ที่จะถึงในวันมะรืนนี้แล้วครับ!”
หลี่จ้งพูดอย่างเย็นชาว่า “ยกเลิกงั้นเหรอ? อย่าลืมสิว่าราชวงศ์ซ่านกวนยังมีผู้พิทักษ์ราชวงศ์ ถ้าเราปฏิเสธราชวงศ์ซ่านกวนไป เขาก็มีเหตุผลพอที่จะทำให้เขาโจมตีเราง่ายขึ้น ฉันได้ยินมาว่าในราชวงศ์ซ่านกวน นอกจากผู้พิทักษ์ราชวงศ์แล้ว ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์อีกคนหนึ่ง”
หลังจากฟังที่หลี่จ้งพูดแล้ว หลี่เจียงสงถึงกับอึ้ง เขารู้แค่ว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในราชวงศ์ซ่านกวนก็คือกษัตริย์ซ่านกวน ที่อยู่ในระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์
แต่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่า ในราชวงศ์ซ่านกวนยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์อยู่ด้วย
“งั้นพวกเราควรทำยังไงดีครับ? เราคงไม่นั่งรอให้หยางเฉินมาทำลายพวกเราหรอกใช่ไหมครับ?” หลี่เจียงสงพูดด้วยท่าทางที่เป็นกังวล
หลี่จ้งเองก็ไม่ได้พูดอะไร และเดินไปเดินไปมาพร้อมกับใบหน้าที่กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
เมื่อผ่านไปห้านาที หลี่จ้งก็หยุดและมองไปทางหลี่เจียงสงแล้วพูดว่า “จะยกเลิกงานแต่งงานในวันมะรืนนี้ไม่ได้เด็ดขาด! ตอนนี้ฉันอยากให้แกไปที่ราชวงศ์เดี๋ยวนี้เลย”
“ท่านพ่อครับ ท่านสั่งมาได้เลยครับ ผมยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้ตระกูลหลี่รอดจากหายนะครั้งนี้ครับ” หลี่เจียงสงพูดอย่างรวดเร็ว
หลี่จ้งพยักหน้าและพูดว่า “แกไปที่ราชวงศ์ แล้วไปหาหยางเฉินและบอกเขาว่า จริงๆ แล้วตระกูลหลี่ไม่ได้อยากแต่งงานกับซ่านกวนโหรว แต่เป็นเพราะกษัตริย์ซ่านกวนส่งคนมาที่ตระกูลหลี่ และบอกว่าจะแต่งงาน ตระกูลหลี่เองก็รู้ว่าซ่านกวนโหรวนั้นเป็นเพื่อนของหยางเฉิน แต่เพราะการกดดันของราชวงศ์ซ่านกวนจึงจำเป็นต้องทำตามที่เขาต้องการ ตอนนี้พวกเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วจริงๆ”
หลี่เจียงสงเองก็นึกได้และพูดว่า “ท่านพ่อครับ นี่ท่านหมายความว่าเราจะร่วมมือกับหยางเฉิน แล้วซ้อนแผนของราชวงศ์ซ่านกวนงั้นเหรอครับ?”
หลี่จ้งส่ายหัวไปมา “ถ้าหยางเฉินบอกให้เราจัดงานแต่งต่อไป ก็แปลว่าเขาฟื้นวิถีบู๊ของเขาสำเร็จแล้ว และสามารถขัดขวางงานแต่งนี้ได้ มีความเป็นไปได้ที่ว่าอยากใช้โอกาสงานแต่งในครั้งนี้กำจัดตระกูลหลี่”
“แต่ถ้าเขาบอกให้เราว่าให้ยกเลิกงานแต่ง ถึงแม้มันจะเป็นการเตือนโดยใช้การขู่ แต่จริงๆ แล้ววิถีบู๊ของเขานั้นถูกทำลายแล้ว เลยใช้การขู่ในการขัดขวางงานแต่ง”
เมื่อได้ยินแบบนี้ หลี่เจียงสงก็ดีใจขึ้นมาทันที “ผมเข้าใจแล้วครับ กษัตริย์ซ่านกวนอยากยืมมือของหยางเฉินมากำจัดพวกเรา แต่ถ้าหยางเฉินยังฟื้นพลังไม่ได้ อย่างนั้นตระกูลหลี่ก็จะปลอดภัยและแถมยังได้ลูกสาวที่เป็นหน้าเป็นตาของราชวงศ์ซ่านกวนกลับมาอีกด้วย นี่จะทำให้ตระกูลหลี่มีความสุขอย่างมาก”
หลี่จ้งพยักหน้า “ถ้าวิถีบู๊ของหยางเฉินยังไม่หมด ต่อให้เราต้องทำให้ราชวงศ์ซ่านกวนไม่พอใจ เราก็ต้องยกเลิกงานแต่งด้วยตัวของพวกเราเอง ทำให้หยางเฉินไม่ต้องมาทำร้ายเรา ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่กษัตริย์ซ่านกวนต้องการใช้ประโยชน์จากหยางเฉิน มันจะทำให้หยางเฉินมีความแค้นต่อราชวงศ์ซ่านกวน ถ้าเราเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะทำให้หยางเฉินกำจัดราชวงศ์ซ่านกวนซะเองก็เป็นได้”
ตาของหลี่เจียงสงเปล่งประกายขึ้นมาทันที และทำให้เขาเคารพต่อหลี่จ้งมากขึ้น ด้วยความสามารถของหลี่จ้งทำให้ตระกูลหลี่พลิกสถานการณ์ที่เป็นวิกฤติแบบนี้มาเป็นโอกาสได้
เมื่อหยางเฉินลงมือกับราชวงศ์ซ่านกวน จะทำให้ความสามารถของราชวงศ์ซ่านกวนลดลงไปอย่างมาก
“แต่ถ้าราชวงศ์ไม่ยอมให้เราเข้าไปพบหยางเฉินล่ะครับ?” จู่ๆ หลี่เจียงสงก็ถามขึ้นมา
หลี่จ้งขมวดคิ้วขึ้นมา พร้อมกับสีหน้าที่เป็นกังวลเล็กน้อย สิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับการที่จะเข้าไปเจอหยางเฉินได้ไหม ถ้าเข้าไปหาหยางเฉินไม่ได้ ทุกอย่างที่วางแผนมาก็ไม่มีประโยชน์
“แกไปก่อนเถอะ ถ้าไม่ให้เข้าไปเจอ งั้นเราก็ทำได้แค่เผชิญกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้วล่ะ” หลี่จ้งพูด
เห็นได้ชัดว่า แม้แต่เขาเองก็คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร
ไม่นาน หลี่เจียงสงก็มาถึงราชวงศ์ซ่านกวน
“ไม่ทราบว่าเจ้าบ้านหลี่มาทำอะไรเหรอครับ?”
ทันทีที่หลี่เจียงสงมาถึงคฤหาสน์ราชวงศ์ซ่านกวน กษัตริย์ซ่านกวนก็รู้ข่าวทันที ทั้งยังส่งซ่านกวนจื่อฉินไปเจอหลี่เจียงสง
หลี่เจียงสงยิ้มและพูดว่า “คืออย่างนี้นะครับ ก่อนหน้านี้คุณหยางมาพักที่ตระกูลหลี่สักพัก แล้วดูเหมือนว่าจะลืมของสำคัญไว้ที่ตระกูลหลี่ ผมเลยตั้งใจเอาของมาคืนน่ะครับ”
“โอ้เหรอครับ?”
ซ่านกวนจื่อฉินหัวเราะและพูดว่า “เจ้าบ้านหลี่ไม่จำเป็นต้องมาส่งด้วยตัวเองเลยนะครับ ให้คนมาส่งก็ได้”
หลี่เจียงสงหัวเราะ “สิ่งที่คุณหยางลืมไว้มันเป็นของสำคัญมากนะครับ ผมก็เลยต้องมาส่งด้วยตัวเอง รบกวนองค์ชายสามพาผมไปเจอคุณหยางทีครับ”
ซ่านกวนจื่อฉินก็ไม่ใช่คนโง่ วันมะรืนก็จะเป็นงานแต่งงานระหว่างสองตระกูลแล้ว หลี่เจียงสงมาหาหยางเฉินในเวลาแบบนี้ เกรงว่าคงไม่ใช่แค่เอาของมาให้
“เจ้าบ้านหลี่เอาของให้ผม แล้วเดี๋ยวผมจะเอาไปให้คุณหยางจะดีกว่าครับ” ซ่านกวนจื่อฉินยิ้มและพูด
หลี่เจียงสงรู้อยู่แต่แรกแล้วว่า ราชวงศ์ซ่านกวนไม่ยอมให้เขาเข้าไปพบหยางเฉินง่ายๆ แน่ แต่เขาก็ทำท่าทางเหมือนไม่สงสัยอะไรพร้อมกับหัวเราะและพูดว่า “ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจองค์ชายสามนะครับ แต่ของที่คุณหยางลืมไว้นั้นเป็นของส่วนตัวของเขา ท่านพ่อผมกำชับมาว่า ให้ผมเอาไปให้คุณหยางเองกับมือ ต้องขอโทษองค์ชายสามด้วยนะครับ”
หลี่เจียงสงรู้ว่ามันต้องเป็นแบบนี้ ซ่านกวนจื่อฉินก็เริ่มสงสัยพร้อมกับหัวเราะและพูดว่า “บอกตามตรงนะครับ และต้องขอโทษเจ้าบ้านหลี่จริงๆ หลังจากที่คุณหยางมาถึงราชวงศ์ซ่านกวนก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง แม้แต่เสด็จพ่อของผมก็ไม่เคยได้เจอคุณหยาง ก่อนที่คุณหยางจะเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เคยกำชับมาว่า ห้ามให้ใครเข้าไปรบกวนการฝึกของเขาน่ะครับ”
หลี่เจียงสงรู้ว่ามันต้องเป็นแบบนี้ เลยคิดหาวิธีรับมือไว้แต่แรกแล้ว เขาหัวเราะและพูดว่า “องค์ชายสาม คุณวางใจเถอะครับ พอดีว่าของที่คุณหยางลืมไว้มันเกี่ยวกับการฝึกของเขา และมันยังสำคัญมากอีกด้วย รับรองว่าเขาไม่โกรธแน่นอนครับ ถ้ามีปัญหาอะไร เดี๋ยวผมจะรับผิดชอบคนเดียวเองครับ”
เมื่อเห็นการยืนกรานของหลี่เจียงสง ซ่านกวนจื่อฉินก็แอบไม่ชอบมาพากล แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมา
เขาเองก็ปฏิเสธไปอย่างชัดเจนแล้ว แต่หลี่เจียงสงยังยืนกรานว่าจะไปพบหยางเฉินให้ได้ นี่เป็นการหักหน้ากันชัดๆ
เมื่อเห็นว่าซ่านกวนจื่อฉินไม่พูดอะไร หลี่เจียงสงเองก็ไม่ได้พูดอะไร พร้อมกับหัวเราะและมองไปที่ซ่านกวนจื่อฉิน เหมือนกับว่าไม่ได้กลัวว่าเขาจะปฏิเสธ แต่ในใจกลับประหม่าอย่างมาก
ในเมื่อการได้เจอหยางเฉิน คือการกำหนดความเป็นความตายของตระกูลหลี่ ถ้าไม่ได้เจอหยางเฉิน ตระกูลหลี่ก็มีโอกาสที่ต้องรับมือกับความโกรธของหยางเฉิน
ตระกูลหลี่เคยหักหลังหยางเฉินมารอบหนึ่งแล้ว ถ้าคราวนี้ยังทำให้หยางเฉินโกรธอีก เกรงว่ามันจะเป็นวิกฤติครั้งใหญ่ของตระกูล
“ในเมื่อเจ้าบ้านหลี่ยืนยันว่าจะพบคุณหยาง อย่างนั้นผมขอไปรายงานเสด็จพ่อของผมก่อนนะครับ เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับคุณหยาง ผมเองก็ไม่กล้าให้ใครเข้าไปรบกวนเขาสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้ ต้องขอให้ตระกูลหลี่เข้าใจด้วยนะครับ”
หลังจากที่ซ่านกวนจื่อฉินเงียบไปสักพัก จู่ๆ ก็พูดขึ้นมา
หลี่เจียงสงหัวเราะและพูดว่า “เข้าใจครับ ต้องรบกวนองค์ชายสามรายงานฝ่าบาทด้วยนะครับ”
“ครับ!”
เมื่อเห็นซ่านกวนจื่อฉินที่หันหลังเดินออกไป สายตาของหลี่เจียงสงก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที
ไม่นาน ซ่านกวนจื่อฉินก็ได้พบกับกษัตริย์ซ่านกวน และเล่าเรื่องที่หลี่เจียงสงต้องการพบหยางเฉินให้ฟัง
กษัตริย์ซ่านกวนขมวดคิ้ว “ที่เขามาเจอหยางเฉินในเวลาแบบนี้ เกรงว่าคงจะมีอะไรบางอย่าง”
“อย่างนั้นเสด็จพ่อ จะให้เขาเจอหรือไม่ให้เจอดีครับ?” ซ่านกวนจื่อฉินถาม