หัวยินเจ๋ที่ก่อนหน้านี้ยังสลบไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย จู่ๆ ก็ๆ ได้ระเบิดพลังที่น่ากลัวขนาดนี้ออกมา นั่นจึงทำให้เหล่าคนที่อยู่ในห้องทดลองต่างช็อกไปตามๆ กัน
“ดอกเตอร์แบล็กเรารีบออกจากที่นี่เถอะ ไม่อย่างนั้นมันจะอันตรายเกินไป”
ชายหนุ่มที่สวมชุดกาวน์คนหนึ่งได้พูดกับชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้า
ชายวัยกลางคนคนนี้ เป็นถือดอกเตอร์แบล็ก
ในตอนนี้ ดอกเตอร์แบล็กกำลังทำหน้าตื่นเต้น สองตาจ้องมองไปยังหัวยินเจ๋ที่กำลังคลุ้มคลั่ง แล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “นี่สิ ผลงานชิ้นเอกของฉัน!”
พูดจบ หัวยินเจ๋ที่กำลังคลุ้มคลั่งก็ได้พุ่งเข้ามาหาเขา
ทันใดนั้นเอง ขาของดอกเตอร์แบล็กก็ได้ขยับ แล้วไปอยู่ตรงหน้าหัวยินเจ๋อย่างกะทันหัน และได้ชกหมัดออกไปอย่างแรง
“ตุบ!”
เกิดเสียงสนั่นขึ้น ร่างกายของหัวยินเจ๋ได้ถูกเขากระแทกจนถอยไปหลายก้าว “ฮ่าฮ่า เยี่ยม!”
ดอกเตอร์แบล็กได้หัวเราะออกมาเสียงดัง จากนั้นก็ขยับขา แล้วพุ่งใส่หัวยินเจ๋อีกครั้ง
“ตุบตุบตุบ!”
ภายใต้อาการตกใจของพวกนักทดลองที่ใส่ชุดกาวน์สีขาวเหล่านั้น ดอกเตอร์แบล็กกลับพุ่งเข้าหาหัวยินเจ๋ซะเอง
“นี่มัน….”
นักทดลองทุกคนต่างก็ช็อกไปตามๆ กัน “ดอกเตอร์แบล็ก เก่งขนาดนี้เลยเหรอ?”
การที่ได้เป็นสมาชิกของทีมทดลองนั้น พวกเขารู้ดีว่าหัวยินเจ๋ในตอนนี้ ได้แข็งแกร่งเกินแดนเทพชั้นยอดไปแล้ว
หรือก็คือได้ก้าวขั้นแดนเหนือธรรมชาติขั้นต้นในตำนานแล้วนั่นเอง ถ้าอยู่ข้างนอก แล้วพวกตระกูลบู๊โบราณเหล่านั้นไม่ออกโรง ก็ไม่มีใครที่สามารถสู้หัวยินเจ๋ได้อย่างแน่นอน
แต่ว่า ในความคิดของพวกเขา สิ่งที่น่าเสียดายคือ หัวยินเจ๋ได้เสียสติไปแล้ว งานทดลองของพวกเขาในตอนนี้ก็คือการหาทางควบคุมหัวยินเจ๋ให้ได้
การทดลองที่ผ่านมาตั้งหลายปี พวกเขาได้ล้มเหลวจนมากเกินไป ตัวทดลองทุกคนภายหลังจากที่เสียสติก็จะมีจุดจบที่ร่างกายระเบิดจนตาย
แต่หัวยินเจ๋กลับเป็นตัวทองลองที่เข้าใกล้ความสำเร็จที่สุดของทีมทดลองนี้แล้ว
หัวยินเจ๋ไม่ได้ระเบิดจนตาย แถมยังสามารถอยู่ในสภาวะบ้าคลั่งได้อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่พวกเขาต้องทำต่อจากนี้ก็คือหาวิธีควบคุมหัวยินเจ๋ให้ได้
แน่นอนว่า หยางเฉินไม่นับว่าเป็นตัวทดลองของทีมพวกเขา
ทีมทดลองที่อยู่ภายใต้การควบคุมของดอกเตอร์แบล็ก มีอยู่ทั่วโลก ทีมที่เห็นอยู่นี้ เป็นเพียงหนึ่งในทีมอีกมากมายที่อยู่ในโลกเท่านั้น
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
จู่ๆ ดอกเตอร์แบล็กก็คำรามออกมา
ระหว่างที่ทุกคนกำลังตกใจอยู่นั้น หัวยินเจ๋ที่กำลังบ้าคลั่งอยู่ ก็ได้หยุดลงจริงๆ สายตาที่สองเหม่อลอย
“ยกมือขึ้น!”
ดอกเตอร์แบล็กสั่ง
“พรึบ!”
หัวยินเจ๋ยกมือขึ้นทันที
“ก้าวไปข้างหน้าสามก้าว!”
ดอกเตอร์แบล็กทำหน้าตื่นเต้น และได้ออกคำสั่งไปอีกครั้ง
หัวยินเจ๋ทำตามคำสั่งอีกครั้ง!
จากนั้น ดอกเตอร์แบล็กก็ได้ออกคำสั่งให้หัวยินเจ๋ทำอะไรอีกหลายอย่าง และหัวยินเจ๋ก็ทำตามทุกคำสั่ง
“นะ……นี่มันสำเร็จแล้วเหรอ?”
เหล่านักทดลองในทีมต่างพากันตกใจ
ตอนแรกที่หัวยินเจ๋บ้าคลั่ง แล้วดอกเตอร์แบล็กก็เข้าไปสู้ด้วย พวกเขายังคิดว่าการทดลองล้มเหลวไปแล้ว
แต่ว่าตอนนี้ พวกเขากลับรับรู้ด้วยความตกใจว่า ไม่ว่าดอกเตอร์แบล็กจะสั่งอะไร หัวยินเจ๋ก็จะทำตามทุกอย่าง
“ฮ่าฮ่า เยี่ยม! สำเร็จแล้ว! ในที่สุดก็สำเร็จสักที!”
ดอกเตอร์แบล็กหัวเราะออกมาด้วยความตื่นเต้น
จนถึงตอนนี้ เหล่านักทดลองทั้งหลายเพิ่งรู้ตัวว่า การทดลองได้สำเร็จไปแล้ว
“ดอกเตอร์แบล็ก ดีจริงๆ ความพยายามตลอดหลายปีที่ผ่านมาของเรา ในที่สุดก็ถึงวันที่การทดลองประสบความสำเร็จสักที!”
นักทดลองคนอื่นต่างพากันทำหน้าตื่นเต้น
“หัวยิน้เจ๋ ฆ่าพวกนี้ให้หมด!”
ในตอนที่ทุกคนกำลังดีใจอยู่นั้น ดอกเตอร์แบล็กก็ได้ออกคำสั่งอีกครั้ง
“ตุบตุบตุบ…..”
หัวยินเจ๋ขยับเท้า และได้พุ่งเข้าสังหารเหล่านักทดลองที่สู้ไม่เป็น
หัวยินเจ๋ในตอนนี้ ได้กลายเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือธรรมชาติขั้นต้นไปแล้ว เขาแค่ขยับขา นักทดลองทั้งห้าก็แทบจะล้มจมกองเลือดในทันที
พวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่ที่จะขัดขืน ก็ได้ตายอยู่ในมือของหัวยินเจ๋ไปแล้ว
“ฉันนี้มันอัจฉริยะชัดๆ!”
ดอกเตอร์แบล็กพูดอย่างตื่นเต้น “ตั้งแต่วันนี้ไป ฉันเองก็มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือธรรมชาติมาเป็นลูกน้องแล้วเหมือนกัน”
“แต่น่าเสียดายที่ตัวทดลองอย่างหยางเฉิน ยังไม่ถือว่าประสบความสำเร็จ”
ในมุมมองของเขา เป้าหมายความสำเร็จในการทดลอง มีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือตัวทดลองรับฟังคำสั่งของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
หัวยินเจ๋เป็นผู้แข็งแกร่งคนแรกที่ทดลองสำเร็จ ส่วนหยางเฉินนั้น ถือว่าเป็นตัวทดลองที่แทบจะประสบความสำเร็จแล้ว
มีเพียงรอให้หยางเฉินรับฟังคำสั่งของเขาแล้ว จึงจะถือว่าสำเร็จ
แต่เขาก็ไม่ได้รีบร้อน แต่ในใจกลับกำลังคาดหวัง
หลังจากที่หยางเฉินกินยาสมบูรณ์แบบเข้าไปแล้ว ไม่เพียงร่างกายไม่ระเบิด แถมยังสามารถดึงสติกลับมาได้ นั่นก็เท่ากับว่า พรสวรรค์ในด้านวิถีบู๊ของหยางเฉินนั้นสูงกว่า แม้แต่ยาสมบูรณ์แบบก็ยังไม่สามารถเค้นพลังทั้งหมดของเขาออกมาได้
ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ปล่อยให้หยางเฉินเติบโตต่อไป หยางเฉินยิ่งแข็งแกร่ง หลังจากที่การทดลองสำเร็จ หยางเฉินก็จะยิ่งเก่งขึ้นไปอีก
เหมือนกับหัวยินเจ๋แดนเหนือนธรรมชาติขั้นต้น ก็คือสภาพที่แข็งแกร่งที่ของเขาแล้ว ต่อให้ทำการทดลองกับหัวยินเจ๋เข้าไปอีก ความสามารถของเขาก็จะยังคงอยู่ที่แดนเหนือธรรมชาติขั้นต้นอยู่ดี
แต่หยางเฉินนั้นแตกต่างออกไป ยังสามารถแข็งแกร่งได้อีก ถ้าในวันหนึ่ง หยางเฉินเกิดพัฒนาไปจนถึงขั้นแดนเหนือมนุษย์ชั้นยอด แล้วการทดลองเกิดประสบความสำเร็จขึ้นมา ข้างกายของดอกเตอร์แบล็กก็จะมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดอยู่ในการควบคุมทันที
ในเวลาเดียวกัน ราชวงศ์หลง
หลงเคอพาผู้แข็งแกร่งแดนเทพแค่คนเดียวกลับมาที่ราชวงศ์หลง พอหลงหวงได้รู้ว่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพขั้นปลายอีกคนถูกหยางเฉินฆ่าตายไปแล้วก็ตกใจจนถึงกับช็อกไปเลย
“แกพูดว่าอะไรนะ? หยางเฉินได้ฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพขั้นปลายสองคนในเวลาเดียวกันอย่างนั้นเหรอ?”
หลงหวงพูดด้วยสีหน้าที่ตกใจ
หลงเคอคุกเข่าลงพื้นอย่างระมัดระวัง และรีบตอบไปว่า “เสด็จพ่อ สิ่งที่กระหม่อมพูดล้วนแล้วแต่เป็นความจริงทั้งสิ้น เหล่าผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของราชวงศ์ทั้งสี่ตาก็เห็นกับตา”
“ฝ่าบาท สิ่งที่องค์ชายพูดล้วนเป็นความจริง หยางเฉินได้ฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพขั้นปลายสองคนพร้อมกันจริงๆ แม้แต่หัวยินเจ๋ที่เป็นแดนเทพชั้นยอดก็ยังแพ้ให้กับมัน ตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไงก็ยังไม่รู้พ่ะย่ะค่ะ!”
ผู้แข็งแกร่งแดนเทพขั้นปลายที่เหลือรอดคนนั้นรีบอธิบาย
“ถ้าเสด็จพ่อไม่เชื่อที่กระหม่อมพูด เสด็จพ่อก็ลองถามราชวงศ์เย่ได้ เขาเองก็เห็นกับตาว่าหยางเฉินได้ฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพขั้นปลายสองคนไปแล้วจริงๆ”
หลงเคอรีบพูดต่อ
หลงหวงไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่สีหน้ากลับเคร่งขรึมจนน่ากลัว พร้อมกับใบหน้าที่เป็นกังวลอย่างมาก
ต่อให้เป็นเขา ก็ไม่กล้าพูดว่าจะสามารถสังหารผู้แข็งแกร่งแดนเทพขั้นปลายสองคนได้ แต่หยางเฉินกลับทำได้
มันทำให้เขาเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า ชายหนุ่มที่อายุเพียงยี่สิบแปดปี จะสามารถแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ?
นั่นไม่เท่ากับว่า ต่อให้เขารับมือด้วยตนเอง ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฉินสินะ?
“นอกจากเรื่องนี้ ยังมีอีกเรื่องที่กระหม่อมต้องกราบทูลกับเสด็จพ่อ!”
จู่ๆ หลงเคอก็พูดออกมา พร้อมกับแววตาที่ดูหวาดกลัว
“ว่ามา!”
“เสด็จพ่อ ในศึกชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตู ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์หลงเรา ต้องการที่จะสังหารต้วนหวูหยาผู้สืบทอดของราชวงศ์ต้วน แต่การลอบสังหารกลับล้มเหลว ต้วนหวูหยาจึงพูดว่า ราชวงศ์ต้วนจะทำสงครามกับราชวงศ์หลงพ่ะย่ะค่ะ!”
หลงเคอพูดออกอย่างกล้าๆ กลัวๆ