ถ้าปล่อยให้หยางเฉินพากวนเย่วไปแบบนี้ ขืนเรื่องนี้ถูกพูดออกไป ตระกูลคิงกวนต้องกลายเป็นตัวตลก ทั้งตระกูลคิง
แต่ถ้าไม่ปล่อยหยางเฉินไป พวกผู้แข็งแกร่งของตระกูลคิงกวน จะรับมือได้ไหม
“หยางเฉิน เดิมทีระหว่างตระกูลคิงกวนกับนาย ไม่ได้มีความแค้นอะไรกัน ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะกวนเย่ว”
“เดิมทีตระกูลคิงกวนจะให้กวนเย่วแต่งกับตระกูลอู่หวง แต่ตอนนี้เรื่องแต่งงานล้มเหลว กวนเย่วจะอยู่หรือไป ไม่มีความหมายสำหรับตระกูลคิงกวน”
“นายอยากพาเธอไป ใช่ว่าจะไม่ได้”
จู่ๆ กวนหงอี้เปลี่ยนน้ำเสียงทันที “แต่นายบุกเข้ามาในตระกูลคิงกวน ไม่ไว้หน้าตระกูลเลยสักนิด”
“ถ้าตอนนี้นายยอมขอโทษตระกูลคิงกวน ความแค้นระหว่างเรา จะหายไปทั้งหมด นายสามารถพากวนเย่วไปได้”
เมื่อพูดออกมา ทุกคนถึงกับตะลึง
“กวนหงอี้ นายรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไร”
กวนเจิ้นไห่ถามอย่างโมโห
“เจ้าชายใหญ่ การบุกเข้ามาในตระกูลคิงกวน เป็นโทษตาย ตอนนี้เขายังจะพากวนเย่วไป ยิ่งมีโทษหนัก จะปล่อยเขาไปได้ยังไง”
“ใช่ เขาต้องตาย!”
“ไม่เพียงแค่นั้น กวนเย่วต้องได้รับโทษหนักด้วย ลงโทษให้เป็นตัวอย่าง!”
……
ทันใดนั้น ในห้องโถงงานเลี้ยง ผู้มีอำนาจในตระกูลคิงกวนหลายคน ต่างพากันเอ่ยขึ้น ไม่มีใครเห็นด้วยกับความคิดของกวนหงอี้
“หุบปากให้หมด!”
กวนหงอี้ตวาดอย่างโมโห “ในเมื่อกษัตริย์กวนให้ฉันมาจัดการเรื่องนี้ งั้นเรื่องนี้ต้องฟังฉันเท่านั้น!”
เมื่อทุกคนได้ยินชื่อกษัตริย์กวน ต่างพากันเงียบทันที
กวนเจิ้นไห่กัดฟันพูด “ถ้าเรื่องนี้มีผลร้ายแรงกับตระกูลคิงกวน กวนหงอี้ นายต้องแบกรับภาระ!”
“ฉันแบกรับเอง!”
กวนหงอี้ตอบอย่างเย็นชา
จากนั้นเขามองไปที่หยางเฉิน “ขอโทษสิ!”
“ดูเหมือนนายคิดเข้าข้างตัวเองไปหน่อยนะ”
หยางเฉินยิ้มประชด แล้วพูดอีกว่า “ฉันมาวันนี้ นอกจากพาตัวกวนเย่วไป ยังมีอีกเรื่องที่ต้องจัดการ”
ระหว่างนั้น พลานุภาพบนตัวเขาพุ่งออกมา
“เมื่อคืน หม่าชาวน้องชายฉัน โดนผู้แข็งแกร่งตระกูลคิงกวนล้อมทำร้าย แถมยังโดนนายลอบจัดการ เรื่องนี้ตระกูลคิงกวนต้องชดใช้ให้ฉัน!”
ตอนนี้ หม่าชาวยังอยู่ที่บ้านหมอเทวดาเฝิง หยางเฉินไม่แน่ใจว่าฟื้นแล้วหรือยัง
เขาส่งต่งจ้านกังไปแล้ว เดิมทีสามารถโทรติดต่อกันได้ แต่เขากลับไม่กล้าถาม เพราะกลัวว่าอาการของหม่าชาวจะแย่ลง
มาตระกูลคิงกวนวันนี้ ยังไม่ได้เรียกร้องความยุติธรรมให้หม่าชาว มาให้เขาขอโทษตระกูลคิงกวน จะเป็นไปได้ยังไง
“นายพูดอะไร”
สีหน้าของกวนหงอี้อึมครึมขั้นสุด
เมื่อกี้คนตระกูลคิงกวนต่างพากันบอกให้ฆ่าหยางเฉิน มีเพียงเขาที่กลัวปูมหลัง ที่ยังไม่รู้ของหยางเฉิน จึงไม่กล้าบุ่มบ่าม
ถึงกระทั่งที่ยอมแบกรับผลที่ตามมาทั้งหมด
ในความคิดของเขา ไว้หน้าหยางเฉินมากพอแล้ว คิดไม่ถึงว่าหยางเฉินกล้าให้ตระกูลคิงกวนชดใช้
อู่หนิงที่ดูมาตลอด หรี่ตาลงทั้งสองข้าง ตอนนี้ความแข็งแกร่งที่หยางเฉินแสดงออกมา ยิ่งทำให้เข้าแน่ใจว่าหยางเฉินมีที่มาไม่ธรรมดา
“นายหูมีปัญหา หรือฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง”
หยางเฉินแสยะยิ้ม แล้วพูดเยาะเย้ย “ถ้าฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง หาคนฟังภาษาคนรู้เรื่อง มาแปลให้นายได้นะ”
“นายกำลังขุดหลุมฝังตัวเอง!”
กวนหงอี้พยายามควบคุมอารมณ์ให้มั่นคง จากนั้นจึงพูดสียงทุ้ม “เห็นแก่ที่นายเป็นอาจารย์ของกวนเย่ว ฉันจะให้โอกาสนายอีกครั้ง ขอโทษตระกูลคิงกวน จากนั้นนายก็พากวนเย่วออกไปซะ”
หยางเฉินส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ กวาดตามองไปที่คนตระกูลคิงกวนทันที จากนั้นจึงถามว่า “ตระกูลคิงกวนช่างน่าเศร้าจริงๆ เจ้าชายใหญ่ผู้ยิ่งใหญ่ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง”
“คนตระกูลคิงกวน คงไม่ได้ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องทุกคนใช่ไหม พวกนายใครก็ได้ ช่วยแปลให้เขาหน่อย ว่าฉันต้องการอะไร”
เมื่อพูดออกมา ทุกคนถึงกับตกตะลึง
ที่นี่เป็นตระกูลคิงกวน เกือบร้อยปี มีใครที่กล้ามาหาเรื่องตระกูลคิงกวนบ้าง
นี่ทำให้ผู้มีอำนาจของตระกูลคิงกวน ที่คิดว่าตัวเองควบคุมอำนาจสูงสุด ต่างมีแววตาขุ่นเคือง “กล้ามาป่าเถื่อนในคฤหาสน์คิงกวน นายอยากตายเหรอ”
“กวนหงอี้ คนที่นายจะปกป้อง ทำให้นายอับอายขนาดนี้ ตอนนี้นายจะปกป้องเขาอีกไหม”
กวนเจิ้นไห่พูดด้วยสีหน้าประชดประชัน
“คนที่กล้ามาป่าเถื่อนในคฤหาสน์คิงกวน ต้องตายเท่านั้น!”
“เจ้าชายใหญ่ สั่งให้ลงมือเถอะ!”
“ฆ่าไอ้เลวที่กล้ามาสร้างความวุ่นวายในคฤหาสน์คิงกวน จากนั้นเอาหัวมันแขวนไว้ที่ประตูเมืองกษัตริย์กวน สยบพวกคนที่มีความคิดจะทำร้ายตระดูลคิงกวน”
……
ทันใดนั้น คนตระกูลคิงกวนทั้งหมด ต่างพากันพูดขึ้นมา
“อาจารย์!”
กวนเย่วร้อนใจ รีบมาขวางหน้าหยางเฉินทันที เธอพูดด้วยสีหน้าตึงเครียด “อาจารย์ ไม่ต้องสนใจฉัน รีบออกไปจากที่นี่”
เธอไม่ได้กังวลคนตระกูลคิงกวนที่อยู่ในนี้ แต่กังวลว่าเรื่องนี้จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถ้าให้กษัตริย์กวนกับเหล่าผู้อาวุโสตระกูลคิงกวนรู้ แค่ส่งผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดมา ถึงหยางเฉินมีปีกก็หนีไม่รอด
หยางเฉินยิ้มบางๆ ให้กวนเย่ว “เธอไม่มีความมั่นใจในอาจารย์ขนาดนี้เลยเหรอ”
“ตอนนี้ไม่ใช่ปัญหาเรื่องมั่นใจหรือไม่มั่นใจ แต่ฉันไม่อยากให้คุณได้รับบาดเจ็บใดๆ ถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมา ฉันจะไม่อภัยให้ตัวเองไปตลอดชีวิต”
กวนเย่วพูดอย่างร้อนรน
“กวนเย่ว รีบถอยไป ไม่งั้นตามกฎของตระกูล เธอจะกลายเป็นผู้ร่วมกระทำผิดไปด้วย และรับโทษร่วมกัน!”
ผู้อาวุโสตระกูลคิงกวนคนหนึ่ง พูดอย่างเย็นชา
“ใครกล้าแตะต้องภรรยาฉัน”
จู่ๆ ร่างของคนหนุ่มมาบังหน้ากวนเย่ว พูดอย่างเหิมเกริม มองคนตระกูลคิงกวนด้วยแววตาขุ่นเคือง
คนที่มาไม่ใช่ใครอื่น เป็นอู่จื่อไค ลูกชายโง่ของอู่หนิง
“ในเมื่อนายเป็นอาจารย์ของภรรยาฉัน งั้นนายก็เป็นอาจารย์ฉันด้วย มีฉันอยู่ ใครก็อย่ามาแตะนายแม้แต่ปลายนิ้ว”
ในมือของอู่จื่อไคถือกระทะแบน มองหยางเฉินอย่างจริงจัง และเอ่ยขึ้น
จู่ๆ หยางเฉินไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี ไอ้ทึ่มนี่ คิดว่ากวนเย่วเป็นภรรยาจตัวเองจริงๆ
“อู่จื่อไค ฉันบอกไปแล้ว ฉันไม่ใช่ภรรยานาย นายอย่าเรียกฉันแบบนี้”
กวนเย่วพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ที่นี่อันตราย นายอย่าสนใจฉัน รีบไปหาพ่อนายเร็ว”
ใครจะไปรู้ อู่จื่อไคพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ใครอย่ามาขวางฉันปกป้องภรรยา!”
พูดจบ เขาขวางหน้ากวนเย่ว ถือกระทะแบน มองคนตระกูลคิงกวนอย่างโมโห
ทันใดนั้น หยางเฉินโดนคุ้มกันอยู่ด้านในสุด
คนตระกูลคิงกวนเห็นอู่จื่อไค ยืนบังหน้ากวนเย่วกับหยางเฉิน จู่ๆ ก็มึนงงไปหมด
“หัวหน้ารอง เชิญคุณพาคุณชายน้อยไปด้วย มีดปืนไม่มีตา ถ้าไม่ทันระวังโดนคุณชายน้อย ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองตระกูล จะแย่แค่ไหนกัน”
กวนหงอี้จ้องอู่หนิง และพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ก่อนหน้านี้เพราะกวนเย่วพูดเองว่าไม่ยอมแต่งกับคนโง่ อู่หนิงเกือบจะฆ่าเธอ ตอนนี้ยังไม่ขัดขวางอู่จื่อไค
เขากลับก้าวมาข้างหน้า กวาดตามองคนในคฤหาสน์คิงกวน ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ทุกท่าน ขอโทษจริงๆ ทุกคนต่างก็รู้ ผมมีจื่อไคเป็นลูกชายเพียงคนเดียว”
“ถ้าเขาอยากได้ดวงดาวบนท้องฟ้า ผมก็จะเอามาให้เขา ตอนนี้เขาแค่อยากปกป้องภรรยาของตัวเอง ผมขัดขวางไม่ได้จริงๆ”
หลังเขาพูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนถึงกับช็อก ส่วนคนของตระกูลคิงกวน ในระหว่างที่ตกใจ ในใจยังรู้สึกเป็นกังวล
ความหมายของอู่หนิงชัดเจนมาก เขาไม่ขัดขวางอู่จื่อไคปกป้องกวนเย่ว
งั้นหมายความว่า ถ้าคนตระกูลคิงกวนอยากฆ่าหยางเฉิน ก็ต้องจัดการอู่จื่อไคก่อนไม่ใช่หรือไง