การตายของอวี๋เหวินเกาหยาง ทำให้คนทั่วเมืองเยี่ยนตูรู้สึกตกใจ
ขณะเดียวกัน สิ่งที่น่าตกใจก็เกิดขึ้นที่เมืองเยี่ยนตู กองกำลังระดับสูงที่ตั้งรกรากอยู่ในเมืองเยี่ยนตู ได้อพยพออกไปทีละคน
และกองกำลังพวกนั้นละทิ้งแม้แต่ธุรกิจของตนเองในเมืองเยี่ยนตู
และตอนนี้ไม่มีแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูดำรงอยู่อีกต่อไปแล้ว มีเพียงสามตระกูลแห่งเมืองเยี่ยนตูเท่านั้น มีตระกูลอวี๋เหวิน ตระกูเย่ และตระกูลหวงที่ยอมจำนนต่อหยางเฉิน
เจ็ดวันต่อมา งานศพเจ็ดวันของอวี๋เหวินเกาหยางสิ้นสุดลง หลังจากหยางเฉินจัดการวางแผนเรื่องของตระกูลอวี๋เหวินอย่างเหมาะสมแล้ว จึงได้เตรียมจากไป
“คุณหยาง คุณจะจากไปแล้วเหรอ?”
ตระกูลอวี๋เหวิน ห้องโถงบรรพบุรุษของตระกูล ผู้อาวุโสผมขาวคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังหยางเฉิน และถามด้วยสีหน้าอาลัย
หานเทียนเฉิงซึ่งเป็นพ่อบ้านเก่าแก่ของตระกูลอวี๋เหวิน เริ่มแรกตอนที่หยางเฉินเพิ่งมาจากชายแดนเหนือและกลับไปที่เจียงโจว หานเทียนเฉิงเป็นคนไปเจียงโจวด้วยตนเอง และอวี๋เหวินเกาหยางแสดงเจตจำนงว่าต้องการมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้หยางเฉิน แต่ถูกหยางเฉินปฏิเสธ
ตอนนี้อวี๋เหวินเกาหยางเสียชีวิตไปแล้ว ทำให้หานเทียนเฉิงรู้สึกโศกเศร้าเป็นอย่างมาก
หยางเฉินพยักหน้า ดวงตาของเขาสงบราวกับน้ำ และกล่าวว่า “ยังมีหลายสิ่งที่รอให้ผมไปจัดการ ถึงเวลาที่ผมต้องไปแล้ว”
ถึงแม้ตอนนี้เขาจะพยายามระงับความโกรธของตนเอง แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเจ็ดวันก่อน และความโกรธที่อยู่ในใจของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
เย่หลินแห่งราชวงศ์เย่ ต้องตายอย่างแน่นอน!
นอกจากเย่หลินแล้ว ยังมีหลิวเหล่าก้วยแห่งเมืองเหมียวที่ต้องตายด้วยเช่นกัน!
นอกจากนี้ ยังมีหม่าชาวสหายของตนเอง ซึ่งตอนนี้เขาถูกขังอยู่ที่ราชวงศ์เฝิง และต้องการให้เขาไปช่วยเขา
อาจกล่าวได้ว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก และยังเป็นปัญหาที่หยางเฉินจำเป็นต้องจัดการอย่างเร่งด่วน
“หาอวี๋เหวินปิงพบหรือไม่” หยางเฉินถามทันที
เมื่อมีการกล่าวถึงชื่ออวี๋เหวินปิงอีกครั้ง เจตนาฆ่าที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา
เมื่อเปรียบเทียบกับเย่หลินและหลิวเหล่าก้วยแล้ว หยางเฉินต้องการฆ่าอวี๋เหวินปิงมากกว่า
ถ้าอวี๋เหวินปิงไม่ได้ใช้อวี๋เหวินเกาหยางข่มขู่ตนเอง แล้วอวี๋เหวินเกาหยางจะเลือกฆ่าตัวตายได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม หลังจากการต่อสู้บนภูเขาเยี่ยนซานเมื่อเจ็ดวันก่อน อวี๋เหวินปิงเหมือนได้หายตัวไปจากโลก
หานเทียนเฉิงกล่าวอย่างรวดเร็ว “ยังไม่มีข่าวใด ๆ ดูเหมือนว่าไอ้สัตว์เดรัจฉานตัวนั้นจะหายตัวไปจากภูเขาเยี่ยนซาน แต่จากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใต้ภูเขาเยี่ยนซาน พบว่าขณะที่คนลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำเดินผ่านภูเขาเยี่ยนซาน เขาแบกคนคนหนึ่งไว้บนบ่า บางทีคนคนนั้นอาจจะเป็นไอ้สัตว์เดรัจฉาน”
เมื่อกล่าวถึงอวี๋เหวินปิง หานเทียนเฉิงกัดฟันด้วยความแค้นเช่นกัน
“คนลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำ?”
หยางเฉินขมวดคิ้ว และทันใดนั้นเขาก็นึกบางเรื่องขึ้นมากได้
คืนก่อนงานเลี้ยงวันเกิดของตระกูลเย่ ในงานเลี้ยงที่จัดโดยราชวงศ์หลง มีผู้แข็งแกร่งที่สวมชุดคลุมสีดำปรากฏตัวขึ้น และช่วยฟางหรูซึ่งเป็นผู้นำตระกูลฟางแห่งเมืองราชวงศ์หลง
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตอนที่หยางเฉินตามทัน ฟางหรูถูกอีกฝ่ายฆ่าปิดปากแล้ว
หรือว่าคนที่พาตัวอวี๋เหวินปิงไปจากภูเขาเยี่ยนซาน เป็นผู้แข็งแกร่งที่สวมชุดคลุมสีดำคนนั้นเช่นกัน?
“ถูกต้อง เป็นผู้แข็งแกร่งที่สวมชุดคลุมสีดำ แม้กระทั่งศีรษะของเขาก็ยังคลุมด้วยเสื้อคลุมสีดำ ดังนั้นจึงไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจน”
หานเทียนเฉิงกล่าวอย่างรวดเร็ว
หยางเฉินไม่พูดอะไรอีกต่อไป สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้น
วันนั้นตอนที่เขาไล่ตามผู้แข็งแกร่งที่สวมชุดคลุมสีดำคนนั้น เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ประเด็นสำคัญคือบนร่างกายของอีกฝ่ายไม่มีพลังบูโดต่อสู้ใด ๆ
ทั้งสองคนไม่ได้ต่อสู้กัน แต่ดูจากความเร็วของอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว อย่างน้อยอีกฝ่ายนั้นอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า หรือแม้แต่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหก
เพียงแต่ ทำไมผู้แข็งแกร่งระดับนี้ถึงได้ช่วยอวี๋เหวินปิงไปจากภูเขาเยี่ยนซาน?
แล้วผู้แข็งแกร่งที่สวมชุดคลุมสีดำคนนั้นเป็นใครกันแน่?
หยางเฉินล่วงเกินคนไว้มากมาย แต่ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้มีไม่มากนัก ไม่นานร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในสมองของเขา
“ดอกเตอร์แบล็ก!”
หยางเฉินกัดฟันและกล่าวด้วยความแค้น
“ดอกเตอร์แบล็ก เขาเป็นใคร?” นี่เป็นครั้งแรกที่หานเทียนเฉิงได้ยินชื่อดอกเตอร์แบล็ก เขาจึงถามตามสัญชาตญาณ
หยางเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นักวิทยาศาสตร์ที่บ้าคลั่งได้เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดครึ่งมนุษย์ครึ่งหุ่นยนต์ ที่มีพลังมหาศาล”
“ยังมีคนแบบนั้นอยู่อีกด้วยเหรอ?” หานเทียนเฉิงตกตะลึง
เดิมหยางเฉินสงสัยว่าหลังจากอาจารย์ฆ่าดอกเตอร์แบล็กแล้ว ไม่รู้ว่าดอกเตอร์แบล็กชุบชีวิตตนเองด้วยวิธีใด คราวนี้ เขามั่นใจการคาดเดานี้มากขึ้น
เนื่องจากดอกเตอร์แบล็กไม่มีพื้นฐานการฝึกฝนบูโด แต่เขาใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อสร้างตัวเองให้กลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่เทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ ดังนั้นบนร่างกายของดอกเตอร์แบล็กจึงไม่มีพลังพลังบูโดใด ๆ
ผู้แข็งแกร่งลึกลับที่ช่วยฟางหรูจากหยางเฉินในวันนั้น ไม่มีพลังบูโดใด ๆ
การต่อสู้บนภูเขาเยี่ยนซานเมื่อเจ็ดวันก่อน ตอนที่หยางเฉินปลุกสายเลือดคลั่ง อวี๋เหวินปิงอยู่ที่นั่นด้วย หากมีใครปรากฏตัวออกมา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่สามารถรับรู้ได้ แต่คราวนี้เขาไม่สามารถรับรู้ได้จริง ๆ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง คนที่พาตัวอวี๋เหวินปิงไป เป็นคนเดียวกับคนลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำที่ช่วยฟางหรู
สรุปแล้ว ผู้แข็งแกร่งที่สวมชุดคลุมสีดำที่พาอวี๋เหวินปิงไปนั้น น่าจะเป็นดอกเตอร์แบล็ก
“นี่คือป้ายสัญลักษณ์ผู้นำตระกูลอวี๋เหวิน ต่อไปเรื่องของตระกูลอวี๋เหวินนั้นขอมอบให้คุณเป็นคนดูแล”
หยางเฉินหยิบป้ายสัญลักษณ์ผู้นำตระกูลที่อวี๋เหวินเกาหยางมอบให้เขาก่อนเสียชีวิต แล้วมอบให้หานเทียนเฉิง
“คุณหยาง นี่มัน……”
ขณะที่หานเทียนเฉิงกำลังจะปฏิเสธ แต่เขาถูกหยางเฉินขัดจังหวะ “ตอนแรก พ่อขอให้ผมเก็บรักษาป้ายสัญลักษณ์ผู้นำตระกูลนี้ไว้ชั่วคราว และรอจนกระทั่งตอนที่อวี๋เหวินปิงมีความสามารถที่จะสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลแล้ว ค่อยมอบป้ายสัญลักษณ์ผู้นำตระกูลนี้ให้อวี๋เหวินปิง”
“แต่ตอนนี้ อวี๋เหวินปิงเป็นคนทำให้พ่อตาย ผมจะตามหาเขาและฆ่าเขาด้วยมือตนเองอย่างแน่นอน!”
เสียงของหยางเฉินเย็นชามาก
หานเทียนเฉิงสั่นสะท้านและกล่าวด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “แล้วผมจะมอบป้ายสัญลักษณ์ผู้นำตระกูลให้แก่ใคร?”
แม้ว่าตระกูลอวี๋เหวินจะมีทายาทสายตรงมากมาย แต่คนที่มีความสามารถอย่างแท้จริงนั้นมีไม่มากนัก
มิฉะนั้น เมื่อก่อนอวี๋เหวินเกาหยางคงไม่พยายามหาทางมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้หยางเฉินแล้ว
หยางเฉินกล่าวว่า “คุณวางใจเถอะ มีผมอยู่ ไม่มีใครกล้าละโมบตำแหน่งผู้ตระกูลอวี๋เหวินหรอก ผมจะวางแผนคนมาบ่มเพาะความสามารถให้รุ่นน้องของตระกูลอวี๋เหวินอย่างลับ ๆ เมื่อถึงเวลานั้นก็จะคัดเลือกผู้นำตระกูลใหม่ที่เหมาะสมออกมา”
“ครับ!” หานเทียนเฉิงไม่ปฏิเสธอีกต่อไป และเก็บป้ายสัญลักษณ์ผู้นำตระกูลอย่างระมัดระวัง
เขารู้อย่างชัดเจนว่าด้วยสถานะของหยางเฉิน ตระกูลอวี๋เหวินที่เป็นตระกูลเล็ก ๆ ไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้
หลังจากจัดการวางแผนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว หานเทียนเฉิงเดินไปส่งหยางเฉินออกจากตระกูลอวี๋เหวิน
“คุณหยาง!”
หลังจากหยางเฉินออกจากตระกูลอวี๋เหวินไม่นาน มีร่างคนสองคนปรากฏอยู่ตรงหน้าหยางเฉิน ซึ่งก็คือสองพี่น้องซ่งจั่วและซ่งโหย่ว
“ขอบคุณพวกคุณสองคนสำหรับที่ผ่านมา!”
เมื่อหยางเฉินเห็นสองพี่น้องตระกูลซ่ง เขารู้สึกซาบซึ่งสองพี่น้องตระกูลซ่งเป็นอย่างมาก
วันนั้นตอนที่เขาอยู่บนภูเขาเยี่ยนซาน และตอนที่เขาเกือบจะสูญเสียการควบคุม สองพี่น้องตระกูลซ่งเสี่ยงชีวิตพยายามป้อนยาผนึกจิตอันล้ำค่าให้แก่เขา และเกือบจะถูกเขาฆ่าตาย
การที่สองพี่น้องตระกูลซ่งช่วยเหลือเขา ถึงแม้จะเป็นการตอบแทนน้ำใจไมตรีของตระกูลอู่หวง แต่พวกเขาสองคนนั้นเป็นคนดี
“ตุ๊บ!”
ทันใดนั้น สองพี่น้องตระกูลซ่งก็คุกเข่าลงบนพื้น