The king of War – บทที่ 896 แม่บุญธรรมของหมีเสวี่ย

บทที่ 896 แม่บุญธรรมของหมีเสวี่ย

อีกฝ่ายเรียกหมีเสวี่ยว่านังตัวดี และบอกอีกว่าหมีเสวี่ยเป็นลูกสาวของเธอ ตัวตนของเธอชัดเจน เธอก็คือฟั่นชุนเจวียน แม่บุญธรรมของหมีเสวี่ย

หยางเฉินเคยอ่านประวัติของหมีเสวี่ย ดังนั้นเขาจึงรู้ชัดเจนว่า หลังจากที่หมีเสวี่ยพลัดพรากจากหม่าชาว ก็ถูกพ่อค้ามนุษย์ลักพาตัวไปและขายให้กับฟั่นชุนเจวียน

“แม่ครับ คุณมาที่นี่ทำไม?”

ในเวลานี้หมีเสวี่ยได้วิ่งออกมา พอเห็นฟั่นชุนเจวียนก็รู้สึกแปลกใจ

“นังตัวตี ไม่ได้เอาแต่หลบหน้าฉันหรอกเหรอ? ทำไมวันนี้ไม่หลบแล้วล่ะ?”

พอฟั่นชุนเจวียนเห็นหมีเสวี่ย เธอก็ทำหน้าจองหองทันที จากนั้นก็เหลือบมองหยางเฉิน “เขาคือผู้ชายคนนั้นที่คอยเลี้ยงดูแกอยู่เหรอ? แกกลัวกำพืดของแกจะถูกเปิดเผย แล้วผู้ชายคนนี้จะทิ้งแกล่ะสิ?”

ดวงตาของหมีเสวี่ยแดงก่ำขึ้นมา สีหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด สะอึกสะอื้น “แม่คะ อย่าพูดเหลวไหล พี่หยางเป็นเจ้านายของฉัน ฉันกับเขาเราบริสุทธิ์ใจต่อกัน”

“ฮ่าฮ่า ถึงขั้นเรียกว่าพี่หยาง ยังจะกล้าพูดว่าพวกแกนั้นบริสุทธิ์ใจกันอีกเหรอ?”

ฟั่นชุนเจวียนหัวเราะเยาะ “ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้แกได้เลื่อนตำแหน่ง แต่มีเจ้านายคอยเลี้ยงดู ก็คงเป็นพี่หยางคนนี้สินะ?”

“หุบปาก!”

หยางเฉินตะโกนอย่างโกรธจัด พูดอย่างไม่พอใจ “ถ้าคุณกล้าพูดเหลวไหลอีก อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจคุณ”

“โอ๊ย คุณจะใช้กำลังกับฉันเหรอ?”

ฟั่นชุนเจวียนทำหน้าเจ้าเล่ห์ ตะโกนให้พนักงานรอบๆ ฟังว่า “พวกคุณมาดูนี่สิ ไอ้เวรนี่นอนกับลูกสาวของฉันแล้ว ตอนนี้ยังจะมาทำร้ายฉันอีก”

“ผัวะ!”

หยางเฉินตบหน้าฟั่นชุนเจวียน

ในเวลานี้ โลกทั้งใบนั้นเงียบสงัด ทุกคนมองหยางเฉินด้วยความตื่นตะลึง

“ถ้าคุณกล้าดูถูกความบริสุทธิ์ของเสียวเสวี่ย ผมจะไม่ปล่อยให้คุณออกไปแม้แต่ก้าวเดียว!”

หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าเย็นชา

ในเวลานี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของฝ่ายขายได้ยินข่าวก็รีบบุกเข้ามา คนหนึ่งจ้องฟั่นชุนเจวียนตาเป็นมัน

ฟั่นชุนเจวียนกำลังจะเอะอะโวยวาย แต่เมื่อเธอสบตาและเห็นพลังอาฆาตในดวงตาของหยางเฉิน เธออดสั่นสะท้านไม่ได้ รีบหุบปากทันที

“ที่แม่มาหาฉันต้องการอะไรกันแน่?”

ดวงตาของหมีเสวี่ยแดงก่ำ จิตใจกำลังจะแตกสลาย

“น้องชายของแกกำลังจะแต่งงานในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้เจ้าสาวของเขาต้องการค่าสินสอดห้าแสน บอกว่าถ้าไม่มีค่าสินสอดห้าแสนไปให้ก็จะไม่แต่ง”

“ฉันกับพ่อของแกทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูแกจนโต แกช่วยน้องชายสักครั้งไม่ได้เหรอ?”

ฟั่นชุนเจวียนไม่กล้าโวยวายใส่หยางเฉิน จึงทำได้เพียงไปลงกับหมีเสวี่ย เธอกัดฟันพูดว่า “วันนี้แกต้องเอาเงินห้าแสนมาให้ฉัน มิฉะนั้นต่อไปฉันจะไปก่อกวนที่ที่ทำงานของแกทุกวัน”

“ห้าแสน?”

หมีเสวี่ยตกใจมาก “แม่คะ ฉันเพิ่งทำงานได้ไม่กี่เดือน จะเอาเงินห้าแสนมาจากไหน?”

“ทำไมแกจะหาไม่ได้ล่ะ?”

ฟั่นชุนเจวียนไม่มียางอายอีกแล้ว เธอถามเสียงดังว่า “ฉันรู้ตั้งนานแล้วล่ะ พรุ่งนี้แกจะไปเป็นผู้จัดการที่อสังหาริมทรัพย์เมืองในฝันแล้ว แกกล้าพูดไหมว่าแกไม่มีเงินห้าแสน?”

“อย่าว่าแต่เงินห้าแสนเลย ต่อให้เป็นห้าล้าน แกก็สามารถหามาได้?”

ฟั่นชุนเจวียนพูดชี้นำ “ถึงยังไงเจ้านายของแกก็เลี้ยง…เอ่อ เลื่อนตำแหน่งให้แกแล้ว ถ้าแกไม่มีเงิน ก็ไปขอจากเจ้านายของแกก็ได้นี่?”

น้ำตาไหลอาบแก้มหมีเสวี่ยทันที “แม่คะ ฉันให้แม่ห้าแสนได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องรอถึงจ่ายเงินเดือนเดือนหน้า ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวฉันรวมๆ กันแล้วไม่ถึงห้าร้อยด้วยซ้ำ”

“เงินเดือนก่อนหน้านี้ฉันก็ให้แม่ไปหมดแล้ว ตอนนี้ฉันไม่มีเงินให้แม่อีกแล้วจริงๆ”

ก็เพราะหยางเฉินได้ซื้อวิลล่าราคา 1,500 ล้านกับเธอก่อนหน้านี้ เธอถึงจะได้เงินคอมมิชชั่นหลายแสนในเดือนหน้า

ถ้าไม่อย่างนั้น อย่าว่าแต่ไปเป็นผู้จัดการของฝ่ายขายอสังหาริมทรัพย์เมืองในฝันเลย แม้แต่การเป็นพนักงานขายในห้องซื้อขายนี้ก็ยังไม่มีโอกาส

“ไม่ได้ วันนี้แกต้องเอามาห้าแสน ไม่ใช่สิ หนึ่งล้าน ห้าแสนนั่นเป็นค่าสินสอดให้น้องชายของแก อีกห้าแสนเป็นเงินบำนาญของพ่อแกกับฉัน”

ฟั่นชุนเจวียนพูดจบก็นั่งลงบนพื้นห้องซื้อขาย “ถ้าแกไม่ให้เงิน วันนี้ฉันก็จะไม่ไปไหนเลย!”

“แม่คะ แม่จะทำแบบนี้ได้ยังไง?”

หมีเสวี่ยโกรธจนน้ำตาไหล “ฉันบอกแล้วไงว่าตอนนี้ฉันไม่มีเงิน ถึงแม่จะนอนที่นี่ ฉันก็ไม่มีเงินจ่ายให้แม่!”

“ฉันสัญญาว่าพอเงินเดือนออกเดือนหน้า ฉันจะให้แม่ห้าแสน ตกลงไหม?”

น้ำเสียงของหมีเสวี่ยเต็มไปด้วยการอ้อนวอน

หลายปีมานี้เธอไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแม่เลย มีแต่การกดขี่ที่ไม่มีที่สิ้นสุด

ตั้งแต่มัธยมต้น พ่อแม่บุญธรรมของเธอไม่ให้เธอไปโรงเรียน แถมยังส่งเธอไปทำงานที่ร้านอาหารเล็กๆ

ถ้าไม่ใช่ทางรัฐบาลมาตรวจสอบอย่างกะทันหัน และพบว่าเด็กๆ กำลังทำงานอยู่ในร้านอาหารเล็กๆ หมีเสวี่ยก็คงจะต้องทำงานที่นั่นไปตลอดชีวิต

แม้ว่าต่อมาเธอจะได้ไปโรงเรียน แต่พ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไม่เคยให้เงินเธอสักบาทเดียว เธอต้องไปเก็บเศษขยะหลังเลิกเรียนทุกวันจนสามารถหาเงินค่าเล่าเรียนได้

ทั้งตอนประถม มัธยมต้น รวมถึงมัธยมปลายก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด

หลังจากที่เธอเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ในที่สุดเธอก็ได้ออกมาจากบ้านที่มีแต่ความเศร้า

แต่พ่อแม่บุญธรรมก็ยังคงไม่ยอมปล่อยเธอไป พวกเขาไม่สนใจว่าหมีเสวี่ยเรียนไปด้วยทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วยจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน ในทุกๆ เดือนก็จะมาเอาเงินเดือนทำงานพาร์ทไทม์เกือบทั้งหมดจากหมีเสวี่ยไป

หมีเสวี่ยกินใช้อย่างประหยัด และสมัครกองทุนช่วยเหลือการศึกษาไปด้วย จนสามารถเรียนจบมหาวิทยาลัยมาได้

ในที่สุดเธอก็ได้งานทำอย่างยากลำบาก แต่พ่อแม่บุญธรรมก็ยังตามรังควานเธออยู่

คราวนี้ยังมาขอเงินเธออีกหนึ่งล้าน

“หมีเสวี่ย ฉันยังพูดไม่ชัดเจนอีกเหรอ? หรือว่าแกตั้งใจจะไม่ให้เงินฉันกันแน่?”

ฟั่นชุนเจวียนถามด้วยความโมโห

“เดือนหน้าพอเงินเดือนออก ฉันจะให้แม่ แม่กลับไปก่อน อย่ามาสร้างปัญหาที่นี่เลย ตกลงไหม?”

หมีเสวี่ยอ้อนวอน น้ำตาไหลอาบแก้ม

“แกไปขอจากเจ้านายของแกหรือยัง? เขานอนกับแกแล้ว จะควักเงินให้พวกเราสักล้านหนึ่ง มันจะมีปัญหาอะไร?”

ฟั่นชุนเจวียนตะโกนเสียงดัง ไม่ไว้หน้ากันสักนิด

พนักงานที่อยู่รอบๆ ต่างมองมาที่หยางเฉิน

พวกเขารู้ว่าเป็นเพราะหมีเสวี่ยได้ดูแลหยางเฉิน จึงได้กระโดดขึ้นไปเป็นผู้จัดการของฝ่ายขายอสังหาริมทรัพย์เมืองในฝัน

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ดี ตอนที่หยางเฉินมาหาหมีเสวี่ยเพื่อซื้อบ้านนั้นเป็นการพบหน้ากันครั้งแรกของทั้งสอง แต่พวกเขาก็ยังมีความเคลือบแคลงอยู่ในใจ

“คุณต้องการหนึ่งล้าน?”

จู่ๆ หยางเฉินก็ถามขึ้น

เมื่อได้ยินสิ่งที่หยางเฉินพูด ฟั่นชุนเจวียนก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “เมื่อกี้คุณตบฉัน ก็ต้องจ่ายเงินชดใช้ค่าความเสียหายทางจิตใจให้ฉันด้วย แค่หนึ่งล้านจะพอได้ยังไง?”

“แล้วคุณอยากได้เท่าไหร่?”

หยางเฉินถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย

แววตาของฟั่นชุนเจวียนเป็นประกายในทันที เธอโพล่งออกมาว่า “สองล้าน! ขอแค่คุณให้ฉันสองล้าน ต่อไปหมีเสวี่ยจะเป็นผู้หญิงของคุณ ถึงจะให้ไปเป็นเมียน้อยของคุณ ฉันก็ไม่คัดค้านใดๆ ทั้งสิ้น”

หยางเฉินเลิกคิ้วขึ้น “ถ้าคุณกล้าดูถูกเสียวเสวี่ยอีก ผมจะให้รปภ.ไล่คุณออกไปเดี๋ยวนี้”

ฟั่นชุนเจวียนรีบหุบปากทันที

ทันทีที่หมีเสวี่ยได้ยินสิ่งที่หยางเฉินพูด ก็รู้ว่าหยางเฉินคิดจะทำอะไร เธอเกิดความร้อนใจขึ้นมาทันทีและรีบบอกว่า “พี่หยาง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ คุณไม่ต้องสนใจ ฉันจัดการเองได้”

“นี่นังบ้า แกพูดบ้าอะไร? ในเมื่อเขามีอะไรกับแกแล้ว เรื่องของแกจะไม่เกี่ยวกับเขาได้ยังไง?”

ฟั่นชุนเจวียนรีบพูดขึ้น พอเห็นหยางเฉินจ้องเขม็งมาที่ตน เธอก็รีบหุบปาก

“เอาอย่างนี้แล้วกัน ผมจะให้เงินคุณสามล้าน แต่ต่อจากนี้ไป ครอบครัวของคุณห้ามเข้ามารบกวนชีวิตของเสียวเสวี่ยอีก ถ้าคุณยอมตกลง ผมจะจ่ายเงินให้คุณเดี๋ยวนี้เลย”

ทันใดนั้นหยางเฉินก็พูดขึ้น

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท