ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 2008 : ความฉลาดของล็อค

ตอนที่ 2008 : ความฉลาดของล็อค

ตอนที่ 2008 : ความฉลาดของล็อค

  หากเทียบกับพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าแล้วเย่ฟาน และคนอื่นๆนั้นยังเด็กอยู่…เรียกได้ว่าพวกเขาเป็นเด็กก็ได้ ดังนั้นพวกนี้ก็เลยคึกมากกว่า

  ก่อนที่เขตต้นกำเนิดจะผุพัง พวกเขาก็เก็บกดมานาน เมื่อได้โอกาสที่จะลงมือก็เป็นธรรมดาที่จะไม่อยู่เฉย ทันทีที่ เสี่ยวชีเสนอออกมา พวกเขาก็พากันก้าวออกมาทันที

    สุดท้ายข้าก็ไม่ต้องอยู่ในสายตาของนายท่านแล้ว  ทันทีที่ออกมาจากทางออก เสี่ยวชีก็ราวกับม้าป่าที่ได้กลับไปป่าของตนเอง มันเผยสีหน้ายินดีออกมา มันราวกับคนที่เพิ่งออกจากคุก

  อู๋โม่และคนอื่นๆไม่ได้สนใจเสี่ยวชีแต่กลับมองไปยังส่วนใต้ของเขตต้นกำเนิด   ยังไงต่อ ? 

  อู่โม่คิดสักพักแล้วถามขึ้นมา   แบ่งเป็นทีมละ 10 คนแล้วแยกกันค้นหาดีรึไม่ ?    เป้าหมายของพวกเขาคือการหาหัวหน้าของแม่ทัพ แค่อึดใจเดียวพวกเขาก็รู้เป้าหมายในการเดินทางของพวกเขาแล้ว

    ไม่จำเป็น  เติ้งฉิวชานส่ายหน้า   ด้วยความเร็วของเราแล้ว มันคงใช้เวลาไม่นานที่จะค้นหาทั้งส่วนใต้ เราแค่เดินทางออกไปก็พอ 

  เมื่อได้ยินแบบนั้น อู่โม่ก็พยักหน้า   ได้ บางทีเราอาจจะเจอกับพวกนั้นเร็วๆนี้  

  สำหรับคนทั่วไปแล้วเขตต้นกำเนิดนั้นใหญ่โตอย่างมาก ใหญ่ซะจนทั้งชีวิตก็ไม่อาจจะเดินทางไปทุกจุดได้ แต่สำหรับแม่ทัพแล้ว การเดินทางข้ามเขตต้นกำเนิดใช้เวลาไม่ถึง 100 ปี สำหรับแม่ทัพสูงสุดแล้วเวลาจะสั้นกว่านี้ และอาจจะเหลือแค่ 1 เดือนรึน้อยกว่านั้น

    เราไม่ต้องอ้อมไปไหน เดินทางกันตรงๆนี่แหละ  เติ้งฉิวชานพูดขึ้นมา จากนั้นนางก็บอกกับเสี่ยวชีที่มองไปรอบๆราวกับคนบ้า   เสี่ยวชี เจ้ามองอะไร เราจะไปกันแล้ว 

  เมื่อได้ยินแบบนั้น เสี่ยวชีก็รีบเดินทางกลับมาหาคนอื่นๆทันที

  พวกเขาเดินหน้ากันมุ่งหน้าไปส่วนใต้ของเขตต้นกำเนิด เพราะทุกคนเป็นแม่ทัพสูงสุดจึงมีความเร็วพอๆกัน ดังนั้นถึงจะใช้ความเร็วเต็มที่แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นๆจะตามไม่ทัน

  ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา อยู่ๆทีมคังเฉียงก็หยุด

    ฮ่าฮ่า เจอแล้ว !  เสี่ยวชีพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น   ไม่คิดเลยว่าเราจะโชคดีที่พบกับมันเร็วแบบนี้ ! 

  อู่โม่แปลกใจเขาไม่คิดเลยว่าเขาจะมาพบกับแม่ทัพของเผ่าสวรรค์ระหว่างทาง

  ในเวลาเดียวกันคนอื่นๆก็รับรู้ตัวตนของล็อคและแม่ทัพคนอื่นๆได้ ล็อคเองก็รับรู้ได้ถึงการมาของทีมคังเฉียงเช่นกัน

  สีหน้าของล็อคเปลี่ยนไปเล็กน้อย แม่ทัพเผ่าสวรรค์ต่างก็พากันหยุดเดินหน้า

    ท่านล็อค มีอะไรรึ ?  แม่ทัพพากันสงสัย    คนของทีมคังเฉียงมาแล้ว  ล็อคแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา

  แม่ทัพพากันอึ้ง พวกเขารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นที่ทางออกเขตข่งจู้ พวกเขาพากันกลัวทีมคังเฉียงขึ้นมาทันที

    รึว่าเป็นคนจากทางออกเขตข่งจู้ ?  แม่ทัพจากเขตหย่วนเหยี่ยนคนหนึ่งถามขึ้นมา

  ล็อคส่ายหน้า   ไม่ใช่พวกนั้น 

  แม่ทัพทุกคนพากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

  แต่วินาทีต่อมา ล็อคกลับพูดขึ้น   แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นเกรงว่าคงไม่ด้อยไปกว่าพวกนั้น 

    ท่านหมายความว่า…  แม่ทัพทุกคนพากันกลืนน้ำลาย

    หากข้าเข้าใจไม่ผิดแล้วพวกนี้ก็น่าจะเป็นแม่ทัพสูงสุดเช่นกัน  ล็อครับรู้ได้ว่าคนกลุ่มนี้เข้ามาใกล้เข้าเรื่อยๆ   พวกเขาไม่ได้ช้ากว่าข้าเลย  แม้ว่าไม่อาจจะรับรู้ได้ถึงระดับพลังของคนเหล่านี้ได้ แต่ความเร็วก็บอกข้อมูลได้หลายอย่าง ยังไงซะ ล็อคก็เป็นแม่ทัพสูงสุด ความเร็วพวกนี้ไม่ได้ช้าไปกว่าล็อคเลย มันจึงเพียงพอที่จะบอกถึงความแข็งแกร่งได้

  ทุกคนพากันกังวลขึ้นมา   เราจะทำยังไงกันดี ? 

  แม่ทัพคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น   ท่านล็อค แยกย้ายกันเถอะ 

  ทีมคังเฉียงครั้งนี้มีแค่ไม่กี่สิบคน หากพวกเขาแยกย้ายกันแล้ว ทีมคังเฉียงอาจจะจับพวกเขาทั้งหมดไม่ได้

    ไร้ประโยชน์  ล็อคพูดขึ้นมา   แม้ว่าครั้งนี้จะหนีไปได้แต่ครั้งหน้าล่ะ ? 

  อันที่จริงตอนที่รู้ถึงการมาของอู่โมและคนอื่นๆ ล็อคก็รู้ว่าไม่ใช่แค่ทางออกเขตข่งจู้ แต่ทางออกอื่นๆก็น่าจะโดนปิดไว้โดยทีมคังเฉียงและเผ่ามนุษย์แล้ว นอกซะจากว่าพวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ในเขตต้นกำเนิดไปตลอดชีวิตแล้ว งั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหนีได้ ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าพวกเขาจะซ่อนตัว แต่ด้วยคนมากมายของทีมคังเฉียงแล้ว พวกเขาคงโดนพบตัวในไม่ช้า

  หนีตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์

    แต่…เราต้องรออยู่ที่นี่โดยไม่ทำอะไรเลยรึ ?  แม่ทัพคนหนึ่งไม่พอใจอย่างมาก

  ล็อคเงียบไปชั่วครู่แล้วพูดขึ้น   นี่คือความจรืง เจ้าอยู่มานานแต่ยังไม่เข้าใจอีกรึ ? 

  ไม่พอใจรึ ?

  ล็อคน่ะคือคนที่ไม่พอใจที่สุด !

  ยังไงซะเขาก็เป็นคนที่แกร่งและร่ำรวยที่สุด …

    ล็อค  ตอนนั้นกลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา จากนั้นก็มีหมาพุ่งเข้ามา   ท่านเสี่ยวชี มาหาแล้ว 

  ด้านหลังหาตัวนี้ก็ยังมีคนของทีมคังเฉียงตามมาติดๆ ในพริบตาพวกนี้ก็มาถึงตรงหน้า ล็อค และคนอื่นๆ

    แม่ทัพสูงสุด…ล็อค   อู่โม่มองไปที่ล็อคที่ใจเย็นด้วยความแปลกใจ   เจ้าเหมือนไม่แปลกใจที่พบเรา  

  ล็อคพูดขึ้นอย่างใจเย็น   ไม่นานมานี้จักรพรรดิเตือนข้าผ่านเสียงว่าทีมคังเฉียงนั้นมีกลุ่มแม่ทัพสูงสุด ดังนั้นจึงให้เราระวัง ไม่คิดเลยว่านอกจากกลุ่มแม่ทัพสูงสุดที่ทางออกเขตขงจู้แล้วก็ยังมีแม่ทัพสูงสุดที่ทางออกอื่นๆด้วย …หากข้าเข้าใจไม่ผิดแล้ว ทางออกเขตหย่วนเหยี่ยนเองก็โดนปิดไว้โดยกลุ่มแม่ทัพสูงสุดสินะ ? 

  อู่โมพยักหน้า   เจ้าเดาถูกแล้ว ไม่ใช่แค่ทางออกเขตขงจู้และหย่วนเหยี่ยน ทางออกทั้งหมดด็โดนปิดไว้โดยกลุ่มแม่ทัพสูงสุดรวมถึงทางออกสู่เขตของเผ่าสวรรค์ด้วย 

  ล็อคอึ้ง แต่ก็ยังรักษาท่าทีไว้ได้ เขามองไปที่อู่โม่   คนของทีมคังเฉียงขึ้นเป็นแม่ทัพสูงสุดได้หมดเลยรึ ? 

    เจ้ารู้ได้ยังไง ?  อู่โม่ถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ

    เพราะข้าติดตามข้อมูลของพวกเจ้าอยู่  ล็อคพูดขึ้นมา   หลายล้านปีก่อน พวกเจ้าเป็นแค่นายพลแต่ตอนนี้พวกเจ้ากลับขึ้นเป็นแม่ทัพสูงสุดกันได้ หากคิดดูดีๆแล้วคนอื่นๆเองก็คงเหมือนกัน  เขามองไปที่เสี่ยวชีแล้วพูดขึ้น   ไม่คิดเลยว่าหมานี่จะขึ้นเป็นแม่ทัพสูงสุดด้วย 

  เมื่อเสี่ยวชีได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาและพูดขึ้น   เจ้าด่าใครกัน ? 

    มาตกลงกัน  ล็อคไม่ได้สนใจเสี่ยวชี และมองไปที่อู่โม่แล้วพูดขึ้น   ลูกปัดจิตข้าจะส่งให้พวกเจ้าทั้งหมด เจ้าปล่อยเราไป แบบนี้เป็นยังไง ? 

  แน่นอนว่าไม่อาจจะรักษาลูกปัดจิตไว้ได้ ล็อคไม่มีทางเลือกอื่น ตราบใดที่กลับไปยังเขตของเผ่าสวรรค์ได้ก็ถือว่าดีแล้ว

  ก่อนที่อู่โม่จะได้พูดขึ้น เสี่ยวชีก็พูดขึ้นมา   ไม่ ! แค่ส่งลูกปัดจิตมายังไม่พอ ! 

    แล้วเจ้าต้องการอะไรอีก ?  ล็อค คิ้วขมวด  เสี่ยวชีเบิกตากว้างแล้วพูดขึ้น   ส่งสมบัติทั้งหมดที่เจ้ามา ทั้งเกราะที่เจ้าสวมด้วย ห้ามเหลือแม้แต่ชิ้นเดียว ไม่งั้นแล้วข้าจะฆ่าพวกเจ้าทุกคน!  ด้วยท่าทีหยิ่งทะนงเช่นนี้ก็ทำให้เสี่ยวชีดูเหมือนกับโจร

    ได้   ล็อคไม่ลังเลที่จะตกลงกับเงื่อนไขของเสี่ยวชีเลยแม้แต่น้อย

  ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็เป็นคนตรงไปตรงมา เขาได้เอาสมบัติทั้งหมดออกมารวมถึงเกราะขั้นสมบูรณ์ที่เขาใส่อยู่ด้วย

  เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าเขาไม่เหลืออะไรกับตัว เขาถึงกับทำลายแหวนมิติทิ้ง บอกได้ว่านี่คือการแสดงความจริงใจที่มี

  แม่ทัพคนอื่นๆก็ทำแบบเดียวกัน พวกเขาส่งสมบัติทั้งหมดและทำลายแหวนมิติของตนทิ้งเพื่อไม่ให้เข้าใจผิดว่าซ่อนอะไรไว้

  เมื่อเห็นแบบนั้น เสี่ยวชีก็อึ้งไปสักพัก ตอนแรกเขาอยากกดดันล็อคแต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะร่วมมือเป็นอย่างดี มันอึ้งไปสักพักที่ไม่อาจจะหาข้ออ้างเพื่อลงมือกับอีกฝ่ายได้  อู่โม่, เติ้งฉิวชานและคนอื่นๆพากันมองหน้ากัน พวกเขายังไม่ทันพูดอะไรแต่ล้อคไม่ใช่แค่ส่งลูกปัดจิตให้แต่ยังส่งสมบัติทั้งหมดมาด้วย มันดูแปลกจริงๆ

    ไม่ต้องสงสัยในความจริงใจของเรา  ล็อคเห็นสีหน้าของทีมคังเฉียงก็พูดขึ้น   ข้าไม่ได้โง่เหมือนกับบลู เมื่อผลลัพธ์ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ทำไมข้าต้องดิ้นรนด้วย ? ข้าได้ยินว่าบลูโดนอัดจนเกือบตาย เราไม่อยากจะเจ็บตัว 

  หลังจากที่เงียบไปสักพัก ล็อคก็พูดขึ้นต่อ   แน่นอนหากพวกเจ้าไม่เชื่อแล้ว พวกเจ้าค้นหาทั้งส่วนใต้ได้ตามต้องการได้เลย 

  อู่โม่มองไปที่ล็อค   เจ้าฉลาดดีนิ  

    ขอบคุณที่ชม  ล็อคไม่ได้ยินดี   ตอนนี้เราไปได้รึยัง ? 

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท