เวลา 18:30 น. ณ ห้องประชุมชั้นบนสุดของโรงแรมจงโจว
แม้ว่าจะยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงเต็มก่อนเริ่มการประชุม แต่ที่นั่งหลายร้อยที่นั่งในห้องประชุมก็เต็มไปด้วยผู้คน ยกเว้นแถวหน้าสุด
วันนี้ ผู้ที่ได้รับเชิญไม่เพียงแต่เป็นตระกูลบู๊โบราณระดับท็อปห้าของจงโจวเท่านั้น แต่ยังมีผู้แข็งแกร่งจากกองกำลังอื่น ๆ ของโลกบู๊โบราณล่างด้วย
นอกจากนี้ยังมีบุคคลระดับท็อปของจงโจวทั้งหลาย
“คุณปู่ คืนนี้จะได้เห็นผู้อาวุโสสี่ในตำนานคนนั้นจริงหรือ?”
ในตำแหน่งด้านหน้า หญิงสาวสวยคนหนึ่งถามชายชราที่แต่งตัวหรูหราด้วยน้ำเสียงต่ำ
ชายชรายิ้มและพูดว่า ” “เสี่ยวอี้ หลานวางใจได้ อีกเดี๋ยวจะได้เจอผู้อาวุโสสี่อย่างแน่นอน เพราะท้ายที่สุดแล้วงานประชุมในคืนนี้ก็จัดขึ้นโดยผู้อาวุโสสี่”
สาวสวยที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวอี้ จู่ ๆ ก็หน้าแดงและพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า “คุณปู่ หนูบอกคุณหลายครั้งแล้วว่าต่อให้ผู้อาวุโสสี่จพเป็นคนหนุ่มมีพรสวรรค์ แต่หนูก็ไม่ชอบเขา อย่างมากที่สุดก็แค่ชื่นชมบูชาเท่านั้น”
ในสมองของเสี่ยวอี้ มีภาพคนหนึ่มที่เธอไม่มีวันลืมปรากฏขึ้น
บนที่นั่งข้างชายชราและหญิงสาวที่เรียกว่าเสี่ยวอี้ มีหญิงสาวสวยสองคนนั่งอยู่ข้างขวาและซ้ายของชราผู้หนึ่ง
ชายชราหลับตาและนั่งในท่าราวกับว่าเขาไม่สนใจทุกสิ่งภายนอก
“คุณปู่ ฉันได้ยินมาว่าการประชุมของผู้อาวุโสสี่ที่จะจัดขึ้นในคืนนี้อาจมุ่งเป้าไปที่ผู้แข็งแกร่งจากโลกบู๊โบราณล่าง หากเป็นอย่างนั้นจริงๆพี่ซือซือก็ไม่ต้องแต่งงานกับฉีอิงเฉียงแล้วใช่ไหม?”
หญิงสาวที่นั่งด้านขวาของชายชรามองชายชราทันทีและถามเสียงต่ำ
ชายชราลืมตาขึ้นทันที เขาตัวสั่นไปทั้งตัวและรีบตะคอก “หุบปาก!”
เขามองจากด้านหนึ่งไปอีกด้านและรู้สึกโล่งใจที่ไม่มีใครสนใจ
เขาจ้องไปที่หญิงสาวคนนั้นและพูดเสียงเบาอย่างยิ่งว่า “เสี่ยวหลินฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว? อย่าพูดในที่สาธารณะ เธอรู้ไหมว่านี่จะนำปัญหาใหญ่ขนาดไหนมาสู่ตระกูลกู้และตระกูลเซี่ยหากมีคนได้ยินที่เธอเพิ่งพูดไป?”
เสี่ยวหลินไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเซี่ยหลิน สาวงามตัวน้อยที่ได้พบกับหยางเฉินบนเครื่องบิน และหญิงสาวทางด้านซ้ายของชายชราคือกู้ซือซือ
ส่วนชายชราก็คือกู้ไท่ชูผู้นำตระกูลใหญ่ในจงโจว
แม้ว่าตระกูลกู้ไม่ใช่หนึ่งในกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในจงโจว แต่ก็เป็นตระกูลใหญ่ที่อยู่ถัดจากกองกำลังชั้นนำเหล่านั้น
เซี่ยหลิน ตกใจกับความโกรธของ กู้ไท่ชู เธอแลบลิ้นและกระซิบว่า “หนูก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีใครได้ยินสักหน่อย”
กู้ไท่ชู ชะงักไปชั่วครู่และพูดอย่างคาดหวัง “ทุกอย่างจะมีคำตอบ หลังจากการประชุมคืนนี้จะจบลง”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เซี่ยหลินก็รู้สึกยินดีในทันทีและพูดว่า “หนูเชื่อว่าผู้อาวุโสสี่จะไม่ทำให้เราผิดหวัง!”
ผู้คนส่วนใหญ่ที่ได้รับเชิญในวันนี้เป็นกองกำลังท้องถิ่นระดับสูงในจงโจว และกองกำลังเกือบทั้งหมดที่ได้รับเชิญจะนำหญิงสาวรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นในทุกด้านของตระกูลมา
ไม่ใช่เพื่ออะไรอื่น แต่เพราะพวกเขาได้ยินว่าผู้อาวุโสสี่ยังเด็กมาก พวกเขาหวังว่าหญิงสาวในตระกูลของพวกเขาจะโชคดีได้รับความสนใจของผู้อาวุโสสี่
หากผู้อาวุโสสี่ถูกใจผู้หญิงในตระกูลของพวกเขาจริงๆ ตระกูลของตนก็จะทะยานขึ้นไปบนฟ้าจริงๆ
ตอนนี้ที่ม่านพลังถูกทำลายไป ก็ถือเป็นยุคใหม่ของการฟื้นตัวทางจิตวิญญาณ ผู้อาวุโสสี่ที่เป็นคนหนุ่มมีพรสววรค์แบบนี้ อนาคตยังอีกยาวไกลและยังสามารถส่งเสริมตระกูลของพวกเขาให้อยู่จุดสูงสุดของจิ่วโจวทั้งหมดได้ด้วย
“ผู้บัญชาการเย่ มาแล้ว!”
ในขณะนี้ จู่ๆ ก็มีคนพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
สถานที่ประชุมที่มีเสียงดังเงียบลงทันที พวกเขามองไปที่ เย่จางกั๋ว ที่เดินไปยังตำแหน่งผู้ประกาศ
นอกจากเย่จางกั๋วแล้ว ยังมีหญิงสาวหน้าตางดงาม บุคลิกกล้าหาญ ก็นั่งลงในตำแหน่งผู้ประกาศด้วย
และตรงกลางของผู้หญิงคนนี้และ เย่จางกั๋ว ก็คือตำแหน่งผู้ประกาศตำแหน่ง C ซึ่งเห็นได้ว่าตัวตนของผู้หญิงคนนั้นไม่ธรรมดา
หญิงสาวสวมชุดเครื่องแบบสงคราม บนไหล่ประดับดาวทองสามดวง ซึ่งมีจำนวนมากพอๆ กับบนไหล่ของเย่จางกั๋ว
ทุกคนในงานต่างมีสีหน้าตกใจและจ้องมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เธอคือเมิ่งชิงหลัน หนึ่งในสี่ผู้พิทักษ์ชายแดนตะวันตกของจิ่วโจวในอดีต!
หญิงสาวในงานทุกคนต่างเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เมิ่งชิงหลัน อายุเพียง 30 ปี ซึ่งแก่กว่าหญิงสาวผู้ดีที่มาจากตระกูลที่ร่ำรวยเหล่านี้ไม่กี่ปี อย่างไรก็ตาม เมิ่งชิงหลัน กลับเป็นถึงผู้พิทักษ์ชายแดนตะวันตกอยู่แล้ว
เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีข่าวลือว่า เมิ่งชิงหลัน มาที่ จงโจวและก่อตั้งทีมนักบูโดขึ้น
นี่เป็นการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรกของ เมิ่งชิงหลัน
มีคนใหญ่คนโตคนหนึ่งในจงโจวที่แอบพูดอย่างลับๆ ว่า “เกรงว่าจะมีเพียงสตรีผู้นี้เท่านั้นที่คู่ควรกับผู้อาวุโสสี่?”
คนใหญ่คนโตหลายคนที่มาพร้อมกับหญิงสาวสวยของตระกูลต่างก็มีความคิดเดียวกันอยู่ในใจ
ในขณะนี้เอง เย่จางกั๋ว ก็กล่าวว่า “ยินดีต้อนรับสู่การประชุมที่จัดขึ้นในกองยุทธการจงโจวในคืนนี้! การประชุมในคืนนี้มีสองประเด็น ประเด็นแรกคือ กองกำลังนักบูโดจงโจว ซึ่งจะจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในวันนี้ และจากนี้ ขอเชิญผู้นำกองกำลังนักบูโดจงโจว หัวหน้า เมิ่งชิงหลัน กล่าวสุนทรพจน์!”
ตามที่คาดไว้ เป็นอดีตผู้พิทักษ์ชายแดนตะวันตก เมิ่งชิงหลัน!
หลังจากความเงียบในช่วงเวลาสั้น ๆ ทั้งงานก็ปะทุขึ้นด้วยเสียงปรบมือดังกึกก้อง
เมิ่งชิงหลัน มองไปที่ผู้คนทั้งหมดและพูดทันทีว่า “กองกำลังนักบูโดจงโจว เป็นทีมนักบูโดที่ก่อตั้งโดยนักบูโดรุ่นแรก ก่อนหน้านี้เราได้เรียกนักบูโดทั้งหมดเข้าร่วมทีม แต่ยังไม่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการ”
“วันนี้ ในนามตัวแทนของกองกำลังนักบูโดจงโจว ฉันขอเชิญนักบูโดที่บรรลุถึงระดับแดนเหนือมนุษย์ที่ผ่านการทดสอบ สามารถมาเข้าร่วมกองกำลังนักบูโดได้ทั้งสิ้น และร่วมกันรักษาระเบียบของโลกนักบูโดใหม่ คำพูดของฉันจบแล้ว ขอบคุณ!”
เป็นคำพูดที่เฉียบคมจริงๆ ปราศจากเรื่องไร้สาระหรือเสแสร้งใดๆ ตรงประเด็น และทำให้ทุกคนในงานเข้าใจสไตล์การทำสิ่งต่างๆ อย่างจริงจังของเมิ่งชิงหลัน
ตอนนี้ที่งานมีเสียงปรบมือดังขึ้นอย่างอบอุ่น
ในฝูงชน นักบูโดผู้แข็งแกร่งบางคนจากโลกบู๊โบราณล่างบางส่วนกลับไม่ได้ปรบมือ บนสีหน้ามีเกียรติของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
ในช่วงเวลานี้ เนื่องจากไม่มีการออกกฎใหม่สำหรับนักบูโด นักบูโดเหล่านี้จากโลกบู๊โบราณล่างได้รับการหล่อเลี้ยงในทุกที่ในจิ่วโจว
คำพูดของ เมิ่งชิงหลัน ทำให้พวกเขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรง
นักบูโดจากโลกบู๊โบราณล่างเหล่านี้มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอย่างมาก สิ่งที่เป็นอันตรายต่อพวกเขาดูเหมือนจะยังรออยู่
ตอนนี้ยังเป็นเวลาเพียง 6:30 นาที และยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงเต็มก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการ
ทำไมการประชุมในกองยุทธการจงโจวถึงได้เริ่มเร็วขึ้นครึ่งชั่วโมง
หรือว่าตอนนี้มันจะไม่ใช่การประชุมอย่างเป็นทางการ และข่าวสำคัญจริง ๆ จะไม่เผยแพร่จนกว่าจะถึงเวลา 19.00 น.?
“ฮึ่ม!”
ในขณะนี้เอง เสียงที่เย็นชาก็ดังขึ้นมา เป็นนักบูโดจากโลกบู๊โบราณล่างจ้องมองที่ เมิ่งชิงหลัน ด้วยใบหน้าที่ดุร้ายและพูดว่า “เธอเป็นใครกัน? ก็แค่นักบูโดแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น มีคุณสมบัติที่จะเป็นหัวหน้ากองกำลังนักบูโดหรือไง?”
คำพูดนี้ทำให้ผู้ชมตกใจ!
นี่คือการประชุมของกองยุทธการจงโจว เมิ่งชิงหลัน เป็นผู้พิทักษ์ชายแดนตะวันตกในอดีต และข้างๆ เธอก็ยังมี เย่จางกั๋ว ที่เป็นผู้บผู้บัญชาการของกองยุทธการจงโจวก็อยู่ที่นั่นด้วย
นอกจากนี้ ในงาน ยังมีผู้แข็งแกร่งระดับแนวหน้าของกองยุทธการจงโจวอยู่อีกมากมาย
ผู้ชายคนนี้บ้าหรือเปล่า? กล้าดียังไงมาพูดจารุนแรงขนาดนี้
ดวงตาของเมิ่งชิงหลันฉายแสงเฉียบคม เธอหรี่ตามองอีกฝ่ายและพูดว่า “ขยะจากโลกบู๊โบราณล่าง นายอยากตายหรือไง?”
บูม!
คำพูดของเธอเสมือนหินก้อนใหญ่ที่ตกลงไปในทะเลและก่อเป็นคลื่น
ทุกคนจ้องมองไปที่เมิ่งชิงหลัน แม้ว่าเธอจะเป็นอดีตผู้พิทักษ์ชายแดนตะวันตก แต่สิ่งที่เธอต้องรับมือในตอนนี้คือผู้แข็งแกร่งจากโลกบู๊โบราณล่าง คำพูดของ เมิ่งชิงหลัน เป็นความท้าทายสำหรับผู้แข็งแกร่งจากโลกบู๊โบราณล่างทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย
ลมปราณอันทรงพลังเต็มเปี่ยมแผ่ซ่านออกมาและล็อกตัว เมิ่งชิงหลัน ไว้
อย่างไรก็ตาม เมิ่งชิงหลัน ยังคงนั่งอย่างมั่นคงราวกับภูเขาและมองไปที่นักบูโดของโลกบู๊โบราณล่างที่เพิ่งเอ่ยพูดคำดูถูกคนนั้น