ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1977 : ทดสอบ

ตอนที่ 1977 : ทดสอบ

  จางหยูแสดงท่าทีออกมาราวกับหยอกล้อพวกนี้

  ซื่อเซียวและคนอื่นๆได้ยินคำตอบของจางหยูก็ตื่นเต้นขึ้นมา พวกเขาไม่เห็นรอยยิ้มของจางหยูเลยแม้แต่น้อย

    กล่องกระบี่อยู่กับเจ้าจริงๆ !  ซื่อเซียวมองไปที่เย่าหยางและอู่หมิงด้วยตาที่เป็นประกาย

  เย่าหยางเองก็ตื่นเต้นขึ้นมา ตาของเขาเหมือนจะส่องแสงได้

  มีแค่อู่หมิงที่กดความตื่นเต้นในใจเอาไว้เขาไม่กล้าจะรีบดีใจ

  เขาเห็นรอยยิ้มของจางหยูและรู้สึกหนาวใจขึ้นมาทันที เขามีลางสังหรณ์ร้าย

  ถึงรู้ว่ากล่องกระบี่อยู่ในมือจักรพรรดิคังเฉียงแล้วยังไง ?

  หากจักรพรรดิคังเฉียงไม่คิดยกมันให้กับพวกเขา พวกเขาจะแย่งมันมาได้รึ ?

  อู่หมิงควบคุมสติและเตือนเพื่อนทั้งสอง   อย่าเพิ่งรีบดีใจไป 

  เมื่อได้ยินแบบนั้นทั้งสองก็ใจเย็นลงทันที

  ทั้งสองมองหน้ากันก่อนที่ซื่อเซียวจะรวบรวมความกล้าพูดขึ้นมา   สหายคังเฉียง กล่องกระบี่แต่เดิมเป็นของซุนเหลียนเชิงแม่ทัพของเขตซื่อเซียว เมื่อเขาตายไป ข้าในฐานะจักรพรรดิก็ควรจะได้ของของเขาไปเจ้าคงเข้าใจ…. 

  เขามองไปที่จางหยูก่อนที่จะหยุดพูดไป ถึงเขาจะพูดไม่ครบแต่ก็บอกความหมายได้ชัดเจนแล้ว

    โชคร้ายที่ลูกหลานเพียงคนเดียวของซุนเหลียนเชิง ร่างแยกของซุนกวนเป็นสมาชิกของสำนักคังเฉียงของข้า นอกจากซุนกวนแล้ว เรายังมีลูกหลานคนอื่นๆของเขาในสำนักอีก…ในอดีตเก่อเย่โดนพวกเขาฆ่าไป  จางหยูผายมือแล้วพูดขึ้นมา   ดังนั้นข้าเกรงว่าข้าคงไม่อาจจะยกกล่องกระบี่นี่ให้กับเจ้าได้ ยังไงซะข้าก็รับปากกับพวกเขาแล้วว่าข้าจะดูแลกล่องกระบี่นี้ให้ 

    เอ่อ…  สีหน้าของซื่อเซียวแน่นิ่งไป เขาไม่คิดเลยว่าจางหยูจะอ้างเหตุผลแบบนี้ออกมา

  ในฐานะจักรพรรดิแล้ว เขาควรได้สมบัติของคนของเขา เหตุผลนี้พอฟังขึ้นแต่เหตุผลของจางหยูน่ะฟังขึ้นมากกว่า

  ซื่อเซียวพูดออกมาด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน   งั้นรึ ? ฮ่าฮ่า ข้าไม่คิดเลยว่าซุนเหลียนเชิงจะมีลูกหลานด้วย.. 

  พูดไปแล้วซื่อเซียวก็เงียบไปสักพัก เขาไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรออกมาต่อ เขาได้แต่หัวเราะแห้งๆออกมา

    สำหรับสิ่งที่ซุนเหลียนเชิงทำ  เย่าหยางบ่นออกมา   ก็โดนซื่อเซียวขัดขวางเอาไว้ 

  ปากของซื่อเซียวกระตุกและรีบอธิบายออกมา   ข้าแค่คิดว่านี่เป็นเหตุผลที่พอเพียงไม่คิดเลยว่าลูกหลานของซุนเหลียนเชิงจะอยู่ในสำนักคังเฉียง.. 

  เขาไม่สงสัยว่าจางหยูจะโกหก ยังไงซะเรื่องแบบนี้ก็รู้ได้ด้วยการตรวจสอบเพียงเล็กน้อย

    ทำตัวฉลาดเข้าไว้  เย่าหยางกัดปากแล้วพึมพำออกมา

    พอแล้ว เจ้าฉลาดนิ ทำไมเจ้าไม่พูดเอง  ซื่อเซียวบ่นออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจ

    ข้าแค่พูดเฉยๆ  ชัดแล้วว่าเย่าหยางน่ะหน้าด้านยิ่งกว่าซื่อเซียวเสียอีก

  เขากระแอมออกมาเรียกความสนใจจากจางหยูแล้วพูดขึ้น   ข้าไม่ขอปิดบัง สหายคังเฉียง เรามาทีนี่ก็เพราะกล่องกระบี่เรื่องซุนเหลียนเชิงเป็นแค่ข้ออ้าง  เขามองไปที่จางหยูไม่ละสายตา   กล่องกระบี่เป็นสมบัติทะเลโกลาหล เจ้าเป็นจักรพรรดิทะเลบรรพกาล มันไม่เหมาะไม่ใช่รึที่จะเก็บกล่องกระบี่เอาไว้ ?    เลิกชักแม่น้ำทั้งห้า

  ตอนนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องปิดบังจุดประสงค์ของตัวเองแล้ว

  รอยยิ้มของจางหยูไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย   งั้นรึ ? งั้นการที่ข้าจะยกมันให้ลูกหลานของซุนเหลียนเชิง ดูแลกล่องกระบี่นี่ก็ดูไม่เหมาะงั้นสินะ ? ยังไงซะพวกเขาก็มาจากทะเลโกลาหล พวกเขาคือลูกหลานของซุนเหลียนเชิง 

  เย่าหยางคิ้วขมวดเขารู้สึกว่าจางหยูกำลังปั่นหัวพวกเขาอยู่แต่เขาก็ต้องอดทนแล้วพูดขึ้นมา   มันดูไม่เหมาะ 

    งั้นรึ ? ทำไมกัน ?  จางหยูยักคิ้วทำท่าราวกับแปลกใจ

    ลูกหลานของซุนเหลียนเชิงนั้นอ่อนแอเกินไป กล่องกระบี่มีค่าแค่ไหนนั้น หากเจ้าจะให้พวกเขาดูแลมัน ไม่ใช่ว่าเจ้าจะชิงมันมาจากพวกเขาตอนไหนก็ได้รึ ?  เย่าหยางไม่สนใจว่าจางหยูจะไม่เข้าใจจริงๆรึเสแสร้ง เขาได้อธิบายตามคำพูดของ จางหยู  จางหยูถามขึ้นมา   งั้นใครกันที่พวกเจ้าคิดว่าเหมาะที่จะดูแลกล่องกระบี่นี่ ? 

  ซื่อเซียวพูดขึ้นโดยไม่ลังเล   แน่นอนว่าต้องเป็นเรา ! 

    พวกเจ้าน่ะรึ ? 

    เราคือจักรพรรดิของทะเลโกลาหล เราคือคนของทะเลโกลาหลและแกร่งพอที่จะดูแลกล่องกระบี่ มันเหมาะที่สุดที่จะให้เราดูแลกล่องกระบี่เอาไว้  ซื่อเซียวพูดขึ้น   ยังไงซะเราก็ต้องระวังความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลเอาไว้ 

  จางหยูยังยิ้มออกมาดังเดิม เขามองไปที่เย่าหยางและอู่หมิงแล้วพูดขึ้น   พวกเจ้าคิดเห็นยังไง ? 

  เย่าหยางเริ่มรู้สึกแย่ขึ้นมาแต่ความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลนั้นยั่วยวนอย่างมาก เขาจึงรวบรวมความกล้าพูดขึ้น   ข้าคิดเห็นตามที่ซื่อเซียวพูดมา  เมื่อมาก็มาด้วยกัน พวกเขาจึงไม่อาจจะทิ้งกันกลางทางได้  อู่หมิงลังเลนิด ๆแน่นอนว่าเขาอยากรู้ความลับจ้าวแห่งทะเลโกลาหล เขาหวังว่าจะได้ขึ้นเป็นจ้าวแห่งทะเลโกลาหลแต่สัญชาตญาณบอกเขาว่าการได้กล่องกระบี่จากจางหยูมานั้นเป็นได้แค่ความฝัน ในอีกความหมายคือหากเขาได้กล่องกระบี่มา แม้ว่าจะใช้จักรพรรดิทั้งหมดมากดดันเขาแต่เขาก็ไม่มีทางยอม !

  เขาไม่คิดว่าจักรพรรดิคังเฉียงจะใจดีแบบนั้น เมื่อรู้ว่ากล่องกระบี่มีความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหล งั้นก็คงไม่มีทางส่งมันให้กับคนอื่น

  แต่….

  หากต้องยอมทิ้งโอกาสนี้ไป เขายอมตายจะดีกว่า

  เขาเงียบไปสักพักแล้วพูดขึ้น   ข้าไม่คิดจะบังคับให้เจ้าส่งกล่องกระบี่มาให้ ข้าได้แต่หวัง…. 

  พูดไปแล้วเขาก็เงียบไปชั่วครู่    เจ้าต้องการอะไร ? จางหยูถามขึ้นมา

    หากเมื่อสหายคังเฉียงไขความลับของมันออกได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะแบ่งปันมันกับเราบ้าง  ยังไงซะอู่หมิงก็ไม่อาจจะทนต่อความเย้ายวนนี้ได้ เขามองไปที่จางหยูแล้วพูดขึ้น   การที่สหายคังเฉียงนั้นแข็งแกร่งขนาดนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับกล่องกระบี่ แต่เมื่อเจ้ายังไม่อาจจะจัดการกับจักรพรรดิกุยหลิงได้ ข้าจึงคิดว่าเจ้ายังไขความลับทั้งหมดของกล่องกระบี่ไม่ได้ และยังไม่อาจจะขึ้นเป็นจ้าวแห่งทะเลโกลาหล หากเจ้าแบ่งปันความลับนี้กับเรา เจ้าอาจจะไขความลับทั้งหมดได้ …  อู่หมิงเงียบไปชั่วครู่แล้วพูดต่อ   บางทีเราอาจจะช่วยเจ้าได้  ซื่อเซียวและเย่าหยางคิ้วขมวดแต่หากได้แบ่งปันความลับกับจักรพรรดิคังเฉียง พวกเขาก็ไม่รังเกียจ

  แน่นอนว่าหากได้ความลับนี้ไปฝ่ายเดียวก็ถือว่าดีที่สุด

  แต่แค่ว่าพวกเขารู้ตัวดีว่าไม่อาจจะเป็นแบบนั้นได้    มีความจริงอยู่บ้าง  จางหยูพยักหน้าทำให้ทั้งสามยินดีขึ้นมา

  แต่หลังจากนั้นน้ำเสียงของจางหยูก็เปลี่ยนไป   จ้าวแห่งทะเลโกลาหลนั้นมีได้แค่คนเดียว หากทุกคนแบ่งปันความลับนี้ หากสุดท้ายพวกเจ้าได้ขึ้นเป็นจ้าวแห่งทะเลโกลาหล งั้นข้าก็ไม่ได้อะไร ไม่ใช่ข้ารึที่ขาดทุน ? 

    เจ้าจะขาดทุนได้ยังไง ?  ซื่อเซียวกังวลอย่างมาก   ถึงเจ้าไม่ได้ขึ้นเป็นจ้าวแห่งทะเลโกลาหล แต่เจ้าก็จะได้ประโยชน์มากมาย ยกตัวอย่างเช่นความแข็งแกร่งของเจ้าอาจจะเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก…นอกจากนี้แล้วเจ้าก็แกร่งกว่าเรามากอยู่แล้ว เจ้าศึกษากล่องกระบี่มานาน หากเราร่วมมือกัน เจ้าก็มีโอกาสมากขึ้นที่จะขึ้นเป็นจ้าวแห่งทะเลโกลาหลได้ ! 

  จางหยูพูดขึ้นมา   แต่ก็ยังมีความเสี่ยงไม่ใช่รึ ? 

    แล้วเจ้าต้องการอะไรกันแน่ ?  ซื่อเซียวเริ่มหมดความอดทน   หากเจ้าบังคับเรา งั้นมันก็ถือเป็นเรื่องใหญ่ เราคงต้องเรียกจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลมา ข้าเชื่อว่าจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลจะต้องสนใจความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลเป็นแน่  

  จักรพรรดิทั่วไปไม่อาจจะอยู่ในสายตาจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลได้แต่จ้าวแห่งทะเลโกลาหลยิ่งใหญ่พอๆกับจ้าวแห่งทะเลบรรพกาล จ้าวแห่งทะเลบรรพกาลต้องสนใจความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลเป็นแน่

  เมื่อเย่าหยางได้ยินแบบนั้นก็พูดขึ้นทันที   ใช่ เมื่อไม่อาจจะตัดสินเรื่องนี้ได้ งั้นก็เรียกจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลมา 

  อู่หมิงมองไปที่จางหยูโดยที่ไม่พูดอะไรออกมา

  เมื่อได้ยินคำขู่ของซื่อเซียวและเย่าหยาง จางหยูก็แทบหลุดหัวเราะออกมา จ้าวแห่งทะเลบรรพกาลรึ ?

  นั่นก็แค่โชว์จากเขามันคือการทำงานของทะเลบรรพกาล !     ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้า  จางหยูพูดขึ้น   หากพวกเจ้าไขความลับของกล่องกระบี่ได้ ข้าจะแบ่งปันความลับมันกับพวกเจ้า แต่หากพวกเจ้าทำไมได้ อย่าพูดถึงกล่องกระบี่อีกในอนาคต 

  จางหยูพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชา   จำไว้ว่านี่คือคำสั่งไม่ได้คิดปรึกษาพวกเจ้า ! 

  ซื่อเซียวเงียบไปชั่วครู่แล้วพูดขึ้นมา   ได้ ! 

    จำที่เจ้าพูดเอาไว้ด้วย  จางหยูมองไปยังทั้งสาม   หากพวกเจ้ายังมาพูดเรื่องนี้อีก งั้นก็อย่าหาว่าข้าโหดร้าย 

  เขาไม่รังเกียจที่จะลองให้พวกนี้ไขความลับของกล่องกระบี่ หากพวกนี้ทำได้จริงๆ เขากลับต้องขอบคุณพวกนี้แทน ยังไงซะ ซุนเหมิงก็โดนขังไว้ในกล่องกระบี่มานานแล้ว เขายังเป็นกังวลนิดๆ หากพวกนี้เสนอตัว งั้นมันก็ไม่เสียหายที่จะให้พวกนี้ลองดู ทันใดนั้นจางหยูก็พลิกฝ่ามือก่อนจะมีกล่องกระบี่ปรากฏขึ้นมา กล่องกระบี่ไม่ได้แผ่พลังผันผวนออกมาแม้แต่น้อยมันราวกับกล่อง

  มีแค่ต้องตรวจสอบดูดีๆถึงจะรับรู้ถึงพลังจิตที่แข็งแกร่งที่ไหลอยู่ภายใน….

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท