นเซี่ยเหอ!”
ท่าทีของเขาดูแข็งกร้าว
เนื่องจากเรื่องของหลิ่วเหมยแพร่กระจายไปทั่วอินเทอร์เน็ต กองละครจึงต้องถอดหลิ่วเหมยออกจากกองละคร
และก็เป็นเพราะเรื่องของหลิ่วเหมยทำให้ความนิยมของเว็บซีรีส์สูงขึ้นไปอีก และความนิยมของเซี่ยเหอก็เพิ่มสูงขึ้น แซงแม้กระทั่งนักแสดงแถวหน้าที่มีชื่อเสียงบางคนในประเทศ
ถ้าเซี่ยเหอออกจากกองละคร เกรงว่าเว็บซีรีส์เรื่องนี้จะถูกชาวเน็ตบอยคอต
“ผู้กำกับหวาง ในที่สุดคุณก็พูดความจริงออกมาแล้ว! ”
อู๋เทียนโย่วยิ้มเยาะ “อันที่จริงแล้ว หลิ่วเหมยถูกถอดออกจากกองละคร ก็เป็นเพราะคุณอยู่เบื้องหลังใช่ไหม? ”
“คุณต้องการจะทำตามความคิดเห็นของชาวเน็ต ทำให้เซี่ยเหอรับบทนางเอกใช่ไหมล่ะ ? ”
“ส่วนพวกเรา สำหรับคุณแล้วจะมีหรือไม่มีก็ได้สินะ! ”
คำพูดของอู๋เทียนโย่วเต็มไปด้วยความประชดประชัน ไม่กลัวว่าจะไปทำให้ผู้กำกับหวางขุ่นเคืองเลยแม้แต่น้อย
สีหน้าของผู้กำกับหวางเปลี่ยนไปและรีบพูดปฏิเสธว่า “หลิ่วเหมยถูกถอดออกจากกองละครไม่เกี่ยวอะไรกับผม บริษัทเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด!”
“และอีกอย่าง ผมก็ไม่อยากให้ใครต้องออกจากกองละครนี้ ในเมื่อพวกเราทุ่มเทให้กับละครเรื่องนี้เป็นอย่างมาก”
เซี่ยเหอกัดริมฝีปากแดงระเรื่อและพูดขึ้นว่า “อู๋เทียนโย่ว คุณอย่ามาพูดมั่วๆ คุณเองก็รู้ดีไม่ใช่เหรอว่าเพราะอะไรหลิ่วเหมยถึงถูกถอดออกจากกองละคร? ”
“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอทำตัวเธอเองทั้งนั้น อย่าว่าแต่เธอเลย ถ้าเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงคนใดทำเรื่องเหมือนที่เธอทำก็ต้องทำให้ตัวเองตกไปในขุมนรกทั้งนั้น!”
อู๋เทียนโย่วขมวดคิ้ว “เซี่ยเหอเธอเข้าใจว่าตัวเองรับบทเป็นนางเอกแล้วมีสิทธิ์ที่จะมาแสร้งทำต่อหน้าฉันเหรอ? ”
“ฉันเปล่า ! ” เซี่ยเหอรีบปฏิเสธ
“เปล่าก็ดี!