“ไม่ว่าคุณเป็นคนฆ่าหลงเคอหรือเปล่า แต่ระหว่างคุณและเขามีความแค้นที่ใหญ่หลวง เรื่องที่เขาต้องการให้คุณตาย น่าจะเป็นเรื่องจริงใช่หรือเปล่า?”
หลงเยว่คาดเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขายังตัดสินใจสู้กับหยางเฉินต่อ
“ฮึ่ม!”
หยางเฉินยิ้มอย่างเย็นชา “ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ แสดงว่าผมพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”
“คุณต้องการสู้ งั้นผมจะสู้กับคุณเอง!”
หลังจากที่พูดจบ หยางเฉินขยับเท้า หายตัวไปจากห้องจัดเลี้ยงในพริบตา ในขณะเดียวกัน มีเสียงที่เฉยเมยดังขึ้นกลางอากาศ “ชี้ชะตาที่ยอดเขาหนิง”
หลงเยว่ก็หายไปด้วยในพริบตาเดียว
จนกระทั่งคนทั้งสองหายไปจากห้องจัดเลี้ยง ทุกคนถึงสามารถตั้งสติได้ บนใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว สูดอากาศที่บริสุทธิ์เข้าปอดอย่างแรง
“พวกเขา ตกลงเป็นผู้แข็งแกร่งระดับไหนกันแน่?”
มีคนถามด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“แดนเทพชั้นยอดเหรอ?”
มีคนพูดด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก
“แดนเทพชั้นยอด?”
ผู้แข็งแกร่งแดนราชาชั้นปลายคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “ถ้าหากพวกเขาเป็นแค่ผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดจริง การปะทะกันเพียงครั้งเดียวของพวกเขา มันคงไม่ถึงขั้นสามารถทำให้พวกเราได้รับบาดเจ็บสาหัสหรอก”
“ผมไม่รู้ว่าแดนวิถีบู๊ของพวกเขาอยู่ในระดับไหน แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้คือแดนวิถีบู๊ของพวกเขาก้าวข้ามแดนราชาชั้นยอดแล้ว”
ทันทีที่พูดคำพูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตกตะลึง
สำหรับคนหนิงโจวอย่างพวกเขา แดนราชาชั้นกลางถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งระดับแนวหน้าแล้ว ส่วนผู้แข็งแกร่งแดนราชาชั้นปลาย ถ้าหากตระกูลไหนมีผู้แข็งแกร่งระดับนี้ ตระกูลนี้สามารถอยู่ในหนิงโจวได้อย่างมั่นคง
ส่วนผู้แข็งแกร่งแดนเทพ พวกเขาไม่สามารถเข้าใกล้ด้วยซ้ำ ปัจจุบันกับมีคนบอกว่าคนทั้งสองเมื่อกี้ เป็นถึงบุคคลระดับแดนเหนือมนุษย์ชั้นยอด
ชั่วขณะ สายตาทุกคนหันไปมองทางลู่หยวนทงด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนพร้อมกัน
ทุกคนรู้ดี คนทั้งสองที่เพิ่งจากไปเมื่อกี้ เมื่อไหร่ที่หยางเฉินเป็นฝ่ายชนะ สถานะของตระกูลลู่ในหนิงโจวก็จะยิ่งมั่นคงขึ้นไปอีก
ตระกูลที่มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ยืนอยู่เบื้องหลัง แม้กระทั่งตระกูลใหญ่ระดับแนวหน้าในเยี่ยนตูก็ไม่กล้าล่วงเกินมั้ง?
ในขณะเดียวกัน บนยอดเขาหนิง หยางเฉินและหลงเยว่ยืนประจันหน้ากัน
ด้วยระดับแดนวิถีบู๊ของพวกเขา ถ้าหากเปิดศึกในบ้านตระกูลลู่ ตระกูลลู่จะต้องกลายเป็นซากปรักหักพังในพริบตา และมีผู้ล้มบาดเจ็บตายมากมาย มีเพียงยอดเขาหนิง ถึงเป็นสถานที่เหมาะที่สุดสำหรับการต่อสู้ของพวกเขา
“ถ้าหากผมเดาไม่ผิด คนที่กำลังหลอกใช้คุณน่าจะเป็นจักรพรรดิหลงมั้ง?”
หยางเฉินเป็นคนทำลายความเงียบก่อน มองไปทางหลงเยว่แล้วถาม
ด้วยสติปัญญาของเขาสามารถคาดเดาได้อย่างง่ายดาย ทำไมหลงเยว่ถึงบอกว่าเขาเป็นคนฆ่าหลงเคอ
ก่อนหน้านี้ราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่ส่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพสิบสองคนมา แต่ปรากฏว่าโดนเขาฆ่าตายทั้งหมด
เรื่องนี้ย่อมนำความวิกฤติครั้งใหญ่มาหาราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่ราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่กังวลมากที่สุดก็คือเขาไปหาทั้งสองตระกูลอย่างกะทันหัน
ดังนั้น จักรพรรดิหลงจึงให้หลงเยว่เป็นคนลงมือ
หลงเยว่ก็พูดแล้ว หลงเคอเป็นน้องชายของเขา ในเมื่อเป็นแบบนั้น หลงเยว่ก็คือคนของราชวงศ์หลง
เพียงแต่ หยางเฉินไม่เข้าใจ ราชวงศ์หลงมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์กำเนิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?
ในเมื่อเป็นแบบนั้น ทำไมราชวงศ์หลงถึงไม่ให้หลงเยว่เป็นคนลงมือแต่แรก?
ด้วยความแข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นสองของหลงเยว่ ราชวงศ์อื่นมีหรือที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของราชวงศ์หลง?
“หุบปาก!”
หลงเยว่ตะคอกด้วยความโกรธ กัดฟันแน่นพูด “ไม่ว่าการตายของหลงเคอเกี่ยวกับคุณหรือไม่ แต่บัญชีแค้นนี้จำเป็นต้องคิดที่คุณทั้งหมด”
“ไร้เหตุผลสิ้นดี ในเมื่อเป็นแบบนั้น มาวัดกันที่ฝีมือกันเถอะ!”
ทันทีที่สิ้นเสียงของหยางเฉิน ก้าวเท้าออกไปอย่างกะทันหัน ก้อนหินที่อยู่ใต้เท้าของเขาในตอนแรกกลายเป็นผุยผงในพริบตา
ส่วนร่างกายของเขาพุ่งตรงเข้าไปหาหลงเยว่
ปัจจุบันเขาอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง เขากลับสามารถระเบิดพลังของแดนเหนือมนุษย์ขั้นสอง ถ้าหากเข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่ง เขาถึงขั้นสามารถระเบิดพลังต่อสู้ของแดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม
เพียงแต่ ตอนนี้เขายังไม่คิดจะสู้กับหลงเยว่ด้วยการอยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่ง
หลังจากก้าวเข้าสู่วิถีบู๊แดนเหนือมนุษย์ ต้องการก้าวหน้าไปอีกขั้น ล้วนแต่ยากยิ่งกว่าปีนขึ้นสวรรค์ เพียงแต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งที่มีความสามารถเท่าเทียมกัน ถึงสามารถขัดเกลาวิถีบุ๊ของตนเอง ทำให้ความแข็งแกร่งของตนเองก้าวหน้าไปอีกขั้น
“รนหาที่ตาย!”
เห็นหยางเฉินเป็นคนเริ่มจู่โจมใส่ตนเอง ในแววตาของหลงเยว่มีเจตนาแห่งการฆ่าปรากฏขึ้น ร่างกายหายไปจากตรงที่เดิมเช่นกัน พุ่งตรงเข้าสู่การต่อสู้
“ไปตายซะ!”
วินาทีต่อมา คนทั้งสองระเบิดท่าสังหารออกมาพร้อมกัน หลงเยว่ส่งเสียงคำราม ชกหมัดออกไป
ทันใดนั้น กลิ่นอายวิถีบุ๊ที่น่าสะพรึงกลัวสายหนึ่งพุ่งตรงเข้าไปหาหยางเฉิน ราวกับต้องการบดขยี้หยางเฉินให้เป็นเศษชิ้นเนื้อ
หยางเฉินไม่หวั่นไหวแม้แต่นิดเดียว เข้าที่เตรียมพร้อมไว้ก่อน มือขวากลายเป็นฝ่ามือ จู่โจมใส่หลงเยว่พร้อมกับกลิ่นอายวิถีบู๊ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นกัน
“ปัง!”
ทันทีที่ฝ่ามือและหมัดปะทะกัน ราวกับนิวเคลียร์ระเบิด
เห็นเพียงก้อนหินที่อยู่ใต้เท้าของคนทั้งสองแตกออกเป็นเสี่ยง มีรอยแตกร้าวที่มีขนาดความกว้างเท่าแขนปรากฏขึ้นกระจายไปทั่วทุกทิศทาง
“ปัง!”
ทันใดนั้น มีเสียงที่ดังสนั่นดังขึ้นอีกครั้ง ยอดเขาเล็กที่อยู่ใต้เท้าของคนทั้งสองระเบิดอย่างกะทันหัน เศษก้อนหินบินกระจายไปทั่ว
“ปังปังปัง!”
วินาทีต่อมา คนทั้งสองโจมตีอีกครั้ง
ร่างของคนทั้งสองรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ ได้ยินเพียงเสียงกระแทกกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั่วทั้งหนิงโจว ถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายของวิถีบู๊ที่น่าสะพรึงกลัว ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนเงยหน้าขึ้นมองไปทางภูเขาหนิง สีหน้าของแต่ละคนดูตกตะลึง
ถึงแม้ระยะทางอยู่ห่างกันไกลมาก แต่พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายวิถีบู๊อันน่าสะพรึงกลัวที่มาจากยอดเขาหนิง
“หนิงโจว ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น?”
เยี่ยนตู สถานที่ประจำการแห่งหนึ่งของราชวงศ์ ผู้แข็งแกร่งเดินเทพหลายคนของราชวงศ์ มองไปทางทิศทางของหนิงโจวด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง
เยี่ยนตูและหนิงโจวอยู่ห่างกันไกลมาก แต่กลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวที่การต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ระเบิดออกมาก็ยังไปถึงเยี่ยนตู
สำหรับผู้แข็งแกร่งแดนเทพ สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายวิถีบู๊อย่างชัดเจนได้ง่ายมาก ในหนิงโจว กำลังเกิดการต่อสู้ที่รุนแรงของผู้แข็งแกร่งระดับแนวหน้า
“การต่อสู้ระดับนี้ แดนวิถีบู๊ของคนทั้งสองเกรงว่าคงก้าวข้ามแดนเหนือมนุษย์ขั้นสองแล้ว!”
มีผู้แข็งแกร่งแดนเทพพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“อะไรนะ? แดนเหนือมนุษย์ขั้นสอง?”
ตอนที่ผู้แข็งแกร่งแดนเทพด้วยกันได้ยินคำว่าก้าวข้ามแดนเหนือมนุษย์ขั้นสอง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียวสันหลัง
“ดูเหมือนการต่อสู้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น บางที พวกเขาอาจจะสามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งกว่านี้ก็ไม่แน่”
ผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดคนเมื่อกี้มองไปทางทิศทางของภูเขาหนิงด้วยสีหน้าที่นับถือ
ตอนนี้ หยางเฉินและหลงเยว่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด พลังทำลายล้างแทบจะทำลายภูเขาหนิงทั้งลูก
ในรอบรัศมีสิบลี้ของภูเขาหนิง นอกจากหยางเฉินและหลงเยว่ที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดก็ไม่มีใครอีก
การต่อสู้ระดับนี้ เพียงแค่คลื่นพลังก็สามารถบดขยี้คนธรรมดาให้แหลกแล้ว
“คุณแข็งแกร่งมาก!”
หลังจากต่อสู้กันอย่างดุเดือดนานสิบนาที หลงเยว่หยุดอย่างกะทันหัน มองไปทางหยางเฉินด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “ถ้าหากไม่ได้เป็นเพราะความแค้นระหว่างคุณและน้องชายของผม บางทีผมอาจจะชักชวนคุณไปเมืองหวยเฉิง”
“ด้วยพรสวรรค์วิถีบู๊ของคุณ ในเมืองหวยเฉิง ต้องได้รับความสนใจจากเจ้าเมืองแน่นอน และถึงขั้นอาจจะถูกเจ้าเมืองรับเป็นลูกศิษย์สายใน ถึงเวลา เดินวิถีบู๊ของคุณจะก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว”
“แต่ว่าตั้งแต่ตอนที่คุณเริ่มเป็นศัตรูกับน้องชายของผม คุณได้ดับอนาคตของตัวเองไปแล้ว!”
ตอนที่หลงเยว่มองไปทางหยางเฉิน ในแววตาเต็มไปด้วยเจตนาแห่งการฆ่า
ผู้แข็งแกร่งระดับหยางเฉิน ไม่ควรล่วงเกิน แต่ในเมื่อล่วงเกินแล้วก็จำเป็นต้องฆ่า ไม่เช่นนั้นจะนำการล่มสลายสู่ราชวงศ์หลง