The king of War – บทที่ 1867

บทที่ 1867

บทที่ 1867
ความโกรธเกรี้ยวของหม่าชาว
ผู้อาวุโสเฉินเป็นหนึ่งในสี่ผู้อาวุโสของสมาพันธ์บูโด มีพลังอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้น
วันนี้สมาพันธ์บูโด มีหัวหน้าสมาคมคือหยางเฉิน
นอกจากหัวหน้าสมาคมแล้ว ยังมีรองหัวหน้าอีก 2 คน ได้แก่ ตู้จ้งและหนิงเทียนเหอ
จากนั้น ก็คือผู้อาวุโสสี่คนที่มีพลังอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้น
ผู้อาวุโสเฉินที่อยู่ข้างหน้าคนนี้ ก็คือหนึ่งในสี่ผู้อาวุโส
แม้ว่าสมาพันธ์บูโดจะเพิ่งก่อตั้งขึ้น แต่เนื่องจากการนัดหมายของนักบู๊ประเทศซันมีต่อนักบู๊จิ่วโจว ทำให้นักบู๊ในแดนเหนือมนุษย์ส่วนมากล้วนมารวมตัวกันอยู่ที่เยี่ยนตู อีกทั้งหยางเฉินก็ฆ่าทิคาโนะ ทาเคชิไป ดังนั้นสมาพันธ์บูโดจึงถือโอกาสนี้รับนักบู๊แดนเหนือมนุษย์มากมาย
จิ่วโจวในวันนี้ ตระกูลบู๊โบราณไม่ออกมา เกรงว่าก็คงจะไม่มีกำลังมากพอที่จะแข่งขันกับสมาพันธ์บูโด
หม่าชาวจ้องไปที่ผู้อาวุโสเฉินและพูดอย่างเย็นชาว่า “พวกเราแค่ต้องการพบพี่เฉินสักหน่อย พวกคุณขัดขวางกันแบบนี้ ออกจะทำเกินไปหน่อยไหม? ”
“หึ!”
ผู้อาวุโสเฉินพูดอย่างเย็นชา “นายนับเป็นตัวอะไร? ต่อหน้าฉัน ก็มีคุณสมบัติที่จะพูดแบบนี้หรือไง? สมาพันธ์บูโดไม่ใช่ที่ที่ใครก็มาเอะอะได้ เห็นแก่นายที่ยังอายุน้อยและอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าขั้นต้นแล้ว ถือว่าไม่ง่ายเลย ฉันจะให้โอกาสนายจากไปซะ รีบไสหัวออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ”
หม่าชาวตัวสั่นด้วยความโกรธ อย่างไรก็ตามแดนบูโดของผู้อาวุโสเฉินนั้นสูงเกินไป อาศัยพวกเขาสามพี่น้อง ต่อให้ร่วมมือกันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย
ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนนี้มีเพียงผู้อาวุโสเฉิน และผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นสามที่เขากุมความเป็นความตายอยู่ในมือ ในผู้สำนักงานใหญ่ของสมาพันธ์บูโด ก็ยังมีผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ อยู่
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาเกือบจะแน่ใจแล้วว่า หยางเฉินอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของสมาพันธ์บูโด อีกแค่คืบเข้าก็จะได้พบหยางเฉินแล้ว เพียงแต่เขาถูกขวางเอาไว้อยู่ข้างนอก สิ่งนี้ทำให้เขาไม่พอใจอย่างมากจริงๆ
หม่าชาวสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อระงับความโกรธ เขาจ้องไปที่ผู้อาวุโสเฉินและพูดว่า “ฉันแค่อยากรู้เพียงเรื่องเดียว เกิดอะไรขึ้นกับพี่เฉินกันแน่? ตอนนี้เขายังสบายดีไหม?”
“ไสหัวไป!”
ผู้อาวุโสเฉินตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว เสียงโกรธเกรี้ยวนี้ พัดพาออร่าบู๊อันน่าสยดสยองมาด้วยและเข้าคุกคามใส่หม่าชาวโดยตรง
หม่าชาวรู้สึกเพียงว่าหน้าอกของเขาถูกกระแทกอย่างแรง จากนั้นลำคอก็มีความรู้สึกหวานขึ้น
นี่คือความน่ากลัวของผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในแดนแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดงั้นหรือ?
แค่เพียงออร่าบู๊สายหนึ่งที่มาจากเสียงโกรธเกรี้ยว ก็ยังถึงกับทรงพลังได้ขนาดนี้
แต่ถึงกระนั้น สองพี่น้องตระกูลซ่งก็ยังคงยืนอยู่ต่อหน้าหม่าชาวและจ้องมองผู้อาวุโสเฉินด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ขอแค่หม่าชาวลงมือ พวกเขาก็จะไม่มีวันลังเล แม้ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ก็ต้องร่วมมือเพื่อต่อสู้กับผู้อาวุโสเฉินไปพร้อมกัน
“ผู้อาวุโสด้านซ้ายและขวา พวกคุณออกไปก่อน!”
หม่าชาวพูดขึ้นทันที
เมื่อได้ยินแบบนั้น สองพี่น้องตระกูลซ่งก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “คุณหม่า คุณจะทำอะไร?”
ดวงตาของหม่าชาวแดงก่ำ เขาพูดพร้อมกับกัดฟันแน่น “พี่เฉินอยู่ที่นี่มาสามวันเต็มๆแล้ว ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้างในตอนนี้ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว แล้วจะให้ฉันยอมแพ้ได้อย่างไร?”
เมื่อพูดจบ ออร่าบู๊อันน่าสะพรึงกลัวสายหนึ่งก็แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา
เป็นพลังของลูกแก้วดูดเลือดในตัวเขาที่ปะทุออกมา
ไม่เพียงแต่พลังในลูกแก้วดูดเลือดเท่านั้นที่ปะทุขึ้น แต่สายเลือดบรรพชนไป๋หลี่ในร่างกายของเขาก็ปะทุขึ้นเช่นกัน
ที่แท้หม่าชาวซึ่งอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าชั้นต้น ในเวลานี้ร่างกายของเขาก็เกิดออร่าบู๊และระเบิดพลังออกมา
“หืม?”
ใบหน้าของผู้อาวุโสเฉิน ในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นความตกตะลึง
เขามีพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้น แต่ในเวลานี้กลับยังรู้สึกได้ถึงอันตรายจากหม่าชาว และระดับความอันตรายนี้ก็ยังสูงมากอีกด้วย
“มันเป็นไปได้อย่างไร?”
ผู้อาวุโสเฉินตกใจอย่างมาก เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าออร่ากำลังภายในที่หม่าชาวระเบิดออกมา แค่ในเวลาไม่กี่อึดใจ มันกลับเพิ่มขึ้นจนแข็งแกร่งเหมือนกับพลังที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นต้นครอบครอง
อย่างไรก็ตาม แดนบูโดของหม่าชาวอยู่แค่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าชั้นต้นเองนี่!
ทำไมความแข็งแกร่งของเขาถึงสามารถระเบิดขึ้นไปถึงสองขั้นได้เพียงในเวลาอันสั้นขนาดนี้?
อย่างไรก็ตาม ออร่าบู๊ของหม่าชาวยังคงไม่สิ้นสุด และเขายังคงแข็งแกร่งขึ้นไป
ผู้แข็งแกร่งในแดนเหนือมนุษย์ขั้นสามชั้นสูงสุดที่ถูกเขาจับคอเสื้ออยู่ก็สั่นสะท้านเช่นกัน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาตะโกนลั่น “ท่านผู้นี้ ได้โปรดปล่อยผมไป อย่าฆ่าผม!”
หม่าชาวไม่ได้ทำให้นักบู๊ของสมาพันธ์บูโดต้องอับอาย เขาสะบัดมือจากนั้นอีกฝ่ายก็กระเด็นออกไป
ตอนนี้เขามีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวก็คือผู้อาวุโสเฉิน
เขาพยายามประคองสติของตัวเอง ดวงตาสีแดงเลือดทั้งสองของเขาจ้องไปที่ผู้อาวุโสเฉินและพูดพร้อมกับกัดฟันแน่นว่า “ฉันจะถามครั้งสุดท้าย จะพาฉันไปเจอพี่เฉินหรือไม่?”
ใบหน้าของซ่งจั่วและซ่งโย่ว ล้วนแสดงความกังวล
พวกเขารู้ดีอย่างยิ่งว่าครั้งที่แล้วหม่าชาวหมดสติไปถึงครึ่งก็เพราะลูกแก้วดูดเลือด ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเฉินหาแก้ววิเศษจรัสราตรีเจอจากเมืองหวยเฉิง ไม่อย่างนั้นเกรงว่าถึงตอนนี้หม่าชาวก็อาจจะยังไม่ฟื้น
ตอนนี้ หม่าชาวถูกบีบคั้นจนต้องใช้พลังของลูกแก้วดูดเลือดในร่างกายของเขา แล้วหลังจากนั้นแก้ววิเศษจรัสราตรีจะ สามารถระงับพลังของลูกแก้วดูดเลือดในร่างกายของเขาได้หรือไม่?
ผู้อาวุโสเฉินมองที่หม่าชาวอย่างแน่นิ่งแล้วพูดอย่างเย็นชา “พี่เฉินที่นายพูดถึง คือหยางเฉินใช่ไหม? สามวันก่อนหน้านี้ เขาตายไปพร้อมกับทิคาโนะ ทาเคชิแล้ว!”
“ไร้สาระ!”
หม่าชาวโกรธจัดทันที คำพูดของผู้อาวุโสเฉิน ทำให้เขาโกรธถึงขีดสุดแล้ว
ออร่าบู๊ของหม่าชาวพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง
ในเวลานี้ ออร่าบู๊ที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขานั้นเทียบได้กับแดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดขั้นเจ็ดแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น?”
หนิงเทียนเหอซึ่งอยู่ในสำนักงานใหญ่ของสมาพันธ์บูโด จู่ๆ ก็รู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งและชั่วร้ายจากภายนอก ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและเขาก็ลุกขึ้นยืน
“ข้างนอกมีสามคน พวกเขาต้องการพบคุณหยาง แต่ถูกผู้อาวุโสเฉินขวางเอาไว้อยู่ข้างนอก”
ในเวลานี้ มีผู้ใต้บังคับบัญชาขั้นแดนเหนือมนุษย์คนหนึ่งรีบเข้ามาและเอ่ยปากขึ้น
หนิงเทียนเหอขมวดคิ้วแน่นทันที “พวกเขาเป็นใคร? มาหาคุณหยางทำไม?”
ผู้ใต้บังคับบัญชาพูดอย่างรวดเร็ว “คนหนึ่งเป็นชายหนุ่มอายุราวยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปีและผู้สูงวัยสองคนอายุประมาณ 60 ปี ทุกคนล้วนมีความแข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าชั้นต้น ตอนนี้คนที่เผชิญหน้ากับผู้อาวุโสเฉินก็คือคนหนุ่ม”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของหนิงเทียนเหอก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เขาลุกขึ้นยืนและวิ่งออกไป
ในช่วงสามวันที่ผ่านมา เขาได้ตรวจสอบหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับหยางเฉิน และเขาก็รู้ว่าหยางเฉินมีพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายอยู่คนหนึ่ง และมีพรสวรรค์ด้านวิถีบู๊ที่ร้ายกาจมากเช่นกัน
หากเป็นไปอย่าที่คาดคิด คนหนุ่มที่เผชิญหน้ากับผู้อาวุโสเฉินอยู่ข้างนอกต้องเป็นหม่าชาว
ถ้าผู้อาวุโสเฉินทำร้ายหม่าชาว หากหยางเฉินตื่นขึ้น เขาคงหมดหนทางอธิบายให้หยางเฉินฟังได้
ตอนนี้ เขาได้แต่อธิษฐานว่าทั้งสองคนจะยังควบคุมตนเองเอาไว้ได้และอย่าได้ลงมือต่อกันเร็วเกินไปนัก
“ไสหัวออกไป!”
หม่าชาวตะโกนด้วยความโกรธ เขาก้าวไปข้างทันทีเพื่อเดินผ่านผู้อาวุโสเฉินและเข้าสู่สำนักงานใหญ่ของสมาพันธ์บูโด
แม้ว่าผู้อาวุโสเฉินจะตกใจกับความแข็งแกร่งของหม่าชาว แต่เขาก็ไม่ได้ถอยเลยแม้แต่น้อย เขาพูดอย่างโกรธเคือง “ที่นี่คือสำนักงานใหญ่ของสมาพันธ์บูโด คนนอกห้ามเข้าไป! ถ้านายยังรู้ตัวอยู่ก็ไปจากที่นี่เสียตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าประมือกันเมื่อไหร่ นายจะเหลือแต่ความตายเท่านั้น”
“ฆ่า!”
หม่าชาวตะโกนอย่างโกรธจัดแล้วพุ่งเข้าใส่ผู้อาวุโสเฉินทันที
พลังในลูกแก้วดูดเลือดนั้นชั่วร้ายมาก มันทำให้เขาต้องการฆ่าอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากกล้ามาขวางทางในการตามหาหยางเฉิน เขาก็จะฆ่าคนนั้น

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท