พอเข้ามาได้ ก็มองเห็นกองหินกองใหญ่ปิดขวางเต็มถนนอยู่ หล่อนจึงอุ้มเซี่ยวเซี่ยวเดินเลาะจากข้าง ๆ เข้าไป ก็ได้เห็นฉินซีถูกตำรวจสองนายจับรั้งไว้อยู่ ฉินซีร้องไห้เสียงลั่น ตะโกนแต่ว่าจะไปช่วยสามีหล่อน
“เสี่ยวยี หยางเฉินประสบอุบัติเหตุรถยนต์ รถถูกชน ทั้งคนทั้งรถถูกฝังอยู่ในกองหินที่พังลงมาจากภูเขา”
“เพราะฉันไม่ดีเอง เพราะฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉันไปบอกจะขอหย่ากับเขา เขาก็คงไม่จอดรถ เขาก็คงไม่ถูกชนเป็นอุบัติเหตุ”
“เพราะฉันทำให้หยางเฉินต้องตาย เพราะฉันที่ทำให้หยางเฉินตาย!”
ฉินซีกอดฉินยีแน่น ปล่อยเสียงร้องไห้ลั่น
บรึม!
คำพูดของฉินซี เหมือนฟ้าผ่าลั่นก้อง ทำเอาฉินยียืนตะลึงแน่นิ่ง
“พี่สาว พี่ พี่พูด พี่เขย เขา เขาอยู่ข้างในกองหินถล่มนั่นหรือ?”
ผ่านไปพักใหญ่ ฉินยีจึงได้ตั้งสติกลับมา ตะกุกตะกักถามเสียงสั่นออกไป
ฉินซีผงกหัวถี่ ๆ อย่างรุนแรง “เขาอยู่ในนั้นแหละ ฉันจะไปช่วยเขา แต่ฉันช่วยไม่ไหว ฮือ ๆ…ฉันจะทำยังไงดี?”
“ไม่นะ!เป็นไปได้ยังไง?เมื่อเช้านี้เขายังตบหน้าฉันนะ ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับเขาเลย เขาจะไปเกิดเรื่องได้ยังไง?”
ฉินยีเซถอยไปสองสามก้าว น้ำตาไหลพราก ร้องไห้ขึ้นมาบ้าง “พี่สาว พี่อย่ามาโกหกฉัน พี่เขยต้องไม่เป็นอะไร เขาจะต้องไม่เป็นอะไร!”
“ให้เป็นเรื่องอุบัติเหตุรถจริง ๆ ก็แล้วแต่ คนที่อยู่ข้างล่างนั้น ต้องไม่ใช่พี่เขย เขาเก่งกาจออกขนาดนั้น ฝีมือขับรถก็สุดยอด จะเกิดอุบัติเหตุได้ยังไงกัน?”
“ฉันไม่เชื่อ!ฉันไม่เชื่อ!”
ในขณะนั้นเอง ตำรวจหญิงในเครื่องแบบคนหนึ่งเดินเข้ามา ในมือถือรูปมาใบหนึ่ง ในภาพเป็นรถโฟล์คเภาตันสีดำคันหนี่ง หมายเลขทะเบียน YAN-A00815 ในรถมีคนที่กำลังใช้โทรศัพท์อยู่
ตัวเลข 0815เป็นวันเกิดของฉินซี และที่อยู่ของรถโฟล์คเภาตัน ก็อยู่ที่นี่ และคนที่กำลังโทรศัพท์อยู่คนนั้น ก็คือหยางเฉิน
“สวัสดีคะ ขอเรียนถามว่าคนในภาพนี้ เป็นสามีคุณหรือ?”
ตำรวจหญิงคนนั้นถาม และพูดต่อไปว่า “นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของเราบนส้นทางนี้ รถที่เกิดอุบัติเหตุที่มีคนอยู่ในรถ ก็คือที่อยู่ใต้กองหินถล่มนี้!”
บรึม!
เสียงของตำรวจหญิงคนนั้นพูดจบ ฉินซีให้รู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาดใส่ ทั้งร่างอ่อนแรงทรุดลง เป็นลมหมดสติไป
ฉินยีรีบประคองอุ้มไว้ ฉินซีจึงไม่ถึงกับล้มลงกับพื้น
หล่อนฝืนกล้ำกลืนน้ำตาไว้ จ้องมองหน้าตำรวจหญิงคนนั้น ถามไปด้วยเสียงสั่นเครือ
“คุณบอกว่า คนและรถในภาพ ทั้งหมดฝังอยู่ใต้กองหินสูงถึงสี่ห้าเมตรนี่นะหรือ?คุณแน่ใจ คนที่อยู่ใต้กองหินถล่มนี้ ก็คือผู้ชายที่อยู่ในรูปนี้นี่นะ?”
ตำรวจหญิงคนนั้นผงกหัว ใช้โทรศัพท์มือถือเปิดคลิปช่วงหนึ่งให้ดู เป็นเหตุการณ์ที่เกิดที่นี่
ฉินยีเห็นชัดเองแล้ว รถที่กำลังวิ่งมา จู่ ๆ ก็เบรกรถหยุด จอดอยู่ข้างทาง
ตามมาอย่างกระชั้นชิด เป็นรถบรรทุกคันใหญ่วิ่งมาอย่างเร็วสุด ๆ ชนเข้าใส่โฟล์คเภาตันอย่างเต็มแรง โฟล์คเภาตันกระเด็นกลิ้งออกไป แล้วชนเข้ากับหน้าผาข้างทางอย่างหนักหน่วง
ตามมานั้น เสียงดังสนั่น หินก้อนน้อยใหญ่จำนวนมากถล่มกลิ้งลงมาใส่ ชั่วเดี๋ยวเดียวก็ถมทับทั้งรถทั้งคนฝังอยู่ใต้กองหิน
“ไม่!”
ฉินซีกรีดร้องเสียงลั่น น้ำตาพรั่งพรูออกนองเต็มหน้า
“ไม่!มันเป็นไปไม่ได้!ฉันไม่เชื่อ!นี่ไม่ใช่เรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องจริงเด็ดขาด!”
ฉินยีส่ายหน้าอย่างแรงรัว สีหน้ามีแต่ความไม่ยอมเชื่อ ร้องไห้พูดว่า “เขาเป็นพี่เขยที่เต็มเพียบด้วยความสามารถ ไม่เคยปรากฏมีใครทำอะไรเขาได้ เขาเก่งกาจถึงขนาดนั้น จะมาอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง?”
“โปรดระงับความโศกเศร้าบ้างคะ!”
ตำรวจหญิงคนนั้นพูดด้วยความเห็นใจ
ผู้หญิงสองคน คนหนึ่งพอรู้ข่าวถึงกับเป็นลมหมดสติ อีกคนหนึ่งพลุ่งพล่านระงับอารมณ์ไม่อยู่ ก็แจ้งชัดแล้วว่า ผู้หญิงสองคนนี้ก็คือญาติของหยางเฉิน
ข่าวการเกิดเรื่องของหยางเฉิน แพร่กระจายไปทั่วทั้งเยี่ยนตูอย่างรวดเร็ว
มีหลายคนที่ดีใจมากกับข่าวนี้ และก็มีหลายคนเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์นี้
ณ อณาเขตุเมืองในฝัน ในคฤหาสน์หลังเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดหลังนั้น เมื่อหม่าชาวได้ข่าวเกิดเหตุกับหยางเฉิน ทั้งตัวเหมือนถูกฟ้าผ่าลงใส่
ในขณะเดียวกัน กลิ่นอายโหดเหี้ยมกระจายแผ่ออกจากตัวเขา พูดออกมาในขณะกัดฟันแน่น “ไม่ว่าจะเป็นใคร กล้าทำร้ายพี่หยาง ข้าจะสังหารมันด้วยมือของข้าเอง!”
เพียงได้พูดจบ หม่าชาวก็ออกจากไป ในขณะอยู่บนสันทางไปที่เกิดเหตุ เขาได้พูดโทรศัพท์ “พี่เฉินเกิดเรื่อง ข้าไม่สนใจว่าคุณจะใช้วิธีไหน วันนี้จะต้องสืบให้ได้ ให้รู้ว่าใครที่คิดฆ่าพี่เฉิน!”
พอตัดสายโทรศัพท์ เขาก็ต่อโทรศัพท์ไปอีกในทันที “รีบส่งกองกำลังทีมพิทักษ์เงาลับที่มีทั้งหมด คุ้มกันคนในบ้านพี่เฉิน!”
ถ้ามีหยางเฉินอยู่ อย่าว่าแค่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ให้แม้แต่ตระกูลเดอะคิงทั้งห้าแห่งจิ่วโจว ก็ยังไม่กล้ามาวางกล้ามในเยี่ยนตู
แต่ทว่าตอนนี้เกิดเหตุร้ายกับหยางเฉิน ก็คงไม่ใช่แล้ว มีหลายคนที่หวังอยากให้หยางเฉินตาย น่ากลัวป่านนี้กลุ่มอิทธิพลหลาย ๆ กลุ่ม คงเตรียมรวมตัวกัน ปรึกษาวางแผนในการที่จะเข้าคุมเยี่ยนตูกันแล้ว
ในช่วงที่หยางเฉินยังไม่พ้นขีดอันตราย เขาจะต้องทำทุกวิถีทาง ดูแลปกป้องทุกคนที่หยางเฉินเคยดูแลปกป้องอยู่
ถูกต้อง ในความรู้สึกของเขา หยางเฉินไม่ตาย น่าจะแค่บาดเจ็บสาหัส
สมัยที่อยู่ในสมรภูมิแดนเหนือนั้น หยางเฉินเคยผ่านวิกฤตการณ์เฉียดตายมายังไง คนที่สนิทกันเยี่ยงพี่น้องในไส้อยู่ข้างกายหยางเฉิน เขาย่อมรู้ดีกว่าใคร ๆ ทั้งหมด
ในสายตาของปุถุชนคนทั่วไป หยางเฉินประสบเหตุรุนแรงขนาดนี้ มีแต่ตายสถานเดียว แต่ในสายตาของหม่าชาว อุบัติภัยครั้งนี้สำหรับหยางเฉินนั้น เต็มที่ก็แค่บาดเจ็บสาหัส กระทั่งถึงตายนั้น ยังห่างอีกไกล
เวลาขณะเดียวกันนั้น ที่ตระกูลอวี๋เหวิน ภายในคฤหาสน์หลังหนึ่ง อวี๋เหวินปิงนั่งอยู่บนโซฟาแสนสบาย มือถือแก้วเหล้าทรงสูง
เขาค่อย ๆ เขย่าแก้วทรงสูงในมือ บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “คิดไม่ถึงเลยนะ แกก็มีวันนี้ หยางเฉิน ในที่สุดข้าก็ได้รอจนเห็นวันตายของแกมาถึง!”
พูดจบ ยกแก้วทรงสูงนั้นขึ้นกระดก ดื่มจนหมดเกลี้ยง
ณ ตระกูลอวี๋เหวิน ในคฤหาสน์หลังใหญ่หลังหนึ่ง อวี๋เหวินเกาหยางกำลังนั่งดื่มชามื้อเช้า วันนี้ตั้งแต่ลุกจากเตียงมา รู้สึกหนังตาคอยจะกระตุกอยู่ไม่หยุด ให้รู้สึกเหมือนมีเหตุการณ์อะไรจะเกิด จิตใจรู้สึกไม่สบายเอาเลย
“แคร๊ก!”
คนรับใช้ได้เข้ามาเติมน้ำร้อนใส่ถ้วยชาให้ จอกชากระเบื้องเคลือบขาวที่อยู่กับเขามากว่าสิบปี จู่ ๆ ก็แตก น้ำชาร้อน ๆ กระเซ็นสาดไปทั่ว
“ผลุบ!”
คนรับใช้นั่นตกใจเอาแทบตาย ทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้น วิงวอนด้วยสีหน้าหวาดกลัวสุด ๆ “ขอประทานอภัย ขอประทานอภัย นายท่าน กระผมไม่ได้ตั้งใจเลย โปรดยกโทษให้กระผมด้วย!”
อวี๋เหวินเกาหยางขมวดคิ้วย่น มองดูกาน้ำชากระเบื้องเคลือบขาวที่แตกกระจุยกระจาย ให้รู้สึกเสียดาย แต่ไม่มีอาการโกรธ
เขาเอ่ยปากพูดสียงเรียบ ๆ “ลุกขึ้นเถอะ!มันเป็นปัญหาของถ้วย ไม่เกี่ยวกับแกหรอก”
“ท่านผู้นำ ท่านผู้นำ แย่แล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
ทันทีที่เขาพูดจบ ผู้เฒ่าในชุดจีนคนหนึ่ง เดินเข้ามาอย่างร้อนรน
เป็นหานเทียนเฉิง พ่อบ้านตระกูลอวี๋เหวิน สีหน้าของเขาดูไม่ได้เอาเลย
“ลนลานอะไรกันนักหนา?มีอะไรค่อย ๆ ว่ามา!”