ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1974 : ร่างแยกระดับจักรพรรดิ

ตอนที่ 1974 : ร่างแยกระดับจักรพรรดิ

  ด้วยความแข็งแกร่งของจางหยูในตอนนี้แล้ว จางลู่, เจ้าสำนัก และร่างแยกอื่นๆนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเขามาก

  สิ่งเดียวที่พวกนี้ช่วยจางหยูได้ก็คือช่วยส่งคนมายังทะเลบรรพกาล หากไม่มีพวกนี้ช่วย จางหยูก็ต้องลงมือเอง

  แต่จางหยูในฐานะจักรพรรดิแล้วเป็นจักรพรรดิที่แกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของทะเลจักรวาล เขาเกือบจะแตะเพดานของจักรพรรดิแล้ว เขาสร้างร่างแยกขึ้นมาและส่งร่างยากไปจัดการธุระต่างๆได้ เรื่องที่ร่างแยกเก่าเขาทำได้ ร่างแยกที่เขาสร้างขึ้นมาก็ทำได้เช่นกัน นอกจากไม่ต้องบ่มเพาะและไม่ได้มีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว ร่างแยกทั้งสองแบบไม่ได้ต่างกันมาก

  เมื่อคิดแบบนั้น จางหยูก็รู้สึกว่ามันเป็นไปได้ที่จะตัดการเชื่อมต่อกับพวกนี้และให้อิสระกับพวกนี้จริงๆ    ข้าจะให้อิสระกับพวกเจ้า  จางหยูมองไปรอบๆ   แต่พวกเจ้าควรคิดให้ดีๆเพราะ…  เขาพูดขึ้นมาช้าๆ   เมื่อตัดขาดการเชื่อมต่อทางจิตแล้ว พวกเจ้าจะกลายเป็นตัวตนของพวกเจ้าเอง พวกเจ้าจะไม่ได้รับสิทธิ์สูงสุดที่นี่อีก แม้แต่ในทะเลบรรพกาล เหล่าจักรพรรดิก็อาจจะเป็นภัยต่อชีวิตของพวกเจ้าได้ สักวันในอนาคตพวกเจ้าอาจจะโดนคนอื่นๆในสำนักคังเฉียงแซงหน้าไป… 

  การกลายเป็นจักรพรรดิต้องแลกมาด้วยบางอย่าง

  ในอดีตนั้นพวกเขามีพลังไร้เทียมทานในทะเลบรรพกาล พวกเขาสามารถควบคุมพลังสร้างสูงสุดได้ เมื่อจางหยูตัดขาดการเชื่อมต่อกับพวกเขาไป พวกเขาก็จะกลายเป็นแม่ทัพทั่วไป

  จางลู่และคนอื่นๆเงียบไป สำหรับพวกเขาแล้วมันเป็นตัวเลือกที่ยาก

  หลังจากนั้นสักพัก จางลู่ก็สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดขึ้น   ข้ายังหวังว่าร่างหลักจะให้อิสระกับเรา 

  จางหยูไม่ได้พูดอะไร เขามองไปยังคนอื่นๆแล้วถามขึ้นมา   พวกเจ้าล่ะ ? 

  ร่างแยกอื่นๆมองหน้ากันก่อนจะพูดขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน   ข้าเองก็อยากจะขอให้เจ้าให้อิสระกับเรา ! 

  หากพวกเขาเป็นร่างแยกทั่วไปที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว งั้นพวกเขาคงไม่สนเรื่องอิสระแต่จากตอนที่พวกเขากำเนิดขึ้นมา พวกเขาก็มีความคิดเป็นของตัวเอง พวกเขามีตัวตนของตัวเอง แน่นอนว่าพวกเขาอยากจะได้อิสระ แม้ว่าจะต้องแลกด้วยราคาที่สูงและทิ้งผลประโยชน์ต่างๆแต่พวกเขาก็ยังหนักแน่น

  เมื่อได้ยินแบบนั้น จางหยูก็ไม่ได้แปลกใจเขาพยักหน้า   ได้ ข้ารับปากว่าจะให้อิสระกับพวกเจ้า แต่ก่อนอื่นพวกเจ้าต้องทำหนึ่งสิ่งให้ข้าก่อน 

    อะไรกัน ?  จางลู่ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย    มันยังอีก 2 ล้านปีกว่าที่ก้อนแก่นจะกำเนิดขึ้นมา ในสองล้านปีนี้ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะช่วยร่างแยกบ่มเพาะของข้าพัฒนาการบ่มเพาะขึ้นมา…ด้วยระดับของพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าสามารถสร้างลูกปัดดั้งเดิมขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นลูกปัดของใครแต่ข้าก็กลัวว่าคงไม่มีใครเทียบลูกปัดของพวกเจ้าได้  จางหยูพูดขึ้น   ข้ารับปากว่าหลังจากที่ได้ก้อนแก่นมา ข้าจะตัดขาดการเชื่อมต่อทางจิตระหว่างเราและให้อิสระกับพวกเจ้าทันที 

    แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว  จางลู่ตกลงทันที

  สองล้านปีแลกกับอิสระ…มันถือว่าคุ้มค่า

  คนอื่นๆเองก็ตกลงไม่คิดจะปฏิเสธ

  เห็นได้ว่าพวกเขาอยากได้อิสระเพียงใดกัน

    งั้นก็ตกลงตามนี้   จางหยูยิ้มออกมา   ร่างแยกบ่มเพาะทั้งแปดแสนร่างนั้นข้าจะให้พวกเจ้าดูแล 

  ผ่านไปสักพักกลุ่มร่างแยกก็ได้แยกย้ายออกไป จางหยูได้รวบรวมความคิดบ่มเพาะพลังจิตต่อ แม้ว่ามันจะพัฒนาได้ช้าแต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไร

  ….

  ในพริบตาก็ผ่านไปอีกห้าแสนปีในทะเลโกลาหล ในทางกลับกันแล้วในทะเลบรรพกาลแล้วผ่านไปกว่าห้าร้อยล้านล้านปี

  ทั้งทะเลบรรพกาลมีจ้าวบรรพกาลนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด มีแม่ทัพเพิ่มขึ้นมาจำนวนมากมันถึงกับมีแม่ทัพขั้นสูงกำเนิดขึ้นมา มันถือว่าน่าทึ่งอย่างมาก ยังไงซะจ้าวบรรพกาลเหล่านี้ก็กำเนิดขึ้นมาจากทะเลบรรพกาลโดยไม่มีใครชี้แนะ พวกเขาเติบโตกันเอง การที่พัฒนามาได้ถึงระดับนี้นั้นก็ถือว่าน่าเหลือเชื่อมากแล้ว

  หากเทียบกันแล้วทะเลโกลาหลนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากว่าล้านล้านปีแล้ว แต่ทะเลบรรพกาลขยายตัวจนไร้ขีดจำกัด มันเปลี่ยนไปทุกวัน ทุกช่วงราวกับมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา  หลังจากที่ผ่านไปกว่าห้าร้อยล้านล้านปี ในวันนั้นกลับมีแม่ทัพสูงสุดในสำนักคังเฉียงกำเนิดขึ้นมา !

  หยวนเทียนจี !

  ศิษย์ของจางหยู !

  จางหยูไม่ได้ให้จางลู่และร่างแยกอื่นๆชี้แนะพวกนี้ แต่เขาได้สร้างร่างแยกขึ้นมา ร่างหนึ่งบ่มเพาะ ส่วนอีกร่างนั้นไปยัง

  บรรพกาลของหยวนเทียนจี การสร้างร่างแยกนั้นง่ายอย่างมากแต่ร่างแยกนั้นจะมีความแข็งแกร่งเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยิ่งร่างหลักแข็งแกร่งเท่าไหร่ก็ยิ่งส่งผลต่อร่างแยกมากเท่านั้น

  ในอีกความหมายคือร่างแยกนี้เท่ากับร่างที่แยกตัวออกมาจากร่างหลักซึ่งสามารถรวมตัวกันตอนไหนก็ได้

  ยิ่งร่างแยกแกร่งแค่ไหน พลังของร่างหลักก็ลดลงเท่านั้น นอกจากนี้แล้วทั้งสองร่างก็มีความแข็งแกร่งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน  จักรพรรดิอย่างซื่อเซียวและเย่าหยางสร้างร่างแยกที่เป็นแม่ทัพสูงสุดได้เท่านั้น เพราะความแข็งแกร่งของร่างกายพวกเขาจำกัดและไม่อาจจะสร้างร่างแยกระดับจักรพรรดิได้ แต่จางหยูนั้นต่างออกไป ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้แล้ว ตราบใดที่เขาต้องการ เขาก็สามารถสร้างร่างแยกระดับจักรพรรดิขึ้นมาได้

  ร่างแยกมีความแข็งแกร่งได้ 1 ใน 10 ของร่างหลัก

  ความแข็งแกร่งของจางหยูนั้นแกร่งกว่าจักรพรรดิใหม่เป็นสิบเท่า !

  ดังนั้นเทียบกันง่ายๆคือความแข็งแกร่งของจางหยูก็มากกว่าเรนไนเป็นสิบเท่า จึงสามารถสร้างจักรพรรดิหน้าใหม่ขึ้นมาได้

  บางทีก่อนที่จะสู้กับจักรพรรดิกุยหลิง จางหยูอาจจะไม่แกร่งเท่านี้ด้วยซ้ำแต่หลังจากที่พัฒนาตัวเองมานาน ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมากโดยเฉพาะการที่เรนไนขึ้นเป็นจักรพรรดิของทะเลบรรพกาลมันทำให้เพิ่มขีดจำกัดของความแข็งแกร่งที่จางหยูขึ้นไปอีก…

  หลังจากที่สร้างร่างแยกระดับจักรพรรดิขึ้นมาได้ ความแข็งแกร่งของจางหยูก็ยังเหนือกว่าตอนที่สู้กับจักรพรรดิหลิงอย่างมาก

  จางหยูควบคุมบรรพกาลส่งร่างแยกไปยังบรรพกาลของหยวนเทียนจี หยวนเทียนจีได้เข้ามาทำความเคารพทันที   อาจารย์ 

    ทำได้ดี  ร่างแยกของจางหยูชมออกมา   ข้าคิดว่าเย่ฟานจะเป็นคนแรกที่เป็นแม่ทัพสูงสุดก่อน ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะแซงหน้าเขามาได้ 

    อาจารย์ก็ชมเกินไปแล้ว  หยวนเทียนจียังรักษาท่าทีถ่อมตัว   ศิษย์แค่โชคดี 

    ไม่จำเป็นจะต้องถ่อมตัวไป  จางหยูยิ้มออกมา  หากเทียบกับพวกเขาแล้วเจ้าน่ะขยันที่สุด นี่คือผลของความพยายามของเจ้า  หลังจากที่เงียบไปสักพัก จางหยูก็พูดต่อ   แต่แม่ทัพสูงสุดไม่ใช่จุดจบ เหนือกว่านั้นยังมีจักรพรรดิอยู่อีก    หยวนเทียนจีถามขึ้นมา   ศิษย์ได้ยินว่าทะเลบรรพกาลกำเนิดจักรพรรดิอย่างเรนไนได้ เขาเป็นแม่ทัพสูงสุดจากเขตหว่าเก่อมันจริงรึ ? 

  เขาไม่ใช่แค่ได้ยินว่าเรนไนขึ้นเป็นจักรพรรดิทะเลบรรพกาล แต่ยังเคยได้ยินวิธีที่เรนไนขึ้นเป็นจักรพรรดิอีกด้วย

  จางหยูยิ้มออกมาและพูดขึ้น   เจ้าตั้งใจจะถามว่าหากเจ้าสละจิตและภาวนาเรียกจิตของจ้าวแห่งทะเลบรรพกาล เจ้าก็จะขึ้นเป็นจักรพรรดิได้จริงๆแบบนี้ใช่รึไม่ ? 

  หยวนเทียนจีหัวเราะแห้งๆออกมา เขาแสดงท่าทีเขินอาย เขาถามออกมาอย่างระวังแล้ว  อาจารย์รู้งั้นรึ? 

    คำถามนี้ข้าตอบเจ้าได้ คำตอบคือ….ใช่  จางหยูพูดขึ้น   หากเจ้าขึ้นเป็นแม่ทัพสูงสุด เจ้าจะรอดจากการรับพลังของจักรพรรดิและขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ ! แม้ว่าจะไม่ได้เป็นแม่ทัพสูงสุดแต่ก็เรียกจิตของจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลมาได้แต่การรับพลังนั้นอันตรายเกินไป มีแค่แม่ทัพสูงสุดที่ผ่านการรับพลังนี้ไปได้ ถึงอย่างนั้นก็ยังอันตรายอย่างมาก หากประมาทก็อาจจะตายได้ 

    การรับพลังของจักรพรรดิ…  หยวนเทียนจีถึงกับอึ้ง

  อันที่จริงแม่ทัพสูงสุดทะลวงผ่านเป็นจักรพรรดินั้นไม่ต่างอะไรกับการเผชิญหน้ากับหายนะ

  มันเหมือนกับผู้บ่มเพาะที่ทะลวงผ่านเป็นผู้อมตะไปยังขอบเขตที่สูงกว่าและได้ความอมตะกลับมา

  แม่ทัพสูงสุดต้องรับพลังจักรพรรดิถึงจะทำลายขีดจำกัดขึ้นไปเป็นจักรพรรดิและควบคุมพลังสร้างที่แท้จริงได้

    การรับพลังจักรพรรดิไม่ใช่เรื่องง่าย เรนไนเป็นแม่ทัพสูงสุดมาหลายยุค ตอนที่รับพลังนั้นก็ยังอันตรายอยู่ดี…  จางหยูแสดงสีหน้าจริงจังออกมา  เจ้าเพิ่งขึ้นเป็นแม่ทัพสูงสุด ขอบเขตยังไม่มั่นคง หากเจ้าฝืนรับพลัง มันก็จะอันตรายอย่างมาก    หยวนเทียนจีอึ้ง

  ตอนแรกเขาคิดว่าเขาจะรับพลังจักรพรรดิเลยดีรึไม่ แต่ตอนนี้เขาควรอัดแน่นระดับการบ่มเพาะของเขาก่อน

    มันยังเหลืออีก 2 ล้านปีกว่าที่ก้อนแก่นจะกำเนิด เจ้าควรกลับไปอัดแน่นพลังและลองข้ามขอบเขตนี้หลังจากที่การแข่งขันชิงก้อนแก่นจบลง  จางหยูพูดขึ้น   ก่อนหน้านี้อย่าเพิ่งลองเลย เพื่อความปลอดภัยของเจ้าแล้ว แม้ว่าเจ้าจะรับพลังจักรพรรดิไปแต่ข้าก็จะขัดขวางเอง 

  หยวนเทียนจีตอบกลับ   เข้าใจแล้ว ! 

  จางหยูพูดขึ้น   อีกอย่างแล้วเจ้าไปบอกคนอื่นๆเรื่องนี้ด้วย บอกทุกคนว่าให้รอจนกว่าการแข่งขันชิงก้อนแก่นจะจบลงก่อน 

  เมื่อจางหยูพูดจบเขาก็สลายกลายเป็นควันไป……………..

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท