ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1986 : เรื่องแปลกใจยิ่งกว่าเก่า

ตอนที่ 1986 : เรื่องแปลกใจยิ่งกว่าเก่า

ตอนที่ 1986 : เรื่องแปลกใจยิ่งกว่าเก่า

    พวกเจ้า !  จางลู่พูดขึ้นและเพิ่มพลังจนถึงขีดสุดที่โลกจะรับไหว   มีใครสงสัยที่ข้าพูดอีกรึไม่ ? 

  เสียงเฉยเมยของเขากับพลังอันน่ากลัวนี้เหมือนจะมีพลังทำลายล้างทุกอย่าง

  ทุกครั้งที่จางลู่พูดขึ้นมา แม่ทัพทะเลโกลาหลก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันหนักหน่วงที่กดทับหัวพกวเขาเอาไว้ เมื่อจางลู่ พูดจบ แม่ทัพทะเลโกลาหลก็ราวกับเหมือนโดนบดขยี้

  แม่ทัพที่อ่อนแอไม่อาจจะประคองตัวเองได้และโดนบีบให้คุกเข่าลงไปแต่พวกเขาก็กัดฟันแน่ และพึ่งจิตใจที่เข้มแข็งของตนต้านทานพลังเอาไว้ได้ แม้ว่าจะโดนบดขยี้แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะคุกเข่าได้

  หากพวกเขาต้องคุกเข่าในตอนนี้ พวกเขาจะรักษาหน้าตัวเองยังไงในอนาคต ?

    พวกเจ้า !  จางลู่พูดขึ้นและเพิ่มพลังจนถึงขีดสุดที่โลกจะรับไหว   มีใครสงสัยที่ข้าพูดอีกรึไม่ ? 

  เสียงเฉยเมยของเขากับพลังอันน่ากลัวนี้เหมือนจะมีพลังทำลายล้างทุกอย่าง

  ทุกครั้งที่จางลู่พูดขึ้นมา แม่ทัพทะเลโกลาหลก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันหนักหน่วงที่กดทับหัวพกวเขาเอาไว้ เมื่อจางลู่ พูดจบ แม่ทัพทะเลโกลาหลก็ราวกับเหมือนโดนบดขยี้

  แม่ทัพที่อ่อนแอไม่อาจจะประคองตัวเองได้และโดนบีบให้คุกเข่าลงไปแต่พวกเขาก็กัดฟันแน่ และพึ่งจิตใจที่เข้มแข็งของตนต้านทานพลังเอาไว้ได้ แม้ว่าจะโดนบดขยี้แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะคุกเข่าได้

  หากพวกเขาต้องคุกเข่าในตอนนี้ พวกเขาจะรักษาหน้าตัวเองยังไงในอนาคต ?   หากไม่อาจจะต้านทานได้ งั้นก็ต้องแผ่คลื่นพลังออกไปตอบโต้เอาไว้

    ท่านจางลู่  ตอนนั้นซิงฮัวได้พูดขึ้นมา หน้าของนางซีดไป เสียงของนางเองก็สั่น   เราเชื่อแล้ว !  นางกัดฟันพูดขึ้นมา นางแทบถึงขีดจำกัดแล้ว หากนางพูดอีกคำเดียว นางอาจจะต้านทานพลังนี้ไม่ไหว

  แรนดอฟเองก็พูดขึ้น   ข้าหวังว่า ท่านจางลู่ จะยกโทษให้กับความเขลาของเราด้วย ! 

  ด้วยความแข็งแกร่งของแรนดอฟ แต่ก็ยังพูดได้ไม่กี่คำ

  แม่ทัพคนอื่นๆไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้เลยเพราะเมื่อพวกเขาพูดออกมา พลังที่ประคองตัวพวกเขาอยู่จะสลายไปทันที

  เมื่อได้ยินคำพูดของซิงฮัวและแรนดอฟ จางลู่ก็เผยรอยยิ้มพอใจออกมาก่อนจะดึงพลังกลับคืนมา

  ในพริบตาพลังอันน่ากลัวที่ครอบคลุมไปทั่วทั้งโลกก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

  จ้าวโกลาหลด้านล่างพากันเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว พวกเขาเหมือนเพิ่งรอดตายมาหมาดๆ

  เหล่าจ้าวโกลาหลรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่หายไปก็รู้สึกว่าราวกับโลกกลับมาสดใสอีกครั้ง

    เฮ้อ.  ทุกคนพากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

  พวกเขาพากันหันกลับไปมองทีมคังเฉียงอีกรอบ ครั้งนี้สายตาของพวกเขาเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าคนของทีมคังเฉียงอยู่ระดับนายพลและมีแม้แต่จ้าวโกลาหลทั่วไปแต่ตะกี้พวกเขารู้แล้วว่าความแข็งแกร่งของพวกนี้นั้นไม่อาจจะดูหมิ่นได้เลย

  มันคือ…แม่ทัพกว่าสองพันคนจริงๆ !

  ทุกคนพากันกลืนน้ำลาย วิญญาณของพวกเขาสั่นไหวไปตาม มันราวกับความฝัน

  พวกเขามองไปที่ทีมคังเฉียงราวกับมองดูสัตว์ประหลาด

  หากเทียบกับทีมคังเฉียงแล้ว พวกเขาที่มีแม่ทัพแค่ 38 คนนั้นด้อยกว่าอย่างหมดรูป !

  หากทีมคังเฉียงเป็นศัตรูกับพวกเขา งั้นทีมคังเฉียงก็สามารถฆ่าทุกคนได้ในเวลาไม่กี่อึดใจ มันไม่อาจจะมีใครหนีรอดไปได้ รวมถึงซิฮัวและแรนดอฟด้วย

  แม้ว่าซิงฮัวและแรนดอฟ จะเป็นแม่ทัพระดับสูงที่รับมือกับแม่ทัพทั่วไปสัก 10 คนได้แต่หากต้องพบกับแม่ทัพ 100 คน มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะชนะ พวกเขาจะตายทันที นี่ไม่ต้องพูดถึงแม่ทัพกว่าสองพันคนเลย !

  แม่ทัพสองพันคนหมายถึงอะไร ?

  นอกซะจากว่าจักรพรรดิจะลงมือ งั้นพวกนี้ก็ถือว่าไร้เทียมทานในทะเลโกลาหล !

  ต่อหน้ากองกำลังที่น่ากลัวแบบนี้ งั้นแม่ทัพสูงสุดก็ไม่อาจจะต้านทานได้ไหว

    ไม่แปลกเลยที่ท่านจางลู่คิดจะแย่งเอาลูกปัดจิตมาทั้งหมด  แม่ทัพหลายคนพากันรู้ตัว   แม่ทัพกว่าสองพันคน พวกเขามีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้จริงๆ ! 

  พวกเขาเชื่อมั่นแบบนั้น !

  แม่ทัพทะเลโกลาหลเชื่อเช่นนั้น !

  ตอนแรกพวกเขาคิดว่าพวกเขาต้องเป็นผู้นำโดยมีทีมคังเฉียงคอยช่วย แต่ตอนนี้กลับกันแล้ว ทีมคังเฉียงจะเป็นผู้นำแทน เดาว่าพวกเขาคงไม่ได้อะไรติดมือกลับมาแน่ !

  เพราะมันคงดีหากพวกเขาพอได้อะไรติดมือกลับมาบ้าง

    ทีมคังเฉียงไม่ได้ทำให้พวกเจ้าผิดหวังกันหรอกนะ ?  จางลู่ยิ้มออกมา

  เมื่อได้ยินแบบนั้น ซิงฮัวและคนอื่นๆก็ปากกระตุกไปตาม ผิดหวังงั้นรึ ?

  พวกเขากลัวกันแทบตาย !

  ซิงฮัวสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกสติ นางพยายามทำใจเย็นเอาไว้ นางกระแอมแล้วพูดขึ้นมา   ท่านจางลู่ ทำให้เราแปลกใจจริงๆ    แปลกใจที่ไหน มันน่าตกตะลึงต่างหาก

  แต่หลังจากที่เห็นความแข็งแกร่งของทีมคังเฉียงแล้ว ความมั่นใจของซิงฮัวกับการแข่งขันก็มากขึ้นไปอีก

  นางไม่กล้าบอกว่าจะชิงลูกปัดจิตทั้งหมดมาได้แต่ก็น่าจะได้กว่า 9 ใน 10

  ความแข็งแกร่งของทีมคังเฉียงแต่ละคนอาจจะไม่ได้แกร่งนักแต่ด้วยจำนวนที่มากแบบนี้ พวกนี้ก็เพียงพอจะยึดทั้งทะเลโกลาหลได้ !

    แปลกใจรึ ?  จางลู่เผยรอยยิ้มลึกลับออกมา   เมื่อการแข่งขันเริ่ม ข้าจะทำให้พวกเจ้าแปลกใจยิ่งกว่านี้อีก ! 

  เมื่อแม่ทัพทะเลโกลาหลคิดว่าได้รู้ถึงความแข็งแกร่งของทีมคังเฉียงแล้ว พวกเขาก็ไม่รู้เลยว่านี่แค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง มันคือพลัง 1 ใน 10 ส่วนของพวกเขาเท่านั้น รึอาจจะน้อยกว่านั้น พวกนี้ไม่มีทางเดาออกว่าทีมคังเฉียงปกปิดความแข็งแกร่งไว้มากแค่ไหน

  เมื่อได้ยินคำพูดของจางลู่ เหล่าแม่ทัพทะเลโกลาหลก็พากันอึ้งและใจสั่น

  ตะกี้พวกเขาก็กลัวกันแล้ว หากมีเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะต้านทานได้รึไม่

  ซิงฮัวไม่อยากจะแปลกใจกับอะไรอีก นางรีบเปลี่ยนเรื่องทันที   งั้น ท่านจางลู่ เราไปกันเถอะ 

    ได้ ไปกันเถอะ  จางลู่พยักหน้า

  ทั้งสองทีมได้บินไปทางหมู่บ้านต้นกำเนิดทันที ฝั่งหนึ่งคือทีมทะเลโกลาหล อีกฝั่งคือทีมคังเฉียง ทั้งสองทีมแยกตัวกันอย่างชัดเจน อันที่จริงเป็นเพราะแม่ทัพทะเลโกลาหลพากันกลัวแล้วถอยห่างจากทีมคังเฉียงไป เพราะทีมคังเฉียงมีแม่ทัพกว่าสองพันคน มันทำให้พวกเขากดดันเป็นอย่างมาก

  หลังจากที่เว้นระยะห่างแล้ว เสียเทียนก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา   ท่านจางลู่ ท่านทำแบบนี้ได้ยังไง ? 

  คำถามนี้คาใจเสียเทียนมานาน ตั้งแต่ที่เห็นความแข็งแกร่งของทีมคังเฉียง เขาก็สงสัยมาโดยตลอด เขาไม่อาจจะหาคำตอบได้เลย

    เจ้าหมายถึงอะไร ?  จางลู่มองไปที่เสียเทียน

    ท่านบ่มเพาะสมาชิกของทีมคังเฉียงจากนายพลมาเป็นแม่ทัพในเวลาไม่กี่ล้านปีได้ยังไง ?  ความเชื่อมั่นของเสียเทียนแทบพังทลายลงไป หากเขาไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง เขาคงไม่เชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้

  หากมีแค่หนึ่งรึสองคน แม้ว่าจะพลิกมุมมองของเขาแต่ก็ยังพอรับได้ นี่ทีมคังเฉียงกว่าสองพันคนต่างก็ขึ้นเป็นแม่ทัพกันหมด !

  ทันทีที่เสียเทียนถามออกมา คนอื่นๆเองก็พากันได้สติ

  พวกเขามองข้ามสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดไป !

  หากเทียบกับความจริงที่ว่าทีมคังเฉียงมีแม่ทัพกว่าสองพันคน การที่สมาชิกในทีมเติบโตขึ้นมาจากนายพลมาเป็นแม่ทัพได้ในเวลาไม่กี่ล้านปีนั้นไม่ต้องเดาเลยว่าพลิกมุมมองของพวกเขาได้มากกว่า มันน่าตกใจยิ่งกว่า !

    พวกเจ้าลืมไปแล้วรึ ? การไหลของเวลาในทะเลบรรพกาลนั้นต่างจากทะเลโกลาหล  จางลู่พูดขึ้น   3 ล้านปีในทะเลโกลาหลเท่ากับ 300 ล้านล้านปีในทะเลบรรพกาล มันมีการเร่งเวลาร้อยล้านเท่าถึงสร้างปาฏิหาริย์แบบนี้ขึ้นได้ 

    แต่…ถึงจะเป็น 300 ล้านล้านปีรึ 500 ล้านล้านปี…มันก็เกินไปหน่อย  เสียเทียนไม่อาจจะเข้าใจได้

  จางลู่ส่ายหน้า ในสายตาของแม่ทัพทะเลโกลาหล ความสำเร็จของทีมคังเฉียงนั้นเกินกว่าพวกนี้จะคาดถึงแต่พวกนี้ไม่รู้เลยว่าทีมคังเฉียงแกร่งกว่าที่พวกเขาได้เห็น

  ไม่รู้ว่าพวกนี้จะแสดงสีหน้ายังไงเมื่อเห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของทีมคังเฉียง พวกนี้จะเป็นยังไงเมื่อเห็นแม่ทัพสูงสุดกว่าสองพันคน ?

    บางทีเพราะทรัพยากรในการบ่มเพาะที่ไม่จำกัด  จางลู่ยิ้มออกมา   นอกจากนี้แล้วเราก็ยังเป็นจ้าวบรรพกาล มันมีความต่างระหว่างเรากับจ้าวโกลาหล เราสามารถดึงพลังจากลูกปัดออกมาได้เกือบเต็มที่ 

  หลังจากที่เงียบไปสักพัก จางลู่ก็โบกมือ   ช่างเถอะ อย่าสนใจเรื่องนี้เลย ซิงฮัวเจ้าบอกเราเรื่องการแข่งขันหน่อยได้รึไม่ 

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท