ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1960 : ถอยกลับ

ตอนที่ 1960 : ถอยกลับ

  วังวนถูกสร้างขึ้นมาสำเร็จ ตราบใดที่จางหยูคิดจะหนี เขาก็หนีเข้าไปตอนไหนก็ได้ แม้ว่าจักรพรรดิกุยหลิงจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่อาจจะหยุดการหนีของจางหยูได้

  หากจักรพรรดิกุยหลิงตามจางหยูเข้าไปในวังวน งั้นจางหยูจะสั่งสอนมันแน่ๆ

  แม้ว่าโอกาสเป็นไปได้จะต่ำ แต่จางหยูไม่ได้ฝากความหวังกับเรื่องนี้

  แต่แค่ว่าการกระทำของจักรพรรดิกุยหลิงนั้นทำให้จางหยูต้องชะงัก ตอนที่วังวนถูกสร้างขึ้น ในสายตาของจักรพรรดิกุยหลิงมันกลับแสดงความหวาดกลัวออกมา

  ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ มันราวกับว่าจักรพรรดิกุยหลิงเป็นแค่หุ่นยนต์ที่ไม่มีอารมณ์รึความรู้สึก !

  แต่การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของมันในตอนนี้มันคือความกลัว !   จักรพรรดิกุยหลิงกลัว !

  กลัววังวนงั้นหรือ !

  มันถึงกับถอยกลับไป หนวดกว่าสิบอันพันรอบตัวของมันพร้อมกับตัวที่สั่นเทา

    เกิดอะไรขึ้นกัน ?  จางหยูเองก็อึ้งและสับสน สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวนี้กลับกลัววังวน

  ต้องรู้ก่อนว่าวังวนนี้แค่วังวนที่เชื่อมต่อกับทะเลบรรพกาล มันไม่ต่างจากค่ายกลเคลื่อนย้ายเลย มันไม่ได้มีพลังโจมตีใดๆแต่วังวนแบบนี้กลับทำให้จักรพรรดิกุยหลิงต้องกลัว !

  มันน่าเหลือเชื่อ !

  น่าแปลกใจจริงๆ !

  หากไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง จางหยูคงไม่อาจจะเชื่อได้

  หลังจากนั้นสิ่งที่ทำให้จางหยูอึ้งยิ่งกว่าเก่าก็เกิดขึ้น จักรพรรดิกุยหลิงกลับหันตัวกลับแล้วหนีไปราวกับหมาที่หนีไ มันราวกับว่ามีบางอย่างที่ทำให้มันต้องกลัว  ในพริบตาร่างของจักรพรรดิกุยหลิงกลับหายไป ทั้งทะเลโกลาหลนั้นไม่อาจจะเห็นร่างของมันได้อีกราวกับว่ามันไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน

  เหล่าจักรพรรดิเผ่าสวรรค์พากันอึ้งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

  ซื่อเซียวและจักรพรรดิมนุษย์คนอื่นๆที่แอบจับตาดูสถานการณ์ก็พากันสับสน

  ทะเลโกลาหลตกอยู่ในความเงียบราวกับเวลาหยุดเดินไป

    ใครรู้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น ?  จักรพรรดิเผ่าสวรรค์คนหนึ่งมองไปทางที่จักรพรรดิกุยหลิงหนีไปแล้วถามขึ้นมา

    ทำไมจักรพรรดิกุยหลิงถึงหนีได้ ?  เขาไม่มั่นใจว่าจักรพรรดิกุยหลิงกลับไปเองรึว่าหนีไปเพราะความกลัว เขาไม่อาจจะทำใจเชื่อได้ว่าจักรพรรดิกุยหลิงจะหนีไปเพราะความกลัว

  จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ที่เหลือรวมถึงจักรพรรดิมนุษย์ต่างก็พากันแสดงสีหน้าว่างเปล่าออกมา

    มันเคยหลุดเข้าไปในวังวนแล้วเจ็บตัวมาก่อนงั้นรึ ?  ในหัวจางหยูเต็มไปด้วยความสับสน เขาไม่อาจจะคิดอะไรออก   วังวนนี้ทำให้มันนึกถึงตัวตนที่น่ากลัวรึไง ? ใครกันที่ทำให้จักรพรรดิหลิ้งกลัวได้นอกจากจ้าวแห่งทะเลโกลาหล ?  

  จางหยูไม่อาจจะเดาออกว่าทำไมจักรพรรดิกุยหลิงถึงได้แสดงท่าทีเช่นนี้หลังจากที่เห็นวังวนแต่มันก็ส่งผลดีต่อเขา

  อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการโจมตีจากจักรพรรดิกุยหลิง

  ต้องบอกว่าทะเลโกลาหลนั้นปลอดภัยไปชั่วคราว

  สำหรับว่าทะเลโกลาหลจะปลอดภัยนานแค่ไหนนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับว่าจักรพรรดิกุยหลิงจะกลับมาเมื่อไหร่รึตอนที่จางหยูแกร่งเกินกว่าจักรพรรดิกุยหลิง    เฮ้อ…  จางหยูถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อไม่มีอันตรายจากจักรพรรดิกุยหลิง งั้นเขาก็สบายใจได้สักที

  ไม่ไกลจากนั้น

  จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ก็พากันมองหน้ากันแล้วพุ่งออกไปทันที แม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไรกันแต่พวกเขาก็เข้าใจกันเป็นอย่างดี พวกเขาใช้ความเร็วสูงสุดพุ่งเข้าหาจางหยูทันที

  ในเวลาเดียวกันพลังจิตอันแข็งแกร่งก็ได้ปะทุออกมาจนถึงขีดสุดเปลี่ยนเป็นลำแสงทั้งสี่ให้แสงสว่างกับเขตซื่อเซียวไปกว่าครึ่ง

  บางทีความแข็งแกร่งของพวกเขาถึงจะต่างจากจักรพรรดิกุยหลิงอย่างมาก แต่มันก็ไม่อาจจะประมาทจักรพรรดิได้ นี่ไม่ต้องนับการที่ทั้งสี่ร่วมมือกันเลย

  จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ทั้งสี่ได้ใช้พลังในสมบัติที่สั่งสมมานานออกมา พลังได้ระเบิดออกมา ด้วยพลังจากสมบัติระดับสมบูรณ์นี้ก็ได้ระเบิดพลังทำลายล้างออกมา พื้นที่โดยรอบบิดเบี้ยวไป พลังอันน่ากลัวแบบนี้ไม่ได้ด้อยกว่าพลังที่พวกเขาใช้โจมตีจักรพรรดิกุยหลิงเลย

  หลังจากที่สู้กับจักรพรรดิกุยหลิงมานาน จางหยูก็บาดเจ็บหนัก จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ทั้งสี่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ !

  เพราะก่อนหน้านี้การโจมตีของจักรพรรดิกุยหลิงถูกอัดเข้าใส่จางหยู แต่จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ทั้งสี่ไม่ได้บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย !

  นี่ถึงทำให้พวกเขากล้าลงมือกับจางหยู !

  แม้ว่าจะเห็นความแข็งแกร่งอันน่ากลัวของจางหยูมาแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกันแต่ก็อาจจะไม่ใช่คู่มือของจางหยู แต่พวกเขาก็ไม่ลังเลเพราะสภาพของจางหยูในตอนนี้ไม่ได้สมบูรณ์ดังเดิม บอกได้ว่าอ่อนแออย่างมากแทบไม่มีพลังจะสู้ได้ นี่จึงเป็นโอกาสเดียวที่พวกเขาจะกำจัดจางหยูได้ !

  เมื่อพลาดโอกาสนี้ไป คนที่จะซวยก็อาจจะเป็นพวกเขาเอง !

  จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ไม่สงสัยว่าหากจางหยูฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาแล้ว งั้นพวกเขาก็คงไม่รอด

  แทนที่จะโดนจางหยูฆ่า มันจะดีกว่าที่พวกเขาจะลงมือในตตอนนี้ตอนที่จางหยูยังอยู่ในสภาพอ่อนแอเพื่อกำจัดภัยที่อาจจะมีกับพวกเขาไป

  สำหรับจักรพรรดิกุยหลิงแล้ว พวกเขาไม่อาจจะควบคุมได้ พวกเขาต้องกำจัดอันตรายที่มากที่สุดตรงหน้าไปก่อน

    เหลือเชื่อจริงๆ   จางหยูเห็นจักรพรรดิเผ่าสวรรค์เข้าโจมตีเขาก็ไม่ได้แปลกใจ ยังไงซะตัวตนของเขาก็เป็นศัตรูกับเผ่าสวรรค์อยู่แล้ว จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ต้องหาทางกำจัดเขาทิ้ง ไม่งั้นแล้วแม้ว่าจักรพรรดิกุยหลิงไม่ทำลายเผ่าสวรรค์แต่มนุษย์ก็จะทำลายเผ่าสวรรค์อยู่ดี

  นี่คือความบาดหมางที่ไม่อาจจะลบเลือนได้ !

  จากตอนที่จางหยูได้แสดงความแข็งแกร่งออกมา ทุกอย่างก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว

  นี่ยังไม่ได้รวมกับการที่จางหยูเองคิดจะกำจัดเผ่าสวรรค์ทิ้ง แม้ว่าจางหยูจะไม่ได้ลงมือกับเผ่าสวรรค์แต่คนเผ่าสวรรค์ก็ไม่เชื่อว่าจางหยูจะเปลี่ยนความคิด หากพวกเขาเป็นจักรพรรดิฝั่งมนุษย์ หากพวกเขาได้เปรียบเช่นนี้ พวกเขาต้องพยายามกำจัดเผ่าสวรรค์ทิ้งอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เชื่อว่าจางหยูจะยอมสงบศึกกับเผ่าสวรรค์

    ท่าไม่ดี ฉันจะปล่อยพวกแกไปก่อนแต่ครั้งหน้าพวกแกคงไม่โชคดีแบบนี้  จางหยูหันกลับแล้วเดินเข้าไปในวังวน มีแค่เสียงของเขาที่ยังดังก้องในทะเลโกลาหล

  ก่อนหน้านี้ ฉิวหวังโดนจางหยูล่อเข้าไปในวังวนไม่รู้เลยว่าโดนส่งไปที่ไหน ตอนนี้จางหยูเองก็เข้าไปในวังวนด้วย มันทำให้จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ต่างก็พากันกลัว

    วังวนนั่น…มันเชื่อมต่อกับที่ไหนกันแน่ ?  จักรพรรดิเผ่าสวรรค์พากันคิ้วขมวดและรู้สึกอึดอัดใจ  พวกเขาอยากตามเข้าไปในวังวนไล่ตาม จางหยูไปแต่พวกเขามีลางสังหรณ่วาหากตามเข้าไปในวังวน พวกเขาก็ไม่อาจจะคุมชะตาของตัวเองได้

  จักรพรรดิเผ่าสวรรค์พากันลังเลและยืนอยู่หน้าวังวนไม่กล้าจะผลีผลาม

    เทียนตู่  ตอนนั้นเองร่างแยกของซื่อเซียวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา เขามองไปยังจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ทั้งสี่แล้วพูดขึ้น   พวกเจ้าฝ่าเข้ามาในดินแดนของข้า พวกเจ้าผิดข้อตกลงระหว่างเผ่า พวกเจ้าคิดจะก่อสงครามรึไง ? 

    ซื่อเซียว  เทียนตู่มองไปที่ซื่อเซียวแล้วพึมพำออกมา   ชายตะกี้เป็นใครกัน ? 

  จักรพรรดิลึกลับที่มีพลังเหนือกว่าจักรพรรดิทั้งเก้าไม่ได้โดนผูกมัดโดยกฎทะเลโกลาหล มันพลิกมุมมองของพวกเขาไป ใครบ้างที่ไม่อยากรู้ข้อมูลของจักรพรรดิผู้นี้ พวกเขาอยากรู้ว่าจักรพรรดิคนนี้ทำได้ยังไง เขาขึ้นไปเหนือกว่าจักรพรรดิได้ยังไง ทำไมถึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้ได้

    ฮ่าฮ่า..  ซื่อเซียว ยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มถากถาง   พวกเจ้ากลัวรึ ? ไม่คิดเลยว่าจักรพรรดิเผ่าสวรรค์จะกลัวเป็นด้วย ! โชคร้ายที่ข้าไม่คิดจะบอกพวกเจ้า ! 

  เทียนตู่และคนอื่นๆสีหน้าหม่นลงทันที

    พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว หากจักรพรรดิกุยหลิงกลับมา พวกเจ้าคงไม่มีโอกาสได้กลับ  ซื่อเซียว ยิ้มออกมาอย่างพอใจ การที่โดนจักรพรรดิเผ่าสวรรค์กดหัวมาหลายปีตอนนี้กลับได้เอาคืนแล้ว   พวกเจ้าไปล้างคอไว้ดีๆเพราะไม่แน่จุดจบของเผ่าสวรรค์อาจจะมาถึงเร็วๆนี้ 

  เมื่อพูดจบ ซื่อเซียว ก็หายตัวไปราวกับกลุ่มควัน

  จักรพรรดิเผ่าสวรรค์พากันหน้าซีด พวกเขาทั้งกลัวจักรพรรดิลึกลับและโกรธซื่อเซียวไปพร้อมกัน

  พวกเขาพากันมองหน้ากันและไม่กล้าจะอยู่ที่นี่ต่อ พวกเขาได้เปลี่ยนเป็นลำแสงแล้วพุ่งออกไปทันที

  ทันทีที่พวกนั้นจากไป ซื่อเซียวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง เขามองไปที่ที่จางหยูและจักรพรรดิกุยหลิงสู้กันก่อนจะแสดงสีหน้าซับซ้อนออกมา   ความแข็งแกร่งของคังเฉียงน่ากลัวจริงๆ… 

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท