The king of War – บทที่ 1452 พลานุภาพจากการตื่น

บทที่ 1452 พลานุภาพจากการตื่น

สีหน้าของสองพี่น้องตระกูลซ่งเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม พวกเขาต้องการช่วยหยางเฉิน เพื่อทำให้หยางเฉินเป็นหนี้บุญคุณพวกเขา แต่พวกเขาไม่รู้ว่าจะช่วยหยางเฉินได้อย่างไร

ขณะที่สองพี่น้องตระกูลซ่งกำลังคิดว่าจะช่วยหยางเฉินอย่างไร บนยอดภูเขาเยี่ยนซาน พลังบูโดของหยางเฉินยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และดวงตาของเขาแดงก่ำ

มีพลังที่น่าสะพรึงกลัวอยู่รอบตัวเขา ซึ่งทำให้สายฝนที่ตกลงมาบนร่างกายของเขานั้นระเหยไปทันที

อวี๋เหวินปิงที่หลบซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหิน ตกตะลึงไปตั้งนานแล้ว ขณะนี้เขาทรุดตัวลงบนพื้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ร่างกายของเขาสั่นไปทั่ว

“นึกไม่ถึงว่าคุณไม่จำเป็นต้องใช้ยาสมบูรณ์แบบเหนือชั้น ก็สามารถระเบิดพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมาได้”

ทันใดนั้น ชายลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าหยางเฉิน และเสียงอิเล็กทรอนิกส์ก็ดังมาจากร่างกายของเขา

“ผมจะส่งคุณไปลงนรก!”

ชายลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำกล่าว และทันใดนั้นเขาก็ยกมือขึ้น แล้วปล่อยพลังฝ่ามือไปที่ศีรษะของหยางเฉิน

บนร่างกายของเขานั้นไม่มีพลังบูโดใด ๆ แต่ฝ่ามือนั้นเร็วราวกับสายฟ้า และชั่วพริบตาเดียวฝ่ามือของเขากำลังจะกระแทกศีรษะของหยางเฉิน

เมื่อเห็นว่าฝ่ามือของเขากำลังจะกระแทกศีรษะของตนเอง ช่วงเวลาวิกฤตินี้ หยางเฉินซึ่งนั่งคุกเข่าโดยไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ทันใดนั้นเขาก็ยื่นมือข้างหนึ่งออกไปทันที

“ปัง!”

หยางเฉินยกแขนขึ้น แล้วไปปะทะกับฝ่ามือของชายลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำ จนเกิดเสียงปะทะดังสนั่น

“เป็นไปได้อย่างไร?”

ชายลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำถูกฝ่ามือกระแทกทันที แล้วร่างกายของเขาก็ถอยกลับไปเจ็ดแปดก้าวถึงจะสามารถหยุดลงได้ ทำให้เขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

เขารู้ดีว่าพลังของฝ่ามือเมื่อสักครู่ของเขาแข็งแกร่งเพียงใด แม้แต่ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงของแดนเหนือมนุษย์ขั้นหก อาจต้องตายจากการโจมตีครั้งนี้

เพียงแต่ ฝ่ามือที่หยางเฉินปล่อยออกมาอย่างไม่ตั้งใจ กลับทำให้เขาถอยหลัง แค่คิดก็รู้แล้วว่าเขานั้นตกใจมากแค่ไหน

ประเด็นคือหยางเฉินมีพลังความแข็งแกร่งแค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นสองเท่านั้น และจากการต่อสู้กับหลิวเหล่าก้วย ถึงทำให้เขาสามารถทะลวงไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นสามได้

แต่ตอนนี้ หยางเฉินปล่อยพลังฝ่ามือออกมาโดยไม่ตั้งใจ สามารถระเบิดความแข็งแกร่งที่เทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด

“เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขากันแน่?”

เสียงอิเล็กทรอนิกส์ของชายลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำดังขึ้นอีกครั้ง แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับหยางเฉิน เขารู้เพียงว่าดูเหมือนว่าตอนนี้หยางเฉินจะเสียสติไปแล้ว

แต่ที่น่าแปลกคือตอนที่เขาโจมตีหยางเฉิน หยางเฉินตอบโต้เพียงครั้งเดียวจนเขาถอยไปข้างหลัง จากนั้นหยางเฉินก็ละทิ้งการโจมตี

คนลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำรู้ดีว่าถ้าตอนนี้หยางเฉินมีสติอยู่ เขาจะฆ่าตนเองอย่างแน่นอน

“สารเลว!”

คนลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำกัดฟันกล่าวด้วยความแค้น เขาไม่สามารถทำอะไรหยางเฉินที่อยู่ในสภาวะเช่นนี้ได้

ทันใดนั้น ดวงตาของเขาจ้องไปยังทิศทางของหินก้อนหนึ่ง เขาสะบัดมือแล้วเกิดแสงเปล่งประกาย

“ปัง!”

เสียงดังสนั่น หินก้อนนั้นแตกเป็นชิ้น ๆ แล้วร่างของชายหนุ่มที่กำลังสั่นและหลบซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหิน ก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าคนลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำ

“ห๊ะ……อย่าฆ่าผม อย่าฆ่าผม…….”

อวี๋เหวินปิงร้องด้วยความตกใจ หลังจากเขาก็หมดสติไป

คนลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำมองอวี๋เหวินปิง จากนั้นมองไปที่หยางเฉิน แล้วรอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เคร่งขรึมภายใต้เสื้อคลุมสีดำ

“ถึงแม้คุณจะเป็นคนขี้ขลาด แต่ผมสามารถใช้ความแค้นที่คุณมีต่อหยางเฉินให้เกิดประโยชน์ได้”

หลังจากคนลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำกล่าวจบ เขานำตัวอวี๋เหวินปิงที่หมดสติไว้บนไหล่ และจากไปอย่างรวดเร็ว

“เคยมีคนมาที่นี่!”

หลังจากคนลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำจากไป สองพี่น้องตระกูลซ่งก็ปรากฏตัวขึ้น ทั้งสองมองไปยังทิศทางที่คนลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำเพิ่งจากไป และกล่าวด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

พวกเขามั่นใจว่าเมื่อสักครู่มีคนมาที่นี่จริง ๆ แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจคือ แม้แต่พวกเขาก็ไม่สามารถรับรู้ถึงพลังบูโดของอีกฝ่ายได้

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าพลังความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายนั้นเหนือกว่าพวกเขามาก

ขณะนี้ หยางเฉินอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการปลุกสายเลือดคลั่ง ถ้าผู้แข็งแกร่งรู้เรื่องนี้ พวกเขาจะต้องฆ่าหยางเฉินอย่างแน่นอน

ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งที่มีสายเลือดคลั่ง ดูเหมือนสามารถแน่ใจได้ว่าอนาคตของเขาจะต้องยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกได้ ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงนั้นมีไม่กี่คน ดังนั้นถ้ามีคนรู้ว่าหยางเฉินมีสายเลือดคลั่ง จะทำให้ชีวิตของหยางเฉินตกอยู่ในอันตราย

“อย่าเพิ่งไปคิดมากขนาดนั้น สภาวะตอนนี้ของคุณหยางผิดปกติมาก หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะกลายเป็นคนโง่ที่มีความแข็งแกร่งของบูโดเท่านั้น พวกเราต้องหาทางปลุกเขาให้ตื่นโดยเร็ว”

ซ่งจั่วมองหยางเฉิน และกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“โอเค!”

ซ่งโหย่วพยักหน้า

เห็นซ่งจั่วหยิบขวดสีขาวออกมา ซ่งโหย่วมองซ่งจั่วและถามว่า “พี่ใหญ่ คุณแน่ใจหรือว่าจะให้หยางเฉินกินยาผนึกจิตเม็ดนี้?”

ดวงตาของซ่งจั่วเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจเช่นกัน ยาผนึกจิตเม็ดนี้มีค่าสำหรับเขามาก กระทั่งเป็นเพราะยาเม็ดนี้ ทำให้พวกเขาถูกตามฆ่ามาหลายปี

หลายปีที่ผ่านมา เขาเสียดายที่จะกินยาเม็ดนี้ ถ้าเขากินยาเม็ดนี้เข้าไป แดนบูโดของเขานั้นจะเพิ่มขึ้นอีกแดนหนึ่ง

เขาคิดว่าจะรอจนกว่าแดนบูโดทะลวงไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าแล้วค่อยกินยาเม็ดนี้ และเมื่อถึงเวลานั้นยาผนึกจิตจะออกฤทธิ์ได้อย่างแท้จริง

แต่ตอนนี้ ยาเม็ดนี้ที่เขาแลกมาด้วยชีวิต แล้วจะให้คนอื่นกิน ซ่งจั่วรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก

หลังจากเงียบไปนาน ดวงตาของซ่งจั่วเต็มไปด้วยความแน่วแน่ และพยักหน้าอย่างหนักแน่น “สถานการณ์ตอนนี้ของคุณหยางแย่มาก ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป มีโอกาสสูงที่เขาจะกลายเป็นคนโง่”

“มันไม่ง่ายเลยจริงๆ สำหรับเขาที่จะมาถึงระดับนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย คนที่มีบูโดอัจฉริยะเช่นนี้ ไม่ควรกลายเป็นคนโง่ เพียงเพราะเขาไม่สามารถทนต่อพลังของสายเลือดคลั่งที่ปลุกให้ตื่นขึ้นได้”

“นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับความแค้นแล้ว เม็ดยาก็ควรค่าแก่การเดิมพัน!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซ่งโหย่วพยักหน้าเช่นกัน “เมื่อเป็นเช่นนั้น งั้นไม่ควรชักช้ารีรอ พวกเรารีบเอายาผนึกจิตให้คุณหยางกินเถอะ!”

“โอเค”

ซ่งจั่วพยักหน้า แล้วเดินไปข้างหน้า พยายามป้อนยาผนึกจิตเข้าไปในปากของหยาเฉิน

ผลของยาผนึกจิตนั้นทรงพลังมาก ไม่เพียงสามารถเพิ่มพลังให้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์เท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มจิตวิญญาณของแดนเหนือมนุษย์อีกด้วย

และตอนนี้ เหตุผลที่หยางเฉินตกอยู่ในสภาวะสับสน เพราะขณะที่เขาปลุกสายเลือดคลั่งตื่นนั้น ต้องใช้พลังจิตวิญญาณอย่างมหาศาล

ดังนั้น ตอนนี้หยางเฉินใช้พลังจิตวิญญาณไปมาก แต่การปลุกยังไม่สิ้นสุด ดังนั้นเขาจะเข้าสู่สภาวะเฉื่อยชา

“คุณหยาง ยาผนึกจิตเม็ดนี้จะช่วยคุณได้เป็นอย่างมาก คุณอย่าต่อต้านผม คุณกินยาผนึกจิตเม็ดนี้เถอะ”

หลังจากซ่งจั่วเดินไปอยู่ตรงหน้าหยางเฉิน เขากล่าวด้วยสีหน้าจริงใจ

เขาไม่รู้ว่าหยางเฉินได้ยินเขาหรือเปล่า แต่เขาจำเป็นต้องบอกเรื่องนี้กับหยางเฉิน

ความจริงแล้ว เขารู้สึกประหม่าเป็นอย่างมาก ส่วนซ่งโหย่วที่อยู่ด้านข้าง เตรียมพร้อมที่จะช่วยซงจั่วตลอดเวลา

เพราะตอนนี้หยางเฉินตกอยู่ในสภาวะสับสน พลังบูโดบนร่างกายของเขานั้นน่าสะพรึงกลัวมาก ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากเข้าใกล้หยางเฉินแล้ว จะเกิดเรื่องเลวร้ายอะไรขึ้น

หลังจากซ่งจั่วเดินมาอยู่ตรงหน้าหยางเฉินอย่างระมัดระวัง มือขวาของเขาถือยาผนึกจิตเอาไว้ แล้วยื่นเข้าไปในปากของหยางเฉินด้วยความระมัดระวัง

เมื่อเห็นว่ายาผนึกจิตกำลังจะถูกป้อนเข้าไปในปากของหยางเฉินแล้ว แต่ขณะนี้ เจตนาฆ่าที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมาจากร่างของหยางเฉิน

“พี่ใหญ่ รีบถอย!”

ซ่งโหย่วตะโกนทันที

ขณะเดียวกัน หยางเฉินยกแขนขึ้น กางนิ้วทั้งห้าออก และปล่อยพลังฝ่ามือไปที่ศีรษะของซ่งจั่วอย่างแรง

ซ่งจั่วมีพลังความแข็งแกร่งอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นสามเท่านั้น แต่การโจมตีครั้งนี้ของหยางเฉินเต็มไปด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งพลังความแข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นสามอย่างซ่งจั่วนั้นไม่มีทางต้านทานได้เลย

และตอนนี้ซ่งจั่วนั้นอยู่ใกล้หยางเฉินเป็นอย่างมาก ถึงแม้เขาต้องการหลบ แต่มันก็หลบไม่ทัน

ซ่งจั่วมองมือใหญ่ของหยางเฉินเข้าใกล้ศีรษะตนเองมากขึ้นเรื่อย ๆ และตอนนี้ใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

เดิมทีเขาต้องการใช้ยาผนึกจิตเพื่อปลุกหยางเฉินตื่น แต่นึกไม่ถึงว่ายังไม่ทันได้ป้อนยาผนึกจิตให้หยางเฉิน เขาก็ถูกหยางเฉินฆ่าตายเสีย

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท