ทันใดนั้น สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่ผู้พูด
หลี่เจียงสง ผู้นำหลี่ซื่อกรุ๊ป เมืองราชวงศ์ซ่างกวน
หลี่เจียงสงค่อยๆ ลุกขึ้นยืน สองตาจับจ้องไปที่กษัตริย์เย่แล้วพูดว่า “กษัตริย์เย่ คุณทำแบบนี้ ไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยเหรอ?”
“เกินไป?”
กษัตริย์เย่ยิ้มเยาะ “ผมเพิ่งจัดตั้งพันธมิตรชั้นยอดจากกองกำลังที่กระจัดกระจายในจิ่วโจว ก็เพื่อประโยชน์ของสมาชิกของพันธมิตร มีอะไรเกินไปตรงไหน?”
“คุณบอกเองว่าพันธมิตรจัดตั้งขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของสมาชิกพันธมิตร แต่ในความเป็นจริงล่ะ? ไม่ใช่เพื่อจุดประสงค์ในการผนึกกองกำลังทั้งหมดในจิ่วโจวให้สวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์เย่หรอกหรือ? มันไม่มากเกินไปยังไง?”
“คุณขอให้ทุกคนยกมือลงคะแนนว่าจะจัดตั้งพันธมิตรหรือไม่ บอกว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจของกองกำลังทั้งหมด แต่ในขณะเดียวกันก็ข่มขู่ว่า หากไม่เข้าร่วมพันธมิตรก็จะไม่สามารถเข้าร่วมพันธมิตรได้อีกเลยในอนาคต ความหมายนอกเหนือจากนั้นก็คือ หากไม่ได้เข้าร่วมพันธมิตร ต่อไปจะถูกกดขี่ข่มเหงจากสมาชิกของพันธมิตรได้ทุกเมื่อ? นี่ไม่มากเกินไปเหรอ?”
หลี่เจียงสงยังคงคาดคั้นถามด้วยท่าทีอันแข็งแกร้าว เดิมทีเขาอยู่ในระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์ แม้จะห่างจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง แต่ก็เพียงก้าวเดียวเท่านั้น
ในการเผชิญหน้ากับกษัตริย์เย่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง เขาไม่ได้รู้สึกกลัวเลย สายตาของเขาแข็งกร้าวอย่างยิ่ง
สมาชิกกองกำลังทั้งหมดที่อยู่ในที่นี้มีสีหน้าประหลาดใจ ไม่มีใครคาดคิดว่า หลี่เจียงสงจะกล้าได้กล้าเสียขนาดนี้ แม้แต่ราชวงศ์อื่นๆ ก็ยังไม่เอ่ยปากขัดขวางการจัดตั้งพันธมิตรเลย เขาในฐานะผู้นำของตระกูลระดับสูงในเมืองราชวงศ์ซ่างกวน กล้าที่จะงัดข้อกับกษัตริย์เย่ต่อหน้าสาธารณชน
สีหน้าของกษัตริย์เย่มืดมนลงอย่างถึงขีดสุด เขาหรี่ตามองหลี่เจียงสงและกล่าวว่า “จุดประสงค์ของการก่อตั้งพันธมิตร เดิมทีเพื่อการแสวงหาผลประโยชน์ให้กับพันธมิตร ในเมื่อพวกคุณไม่ต้องการเข้าร่วม ถ้าพวกคุณถูกกองกำลังใดกดขี่ข่มเหง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการจัดตั้งพันธมิตรล่ะ?”
หลี่เจียงสงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ต้องเกี่ยวแน่นอนอยู่แล้ว ถ้าไม่มีพันธมิตร แล้วกองกำลังแต่ละฝ่ายจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ แต่เมื่อพันธมิตรจัดตั้งขึ้นแล้ว พวกที่มีความสามารถสู้เราไม่ได้ หรืออาจจะเป็นปฏิปักษ์ต่อเรา จะต้องอาศัยการคุ้มครองจากพันธมิตรมาจัดการกับเรา”
“ถ้ามีแค่พวกเขาก็ไม่เป็นไรหรอก แต่หากบุญคุณความแค้นระหว่างเรามีอยู่ก่อนการจัดตั้งพันธมิตร มันไม่เกี่ยวข้องกับใครหรือกองกำลังใดๆ เลย พอถึงตอนนั้นหากพันธมิตรเข้ามาแทรกแซงจะทำยังไงล่ะ?”
แม้แต่หยางเฉินก็ยังแปลกใจเล็กน้อย เขานึกไม่ถึงว่าหลี่เจียงสงจะกล้าแข็งข้อกับกษัตริย์เย่ แต่เมื่อคิดถึงผลประโยชน์ที่เขาสัญญาเอาไว้กับตระกูลหลี่ ก็เข้าใจว่าทำไมหลี่เจียงสงถึงยอมทุ่มเททุกอย่าง
ถึงอย่างไรหลี่จ้งได้นำผู้แข็งแกร่งของหลี่ซื่อกรุ๊ปเข้ามาในเมืองราชวงศ์เย่แล้ว หลังจากเรื่องราวทางนี้เรียบร้อย หยางเฉินจะช่วยให้ตระกูลหลี่เข้าสวมรอยแทนที่ราชวงศ์เย่
คำพูดของหลี่เจียงสง ทำให้ผู้คนที่มีความสามารถที่ค่อนข้างพึ่งพาได้จำนวนไม่น้อยเกิดความกังวลมากขึ้น
ก็เหมือนกับที่หลี่เจียงสงกล่าว หากปราศจากพันธมิตร กองกำลังแต่ละฝ่ายสามารถพึ่งพาความสามารถของตนเองได้เท่านั้น
แต่หลังจากที่ก่อตั้งพันธมิตรขึ้น มันจะเป็นผลดีสำหรับกองกำลังที่ค่อนข้างอ่อนแอกว่า แต่ก็ไม่ยุติธรรมสำหรับกองกำลังที่แข็งแกร่งกว่า
อย่างเช่นกองกำลัง A และกองกำลัง B เป็นศัตรูคู่แค้นกัน กองกำลัง A นั้นแข็งแกร่งกว่ากองกำลัง B แต่เมื่อกองกำลัง A และ B เข้าร่วมเป็นพันธมิตร ความเคียดแค้นระหว่างพวกเขาก็จะถูกพันธมิตรเข้าขัดขวาง
มันไม่ยุติธรรมกับกองกำลัง A เลย
ผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในที่นี้ล้วนมาจากกองกำลังชั้นนำทั่วทั้งจิ่วโจว พวกเขาคิดว่ากองกำลังของตัวเองแข็งแกร่งมาก หากจัดตั้งพันธมิตร จะรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบ
ชั่วขณะหนึ่ง หัวใจของสมาชิกกองกำลังระดับสูงจำนวนมากเริ่มสั่นคลอน
“กษัตริย์เย่ ราชวงศ์เย่จะมีความทะเยอทะยานก็ได้ แต่เราไม่สามารถปฏิบัติต่อทุกท่านในที่นี้เหมือนเป็นคนโง่ ราชวงศ์หลงของเราต่อต้านการจัดตั้งพันธมิตรโดยเด็ดขาด”
ในเวลานี้ จู่ๆ หลงจิ้นก็เอ่ยปากขึ้น กวาดสายตามองไปรอบๆ ฝูงชนและกล่าวอย่างเย็นชา “ผมขอเสนอแนะทุกท่านด้วย ถ้าใครเข้าร่วมเป็นพันธมิตร ก็จะเป็นศัตรูของราชวงศ์หลงของเรา!”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนล้วนมีสีหน้าตกใจ หลงจิ้นใช้อำนาจคุกคามต่อหน้าสาธารณชน
“หลงหวง คุณคิดจะต่อสู้กับราชวงศ์เย่ของเราต่อไปหรือ? คุณได้พิจารณาถึงผลที่ตามมาดีแล้วหรือยัง? สีหน้าของกษัตริย์เย่มืดมนอย่างถึงขีดสุด เขาถามอย่างเย็นชา
หลงจิ้นยิ้มเยาะ “สู้ต่อไปแล้วยังไงล่ะ? คุณคิดว่าราชวงศ์เย่เป็นสวรรค์ของจิ่วโจวแล้วหรือ?”
ในเวลานี้กษัตริย์ซ่านกวนก็พูดขึ้นบ้าง “ราชวงศ์ซ่างกวนของผมคัดค้านการก่อตั้งพันธมิตรอย่างเด็ดขาดเหมือนกัน ใครก็ตามที่กล้าเข้าร่วมพันธมิตรจะเป็นศัตรูของราชวงศ์ซ่างกวนของผม! ทุกท่านคิดให้ดี!”
ผู้นำอีกคนหนึ่งของราชวงศ์ขัดขวางการจัดตั้งพันธมิตร ในช่วงเวลาหนึ่ง ราชวงศ์ทั้งสี่ของจิ่วโจว นอกจากราชวงศ์ต้วนแล้ว ราชวงศ์ใหญ่อื่นๆ อีกสาม มีราชวงศ์หนึ่งต้องการสร้างพันธมิตร อีกสองราชวงศ์ถูกขัดขวางไว้
บรรดาผู้ที่เคยตั้งใจแน่วแน่ที่จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตร ตอนนี้ในหัวใจเต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว ราวกับว่าเลือกแบบไหนก็ไม่ถูก”
หากเลือกที่จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตร จะเป็นล่วงเกินราชวงศ์หลงและราชวงศ์ซ่างกวน หากไม่เข้าร่วม จะเป็นการล่วงเกินราชวงศ์เย่
ดวงตาของกษัตริย์เย่เต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท การขัดขวางของหลงหวงและกษัตริย์ซ่านกวน ทำให้การจัดตั้งพันธมิตรล้มเหลวไปมากกว่าครึ่ง
แต่เขาก็ยังไม่อยากยอมแพ้ ขอเพียงได้รับการสนับสนุนจากราชวงศ์ต้วน อย่างน้อยก็พอจะมีฝีมือพอๆ กับราชวงศ์หลงและราชวงศ์ซ่างกวน
“ต้วนหวง คุณคิดยังไง?”
กษัตริย์เย่มองไปที่ต้วนหวงและเอ่ยถามอย่างจริงจัง
ต้วนหวงยิ้มเจื่อนๆ เขาหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมพันธมิตรมาตลอด แต่นึกไม่ถึงว่าการเข้าร่วมพันธมิตรของเขาจะกลายเป็นกุญแจสำคัญว่าจะจัดตั้งพันธมิตรหรือไม่
หยางเฉินที่นิ่งเงียบอยู่ตลอดเวลา มองไปที่ต้วนหวง ประกายเย็นวาบกะพริบขึ้นในดวงตาของเขา
ต้วนหวงดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงบางอย่าง มองมาที่หยางเฉินโดยไม่รู้ตัว พอเห็นหยางเฉินกำลังมองตนอย่างเย็นชา เขาก็ยิ่งรู้สึกขมขื่นในใจมากขึ้น
“สำหรับผมแล้ว มันไม่สำคัญว่าจะจัดตั้งพันธมิตรหรือไม่” ต้วนหวงลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น
คำตอบนี้ ยังคงไม่ใช่ตัวเลือกที่เต็มใจนัก
ทำให้หลายคนรู้สึกไม่พอใจ
กษัตริย์เย่บ่นฮึดฮัด “ต้วนหวงกลายเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรนะ? แค่ทางเลือกทางเดียวเท่านั้น ทำไม่ได้เหรอ?”
ต้วนหวงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หวังว่ากษัตริย์เย่คงเข้าใจ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของราชวงศ์ต้วนของเรา หากไม่ระมัดระวังเพียงพอ มันจะเป็นหายนะสำหรับราชวงศ์ต้วน ผมจึงต้องระมัดระวังมากขึ้น”
กษัตริย์เย่ไม่อยากคุยกับต้วนหวงแล้ว เขาพูดอย่างเย็นชา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ปล่อยให้เป็นการยกมือตัดสินของกองกำลังจำนวนหนึ่งร้อยในที่นี้แล้วกัน หากพวกเขาเต็มใจที่จะจัดตั้งพันธมิตร เราก็จะจัดตั้งพันธมิตร หากไม่เต็มใจ มันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพันธมิตร”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน หลี่เจียงสงจะไม่ออกปากแทรกแซง ในบรรดากองกำลังหนึ่งร้อยกอง เกรงว่าจะมีสัก 80-90 กอง ที่อาจจะเลือกจัดตั้งพันธมิตร
แต่ตอนนี้ แม้แต่หลงหวงและกษัตริย์ซ่านกวนก็ออกหน้าขัดขวาง ถึงขั้นประกาศกร้าวว่า ใครก็ตามที่กล้าเข้าร่วมพันธมิตรคือศัตรูของพวกเขา แม้ว่าจะมีกองกำลังที่ต้องการเข้าร่วมพันธมิตร ก็น่าจะมีไม่มากนัก
“เดี๋ยวก่อน!”
แต่ในขณะนั้นเอง หยางเฉินที่เงียบมาโดยตลอดก็พูดขึ้นมา
ทุกคนต่างงุนงง หยางเฉินมองไปทางต้วนหวง เขากล่าวว่า “วันนี้ คุณจำเป็นต้องเลือก เห็นด้วยกับการจัดตั้งพันธมิตรหรือปฏิเสธ ไม่มีทางเลือกที่สาม!”