ซุนซวี่พยักหน้าเล็กน้อย มองรอยฝ่ามือบนหน้าของซุนจื้อเจียวอยู่ ทันใดนั้นถอนหายใจทีหนึ่ง “จื้อเจียว ลุงตบแก แกโทษลุงมั้ย?”
ซุนจื้อเจียวรีบส่ายหน้าทันที “คุณลุงคะ ถ้าไม่ใช่คุณลุง หนูก็ไม่มีวันนี้ ไม่แน่ว่าคงถูกไล่ออกจากตระกูลซุนตั้งแต่แรกแล้ว ท่านตบหนู เพราะหวังดี หนูจะโทษท่านได้อย่างไรคะ?”
“งั้นก็ดี ฉันถามแกเรื่องหนึ่ง แกจำเป็นต้องตอบมาตามตรง!”
ซุนซวี่พูดด้วยท่านทางจริงจังทันใด
ซุนจื้อเจียวเหมือนเข้าใจว่าซุนซวี่อยากถามอะไร สีหน้าซีดเซียวพอสมควร แต่ยังพยักหน้าแล้ว “คุณลุง ถามได้เลยค่ะ!”
“เรื่องที่เกิดขึ้นตรงที่หลบภัยใต้ดินของตระกูลซุนวันนี้ สรุปว่าเกี่ยวกับแกรึเปล่า?”
ซุนซวี่เอ่ยปากถาม
ซุนจื้อเจียวพยักหน้าแล้ว ตาแดงก่ำตอบว่า “คุณลุงคะ หนูนึกไม่ถึงเหมือนกันว่า หยางเฉินจะเก่งกาจขนาดนี้ แม้แต่นักฆ่าของหงเฉิน ยังฆ่าเขาไม่ได้!”
“คุณลุงคะ หนูสำนึกผิดแล้ว ต่อไปหนูไม่กล้าอีกแล้วค่ะ! ขอร้องคุณลุงให้อภัยหนูนะคะ!”
ซุนซวี่เดิมนึกถึงคำตอบข้อนี้ไว้แล้ว แต่หลังได้ยินการยอมรับจากปากซุนจื้อเจียว ยังรับได้ยากอยู่บ้าง
“จื้อเจียว ขอแค่แกทำเรื่องหนึ่งเพื่อตระกูลซุน ฉันจะยกโทษให้แก!”
ซุนซวี่พูดขึ้น
ซุนจื้อเจียวพยักหน้าติดต่อกัน “คุณลุงคะ ท่านให้หนูทำอะไรหนูยอมทั้งนั้นค่ะ ถึงแม้จะให้หนูไปตาย หนูก็ยินยอมค่ะ!”
“ดี งั้นแกก็ไปตายเถอะ!”
ซุนซวี่เพิ่งพูดจบ ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งด้านหลังเขาหยิบปืนกระบอกหนึ่งออกมาฉับพลัน ยิงตรงหัวใจของซุนจื้อเจียวนัดหนึ่ง
ไม่ว่าอย่างไรซุนจื้อเจียวก็คิดไม่ถึงว่า ลุงที่เห็นเธอเป็นเหมือนลูกคนหนึ่งมาตลอด จะฆ่าเธอได้ลง
มองซุนจื้อเจียวที่ตายตาไม่หลับ ในสายตาซุนซวี่มีความทนไม่ไหวนิดๆ แวบผ่าน ถอนหายใจเบาๆ “อาฉี เป็นพี่ใหญ่ต้องขอโทษแก แต่ว่าพี่ใหญ่ไม่มีทางแล้วจริงๆ”
ซุนฉี น้องชายแท้ๆ ของซุนซวี่ เมื่อหลายปีก่อน เพราะซุนซวี่ถึงต้องตาย
เป็นเพราะเหตุนี้ ดังนั้นหลายปีมานี้ ซุนซวี่จึงรักและตามใจซุนจื้อเจียวอย่างมาก ไม่ว่าซุนจื้อเจียวทำเรื่องผิดพลาดมากแค่ไหน เขาก็สามารถให้อภัยได้ทั้งนั้น แม้กระทั่งคอยช่วยเหลือแก้ไข
แต่ว่าครั้งนี้ ซุนจื้อเจียวก่อปัญหาใหญ่เกินไป เดิมทีซุนซวี่แก้ไขไม่ได้
เวลานี้ โรลส์-รอยซ์สีดำคันหนึ่ง กำลังขับผ่านบนถนนนอย่างรวดเร็ว
ในรถ เฉาจื้อสีหน้าอึมครึมถึงขีดสุด บนเบาะข้างคนขับยังมีไป๋เซี่ยงฮุยยอดฝีมืออันดับหนึ่งข้างกายเขานั่งอยู่
“คุณชายเฉาครับ นึกไม่ถึงว่าซุนซวี่จะกล้าขึ้นเสียงข่มขู่ท่าน วอนหาที่ตายเสียจริง ท่านบอกมาคำเดียว ผมสามารถพังตระกูลซุนทิ้งได้!”
ไป๋เซี่ยงฮุยเอ่ยปากพูดขึ้น
เฉาจื้อพึมพำเสียงเย็นชา “นายคิดว่าตระกูลซุนพังง่ายขนาดนั้นจริงเหรอ?”
“ซุนซวี่ดูเหมือนขี้ขลาดตาขาว แต่พอทำงานขึ้นมา ไม่อืดอาดแม้แต่น้อย เจ้าตัวเองก็ยืดหยุ่นด้วย ฉันกล้ารับประกันว่า ขอแค่ตอนนายกล้าลงมือ มือซุ่มยิงของตระกูลซุนก็กล้าลั่นไก”
พอได้ยิน ชั่วขณะนั้นไป๋เซี่ยงฮุยหน้าแดง
เฉาจื้อไม่ได้คุยโม้โอ้อวด ก่อนหน้านี้เขาพยายามลงมือต่อซุนซวี่ กลับโดนเลเซอร์แดงของปืนยาวห้าหกอันเล็งตรงตำแหน่งสำคัญทันที ต่อให้เขาเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นกลาง ก็หลบลูกกระสุนไม่พ้นหรอก
“อย่าดูถูกแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูเด็ดขาด แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูนี้ประกาศตัวเป็นใหญ่ที่เมืองเยี่ยนตูมาได้นานขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะโชคช่วย ถ้าไม่มีเส้นสนกลใน คงถูกเข้าแทนที่ตั้งนานแล้ว”
เฉาจื้อพูดจาด้วยเสียงทุ้ม สำหรับสถานการณ์ของแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ยังเข้าใจแจ่มแจ้ง
“ที่คุณชายเฉาสอนมาถูกต้องครับ ผมเข้าใจแล้ว!”
ไป๋เซี่ยงฮุยรีบตอบรับ จากนั้นถามอีกว่า “งั้นต่อจากนี้ไป พวกเราควรทำอย่างไรครับ? โดยเฉพาะคนที่ตายคือฉินชาง เป็นผู้สืบทอดของตระกูลฉินแห่งเมืองคิงเฉา ตัวฉินชางเองก็สนิทสนมกับคุณชายเฉาด้วย”
“ถ้าท่านแสดงความเป็นมิตรต่อหยางเฉิน ต้องสร้างความไม่พอใจแก่ตระกูลฉินแน่ แต่ถ้าท่านไม่อธิบายกับหยางเฉิน หยางเฉินคงคิดบัญชีเรื่องนี้ที่ท่านแน่นอนครับ”
บนหน้าเฉาจื้อดูแย่อย่างมาก ถึงแม้ไป๋เซี่ยงฮุยจะเป็นคนใช้กำลัง แต่คำพูดพวกนี้ในเวลานี้ กลับมีเหตุผลมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลฉินเป็นคนของเมืองคิงเฉา ว่ากันว่าความสามารถของฉินหรูเฟิงผู้นำตระกูลฉินเก่งกาจมาก กำลังบุกทะลวงเข้าแดนราชาสูงสุด
ถ้าเกิดฉินหรูเฟิงบุกทะลวงถึงแดนราชาสูงสุด งั้นความสามารถก็เหมือนกับกษัตริย์เฉา พอเป็นเช่นนี้ ตระกูลฉินยิ่งไม่อาจผิดใจได้
แต่ไม่ผิดใจตระกูลฉิน ก็ต้องผิดใจหยางเฉิน
ทันใดนั้น เฉาจื้อจิตใจคล้ายสับสน เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าตัดสินใจยากขนาดนี้
ตั้งนาน เฉาจื้อกัดฟันพูดว่า “เรื่องนี้เดิมทีไม่เกี่ยวข้องกับฉัน ต่อให้หยางเฉินเอาเรื่องนี้มาคิดบัญชีที่ฉัน งั้นก็ต้องเอาหลักฐานออกมา”
“ต่อให้เขาเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลาย ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทั้งตระกูลคิงเฉา ขอแค่เขากล้ามาฆ่าฉัน ฉันจะให้เขาไม่รอดกลับไปแน่!”
ไป๋เซี่ยงฮุยไม่ได้พูดจาอีก แต่ว่าบนหน้ากลับเต็มไปด้วยความกังวล
ว่าตามการวิเคราะห์ของเฉาจื้อ อย่างน้อยความสามารถของหยางเฉินอยู่แดนราชาขั้นปลาย แม้แต่เขา ยังห่างไกลไม่ใช่คู่แข่ง
แต่ว่าฟังความหมายในคำพูดของเฉาจื้อ น่าจะยังมีแผนสำรองรับมือหยางเฉินอยู่
ตอนที่เฉาจื้อกำลังกังวลว่าหยางเฉินจะมาฆ่าเขา หยางเฉินก็พาฉินต้าหย่งและเสี้ยวเสี้ยวมาถึงโรงพยาบาลประชาชนที่หนึ่งแห่งเยี่ยนตูแล้ว
หม่าชาวก็พาเฝิงเสียวหว่านมารอที่โรงพยาบาลตั้งนานแล้ว อ้ายหลินก็อยู่ด้วย
“หยางเฉิน นี่ลุงฉินเป็นอะไรแล้ว?”
ทั้งตัวฉินต้าหย่งคือบาดแผล หน้าบวมปูดเต็มไปหมด ถ้าไม่ใช่ว่าได้รับข่าวของหยางเฉินล่วงหน้าแล้ว อ้ายหลินคงทนรับสภาพของฉินต้าหย่งไม่ได้
“รักษาให้เขาก่อน เรื่องอื่นไว้ค่อยคุยทีหลัง!”
หยางเฉินพูดแบบร้อนใจ
ฉินต้าหย่งอาศัยความพยายามทนไว้มาตลอด จนกระทั่งถึงโรงพยาบาล เขาจึงหมดสติไป
เฝิงเสียวหว่านหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมา พูดกับหยางเฉินว่า “ให้คุณลุงกินยาเม็ดนี้ลงไป สามารถปกป้องชีพจรของเขาไว้ได้”
หยางเฉินไม่ได้ลังเลใดๆ ผลปรากฏว่าอยากป้อนยาให้ฉินต้าหย่ง
“หยางเฉิน!”
ชั่วขณะนั้นอ้ายหลินร้อนใจแล้ว รีบห้ามไว้
หม่าชาวเพิ่งพาเฝิงเสียวหว่านเข้ามา อ้ายหลินยังไม่รู้รายละเอียดของเฝิงเสียวหว่านชัดเจน เห็นเฝิงเสียวหว่านหยิบยาสีดำเม็ดหนึ่งออกมา ชั่วขณะหนึ่งร้อนใจอยู่บ้าง
“เสียวหว่านเป็นหมอวิเศษ สามารถเชื่อถือหล่อนได้!”
หยางเฉินเพียงพูดแค่ประโยคหนึ่ง อ้ายหลินก็รีบหลบออกให้ทันที มองหยางเฉินป้อนยาเม็ดหนึ่งให้ฉินต้าหย่งแล้ว
ฉินต้าหย่งถึงถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด
“พี่หยาง พี่วางใจได้เลย คุณลุงจะไม่เป็นอะไร เมื่อกี้ยาที่ฉันให้เขากิน สามารถปกป้องชีพจรของเขาไว้ หลังเขาออกจากโรงพยาบาล ฉันจะสั่งยาให้เขากินสักหน่อย ใช้เวลาไม่นานมากก็ฟื้นตัวได้”
เฝิงเสียวหว่านพูดปลอบใจ
หยางเฉินพยักหน้าเบาๆ ในอ้อมอกยังอุ้มเสี้ยวเสี้ยวไว้ ก่อนหน้านี้ที่ตระกูลซุน เสี้ยวเสี้ยวถูกผู้เชี่ยวชาญของตระกูลซุนรักษาจนฟื้น
เพียงแต่ ก่อนหยางเฉินจะไปถึงที่หลบภัยใต้ดินของตระกูลซุน ฉินต้าหย่งโดนฉินชางชกต่อย เสี้ยวเสี้ยวก็โดนฉินชางตบหน้าเช่นกัน ถึงตอนนี้อยู่ในความตกใจ กอดคอของหยางเฉินไว้แน่นไม่ยอมปล่อยมาตลอด
“พี่หยาง หล่อนคือลูกสาวพี่สินะ? น่ารักจริงๆ!”
เวลานี้สายตาเฝิงเสียวหว่านตกอยู่บนตัวของเสี้ยวเสี้ยวแล้ว หัวเราะอยู่พลางพูดขึ้น