ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1988 : เรื่องในอดีต

ตอนที่ 1988 : เรื่องในอดีต

  หลังจากที่รู้ความจริงว่าทะเลโกลาหลกำลังจะโดนทำลาย จางลู่ก็หนักใจและเงียบไป

  แม่ทัพของทะเลโกลาหลรวมถึงทุกคนในสำนักคังเฉียงไม่เข้าใจว่าทำไม จางลู่ถึงได้เงียบไปแบบนี้

  แต่แม้ว่าจะสับสนแต่พวกเขาก็ไม่คิดจะถามจางลู่

  ในทะเลบรรพกาล….

  จางลู่ได้ส่งข้อมูลที่รู้มาให้จางหยูรวมถึงสิ่งที่เขาคาดการณ์เอาไว้

  เมื่อได้รับข้อความจากจางลู่ จางหยูก็คิ้วขมวด

  ตามที่จางลู่วิเคราะห์มา ทะเลโกลาหลกำลังทำลายตัวเอง เขตต้นกำเนิดอาจจะหายไปซึ่งทำให้ทะเลโกลาหลโดนทำลายไปโดยสมบูรณ์  ซื่อเซียวและคนอื่นๆไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเขา

  ไม่นานจางหยูก็ได้เรียกตัว ซื่อเซียว, เย่าหยาง, หว่านเก่อ, อู่หมิงและเรนไนเข้าพบ

  หลังจากที่ทั้งห้ามาถึงจางหยูก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด   ข้ามีคำถาม ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะบอกความจริง 

  ซื่อเซียวและคนอื่นๆมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้า ซื่อเซียวได้พูดขึ้นมา   สหายคังเฉียงว่ามาได้เลย 

    ข้าสงสัยว่าทะเลโกลาหลกำลังทำลายตัวเอง ใช่หรือไม่  จางหยูพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง

  ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นทั้งห้าคนก็สีหน้าเปลี่ยนไปราวกับความจริงที่ปกปิดไว้มาหลายปีกลับโดนเปิดเผยออกมา สีหน้าของพวกเขาดูผิดปกติอย่างมาก

  ซื่อเซียวลังเลไปสักพัก แทนที่จะตอบคำถามจางหยู เขากลับถามออกมาแทน   ทำไมสหายถึงได้ถามเช่นนี้ ? 

  จางหยูไม่คิดจะอ้อมค้อมกับซื่อเซียวและพูดขึ้น   เจ้ายังไม่ตอบคำถามข้า 

  เหล่าจักรพรรดิต่างก็พากันเงียบไป

  ความเงียบบอกถึงคำตอบแล้ว

    มันยากรึไงที่จะตอบคำถามนี้ ?  แม้ว่า จางหยูจะตัดสินคำตอบได้แล้วแต่เขาก็ยังไม่พอใจกับท่าทีของจักรพรรดิเหล่านี้   อย่าบอกข้านะว่าในฐานะจักรพรรดิทะเลโกลาหลแล้ว พวกเจ้าไม่รู้สถานการณ์ของทะเลโกลาหล 

  ซื่อเซียวอ้าปากค้าง แต่สุดท้ายเขาก็ต้องกลืนคำพูดของตัวเองกลับไป

  นี่คือเรื่องใหญ่ ความจริงนั้นโหดร้ายและน่าสลด ไม่มีใครอยากพูดถึงเรื่องนี้

  พวกเขาหนีความจริงมาหลายปีไม่คิดจะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงแต่จางหยูกับเผยความจริงที่โหดร้ายนี้ออกมาต่อหน้าพวกเขา ดังนั้นพวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับปัญหานี้อีกครั้ง

    ทะเลโกลาหล…  อู่หมิงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดขึ้น   มันกำลังทำลายตัวเองจริงๆ 

  คำตอบนี้ยืนยันการคาดการณ์ของจางหยู

  ในเวลาเดียวกันมันก็พิสูจน์ว่าจักรพรรดิทะเลโกลาหลอาจจะรู้ความจริงเรื่องนี้อยู่แล้ว

    ทำไม ?  จางหยูใจหล่นวูบ แต่เขาก็ยังแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมาอยู่ดี   ข้าอยากรู้เหตุผล 

  เรนไนพูดขึ้นมา   อันที่จริงก่อนที่ก้อนแก่นครั้งแรกจะปราฏขึ้น ในอดีตของทะเลโกลาหลนั้นไม่มีกุยหลิงอยู่ มันไม่ได้มีจักรพรรดิกุยหลิง 

  จางหยูมองไปที่เรนไน ชัดแล้วว่าเรนไนนั้นคือคนที่เก่าแก่ที่สุดในทะเลโกลาหล เขารู้ความลับมากมายที่คนอื่นไม่รู้

    ในอดีตนั้นแม้ว่าไม่มีจักรพรรดิในทะเลโกลาหลแต่ก็มีจ้าวโกลาหลนับไม่ถ้วน ตอนนั้นจำนวนจ้าวโกลาหลมากกว่าตอนนี้เป็นสิบเท่าร้อยเท่า แม่ทัพนั้นมีจำนวนมาก แม้แต่แม่ทัพสูงสุดก็ยังมีมากเช่นกัน 

    อยู่ๆวันหนึ่งทะเลโกลาหลก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เขตต้นกำเนิดที่เชื่อมต่อกับทะเลโกลาหลกลับมีรอยร้าว ขนาดของเขตต้นกำเนิดเริ่มหดตัวลง กุยหลิงเริ่มปรากฏตัวไปทั่วทะเลโกลาหล ตอนแรกไม่มีใครสนใจกุยหลิงเพราะพวกมันไม่อาจจะทำให้กองกำลังใดสนใจได้ 

    แต่เพราะจำนวนกุยหลิงที่เพิ่มขึ้นและการตายของจ้าวโกลาหลที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทุกกองกำลังจึงหันมาสนใจมันและเริ่มส่งคนเข้าไปจัดการแต่ก็ไม่มีใครคิดเลยว่าคนที่ถูกส่งไปนั้นกลับต้องตายและบาดเจ็บ มีไม่กี่คนที่รอดมาได้ พวกเขาไม่มีทางที่จะจัดการกุยหลิงได้ ตราบใดที่พบกับกุยหลิง พวกคนที่อ่อนแอนั้นก็ไม่อาจจะหนีออกมาได้ แม้ว่าจะเป็นแม่ทัพสูงสุดแต่หากประมาทก็อาจจะโดนกลืนกินจิตไป มันคือยุคมืดของเรา จ้าวโกลาหลทั้งหมดราวกับลูกแกะที่รอโดนฆ่า ไม่ว่ากุยหลิงจะผ่านไปที่ไหนก็ต้องเกิดการล้มตาย แม้แต่กองกำลังที่แกร่งที่สุดก็ยังไม่อาจจะเอาชนะกุยหลิงได้เพราะพวกมันต้านทานการโจมตีกายภาพ, พลังงานและอื่นๆได้ มันต้านทานความเสียหายทุกอย่าง ไม่ว่าจ้าวโกลาหลจะแกร่งแค่ไหนแต่ก็ไม่ต่างอะไรจากมดสำหรับมัน 

    แค่ไม่กี่ร้อยล้านยุค ทะเลแข็งแกร่งก็กลายเป็นนรก จ้าวโกลาหลกว่า 9 ใน 10 โดนกำจัด จนกระทั่งจำนวนจ้าวโกลาหลลดลงถึงระดับหนึ่งและกระจายตัวในที่ต่างๆในทะเลโกลาหล ผู้ย้อนกลับที่ก้าวขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลได้นั้นลดลง จำนวนจ้าวโกลาหลและผู้ย้อนกลับนั้นมีพอๆกัน  

    ตอนนั้นจ้าวโกลาหลทั้งหมดต่างก็พากันสลดและกลัว พวกเขากลัวว่าจะโดนกุยหลิงหมายหัว พวกเขากลัวว่าจะเป็นเป้าหมายต่อไป จ้าวโกลาหลทุกคนอยู่ด้วยความกลัวและซ่อนตัวในโกลาหลที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมา มันไม่มีใครกล้าเข้ามาในทะเลโกลาหล ทั้งทะเลโกลาหลได้กลายเป็นสวนหลังบ้านของพวกกุยหลิง… 

    ผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครจำได้ มันนานซะจนจ้าวโกลาหลที่รอดมาได้ในยุครุ่งโรจน์ได้ตายไปเกือบหมด นานซะจนจ้าวสโกลาหลโดนกดขี่ถึงขีดสุด ตอนที่พวกเขาเกือบจะสิ้นหวังก็มีปรากฏการณ์ก้อนแก่นครั้งแรกขึ้น 

    ตอนนั้นกลุ่มแม่ทัพที่ไม่คิดจะร้องขอความเมตตาจากโชคชะตาได้ก้าวออกไปเพื่อสู้กับกุยหลิง 

    พวกเขารับรู้ได้ถึงก้อนแก่นและพยายามหาทางจัดการกับกุยหลิงในเขตต้นกำเนิดเพราะเขตต้นกำเนิดนั้นเป็นต้นกำเนิดของทะเลโกลาหล มันเป็นที่ที่พิเศษที่สุดในทะเลโกลาหล มีแค่การเข้าไปในเขตต้นกำเนิดที่จะหาทางจัดการกับกุยหลิงหได้ ตอนแรกพวกเขายังลังเลแต่เขตต้นกำเนิดกลับเริ่มพังทลาย พวกเขาจึงต้องตัดสินใจ 

    กลุ่มแม่ทัพได้เสี่ยงชีวิตตัวเองเข้ามาในทะเลโกลาหลก่อนจะเดินทางเข้าไปในเขตต้นกำเนิด ตอนนั้นกุยหลิงมีจำนวนมาก ดังนั้นแม่ทัพส่วนมากจึงโดนกุยหลิงหมายหัวทันทีที่เข้ามาในทะเลโกลาหล ก่อนที่พวกเขาจะได้เข้าไปในเขตต้นกำเนิด พวกเขาต่างก็พากันตาย เหลือแค่ 1 ใน 3 เท่านั้นที่เข้าไปในเขตต้นกำเนิดได้ 

  เรนไนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักใจ เขาไม่อาจจะลืมยุคมืดแบบนั้นได้ เขาไม่อาจจะลืมความสิ้นหวังและความกลัวในตอนนั้นได้

  ตอนนั้นซื่อเซียวก็ได้พูดขึ้น   เหล่าแม่ทัพที่รอดเมื่อเข้าไปในเขตต้นกำเนิดแล้วก็พากันตามหากันอย่างบ้าคลั่ง เขตต้นกำเนิดคือความหวังเดียวของพวกเขา หากพวกเขาไม่อาจจะหาทางจัดการกับกุยหลิงในเขตต้นกำเนิดได้ งั้นพวกเขาก็ต้องตายกันทั้งหมด 

    หลังจากนั้นก็มีคนโชคดีพบลูกปัดจักรพรรดิทั้ง 9 ลูก ลูกปัดจักรพรรดิมีพลังลึกลับ พลังที่เหนือกว่าพลังใดๆ ทุกคนพากันตื่นเต้นขึ้นมาเพราะพวกเขารู้สึกว่าพลังของลูกปัดพวกนี้อาจจะใช้สู้กับกุยหลิงได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะดูดซับมัน… 

    มันเพราะพลังในลูกปัดที่แกร่งเกินไป มีแค่แม่ทัพที่ทนพลังของมันได้ แม่ทัพที่อ่อนแอที่ดูดซับพลังมันเข้าไปล้วนแต่ต้องตาย 

    จนกระทั่งลูกปัดได้ตกไปอยู่ในมือแม่ทัพขั้นสูงทั้งเก้าคน ทั้งเก้าคือคนที่โชคดี หลังจากที่ดูดซับลูกปัดไป พวกเขาก็ได้ก้าวขึ้นไปขอบเขตจักรพรรดิ พวกเขามีพลังที่เหนือกว่าจ้าวโกลาหล พลังนี้รู้จักกันในชื่อพลังจิต พลังที่เรียกว่าพลังจักรพรรดิ 

    ข้า, เย่าหยาง, หว่านเก่อ และอู่หมิงต่างก็เป็น 1 ใน 9 คนที่โชคดี 

    หลังจากนั้นเรา จักรพรรดิทั้งเก้าก็ได้พึ่งพลังจิตในการไล่ล่าและฆ่ากุยหลิง เราได้เปิดเขตขึ้นและสร้างระเบียบขึ้นมาในทะเลโกลาหล ตอนนั้นทะเลโกลาหลได้เข้าสู่ยุคใหม่ มันคือยุคของจักรพรรดิที่เราอยู่ในตอนนี้รึบอกได้ว่ามันคือยุคจักรพรรดิมนุษย์ เพราะตอนนั้นมีแค่จักรพรรดิมนุษย์ที่ปกครองทะเลโกลาหล เผ่าสวรรค์เพิ่งจะกำเนิดขึ้นมา เรายังไม่ได้ใส่ใจพวกนั้น 

    จนกระทั่ง…ตอนที่เรากำจัดกุยหลิงส่วนมากและคิดจะกำจัดกุยหลิงที่เหลือให้หายไปจากทะเลโกลาหล สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวกลับปรากฏตัวขึ้นมา ตัวตนที่คล้ายกับกุยหลิงแต่แกร่งกว่ากุยหลิงหลายเท่า !  

    ในการต่อสู้นั้นเรา 5 คนตายไปและบาดเจ็บ 4 คนเหลือแค่ข้า, เย่าหยาง, หว่านเก่อ และอู่หมิงที่รอดมาได้ ยุคของจักรพรรดิมนุษย์ที่ปกครองทะเลโกลาหลจึงได้สิ้นสุดลงไป 

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท