The king of War – บทที่ 2071 หยางเฉินรับดาบ

บทที่ 2071 หยางเฉินรับดาบ

สีหน้าที่แสดงออกถึงความระอาเอือม มองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่พูดว่า “ท่านผู้อาวุโสใหญ่ เวลานี้ตัวข้ายังเอาตัวเองไม่รอดเลย จะเข้ามาช่วยงานอะไรที่นี่ได้?”

ตามสภาพของเขาในปัจจุบัน ถ้าจะให้เข้าไปรับภารกิจของกลุ่มผู้อาวุโส ไม่แน่ว่าแทนที่จะปฏิบัติภารกิจได้แล้วเสร็จ กลับจะไปเป็นภาระให้กับกลุ่มอาวุโสโดยรวมได้

ผู้อาวุโสใหญ่หัวเราะแล้วพูดว่า “ที่เจ้ากังวลคือ พวกคนของโลกบู๊ล่างใช่ไหม?”

หยางเฉินผงกหัว

สามผู้อาวุโสมองหน้ากันแล้วหัวเราะ ตามด้วยผู้อาวุโสใหญ่ได้พูดขึ้นว่า “เจ้าวางใจได้ ในเมื่อพวกเราตั้งใจจะให้เจ้ามาปฏิบัติภารกิจนี้ แน่นอนว่าก็ต้องแก้ปัญหาที่รุมเร้าเจ้าอยู่ให้ได้ก่อน”

ได้ยินที่ผู้อาวุโสใหญ่พูดมา หยางเฉินรู้สึกดีใจขึ้นมาในทันที ที่เขามากลุ่มผู้อาวุโส ความจริงก็คือคิดจะมาเข้าในโลกใบเล็กที่ตู้จ้งบอกกับเขาไว้ เพื่อเป็นการหลบการตามล่าของพวกผู้แข็งแกร่งจากโลกบู๊โบราณล่าง

คิดไม่ถึงว่าผู้อาวุโสใหญ่กลับพูดออกมาเองว่าจะช่วยแก้ปัญหายุ่งยากให้เขา

ไม่รอให้หยางเฉินต้องถาม ก็เห็นผู้อาวุโสใหญ่หยิบกระบี่ยาวออกมาเล่มหนึ่ง บนด้ามของกระบี่ยาว สลักมังกรทองไว้ตัวหนึ่ง

ผู้อาวุโสใหญ่หัวเราะเสียงดัง แล้วพูดว่า “นี่คือกระบี่โอรสสวรรค์เจ้าเป็นถึงเทพสวรรค์ชายแดนเหนือ เจ้าก็ต้องเข้าใจดีกระบี่โอรสสวรรค์มีความหมายอย่างไรนะ?”

เมื่อหยางเฉินได้เห็นกระบี่โอรสสวรรค์อดไม่ได้ถึงกับสะท้านขึ้นมาทั้งตัว เขารู้สึกได้อย่างแจ่มชัด กระแสพลังเฉียบคมของกระบี่ แผ่กระจายออกจากตัวกระบี่โอรสสวรรค์

กระบี่ยังไม่ทันออกจากฝัก ก็สามารถทำให้คนรู้สึกถึงกระแสพลังของกระบี่ รู้ได้อย่างไม่ต้องคิด กระบี่เล่มนี้ไม่ใช่ของธรรมดาสามัญ เป็นไปได้อย่างมากว่าเป็นดาบอาถรรพ์ระดับสูงส่ง

หยางเฉินรีบผงกหัว สายตาที่รุ่มร้อนมองไปที่กระบี่โอรสสวรรค์พูดว่า “กระบี่โอรสสวรรค์ พูดได้ว่าก็คือดาบอาญาสิทธิ์ของกลุ่มผู้อาวุโส เหนือหัวขึ้นไปใช้ประหารทรราช ล่างลงไปประหารข้าหลวงเลว กระบี่โอรสสวรรค์ เป็นตัวแทนอำนาจสูงสุดของกลุ่มผู้อาวุโส”

ผู้อาวุโสใหญ่ยิ้มตาหยีพูดว่า “นี้เป็นเพียงการใช้งานด้านหนึ่งของกระบี่โอรสสวรรค์ เจ้ารู้ไหม กระบี่โอรสสวรรค์ยังมีการใช้ได้ในอีกเรื่องที่ใหญ่มาก?”

หยางเฉินผวาตกใจ กระบี่โอรสสวรรค์ที่ใช้ประหารทรราชเหนือหัวและข้าหลวงเลวได้ ยังใช้ในเรื่องอื่นได้อีก?

เห็นเขาส่ายหน้า ผู้อาวุโสใหญ่หัวเราะแล้วพูดว่า “กระบี่โอรสสวรรค์ เป็นดาบอาถรรพ์ระดับสูง ต่อให้ไปอยู่ที่โลกบู๊โบราณล่าง ก็ยังเป็นสุดยอดดาบอาถรรพ์”

“ผูครอบครองไว้ใช้ สามารถยืมพลังที่ระเบิดออกมาของดาบนี้ก้าวข้ามพลังฝีมือตัวเองที่มีอยู่ขึ้นไปอีกหนึ่งขั้นแดนเล็ก”

สีหน้าหยางเฉินเต็มไปด้วยควราตื่นตะลึง ในโลกนี้ ถึงกับมีของอาถรรพ์ที่ทำให้พลังฝีมือของคนก้าวขึ้นได้ถึงหนึ่งขั้นเล็ก ถึงแม้จะแค่เพียงหนึ่งขั้นเล็ก แต่นั่นก็เป็นความมีอยู่ของการฝืนกำหนดฟ้าแล้ว

ทว่า ผู้อาวุโสใหญ่พูดยังไม่จบ เขาพูดต่ออีกว่า “แน่นอน นี่ยังไม่ใช่สมรรถนะสูงที่สุดของกระบี่โอรสสวรรค์”

หยางเฉินกับหม่าชาวงงตะลึงยืนอยู่กับที่ หรือจะว่า กระบี่โอรสสวรรค์ยังมีสมรรถนะด้านอื่นอีก?

ใบหน้ายิ้มแย้มของผู้อาวุโสจู่ ๆ ก็หายไปในฉับพลัน มองไปที่กระบี่โอรสสวรรค์ ทันใดนั้นบนใบหน้าก็ถูกฉาบขึ้นด้วยท่าทีเคารพยำเกรง

“กระบี่โอรสสวรรค์เล่มนี้ สิงสถิตอยู่ด้วยวิญญาณต้าเหนิงในยุคเทพกาล ถ้าเมื่อใดที่เจ้าของดาบเล่มนี้ประสบภยันตรายกับชีวิต จะสามารถเรียกเอาวิญญาณต้าเหนิงท่านนี้ออกมา ระเบิดพลังแดนนภาขั้นสี่ชั้นต้นทั้งหมดจู่โจมใส่ออกไปในครั้งเดียว”

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความยำเกรงของผู้อาวุโสใหญ่ ชะงักอึ้งพักหนึ่ง พูดต่อไปว่า “แต่ว่า การที่คิดจะเรียกเชิญวิญญาณต้าเหนิงท่านนี้ออกมา จะเป็นการสูญเสียพลังของเจ้าของดาบนี้อย่างใหญ่หลวง ขนาดต้องดึงเอาชี่ทิพย์ของผู้เป็นเจ้าของออกมาเกือบทั้งหมด”

หยางเฉินกับหม่าชาวอึ้งทึ่งสุดหาที่จะสุดไม่ได้แล้ว ดาบเล่มเดียวนี้ ถึงขนาดระเบิดพลังผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสี่ชั้นต้นออกมาจู่โจมในครั้งเดียวได้

ถึงแม้ว่าจะต้องใช้ชี่ทิพย์ทั้งตัวของเจ้าของจนหมด แต่หากว่าสามารถระเบิดพลังแข็งแกร่งขนาดนี้ออกมาได้จริง นั่นจะไม่หมายถึง ในโลกใหม่ปัจจุบันนี้ จะเดินกร่างขวางไปยังไงก็ได้งั้นหรือ?

ต้องรู้ว่า ในโลกบู๊โบราณล่างทั้งหมด ผู้แข็งแกร่งที่มีพลังฝีมือสูงสุด พลังฝีมือก็ยังไม่เกินแดนนภาขั้นสามชั้นยอด แต่เจ้าของกระบี่โอรสสวรรค์สามารถระเบิดพลังฝีมือแดนนภาชั้นสี่ชั้นต้นออกมาโจมตีได้เลยในทีเดียว แม้อาจจะไม่ถึงกับฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามชั้นยอดได้ แต่ก็คงทำให้ฝ่ายตรงข้ามบาดเจ็บอย่างสาหัสได้?

ถ้าหากหยางเฉินครอบครองดาบนี้ได้ ภัยอันตรายต่าง ๆ ขณะนี้ ก็คงคลี่คลายไปได้ในทันที?

นานไปครู่ใหญ่ หยางเฉินจึงได้พูดออกมาอย่างตื่นใจว่า “พูดได้ว่า กระบี่โอรสสวรรค์เล่มนี้ ไม่ใช่ของที่จะเกิดขึ้นมาจากโลกนี้เลย”

“ฮา ๆ!”

เหล่าผู้อาวุโสหัวเราะกันขึ้นมา ผู้อาวุโสใหญ่พูดว่า “เจ้าพูดถูกแล้ว ดาบเล่มนี้ไม่ใช่ของที่ทำขึ้นมาได้ในโลกนี้”

หยางเฉินถามไปว่า “ผู้อาวุใหญ่ เมื่อครู่ที่ท่านบอกว่า มีวิธีจัดการแก้ปัญหาของข้าได้ แล้วจะเกี่ยวข้องยังไงกับกระบี่โอรสสวรรค์เล่มนี้หรือ?”

ผู้อาวุโสใหญ่ยิ้มจนตาหยีมองหยางเฉินถามไปว่า “เจ้าว่า ถ้าเจ้าเป็นเจ้าของกระบี่โอรสสวรรค์เล่มนี้ ปัญหายุ่งยากของเจ้า ยังจะใช่ปัญหายุ่งยากอีกหรือ?”

พูดคำนี้ออกมา หยางเฉินยืนตะลึงอยู่กับที่

กระบี่โอรสสวรรค์เป็นของวิเศษสุดของกลุ่มผู้อาวุโส ถึงแม้ไม่มีผู้อาวุโสใหญ่มาพูดเรื่องพวกนี้ แค่เท่าที่หยางเฉินเคยรับรู้เข้าใจเรื่องกระบี่โอรสสวรรค์นี้มา ดาบเล่มนี้ก็คือของวิเศษสุดของกลุ่มผู้อาวุโส

หยางเฉินฝืนยิ้มพร้อมกับส่ายหัว “ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านอย่ามาล้อเล่นกับข้าเลย ดาบอาถรรพ์แบบนี้ มีแต่จะต้องอยู่กับกลุ่มผู้อาวุโส จึงจะสำแดงประสิทธิภาพได้สูงที่สุด และดาบเล่มนี้ ก็จะต้องเป็นของกลุ่มผู้อาวุโส”

เป็นข้อเท็จจริงที่รู้กัน หากแม้นดาบเล่มนี้มีอันตกไปอยู่กับคนชั่ว จะนำมหันตภัยมาสู่โลกขนาดไหน

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าหยางเฉินได้ออกจากกองยุทธการแล้ว ต่อให้ว่าเขายังคงเป็นเทพสงครามเหมือนเหมือนครั้งก่อนนั้น ก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นเจ้าของกระบี่โอรสสวรรค์

ไม่ทันใครได้รู้ ผูอาวุโสใหญ่วางสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาในทันใดนั้น สองมือประคองกระบี่โอรสสวรรค์ สายตาเป็นแววประกายจ้องหน้าหยางเฉินตวาดใส่ไปว่า “หยางเฉิน รับคำสั่ง!”

ได้ยินคำที่ผู้อาวุโสใหญ่พูดมา หยางเฉินถึงกับสะท้านสั่นไปทั้งตัว ผุดลุกขึ้นด้วยจิตสำนึก ยืนตัวยืดตรง

สามผู้อาวุโส อีกทั้งหม่าชาว ก็พากันลุกยืนขึ้น

ทุกคนมีสีหน้าเคร่งขรึม

ผู้อาวุโสใหญ่พูดเสียงทุ้มหนัก “ข้าในนามของกลุ่มผู้อาวุโสจิ่วโจว ขอประกาศมาณ บัดนี้ ขอแต่งตั้งหยางเฉินให้รับตำแหน่งผู้อาวุโสสี่ เป็นผู้ถือครองกระบี่โอรสสวรรค์”

คำพูดนี้สั่งออกมา สีหน้าหยางเฉินเปลี่ยนไปรุนแรงอย่างฉับพลัน

ถึงยังไงเขาก็คิดไม่ถึงได้ กลุ่มผู้อาวุโสกลับจะมาให้เขาเข้ากลุ่มผู้อาวุโส อีกทั้งยังให้รับตำแหน่งผู้อาวุโสสี่
ต้องรู้ว่า ที่ผ่านมานับร้อยปี จำนวนผู้อาวุโสของกลุ่มมีอยู่เพียงสามคน ยังไม่เคยปรากฏมีคนที่สี่มาก่อนเลย

ไม่เพียงแต่เท่านั้น ผู้อาวุโสใหญ่ยังมอบหมายให้หยางเฉินเป็นผู้ถือครองกระบี่โอรสสวรรค์

หม่าชาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็อึ้งเซ่อไปเหมือนกัน ไม่ช้านักก็มีสีหน้าที่ตื่นเต้นขึ้นมาเต็ม พูดกับหยางเฉินที่ยืนงุนงงอยู่ว่า “พี่เฉิน รีบรับดาบสิครับ!”

หยางเฉินจึงได้มีสติคืนกลับมา แต่ก็ไม่ได้เข้าไปรับกระบี่โอรสสวรรค์ แต่กลับพูดไปด้วยความรู้สึกละอายแก่ใจว่า “หยางเฉิน ไม่เห็นคู่ควรด้วย!”

เขาถึงแม้เคยเป็นถึงเทพสงครามแดนเหนือ และก็เคยทำความดีความชอบให้กับจิ่วโจวมากมาย แต่เพียงอาศัยเหตุผลเหล่านี้ แล้วก็ให้เข้ามาในกลุ่มผู้อาวุโสเป็นผู้อาวุโสสี่ ยังไม่ได้ถึงขั้น

สำหรับการปฏิเสธของหยางเฉิน ทั้งสามผู้อาวุโสดูเหมือนไม่ได้รู้สึกผิดคาด ผู้อาวุโสใหญ่จึงได้พูดด้วยสีหน้าหนักแน่นว่า “หยางเฉิน นี่ไม่ใช่เรื่องของการคู่ควรไม่คู่ควร แต่ในโลกยุคใหม่ในปัจจุบันนี้ จำเป็นต้องมีคนหนุ่มแบบเจ้า มาดูแลปกป้องโลกยุคใหม่นี้ ดูแลปกป้องประชากรนับหมื่นล้านนี้”

“เจ้าเป็นคนที่พวกเราผู้อาวุโสทั้งสาม เห็นชอบเป็นเสียงเดียวกันให้เป็นผู้รับคัดเลือกเป็นผู้อาวุโส กลุ่มผู้อาวุโส ต้องการเจ้า จิ่วโจวต้องการเจ้า และโลกใหม่ที่กำลังเข้ามา ก็ต้องการเจ้า!”

“แต่งตั้งหยางเฉิน เป็นผู้อาวุโสสี่ แห่งกลุ่มผู้อาวุโสจิ่วโจว ผู้ถือครองกระบี่โอรสสวรรค์”

“หยางเฉิน รับดาบ!”

เสียงผู้อาวุโสใหญ่ ดังขึ้นอีกครั้ง

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท