The king of War – บทที่ 1834 ความโลภของทุกฝ่าย

บทที่ 1834 ความโลภของทุกฝ่าย
ตู้จ้วไม่ได้บอกทุกคนว่าคุณหยางคือใคร เพราะเขารู้ดี ต่อให้พูดไป คนพวกนั้นก็ใช่ว่าจะเชื่อ เพราะหยางเฉินอายุน้อยเกินไปอยู่แค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอดแต่กลับสามารถฆ่าไป๋หลี่ฉางคงที่อยู่ระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นได้ในการโจมตีเดียว
แปดโมงห้าสิบห้า ก่อนการประลองที่จะเริ่มตอนห้าโมง เหลือห้านาทีสุดท้ายเท่านั้น
ในตอนนั้นเอง เหล่าผู้แข็งแกร่งของประเทศซันก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ประตู
“นักสู้ของประเทศซันมาแล้ว!” 
ข้างๆ ตู้จ้ง ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง จ้องมองไปทางประตูด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มลึก
ในครั้งนี้ การที่นักสู้จากประเทศซันมาท้าดวลกับผู้แข็งแกร่งของจิ่วโจวนั้น ด้วยการผลักดันจากตระกูลที่อยู่เบื้องหลังการประลองในวันนี้ จึงดึงดูดนักสู้จากที่ต่างๆ ให้มาที่นี่
ในวันนี้ ภายในโรงเทพบู๊ ไม่ได้มีเพียงนักสู้ของจิ่วโจวกับประเทศซันเท่านั้น ยังมีนักสู้จากที่ต่างๆ อีกด้วย
ตอนนี้ยังมีนักข่าวมากมายกำลังทำการถ่ายทอดสด เผยแพร่การประลองในวันนี้ไปสู่สายตาชาวโลก
“ทิคาโนะ ทาเคชิ! ก็มาด้วยอย่างนั้นเหรอ!” 
ทันใดนั้น ได้มีคนตะโกนออกมาด้วยความตกใจ จ้องมองไปทางชายชราผมขาวคนหนึ่งที่เพิ่งนั่งลงไปในฝั่งนักสู้จากประเทศซันด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง
“ทิคาโนะ ทาเคชิเป็นใคร?” 
“แม้แต่ทิคาโนะ ทาเคชินายยังไม่รู้จักอย่างนั้นเหรอ?เขาเป็นผู้นำของสมาคมบูโดแห่งประเทศซัน ว่ากันว่าไม่ได้มีตระกูลใหญ่อะไรหนุนหลัง แต่เป็นนักสู้ที่เริ่มต้นจากจุดต่ำสุดจนมายืนอยู่บนจุดสูงสุดได้ ในบรรดานักสู้ของประเทศซัน ชื่อเสียงของเขาค่อนข้างโด่งดังทีเดียว” 
“ลือกันว่า แดนวิถีบู๊ของเขา บรรลุถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายแล้ว” 
ทันใดนั้น ได้มีคนตะโกนออกมาด้วยความตกใจ จ้องมองไปทางชายชราผมขาวคนหนึ่งที่เพิ่งนั่งลงไปในฝั่งนักสู้จากประเทศซันด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง
“ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย? นายแน่ใจนะ เขาไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่ถูกตระกูลบู๊ระดับสูงของประเทศซันส่งมาอย่างนั้นเหรอเหรอ?” 
“ต่อให้ใช่ แล้วมันจะยังไง? ไม่มีใครตั้งกฎสักหน่อยว่าการประลองในวันนี้ ผู้แข็งแกร่งจากตระกูลบู๊ห้ามขึ้นประลอง” 
……
ด้วยการปรากฏตัวของทิคาโนะ ทาเคชิ บรรยากาศในลานก็ปะทุขึ้นมา ในเวลาเพียงหนึ่งนาที แทบทุกคนก็ได้รู้ถึงตัวตนของทิคาโนะ ทาเคชิ
แม้แต่ตู้จ้ง สีหน้ายังถึงกับเคร่งขรึมขึ้นมา
เขาเป็นแค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลาย ในบรรดาผู้แข็งแกร่งของจิ่วโจว ก็ถือเป็นผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดแล้วแต่ว่าตอนนี้ ทางฝั่งประเทศซัน แม้แต่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายยังถูกเรียกตัวมา
แบบนี้จะให้สู้ยังไง?
ต่อให้หยางเฉินจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน ก็แค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอดเท่านั้น ถึงจะสามารถฆ่าไป๋หลี่ฉางคงที่มีฝีมือเทียบเท่ากึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นด้วยการโจมตีเดียวก็ตาม แต่ฝั่งประเทศซัน ผู้แข็งแกร่งที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายเลยนะ!
“ครั้งนี้ นักสู้ของประเทศซัน การจัดทัพของชาวซันช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน! ต่อให้ไม่มีทิคาโนะ ทาเคชิ ทัพของพวกเขาก็ยังแข็งแกร่งอยู่ดี โยชิดะ โชที่อยู่ข้างๆทิคาโนะ ทาเคชิ เป็นรองหัวหน้าของสมาคมบูโดแห่งประเทศซัน ว่ากันว่า ฝีมือของเขาได้บรรลุถึงแดนเหมือนมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางแล้ว” 
“อีกอย่าง คนที่อยู่ทางขวาของทิคาโนะ ทาเคชิ คืออาโอกิ ยามาโตะกับคามิชิโร กุนโต ฝีมือของสองคนนั้นอย่างน้อยก็อยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น แค่สามคนนี้ ก็เพียงพอที่จะกดขี่นักสู้ของจิ่วโจวได้แล้ว!” 
“ดูจากตอนนี้ ทางฝั่งจิ่วโจว นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ก็แค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายเท่านั้น แบบนี้จะให้สู้ยังไง? นักสู้ของประเทศซันนี่ช่างไร้ยางอายซะจริง รู้ทั้งรู้ว่าตระกูลบู๊โบราณของจิ่วโจวจะไม่เข้ามายุ่ง ถ้าแน่จริงทำไมไม่ไปหาเรื่องพวกตระกูลบู๊โบราณล่ะ?” 
……
เหล่าผู้แข็งแกร่งที่อยู่ข้างๆ ตู้จ้ง ต่างพูดด้วยสีหน้าที่โกรธเกรี้ยว สีหน้าของพวกเขา มีแต่ความไม่พอใจ
พวกเขาไม่ได้กลัว แต่การจัดทัพของพวกประเทศซันมันแข็งแกร่งเกินไป ลำพังแค่พวกเขา มันไม่ไม่สามารถสู้ได้เลย
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าของประเทศซันมีกันถึงสี่คน ไม่ว่าคนไหนออกโรง คงจะสามารถจัดการผู้แข็งแกร่งของจิ่วโจวได้จนหมด
หลังจากที่ ทิคาโนะ ทาเคชิปรากฏตัว ก็นั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเอง สองมือกอดอก หลับตา ราวกับทุกสิ่งรอบตัวไปไม่เกี่ยวข้องกับเขา
เห็นได้ชัดว่า การที่ทิคาโนะ ทาเคชิปรากฏตัวออกมา ไม่ได้จะเข้าร่วมการต่อสู้ โลกภายนอกของจิ่วโจว ไม่มีใครมีคุณสมบัติมากพอที่สามารถต่อกรกับเขาได้เลย
ทันใดนั้น ข้างๆ ตู้จ้ง หนึ่งในผู้แข็งแกร่งของห้าตระกูลใหญ่จากทางเหนือได้ถามด้วยสีหน้าที่กดดันว่า “ท่านตู้ คุณหยางที่คุณพูดถึงเมื่อกี้ เป็นใครเหรอครับ? ผู้แข็งแกร่งที่ถูกคุณยกย่องขนาดนี้ ฝีมือของเขาต้องแข็งแกร่งมากแน่นๆ น่าจะสามารถต่อกรกับทิคาโนะ ทาเคชิได้ใช่มั้ย?” 
สีหน้าของตู้จ้งดูแย่ และไม่รู้ว่าจะตอบยังไง
เขาเชื่อมั่นในตัวหยางเฉินมาก และเชื่อว่าความสามารถในการต่อสู้ของหยางเฉินน่าจะถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น หรืออาจจะชั้นกลางแล้ว แต่ว่าตอนนี้ นักสู้ของประเทศซัน ปรากฏผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายออกมาหนึ่งคนเลยนะ!
ต่อให้หยางเฉินจะแข็งแกร่ง ก็ไม่มีทางสู้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายได้หรอกมั้ง?
“หึ!” 
ทันใดนั้น ก็ได้มีเสียงฮึดฮัดดังขึ้น ผู้คนต่างหันไปมอง
เป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งจากตระกูลติงแห่งหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ของทางเหนือ ติงเหวินจัว
เขาขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ แล้วพูดขึ้นมาว่า “คุณหยางบ้าบออะไร? พวกคุณถูกตู้จ้งหลอกแล้ว!” 
สีหน้าของตู้จ้งบึ้งตึงขึ้นมาทันที มองหน้าติงเหวินจัวอย่างไม่พอใจแล้วพูดไปว่า “นี่คุณกำลังพูดบ้าอะไร?” 
ติงเหวินจัวพูดไปว่า “เด็กที่อายุยังไม่ถึงสามสิบ มีดีอะไรให้เราเรียกว่าคุณหยาง?” 
พอคำพูดนี้ถูกพูดออกมา พวกนักสู้จิ่วโจวที่อยู่ข้างตู้จ้งสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
มีผู้แข็งแกร่งถามขึ้นว่า “ติงเหวินจัว นี่คุณหมายความว่ายังไง?” 
ติงเหวินจัวพูดว่า “คุณหยางที่ตู้จ้งพูดถึง ก็คือหยางเฉินที่เรียกตัวเองว่าคิงแห่งเยี่ยนตู้ เขาไปลวงเกินคนของตระกูลไป๋หลี่แห่งตระกูลบู๊โบราณเข้า ถ้าผมเดาไม่ผิด บางทีเมื่อคืน เขาอาจจะถูกผู้แข็งแกร่งของตระกูลไป๋หลี่ฆ่าไปแล้ว” 
“พวกคุณไม่ต้องหวังอะไรมากแล้ว การประลองระหว่างประเทศซันกับจิ่วโจวก็มีแต่ต้องหวังพึ่งทุกคนที่อยู่ที่นี่แล้ว” 
พอได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของตู้จ้งก็ได้เปลี่ยนไปเหมือนกัน จ้องมองติงเหวินจัวอย่างโกรธเกรี้ยวแล้วตะคอกไปว่า “นี่คุณกำลังพูดบ้าอะไร? คนอย่างคุณมีสิทธิ์อะไรไปพูดถึงคุณหยางอย่งนั้น?” 
ข้างๆ ตู้จ้ง ผู้แข็งแกร่งหลายคนต่างจ้องมองติงเหวินจัวด้วยความโมโห
“ท่านตู้ นี่มันหมายความว่ายังไงครับ? ที่ติงเหวินจัวพูดมามันเป็นความจริงรึเปล่า? คุณหยางที่คุณพูดถึง คือคิงแห่งเยี่ยนตูหยางเฉินรึเปล่าครับ?” 
“จากที่ผมได้ยินมา เมื่อหนึ่งปีก่อน หยางเฉินคนนี้อยู่แค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าเท่านั้น อาศัยความพิเศษของเยี่ยนตูทำให้ผู้แข็งแกร่งของตระกูลเดอะคิงกับราชวงศ์ไม่กล้าก้าวเข้ามา เขาถึงได้ขึ้นเป็นคิงแห่งเยี่ยนตู” 
“ถึงหมอนี่จะอยู่แค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า แต่การที่อายุยังไม่ถึงสามสิบก็สามารถพัฒนามาถึงระดับนี้ พรสวรรค์ในวิถีบู๊ก็ถือว่าเก่งกาจมากๆ แล้ว แต่การประลองในวันนี้ มันไม่ได้วัดกันที่พรสวรรค์ แต่วัดกันที่ฝีมือ ต่อให้พรสวรรค์ของเขาจะสูงสักแค่ไหน แล้วจะสามารถเอาชนะผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าของประเทศซันได้อย่างนั้นเหรอ?” 
ทันใดนั้น นักสู้ที่เมื่อกี้ยังยกย่องตู้จ้ง ตอนนี้กลับพากันวิจารณ์ ตำหนิตู้จ้งที่มองคนไม่ดี
ติงเหวินจัวยืนยิ้มอยู่ข้างๆ
เขาถือโอกาสพูดออกมาว่า “ทุกท่าน เดิมทีผมคือคนที่ก่อตั้งสมาพันธ์บูโดขึ้นมา เพื่อรวบรวมนักสู้ของจิ่วโจวมาต่อกรกับนักสู้ของประเทศซัน แต่นึกไม่ถึงว่า เพื่อประโยชน์ส่วนตน ตู้จ้งก็ได้ดึงตัวหยางเฉินให้เข้าร่วมสมาพันธ์บูโด แถมยังให้หยางเฉินขึ้นเป็นหัวหน้าสมาพันธ์บูโดด้วย” 
“ผมคิดว่า สมาพันธ์บูโดเป็นสมาพันธ์ของนักสู้จิ่วโจวทุกคน ดังนั้นผมจึงเสนอว่า นักสู้จากทุกที่ของจิ่วโจว ต่างก็สามารถเข้าร่วมสมาพันธ์บูโดได้ และง่ายต่อการที่ต่อไปนักสู้ในโลกภายนอกอย่างพวกเรามารวมตัวกันเพื่อจัดการปัญหาด้านวิถีบู๊” 
ติงเหวินจัวตะโกนออกมาอย่างน่าเกรงขาม
พอพูดอย่างนั้นออกมา สายตาของผู้แข็งแกร่งมากมายต่างเป็นประกาย ถ้าสมาพันธ์บูโดสามารถรวบรวมนักสู้ของจิ่วโจวที่กระจัดกระจายไว้ด้วยกัน มันก็จะกลายเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งมากๆ เหมือนกัน
กองกำลังที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ จะมีตระกูลไหนบ้างที่ไม่อยากได้