The king of War – บทที่ 1835 เริ่มการประลอง

บทที่ 1835 เริ่มการประลอง

บทที่ 1835 เริ่มการประลอง
เห็นได้ชัดว่าติงเหวินจัวนั้นจงใจ มีคำหนึ่งที่เขาไม่ได้พูดผิด เขาคือคนริเริ่มก่อตั้งสมาพันธ์บูโดขึ้นมาจริงๆ แต่มันไม่ได้มีแค่ที่เห็น การที่เขาเริ่มก่อตั้งสมาพันธ์บูโดขึ้นมานั้น ก็เพื่อสร้างกองกำลังที่แข็งแกร่งให้กับตระกูลติง
เพื่อการนั้น เขาถึงขั้นไปหาตระกูลไป๋หลี่ที่อยู้เบื้องหลังตระกูลติง จนได้ไป๋หลี่ฉางคงที่เป็นผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นมา แต่สิ่งที่เขานึกไม่ถึงคือ ไป๋หลี่คงจะไร้ค่าขนาดนี้ จนถูกหยางเฉินฆ่าตายในทีเดียว
ในตอนนี้ หยางเฉินได้กลายเป็นผู้นำแห่งสมาพันธ์บูโดไปแล้ว แถมตู้จ้งก็ลงเรือลำเดียวกับหยางเฉิน การที่ตระกูลติงคิดจะควบคุมสมาพันธ์บูโดไว้ทั้งหมดก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย ต่อให้เป็นอย่างนั้น สู้ทำให้น้ำในบ่อนี้ขุ่นไปเลยดีกว่า ทำให้พวกกองกำลังขนาดใหญ่ของจิ่วโจวเข้ามาเกี่ยวด้วย
ถึงตนนั้น ถ้าภายในสมาพันธ์บูโดเกิดวุ่นวายขึ้นมา ไม่แน่ตระกูลติงก็อาจจะได้ประโยชน์อะไรมาบ้าง
ตู้จิงสีหน้าเคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด คำพูดของติงเหวินจัว สมาพันธ์บูโดได้กลายเป็นตัวตลกในสายตาของคนอื่นขึ้นมาทันที
ตามคาด กลุ่มคนที่ยกย่องตู้จ้งก่อนหน้านี้ ตอนมองมาที่ตู้จ้งอีกครั้ง ต่างก็แสดงแววตาที่โลภมากออกมา
“ผมคิดว่า ที่ติงเหวินจัวพูดมาก็ถูกแล้ว จิ่วโจวควรก่อตั้งสมาพันธ์บูโดขึ้นมา มารวบรวมผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของจิ่วโจวไว้ด้วยกันมีแค่วิธีนี้ พวกเราก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพอย่างวันนี้อีก”
คนจากตระกูลบู๊ตะวันตกคนหนึ่งได้พูดขึ้น
“ผมเห็นด้วยกับคำพูดของติงเหวินจัว จิ่วโจวควรมีสมาพันธ์ที่รวบรวมนักสู้ขึ้นตั้งนานแล้ว มีเพียงสมาพันธ์ของเราแข็งแกร่ง และเมื่อมีกองกำลังจากนอกประเทศเข้ามารุกราน เราจึงจะมีความได้เปรียบที่มากขึ้น” 
“เหมือนในครั้งนี้ ถ้าสมาพันธ์บูโดถูกก่อตั้งมานานกองกำลังต่างๆ ของเราร่วมมือกัน ต่อให้ไม่มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า แต่เราก็สามารถไปคุยกับตระกูลบู๊โบราณที่สนับสนุนเราได้ ให้พวกเขาส่งผู้แข็งแกร่งมาเข้าร่วมกับทางสมาพันธ์ เพื่อต่อต้านศัตรูด้วยกัน” 
“คุณตู้ สมาพันธ์บูโดเป็นสมาพันธ์ของนักสู้ทุกคนในจิ่วโจว คุณหยางที่คุณพูดถึง ก็เป็นแค่ไอ้หนูที่พอมีพรสวรรค์ ไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะเป็นหัวหน้าสมาพันธ์ได้เลย ผมว่าเรามาเลือกคนที่มีฝีมือและมีบารมีให้ขึ้นเป็นผู้นำกันใหม่ดีกว่า” 
……
ทันใดนั้น พวกผู้แข็งแกร่งของจิ่วโจวที่อยู่รอบตัวตู้จ้งพากันพูดกันขึ้นมา
แม้แต่พวกสมาชิกเดิมของสมาพันธ์บางคนก็เอากับเขาไปด้วย อยากที่จะเลือกผู้นำคนใหม่
ตู้จ้งสีหน้าบึ้งตึง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่นักสู้ของประเทศซันกับพวกนักข่าวต่างก็อยู่ด้วย เหล่านักสู้ของจิ่วโจวดันมาเกิดปัญหาขึ้นภายใน อยากจะหาประโยชน์จากสมาพันธ์บูโดสักหน่อย
หลังจากที่พวกนักข่าวเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น จึงพากันหันกล้องมาทางนักสู้ของจิ่วโจว บันทึกบทสนทนาทุกอย่างเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง
หลายคนที่มองมาทางนักสู้ของจิ่วโจว ต่างพากันทำหน้าดูถูกดูแคลน
นักสู้ของประเทศซันขึ้นประจำตำแหน่ง โยชิดะ โชจ้องมองไปยังสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า มุมปากก็ได้เผยรอยยิ้มที่ขบขันออกมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจว่า “ว่าละทำไมนักสู้ของจิ่วโจวถึงได้อ่อนแอลงเรื่อยๆ แค่ผลประโยชน์เล็กๆ กองกำลังจากที่ต่างๆ ก็สามารถขัดแย้งกันได้ขนาดนี้” 
คามิชิโร กุนโตที่อยู่ข้างๆ ก็พูดไปขำไปว่า “นักสู้ของจิ่วโจว ไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด การประลองในวันนี้ บางทีอาจไม่ต้องให้เราออกโรงก็ได้” 
แต่สีหน้าของอาโอกิ ยามาโตะกลับเคร่งขรึมขึ้นมา แล้วพูดไปว่า “พวกคุณอย่าลืมตระกูลบู๊โบราณของจิ่วโจวนะ ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลบู๊โบราณของจิ่วโจวไม่อยากเข้ามายุ่งเรื่องของโลกภายนอก แค่ผู้แข็งแกร่งระดับสูงคนไหนก็ได้ออกมา มันก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะสามารถรับมือได้แล้ว เหมือนกับเมื่อคืน ตอนที่เราอยู่บนยอดเมฆา ที่พบกับผู้แข็งแกร่งจากตระกูลบู๊โบราณคนนั้น” 
พอได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของคามิชิโร กุนโตกับโยชิดะ โชก็หม่นหมองขึ้นมาทันที พวกเขาต่างก็รู้ดี ไป๋หลี่จิงหวินที่เจอเมื่อคืนแข็งแกร่งมากๆ ต่อให้วันนี้มีทิคาโนะ ทาเคชิอยู่ด้วย พวกเขาก็ยังไม่วางใจอยู่ดี
“หัวหน้า ถ้าผู้แข็งแกร่งของตระกูลบู๊โบราณแห่งจิ่วโจวออกโรง ถึงตอนนั้นก็ต้องรบกวนคุณแล้ว” 
โยชิดะ โชหันมองไปยังทิคาโนะ ทาเคชิที่กำลังนั่งทำสมาธิอยู่บนที่นั่งประธาน แล้วได้พูดไป
ทิคาโนะ ทาเคชิค่อยๆ ลืมตาขึ้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยว่า “ขอแค่ตระกูลบู๊โบราณของจิ่วโจวกล้าออกมา ผมรับรองว่าพวกมันรอดได้ไม่เกินสามวิแน่!” 
พอเห็นท่าทางที่มั่นใจของเขา โยชิดะ โชและพวกก็เบาใจขึ้นมาก ในเมื่อทิคาโนะ ทาเคชิกล้าพูดอะไรที่บ้าบิ่นขนาดนี้ออกมา ก็แสดงว่าเขามีความมั่นใจในฝีมือของตัวเองระดับหนึ่ง
ทางฝั่งนักสู้ของจิ่วโจว ยังเถียงเรื่องของสมาพันธ์บูโดกันอยู่เลย แต่ว่าตอนนี้ เก้าโมงตรง เวลาประลองที่ทั้งสองฝ่ายนัดหายกันได้มาถึงแล้ว
กรรมการที่ใส่ชุดต่อสู้คนหนึ่งได้เดินขึ้นเวทีที่อยู่ใจกลางโรงเทพบู๊ แล้วพูดออกมาเสียงดังว่า “โปรดอยู่ในความสงบสักครู่!” 
ทว่า หลังจากที่เขาตะโกน มันก็ไม่ได้เงียบลงมาทันที ทางฝั่งนักสู้ของจิ่วโจวยังเถียงกันอยู่ ด้วยอารมณ์ที่เดือดกันทุกคน เหลือแค่ลงไม้ลงมือเท่านั้น
กรรมการชาวซันขมวดคิ้ว มองไปทางนักสู้ของจิ่วโจว แล้วตะโกนด้วยสีที่ดังกว่าเดิมว่า นักสู้ทางฝั่งจิ่วโจวโปรดอยู่ในความสงบด้วย! การประลองของระหว่างประเทศซันกับจิ่วโจวเริ่มต้น ณ บัดนี้!” 
ครั้งนี้ นักสู้ของจิ่วโจวถึงตั้งสติได้
ตู้จ้งโกรธจนตัวสั่น แล้วตะคอกออกมา “หุบปากเดี๋ยวนี้! ถ้าอยากเป็นหัวหน้าสมาพันธ์ก็รอให้ประลองกับพวกประเทศซันเสร็จก่อน ค่อยว่ากัน!” 
เขาโกรธมากแล้วจริงๆ ตอนนี้คนที่ขายหน้าไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นนักสู้ทั้งหมดของจิ่วโจวต่างหาก ภาพที่พวกเขาเถียงกันเมื่อกี้ได้ถูกพวกสำนักข่าวถ่ายไว้หมดแล้ว ถึงตอนนั้น คลิปเหล่านี้ต้องถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกอย่างแน่นอน
นอกจากว่า สุดท้ายแล้วนักสู้ของจิ่วโจวจะสามารถคว้าชัยมาได้ ไม่อย่างนั้น จากนี้ไป นักสู้ของจิ่วโจว ต้องกลายเป็นตัวตลกในสายตาชาวโลกอย่างแน่นอน
พอเห็นตู้จ้งโมโห ทุกคนถึงได้ยอมเงียบ
กรรมการเคลียร์ลำคอ แล้วพูดออกมาเสียงดังว่า “การประลองในวันนี้ ฝ่ายไหนที่ยืนหยัดได้เป็นคนสุดท้ายจะเป็นฝ่ายชนะส่วนเรื่องกฎในการประลองก็ง่ายมาก นั่นก็คือการสู้กันแบบตัวต่อตัว ถ้านักสู้คนสุดท้ายที่ชนะเป็นผู้แข็งแกร่งของฝั่งไหน การประลองในวันนี้ก็จะเป็นของฝั่งนั้น! ทั้งสองฝ่ายมีข้อโต้แย้งอะไรมั้ยครับ?” 
โยชิดะ โชเป็นตัวแทนของประเทศซัน ตอบด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ไม่มี!” 
ทางฝั่งของจื่วโจวตกอยู่ในความเงียบทันที เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ยิ่งใหญ่ที่เมื่อกี้ยังเถียงกันเรื่องหัวหน้าสมาพันธ์บูโดก็ไม่กล้าพูดส่งเสียง
ถ้านี่เป็นการต่อสู้แบบกลุ่ม ไม่แน่พวกเขายังอาจจะกล้าตอบ แต่กฎการต่อสู้มันเป็นแบบตัวต่อตัว หรือก็คือ ถ้าใครอยากมีผลงานจากการประลอง ก็จำเป็นต้องขึ้นไปประลองกับนักสู้ของประเทศบนเวทีด้วยตนเอง
พวกเขาคิดว่าตัวเองนั้นแข็งแกร่ง แต่นักสู้ทางฝั่งประเทศซันนั้น คนที่เป็นผู้นำอย่างทิคาโนะ ทาเคชิ เป็นถึงผู้แข็งแกร่งเหนือมนุษย์ขันเก้าชั้นปลายเลยทีเดียว นอกจากนั้น ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางกับชั้นต้นอีกสามคน
ต่อให้พวกเขาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน ก็ไม่มีทางสู้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าได้หรอก
พอตู้จ้งเห็นทุกคนต่างพากันเงียบ สีหน้าก็ถึงกับบึ้งตึง แล้วพูดพร้อมกัดฟันไปว่า “เมื่อกี้พวกคุณยังภูมิอกภูมิใจ บอกว่าจะเป็นตัวแทนของสมาพันธ์บูโดสั่งสอนนักสู้ของประเทศซันอยู่เลยไม่ใช่รึไง? ทำไมตอนนี้ถึงเงียบกันหมดล่ะ? สวะ! มีแต่พวกสวะ!” 
พูดจบ เขาก็มองไปยังกรรมการที่ยืนอยู่กลางโรงเทพบู๊ แล้วพูดเสียงดังว่า “ทางจิ่วโจว ไม่มีปัญหาครับ!” 
กรรมการกวาดตามองไปรอบๆ แล้วตะโกนออกมาว่า “เมื่อเป็นอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้น การท้าดวลที่นักสู้จากประเทศซันมีต่อนักสู้ของจิ่วโจว เริ่มขึ้น ณ บัดนี้! เชิญทั้งสองฝ่ายส่งผู้แข็งแกร่งขึ้นสังเวียนได้!”

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท