The king of War – บทที่ 1287 การตายของหลี่ซาน

บทที่ 1287 การตายของหลี่ซาน

เห็นลู่หยวนทงแสดงสีหน้าหวาดกลัว จางโฉงก็ยิ้มอ่อนๆพร้อมพูด:“เสือไม่คำรามออกมา ก็ถูกพวกเจ้าคิดว่าเป็นแมวที่ป่วยซินะ?”

“เป็นแค่ตระกูลลู่ กล้ามาข่มขู่ตระกูลจาง?”

ลู่หยวนทงหน้าขาวซีด ผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดทั้งสองคน ก็มีแค่ตระกูลที่อยู่ในระดับสี่ตระกูลใหญ่ในจิ่วโจวเท่านั้น ถึงอาจจะมีได้ไม่ใช่หรือ?

แต่ตอนนี้ กลับปรากฏอยู่ที่ตระกูลจาง คิดดูก็รู้ ความเก่งกาจของตระกูลจาง

จนถึงวินาทีนี้ ลู่หยวนทงถึงเข้าใจ ต่อหน้าตระกูลจาง ตระกูลลู่นับเป็นอะไรไม่ได้ทั้งนั้น

“ผู้นำตระกูลจาง ขออภัย!”

ลู่หยวนทงก้มหัวลง พูดด้วยความไม่พอใจ

เขารู้ดี ตอนนี้อธิบายอะไรอีก ก็ไร้ความหมาย ต่อหน้าความสามารถที่แท้จริงแบบนี้ ตระกูลลู่ไม่มีโอกาสที่จะชนะเลยแม้แต่น้อย

บางทีการขอโทษ ยังจะพอมีหวังอยู่บ้าง

จางโฉงยิ้มดูถูกแล้วพูดว่า:“ลู่หยวนทง เมื่อครู่เจ้าอวดดีนักไม่ใช่หรือ จะให้ข้ามีมาแต่ไม่มีกลับไม่ใช่หรือ? ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ?”

ลู่หยวนทงตัวก็เริ่มก้มงอลง ดูแล้วเหมือนอยู่ๆก็แก่ลงไปสิบกว่าปี

ที่ข้างเขานั้น ลู่ชวนสีหน้าก็ดูแย่มากเช่นกัน มองเห็นท่าทีของพ่อที่ก้มหัวขอโทษ ตาของเขาก็แดงขึ้นมา มือทั้งสองข้างกำหมัดไว้แน่น

คนของตระกูลลู่ทุกคน ก็รู้สึกเหมือนโลกจะจบสิ้นลง บนหน้ามีแค่ความสิ้นหวัง

“ผู้นำตระกูลจาง ก่อนหน้านี้เสียมารยาทไปเยอะ ก็ขอให้ท่านไม่คิดเล็กคิดน้อยกับข้าน้อย ให้โอกาสตระกูลลู่ด้วย”

ตาทั้งสองของลู่หยวนทงแดงเดือด สายตากวาดไปหาคนของตระกูลลู่ทุกคน แล้วจบลงที่ตัวของจางโฉง:“ผู้นำตระกูลจาง จะตีจะฆ่า ตามใจท่าน แต่ขอร้องท่านปล่อยตระกูลลู่ไปด้วย”

“ข้าเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลลู่ การตัดสินใจทั้งหมดข้าเป็นคนทำเอง มีเรื่องอะไร ท่านมุ่งมาที่ข้าคนเดียว”

เขาเข้าใจดี จางโฉงไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่

“ท่านพ่อ!”

ลู่ชวนอารมณ์ตื่นตระหนก ร้องออกมาด้วยตาที่แดง

ณ ตอนนั้น ความชราที่บังอยู่ด้านหน้านั้น ร่างกายที่ค่อมลงเล็กน้อย ทำให้เขาปวดใจยิ่งนัก

บัดนี้ เพื่อวงศ์ตระกูล เขาจะแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว

“ฮึ!”

จางโฉงพูดเบาๆ:“ปล่อยตระกูลลู่ไป รอให้ตระกูลลู่ใหญ่โตขึ้นมา แล้วมาแก้แค้นกับตระกูลจางหรือไง?”

พูดจบ เขาโบกมือออก พูดด้วยสีหน้าที่โหดเหี้ยม:“ไม่ให้เหลือไว้แม้แต่คนเดียว ฆ่า!”

คำพูดนี้ออกไป สีหน้าของคนในตระกูลลู่ก็มีความสิ้นหวัง กระบวนทัพแบบนี้ อย่าว่าแต่ตระกูลลู่เลย ถึงแม้จะเป็นตระกูลมหาเศรษฐีในเมืองเยี่ยนตู ก็ไม่สามารถต่อกรได้ไม่ใช่หรือ?

“ข้าจะดูว่าใครกล้า?”

ในเวลาที่คับขันเช่นนี้ มีเสียงตะโกนดังขึ้น

ก็เห็นขบวนรถที่หรูหรายิ่งใหญ่อีกขบวนหนึ่งปรากฏออกมา จากรถหรูแต่ละคัน ก็มีผู้แข็งแกร่งจำนวนหนึ่งเดินออกมา

คนที่ตะโกนเสียงดังเมื่อครู่ เป็นผู้อาวุโสที่เดินลงมาจากรถหรูคันแรก

“หลี่ซาน!”

จางโฉงมองไปยังหลี่ซาน ตาทั้งสองข้างก็หรี่ลง

จากเดิมสีหน้าที่สิ้นหวังของลู่หยวนทง หลังจากที่เห็นการปรากฏตัวของหลี่ซาน สายตาก็เป็นประกายทันที เหมือนได้เห็นความหวังเข้า

ตอนนี้ ก็มีแต่ตระกูลหลี่ ถึงจะมีโอกาสต่อต้านกับความโกรธของตระกูลจาง

แต่ว่า คิดถึงผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดที่จางโฉงพามาด้วย ลู่หยวนทงสีหน้าก็กลับมาสิ้นหวังอีกครั้ง

เห็นได้ชัดว่า หลี่ซานที่พึ่งมาถึง ยังไม่รู้ เรื่องที่ว่าตระกูลจางมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดอยู่สองคน

“ข้ารอเจ้ามานานแล้ว!”

จางโฉงยิ้มตาหรี่แล้วมองไปทางหลี่ซาน พร้อมกับเปิดปากพูด

หลี่ซานขมวดคิ้วเบาๆ ผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลายสองคน ยืนอยู่ทั้งสองข้างของเขา ด้านหลังยังมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นต้นและขั้นกลางอยู่สิบกว่าคน

“จางโฉง นี่เจ้าไม่อวดดีไปหน่อยหรือ? ถึงกับจะกำจัดตระกูลลู่”

หลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“ตระกูลลู่เป็นเพื่อนของพวกข้าตระกูลหลี่ คิดจะทำอะไรพวกเขา ต้องผ่านพวกเราตระกูลหลี่ก่อน”

ที่พาผู้แข็งแกร่งของตระกูลมาที่ตระกูลลู่ ก็เพื่อมาหาผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดที่ตระกูลลู่นั่นเอง

แน่นอนว่าเขาต้องช่วยพูดให้กับตระกูลลู่

“ตระกูลหลี่ แกร่งมากหรือ?”

จางโฉงอยู่ๆก็พูดขึ้นมา

หลังจากที่สิ้นเสียงพูด ผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดสองคนที่อยู่ข้างเขา ลมหายใจวิถีบู๊บนตัวของเขา ปะทุออกมาทันที

“บูม!”

“บูม!”

ระหว่างที่ผู้แข็งแกร่งของตระกูลหลี่กำลังตะลึงอยู่นั้น ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ข้างจางโฉง ออร่าทั้งตัวก็แพร่ระเบิดออกมา พุ่งไปยังรอบๆ

วินาทีนั้น ถึงแม้จะเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลายสองคนที่อยู่ข้างเขา ก็ยังสัมผัสถึงแรงกดดันที่น่ากลัว สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

หลี่ซานเป็นถึงผู้นำตระกูล ก็ตะลึงยิ่งกว่า มองไปทางผู้แข็งแกร่งข้างจางโฉง พูดด้วยสีหน้าที่ไม่น่าเชื่อ:“แดนราชาขั้นสูงสุด อีกทั้งยังมีถึงสองคน?”

ในหนิงโจว ตระกูลหลี่และตระกูลจางได้ชื่อร่วมว่าเป็นสองตระกูลสุดยอด ต่างฝ่ายมีอะไรยังไง พวกเขาก็รู้กันดี

ถ้าหากตระกูลจางมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดจริง ไม่มีทางที่พึ่งจะมาปรากฏตัวตอนนี้ ถ้างั้นคงจะจัดการกับตระกูลหลี่ไปตั้งนานแล้ว

และสำหรับการต่อสู้กับระหว่างตระกูลหลี่และตระกูลจาง ก็ไม่มีทางเกิดขึ้น

หรือจะพูดก็คือ ผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดที่อยู่ข้างจางโฉง ไม่ใช่คนของตระกูลจางแน่นอน

หรือว่า จะเป็นตระกูลสุดแกร่งที่ไหน อยู่เบื้องหลังสนับสนุนตระกูลจาง?

หลี่ซานตอนนี้เริ่มคิดเรื่อยเปื่อย

“ผู้นำตระกูลหลี่ ตอนนี้ คุณยังคิดอยากจะออกมาช่วยตระกูลลู่อยู่หรือไม่?”

จางโฉวพูดพร้อมกับยิ้มตาหรี่มองมาทางหลี่ซาน

หลี่ซานเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก รีบส่ายหัว:“ผู้นำตระกูลจาง คุณเข้าใจผิดแล้ว ข้าพาคนมา ไม่ใช่จะมาช่วยตระกูลลู่ แต่เป็นเพราะได้ยินว่าท่านจะจัดการตระกูลลู่ ถึงได้มาสมทบที่นี่”

“โอ๋? ใช่หรือ?”

จางโฉงหรี่ตาถาม ในตาลึกๆ มีจิตสังหารวิบวับอยู่

“ใช่ ใช่แน่นอน!”

หลี่ซานรีบตอบกลับ พูดด้วยความหวาดระแวงว่า:“แต่แค่คิดไม่ถึง ข้างผู้นำตระกูลจางจะมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดอยู่ รู้แบบนี้ ข้าก็ไม่มาแล้ว”

“ผู้นำตระกูลจาง ในเมื่อท่านสามารถกำจัดตระกูลลู่ได้ง่ายๆ ถ้างั้นตระกูลหลี่ก็จะไม่เข้ามายุ่งแล้ว ข้าจะนำคนไปเดี๋ยวนี้”

หลี่ซานพูดจบ กำลังจะออกไป

“หยุดก่อน!”

จางโฉงพูดด้วยความโมโห:“เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่ที่จะมาหยอกล้อแบบนี้ได้จริงหรือ?”

“ตึกตัก!”

หลี่ซานตกใจกลัวจนคุกเข่าลงกับพื้น พูดอย่างหวาดระแวงว่า:“ผู้นำตระกูลจาง ข้าจะกล้ามาหยอกล้อท่านได้อย่างไร? จากนี้ไป ตระกูลหลี่จะเชื่อฟังคำสั่งของตระกูลจาง หนิงโจว ยึดถือท่านผู้นำตระกูลจางเป็นใหญ่”

หนิงโจวไม่เคยมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดปรากฏตัวมาเลย แข็งแกร่งที่สุด ก็เป็นแค่แดนราชาขั้นปลาย

แต่ว่าตอนนี้ ตระกูลจางอยู่ๆก็มีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดโผล่ขึ้นมา มีโอกาสสูงมากที่จะมีตระกูลสุดยอดค่อยอยู่เบื้องหลังสนับสนุน

ตระกูลลู่อาจจะมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดอยู่แค่หนึ่งคน ก็ทำให้ตระกูลหลี่สิ้นหวังมากแล้ว ถึงกับพาผู้แข็งแกร่งของตระกูลมาที่ตระกูลลู่ เพื่อมาสานสัมพันธ์ที่ดีด้วย

ตอนนี้ อยู่ๆตระกูลจางก็มีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดโผล่ขึ้นมาถึงสองคน หลี่ซานยังจะมีใจที่จะขัดขืนอีกซะที่ไหนกัน?

เห็นหลี่ซานที่คุกเข่าขอร้อง บนหน้าลู่หยวนทงก็มีแต่ความสิ้นหวัง

เดิมที เห็นหลี่ซานที่พาคนปรากฏตัวขึ้นมา ก็คิดว่าตระกูลลู่มีหวังแล้ว แต่ตอนนี้ แม้แต่หลี่ซานก็ยังคุกเข่าขอร้องบนพื้น ตระกูลลู่ ยังจะมีหวังอะไรอีก?

“ตึกตัก!”

ลู่หยวนทงขาทั้งสองข้างอ่อนแรง ล้มคุกเข่าลงกับพื้น:“จากนี้ไป ผู้นำตระกูลจางเป็นใหญ่ในหนิงโจว ตระกูลลู่ ยอมจำนน!”

การคุกเข่าครั้งนี้ของลู่หยวนทง ก็เหมือนกับตระกูลแข็งแกร่งทั้งหนิงโจว คุกเข่าลงทั้งหมด

แต่แล้วจางโฉง กลับสีหน้าหยอกล้อ ยิ้มตาหรี่มองไปทางหลี่ซานแล้วพูด:“หลี่ซาน เจ้าก็ยังไม่เข้าใจถึงสิ่งที่ข้าจะสื่ออยู่ดี”

“ข้าบอกว่าเจ้าหยอกล้อข้า คือเรื่องที่เจ้าสั่งให้ผู้แข็งแกร่งของตระกูลเจ้า ลอบสังหารผู้แข็งแกร่งของตระกูลจางข้า และผู้แข็งแกร่งของกองกำลังที่สนิทกับตระกูลจาง”

“เจ้าคิดจริงๆหรือ ว่าข้าไม่รู้?”

คำพูดพวกนี้พูดออกมา หลี่ซานสีหน้าก็ตกตะลึง เรื่องนี้เขาคิดว่าทำได้อย่างไร้ที่ติไม่ผิดสังเกต ไม่มีทางที่ใครจะรู้ได้ แต่คิดไม่ถึงว่า จางโฉงกลับรู้

แต่ว่า ในเมื่อเขารู้แล้ว ทำไมยังต้องมาที่ตระกูลลู่ด้วยตัวเองอีก?

ไม่เพียงแค่หลี่ซานตะลึง ลู่หยวนทงก็สีหน้ามึนงง ไม่นาน เขาก็เข้าใจทุกอย่าง

“อย่างนี้นี่เอง!”

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท