The king of War – บทที่ 1436 สงรามใหญ่ระเบิดขึ้น

บทที่ 1436 สงรามใหญ่ระเบิดขึ้น

“หยางเฉิน ไม่เจอกันนานเลยนะ!”

ผู้แข็งแกร่งชุดเพ้าดำมองมาที่หยางเฉินอย่างสนุกสนาน

หยางเฉินสีหน้ามืดมนอย่างถึงขีดสุด เหลือบมองผู้แข็งแกร่งในชุดเพ้าดำ แล้วมองไปที่เย่หลินอีกครั้งพร้อมกับกล่าวอย่างเย็นชา “ผมไม่เข้าใจว่าทำไมราชวงศ์เย่ถึงได้หยิ่งผยองเช่นนี้ กล้าเชิญกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งจิ่วโจวมาที่เมืองเยี่ยนตู ที่แท้พวกเขาก็กำลังสมรู้ร่วมคิดกัน”

คำพูดนี้เหมือนก้อนหินก้อนใหญ่ตกลงไปในทะเล เกิดเป็นคลื่นลมพายุต่อหน้าผู้แข็งแกร่งทั้งหลาย

“ผู้แข็งแกร่งชุดเพ้าดำคนนี้ เป็นผู้แข็งแกร่งจากเมืองเหมียวจริงๆ ด้วย!”

“เมืองเหมียว? นี่คือที่ไหนในเมืองเหมียว? ทำไมผมถึงไม่เคยได้ยินชื่อเลย?”

“เมืองเหมียว เป็นสถานที่ที่ครอบครองทั้งหมด 13 ภูมิภาค และหนึ่งใน 13 ภูมิภาคของเมืองนั้น ผู้แข็งแกร่งโดยส่วนใหญ่ล้วนซ่อนตัวจากโลกภายนอก”

ผู้คนทั้งหมดในที่นี้เป็นผู้นำของหนึ่งร้อยตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในจิ่วโจว แต่ที่รู้จักเมืองเหมียวมีเพียงกองกำลังระดับสูงเท่านั้น

แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่หลายคนได้ยินเรื่องเมืองเหมียว แต่ก็รู้ว่าคำทั้งสี่นี้หมายถึงอะไร

ในจิ่วโจว ภายนอกมีราชวงศ์ทั้งสี่เป็นผู้นำ ตามด้วยกลุ่มตระกูลชั้นนำภายในราชวงศ์ทั้งสี่ จากนั้นก็เป็นเมืองหลวงทั้งห้า ตลอดจนตระกูลชั้นนำภายในเมืองหลวง

จากนั้นก็เป็นแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นระดับที่ส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดาทั่วไป สามารถเข้าถึงได้

จากนั้นก็เป็นตระกูลผู้มีอำนาจของแต่ละเมืองเอก ตลอดจนตระกูลที่เล็กลงไปอีก

ตอนนี้การปรากฏตัวของผู้แข็งแกร่งในเมืองเหมียว ทำให้ทุกคนที่นั่นดูจริงจังจนถึงขีดสุด

“หลิวเหล่าก้วย! นึกไม่ถึงว่าคุณจะกล้ามาที่เมืองเยี่ยนตู ดูเหมือนว่าบทเรียนในคราวที่แล้วมันไม่เพียงพอสำหรับคุณ”

หยางเฉินหรี่ตาพูด ในดวงตาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรงเป็นประกายวิบวับ

คราวก่อนขณะที่อยู่ในการแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตู หลิวเหล่าก้วยก็ปรากฏตัวขึ้น สุดท้ายก็เกือบจะถูกชายหนุ่มผู้คลั่งไคล้ฆ่าตาย สุดท้ายเขาถูกพาตัวออกไปโดยผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ชื่อหวงจิ้น ผู้แข็งแกร่งจากภูมิภาคที่เก้าในสิบสามภูมิภาคของเมืองเหมียว

ตอนแรกก่อนที่หยางเฉินจะก้าวเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ เขาได้ประมือกับหวงจิ้นระดับแดนเหนือมนุษย์ สุดท้ายก็สู้ไม่ไหว จึงถูกหวงจิ้นและหลิวเหล่าก้วยพาตัวไป

นึกไม่ถึงเลยว่าหลังจากผ่านไปครึ่งปี หลิวเหล่าก้วยที่เกือบจะถูกหยางเฉินฆ่า จะกล้ามาที่เมืองเยี่ยนตูอีก

หลงจิ้นและกษัตริย์ซ่านกวน รวมถึงต้วนหวงผู้นำของกองกำลังระดับสูงหลายแห่ง รวมทั้งหลิวเหล่าก้วยพากันปรากฏตัวอยู่เคียงข้างหยางเฉิน จ้องมองไปที่ หลิวเหล่าก้วยอย่างระแวดระวัง

ด้วยความสามารถของพวกเขา สามารถรับมือผู้แข็งแกร่งที่อยู่ต่ำกว่าระดับแดนเหนือมนุษย์เท่านั้น หากต้องเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในระดับเดียวกับหลิวเหล่าก้วย ต้องพึ่งพาหยางเฉินเท่านั้น

“หยางเฉิน คุณคิดว่าผมเป็นคนเดียวกันกับเมื่อหกเดือนก่อนจริงๆ เหรอ?”

หลิวเหล่าก้วยยิ้มแปลกๆ ดวงตากระหายเลือด ก่อนจะจับจ้องไปที่หยางเฉินและพูดว่า “ตอนแรกถ้าไม่ได้ผู้แข็งแกร่งคนนั้นที่ช่วยคุณอย่างลับๆ คุณคงตายตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่วันนี้ คุณตายแน่นอน! “

“งั้นเหรอ?”

หยางเฉินยิ้มเยาะ พลังบูโดอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา ล็อคตัวหลิวเหล่าก้วยไว้ทันที

ซ่งโย่วและซ่งจั่วทั้งสองยืนขนาบซ้ายขวาทางด้านหลังของหยางเฉิน สีหน้าของพวกเขามีแต่ความเคร่งขรึม

พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังบูโดอันน่าสะพรึงกลัวจากหลิวเหล่าก้วย

เดิมทีเย่หลินและกษัตริย์เย่ พวกเขาเป็นพี่น้องกัน หากร่วมมือกับหยางเฉินจึงจะรับมือได้ แต่ตอนนี้ด้วยความช่วยเหลือของหลิวเหล่าก้วย สำหรับพวกเขาแล้ว กำลังจะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมหาศาล

ในใจหยางเฉินเองก็เข้าใจเรื่องนี้ เขารู้สึกเสียดายอยู่ภายในใจ ถ้ารู้อย่างนี้ เขาจะไม่ยอมให้หลี่จ้งไปที่เมืองราชวงศ์เย่ แต่จะต้องมาที่เมืองเยี่ยนตูก่อน พอจัดการเรื่องราชวงศ์เย่เรียบร้อยแล้ว ค่อยไปที่เมืองราชวงศ์เย่

แต่มาเสียใจตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว พวกเขาต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาวิธีจัดการผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์คนนี้โดยเร็วที่สุด เพียงวิธีนี้เท่านั้นที่สามารถพลิกสถานการณ์ที่เป็นรองของพวกเขาได้

หยางเฉินสัมผัสถึงลมปราณบูโดระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าจากร่างกายของ หลิวเหล่าก้วย ส่วนเย่หลิน อย่างน้อยก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า ส่วนตัวเขาเองก็สามารถเค้นระเบิดพลังออกมาได้เทียบเท่ากับระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า ตอนนี้ถ้าเขาต้องการที่จะข่มเหงเย่หลินและหลิวเหล่าก้วย จำเป็นต้องหาทางเพิ่มความแข็งแกร่งให้ถึงระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหก

ขณะที่หยางเฉินกำลังครุ่นคิดว่าจะจัดการกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างไร จู่ๆ เย่หลินก็พูดขึ้นว่า “หลิวเหล่าก้วย ผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ทั้งสองที่อยู่ข้างกายหยางเฉิน ผมขอมอบให้คุณ”

หลิวเหล่าก้วยขมวดคิ้ว มองเย่หลินอย่างไม่เบิกบาน “คุณรู้ไหมว่า ระหว่างผมกับหยางเฉินมีบุญคุณความแค้นอยู่มากมาย ชีวิตของเขาต้องเป็นของผมเท่านั้น”

“คุณไม่ต้องกังวล ชีวิตของหยางเฉิน ผมจะเหลือไว้ให้คุณ แต่ผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์สองคนที่ติดตามอยู่ข้างกายหยางเฉิน ก็มีความสามารถที่ไม่ธรรมดา หากคุณต้องการจัดการกับพวกเขา ผมจะร่วมมือกับลูกชายของผมเพื่อขัดขวางหยางเฉิน หลังจากที่ฆ่าทั้งสองคนนี้ได้แล้ว พวกเราจะร่วมมือกันฆ่าหยางเฉิน”

เย่หลินเอ่ยปากพูด เห็นได้ชัดว่าเขาได้คิดหาวิธีแก้ปัญหาเอาไว้เรียบร้อย

ในใจของเขามีเพียงหยางเฉินและสองพี่น้องตระกูลซ่งเท่านั้นที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ ส่วนหลงจิ้นและผู้นำราชวงศ์หลายคนนั้น ถูกเย่หลินมองข้าม

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลิวเหล่าก้วยก็พยักหน้าและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ผมจะฆ่าชายชราสองคนก่อน แล้วจึงค่อยฆ่าหยางเฉิน”

สีหน้าของซ่งจั่วและซ่งโย่วมืดมนลงจนถึงขีดสุด นึกไม่ถึงว่าเขาจะถูกคนอื่นดูหมิ่นแบบนี้ ราวกับว่าพวกเขาจะถูกฆ่าได้ง่ายๆ

ตอนแรกหยางเฉินกำลังคิดว่าจะใช้กลยุทธ์แบบไหนดี แต่ก็ไม่คิดว่าเย่หลินได้วางแผนสำหรับเขาไว้แล้ว ต้องบอกว่ากลยุทธ์นี้เหมาะสมที่สุดสำหรับหยางเฉิน

เพราะเย่หลินคาดคะเนผิดว่าถ้า หากซ่งจั่วและซ่งโย่วสองพี่น้องร่วมมือกัน พวกเขาจะสามารถระเบิดพลังออกมาได้เทียบเท่ากับระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่

หยางเฉินรู้ว่านี่ควรเป็นการคาดการณ์อย่างระมัดระวัง บางทีพวกเขาสองพี่น้องอาจระเบิดพลังออกมาได้เทียบเท่ากับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าก็ได้

ท้ายที่สุดแล้ว สองพี่น้องตระกูลซ่งก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ที่กำลังออกไปเผชิญโลกภายนอกจริงๆ ไม่ใช่พวกราชวงศ์เย่ ที่อยู่แต่ในห้องลับของราชวงศ์ตลอดเวลา แค่หมกมุ่นอยู่กับการพัฒนาบูโด แต่กลับเป็นพวกเศษสวะที่ไม่ได้สัมผัสประสบการณ์ความเป็นความตายอย่างแท้จริง

“คุณหยาง เรื่องหลิวเหล่าก้วย พวกเราสองพี่น้องมีความมั่นใจมาก เรื่องอื่นให้เป็นหน้าที่ของคุณก็แล้วกัน!”

ซ่งจั่วพูดขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธมากกับคำพูดของหลิวเหล่าก้วย

“ตกลง!”

หยางเฉินไม่ได้พูดไร้สาระอะไร เขาตอบรับเพียงคำเดียว แล้วหายตัวไปจากตรงนั้น

ซ่งจั่วและซ่งโย่วก็พุ่งเข้าหาหลิวเหล่าก้วยด้วย

“ระวัง!”

เย่หลินตะโกนขึ้นมาในทันใด นึกไม่ถึงว่าหยางเฉินบอกจะลงมือก็ลงมือทันที

ทันทีที่หยางเฉินลงมือ ก็ตรงปรี่เข้าไปหากษัตริย์เย่ กษัตริย์เย่ยังอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งเท่านั้น หากเขาถูกหยางเฉินโจมตี เกรงว่าอาจจะถูกฆ่าตายภายในเสี้ยววินาที

“พลั่ก!”

วินาทีถัดมา เสียงอันหนักแน่นของการปะทะก็ดังขึ้น มันคือเสียงฝ่ามือของหยางเฉิน ปะทะกับฝ่ามือของเย่หลิน

ทันใดนั้น ลมปราณบูโดที่น่าสะพรึงกลัวก็แผ่ซ่านไปทั่วทุกทิศทาง

บรรดาผู้แข็งแกร่งแดนเทพที่ยังไม่ได้สติกลับมา ภายใต้การโจมตีพลังบูโดอันน่าสะพรึงกลัว ร่างกายต้องถอยออกมาเรื่อยๆ ผู้แข็งแกร่งบางคนที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นยอดกระแทกกับพื้น

ส่วนกษัตริย์เย่ที่มีเย่หลินให้การคุ้มครองอยู่ข้างหลัง ใบหน้าเหม่อลอย เดิมทีคิดว่าหลังจากที่เขาก้าวเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์แล้ว แม้ว่าจะเสียเปรียบ แต่ก็สามารถต่อสู้กับหยางเฉินให้ตายกันไปข้างหนึ่งได้

จนกระทั่งในเวลานี้ เขาเพิ่งพบว่า ตัวเองนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฉิน เขาไม่มีกำลังที่จะตอบโต้กลับได้เลย ถ้าเย่หลินไม่ได้คอยอยู่เคียงข้าง และหยุดยั้งได้ทันเวลา เกรงว่าเขาน่าจะถูกหยางเฉินฆ่าตายภายในเสี้ยววินาทีไปแล้ว

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท