เยี่ยนเฉินกรุ๊ปเป็นที่ระลึกชิ้นเดียวที่คุณแม่เหลือไว้ให้เขา เขาไม่ยอมเด็ดขาดที่ใครจะเข้ามาทำสิ่งเลวร้ายต่อเยี่ยนเฉินกรุ๊ป
ในห้องประชุมที่ใหญ่โตเงียบสนิทลงไปในฉับพลัน ลั่วปินสีหน้าตึงเครียด หายใจยังไม่กล้าให้มีเสียง
“นอกจากหวงเหล่ยแล้ว ยังมีใครอีก?”
หยางเฉินข่มอารมณ์โกรธลง หันไปถามลั่วปิน
พอถามคำนี้ออกไป เขาก็ได้พบว่า เกือบครึ่งของผู้บริหารระดับสูงที่อยู่ในห้องประชุม ต่างมีสีหน้าว้าวุ่นกังวล
ลั่วปินกวาดสายตาไปทั้งห้อง แล้วก็หันกลับไปที่หยางเฉินทันที “ท่านประธาน คนอื่น ๆ ล้วนแล้วแต่ถูกหวงเหล่ยกดดัน จึงจำเป็นต้องไปยืนอยู่ข้างหวงเหล่ย คงต้องขอท่านประธานให้โอกาสพวกเขาแก้ตัวสักครั้งครับ”
ขณะนั้น พวกผู้บริหารระดับสูงที่เคยเลือกข้างไปทางหวงเหล่ย ใบหน้าแสดงออกถึงความขอบคุณในทันที
แต่หยางเฉินกลับขมวดคิ้วย่น “ลั่วปิง คุณควรต้องเข้าใจนะ สำหรับผมแล้ว ที่ยอมรับไม่ได้อย่างที่สุดคือ คนทรยศ!”
“ตัวคุณในเวลานี้ กำลังจะพูดแทนพวกทรยศแล้วหรือไง?”
ลั่วปิงสดุ้งหน้าตื่นกลัวขึ้นมา รีบพูดไปทันที “มิกล้าครับท่าน!”
“ในเมื่อไม่กล้า ก็จัดการคัดพวกที่เลือกไปทางเดียวกับหวงเหล่ย เอาออกไปเสียให้หมด!”
หยางเฉินสั่งไปด้วยสีหน้าเยือกเย็น
เขาเข้าใจถึงความคิดของลั่วปินดี จู่ ๆ คัดเอาผู้บริหารระดับสูงออกไปถึงครึ่งหนึ่ง จะมีผลกระทบในเยี่ยนเฉินกรุ๊ปอย่างหนัก
แต่สำหรับหยางเฉินแล้ว คนประเภทนี้ลงถ้ากล้าทรยศไปครั้งหนึ่งแล้ว ก็กล้าที่จะทรยศเป็นครั้งต่อ ๆ ไป ถ้าเป็นผลประโยชน์กับพวกมันแล้ว พวกมันยังจะเอาได้แม้กระทั่งชีวิตของเขา
เขาไม่สามารถยอมรับได้ ในเยี่ยนเฉินกรุ๊ปที่แม่ของเขาก่อร่างสร้างขึ้นมากับมือ จะให้มีมนุษย์สองหน้าแบบนี้หลงเหลืออยู่
“ให้เวลาพวกแกสามวัน ส่งต่องานให้กับผู้ช่วยพวกแก แล้วก็เชิญไสหัวออกไปจากเยี่นยเฉินกรุ๊ป!”
ลั่วปินกวาดสายตามองไปที่ทุกคน พูดเสียงเย็นเยือก
ชัดเจนว่า เป็นการพูดให้พวกที่เป็นคนของหวงเหล่ยฟัง
“หนึ่งวัน!”
หยางเฉินพูดเสียงกร้าว “ภายในวันนี้ ไม่ว่าจะต้องทำล่วงเวลามืดค่ำแค่ไหน จะต้องส่งมอบงานให้เรียบร้อย แล้วก็ไสหัวไป!”
“ไม่งั้น ตาย!”
“ปัง!”
ตามหลังเสียงที่เขาพูดจบ ฝ่ามือของเขาฟาดลงไปที่โต๊ะ ในสายตาทุกคู่ที่ตื่นผวาอย่างแรง เห็นหน้าโต๊ะที่แข็งแกร่งมาก ๆ ปรากฏเป็นรอยยุบลงไปตามฝ่ามือ
มองรอยยุบรูปฝ่ามือบนโต๊ะ เหล่าผู้บริหารระดับสูงแต่ละคน บนใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
โดยเฉพาะพวกที่ติดตามหวงเหล่ย สั่นเทิ้มไปทั้งตัวอย่างระงับไม่อยู่
พวกเขาต่างก็เป็นคนสามัญธรรมดา ย่อมไม่เคยที่จะเห็นเองกับตา กับวิทยายุทธของผู้แข็งแกร่งบูโด
ถ้าหากพวกเขาเคยเห็นจริง กับพลังฝีมือแท้จริงของหยางเฉิน น่ากลัวคงต้องตกใจกันเจียนตายเอา
“หยางเฉิน แกนี่ช่างคุยใหญ่โตได้จริงนะ!”
ขณะนั้นเอง เสียงเยือกเหี้ยมกระแสหนึ่งดังเข้ามาทันทีจากนอกประตูห้องประชุม เงาร่างชายวัยกลางคนร่างหนึ่งเดินเข้ามา ข้างหลังยังมีเฒ่าผมขาวโพลนเดินตามมาด้วย
ชายวัยกลางคนที่พูดก็คือหวงเหล่ย หยางเฉินมองปราดไปก็จำได้
ผู้เฒ่าผมขาวที่อยู่ข้างหลัง แผ่กระจายพลังบูโดแดนราชาสูงสุดออกมาบาง ๆ พอให้รู้สึก
แน่นอนว่า ผู้เฒ่าคนนี้ต้องเป็นคนของตระกูลเจี่ยงในราชวงศ์หลง มิฉะนั้นผู้แข็งแกร่งระดับแดนราชาขั้นสูงสุด จะมาวางตัวเป็นคนรับใช้ เดินตามหวงเหล่ยได้อย่างไร?
“มีข้าอยู่ ใครก็เอาพวกเจ้าออกไม่ได้!”
หวงเหล่ยจ้องตาใส่หยางเฉิน คำพูดนั้นแน่นอนว่าพูดให้พวกผู้บริหารระดับสูงพวกนั้นฟัง
“หวงเหล่ย!”
ลั่วปินบันดาลโทสะขึ้นมาทันที “แกรู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไร?”
“หุบปากแกซะ!”
หวงเหล่ยพูดด้วยความโกรธ “อย่าคิดว่าหยางเฉินกลับมา แล้วก็จะออกหน้าให้แกได้ กูจะบอกมึงให้รู้ไว้ หยางเฉินมันไม่กลับมาก็ดีแล้ว มันกลับมาตอนนี้ก็คือมาหาที่ตาย!”
“ตอนนี้ ราชวงศ์หลงกับราชวงศ์เย่กำลังต้องการตัวมันอยู่ ไม่แน่ว่าตอนนี้ผู้แข็งแกร่งของทั้งสองตระกูลยิ่งใหญ่นั้น น่าจะรู้ข่าวแล้ว และกำลังมุ่งเข้ามาที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปนี้”
หยางเฉินไม่พูดอะไร ยืนดูการแสดงของหวงเหล่ยอย่างเยือกเย็น
เดิมพวกกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่กำลังคิดจะเดินออกไป เห็นหวงเหล่ยปรากฏตัวมา แต่ละคนเลยไม่ออกไป แต่กลับมองไปที่หยางเฉินอย่างเย้ยหยัน
กับพวกเศษเดนมดปลวกเหล่านี้ หยางเฉินไม่มีการใส่ใจมอง แต่มองตรงไปที่หวงเหล่ย หยีตาลงพูดไปว่า “ให้แม้แต่ตัวกษัตริย์ของราชวงศ์หลงกับราชวงศ์เย่มาด้วยตัวเอง พวกเขาก็ยังทำอะไรข้าไม่ได้ สำมะหาอะไรกับแกนี่”
ถูกหยางเฉินจ้องหน้า หวงเหล่ยสะท้านสั่นไปทั้งตัว แต่เมื่อคิดถึงผลประโยชน์ก้อนโตที่ตระกูลเจี่ยงเสนอไว้ให้เขา ความกลัวในใจของเขาละลายหายสิ้น
“หยางเฉิน แกนี่ช่างเหิมเกริมใจกล้ามากจริงนะ คำพูดยโสโอหังขนาดนี้ยังกล้าพูด คราวนี้แกตายแน่!”
หวงเหล่ยพูดด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
“หยุดพล่ามได้แล้ว แกมีอะไรจะสั่งเสียก็ว่ามา ข้าจะได้ส่งแกเดินทาง!”
หยางเฉินพูดเสียงเยือก
“ฮา ฮา!”
หวงเหล่ยหัวเราะลั่น “หยางเฉิน แกช่างไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ คิดว่าเป็นประธานเยี่ยนเฉินกรุ๊ป แล้วก็จะมาทำเบ่งต่อหน้าข้าหรือ?”
“กูจะบอกมึงให้รู้ ตอนนี้กูเป็นตัวแทนตระกูลเจี่ยงแห่งราชวงศ์หลง จะมาคุยข้อตกลงกับแก”
“หนึ่งพันล้าน เอาเยี่ยนเฉินกรุ๊ปยกออกมา แล้วแกก็เอาเงินก้อนนี้ไปใช้สบายตัวมึง มิฉะนั้น อย่าว่าแต่หนึ่งพันล้าน ชีวิตของมึง ก็ยังต้องทิ้งไว้ที่นี่!”
ตามด้วยคำพูดของเขาที่จบลง ผู้เฒ่าพลังบูโดแดนราชาขั้นสุดยอดที่ยืนแผ่พลังอยู่ข้างหลัง ระเบิดพลังออกมาในทันใด
ชั่วขณะเวลานั้น ห้องประชุมที่ใหญ่โต คนที่อยู่ทั้งหมด ต่างก็ได้รับรู้ถึงความกดดัน แต่ละคนถึงกับหน้าซีดเผือด
“รู้ไหมว่าเขาเป็นใคร?”
หวงเหล่ยพูดด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “เขาคือผู้แข็งแกร่งบูโดตระกูลเจี่ยง มีพลังฝีมือจริงแดนราชาขั้นสูงสุด แม้แต่คิงในตระกูลคิงของจิ่วโจว ก็อยู่ตรงแดนราชาขั้นสุดยอดนี้”
“หยางเฉิน ข้าให้เวลาแกหนึ่งนาที ถ้าตกลงยินยอมยกเยี่ยนเฉินกรุ๊ปให้ ตระกูลเจี่ยงจะให้เงินแกไปหนึ่งพันล้าน มิฉะนั้น วันนี้เป็นวันตายของแก!”
ลั่วปิงมีสีหน้าเปลี่ยนลงไปในทันที รีบถลันออกไปยืนขวางหน้าหยางเฉินไว้ จ้องตามองหวงเหล่ยอย่างเดือดดาล “แกกล้าหรือ!”
เขาก็รู้อยู่ว่าหยางเฉินเก่งกาจมาก แต่มากแค่ไหน อันนี้ไม่รู้ชัด
แต่ผู้เฒ่าที่อยู่ข้างหวงเหล่ยคนนั้น ทำให้เขารู้สึกมีความกดดันที่สูงมาก
ใขณะนั้น เขามีความคิดอยู่ว่า ถ้าจะต้องตาย ก็ขอตายก่อนต่อหน้าหยางเฉิน
พฤติกรรมของลั่วปิง หยางเฉินให้รู้สึกประทับใจมากเลยทีเดียว
“แค่มดปลวกแดนราชาขั้นสุดยอด ถึงกับกล้ามาทำผยองอวดเบ่งต่อหน้าข้า?”
หยางเฉินแค่นเสียงหัวเราะเยาะ คงยืนปักหลักมั่นดั่งภูผา
“แกมันรนหาที่ตาย!”
ผู้แข็งแกร่งในตระกูลเจี่ยงได้ยินหยางเฉินพูดดังนั้น โกรธเดือดขึ้นมาพลัน พุ่งเข้าถึงข้างหน้าหยางเฉิน ซัดหมัดออกไปหนึ่งหมัด
“ฮา ๆ ประธานพวกแกกำลังจะถึงที่ตายแล้ว!”
หวงเหล่ยระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เหมือนกับได้เห็นภาพแล้วว่า หยางเฉินถูกหมัดของผู้แข็งแกร่งในตระกูลเจี่ยงอัดใส่จนสมองระเบิดกระจายเละแล้ว
“ท่านประธาน!”
ลั่งปิงไม่สนใจกับอะไรทั้งสิ้นพุ่งเข้าไปหาหยางเฉิน หวังว่าจะเข้าไปขวางรับหมัดนี้ไว้
บรรดาผู้บริหารระดับสูงคนอื่น ๆ ล้วนมีสีหน้าตื่นกลัว
“ไสหัวไป!”
เห็นแล้วว่าการจู่โจมของผู้แข็งแกร่งในตระกูลเจี่ยงกำลังใส่มาถึง พลันหยางเฉินตวาดเสียงออกไป
ในทันใดนั้น อานุภาพที่น่าสะพรึงกลัวกระแสหนึ่งจากพลังบูโด ระเบิดพุ่งออกจากตัวเขา
เสียงตวาดนั้น เหมือนสายฟ้าฟาด เกิดการแตกระเบิดในสมองของยอดฝีมือตระกูลเจี่ยง
“ผลึบ!”
ท่ามกลางความแตกตื่นของทุกคน สุดยอดฝีมือแดนราชาในตระกูลเจี่ยงในคนนั้น เลือดพุ่งออกจากปาก ตัวลอยออกไปอย่างกับว่าวหลุด ตรงออกไปนอกห้องประชุม กระแทกอย่างแรงใส่กำแพงโถงทางเดิน แล้วร่วงตกลงพื้นอย่างหนัก ตามด้วยเลือดที่กระอักออกมาอีก ตายไปอย่างไม่มีทางลุกขึ้นมาตายอีกได้
“บรึม!”
นาทีนั้น อารมณ์แตกตื่นเกิดขึ้นทั่วทั้งบริเวณ
แต่ละคนมองไปที่หยางเฉินอย่างไม่อยากเชื่อ หวงเหล่ยถึงกับตาค้าง