บทที่ 26 ชอบไหม
อาหารเย็นถูกจองไว้ที่โรงแรมซุส ตอนหนึ่งทุ่มตรง ก่อนหน้าครึ่งชั่วโมง ซูย้าวก็ถูกพ่อบ้านพามาส่งแล้ว
เธอสวมชุดเดรสสั้นสีแดงเข้ม แต่เพราะมาเร็วเกินไป จึงสวมเสื้อคลุมกันลมสีอ่อนเอาไว้ข้างนอก สวยงามสง่า รูปร่างหน้าตาที่งดงาม ทำให้ดูสมบูรณ์แบบ
ภายนอกของโรงแรมเงียบมาก นอกจากรถที่ผ่านไปมาเป็นครั้งคราว ไม่มีแม้แต่เงาของแขกสักคน เทียบกับความครึกครื้นในอดีต ช่างแตกกันเหลือเกิน
ซูย้าวก็ไม่ได้คิดอะไรมาก และก้าวเข้าไปในโรงแรม
ภายใต้การต้อนรับของบริกรที่ห้องโถง เข้าไปยังสถานที่จัดงาน และยังเป็นสถานที่หลักในการจัดงานเลี้ยงนี้
ในขณะที่ก้าวเข้าไป ซูย้าวก็ต้องตกตะลึง
สถานที่จัดงานใหญ่โต แต่………ไม่มีใครเลยสักคนเดียว!
นอกจากเธอแล้ว ก็มีแต่ความว่างเปล่า
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
อยากจะถามบริกร แต่อีกฝ่ายไม่รอให้เธอส่งสัญญาณมือ ได้แต่ยิ้ม แล้วจากไป
ซูย้าวมีคำถามอยู่เต็มหัว กำลังคิดว่ามาปิดโรงแรมรึเปล่า ในทิศทางของแท่นพูดที่อยู่ไม่ไกลออกไป จู่ๆก็มีเสียงดังออกมา
เสียงไวโอลินที่ผ่อนคลาย มีความไพเราะและนุ่มนวล
ด้วยเสียงเพลงที่ไพเราะ หน้าจออิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่ค่อยๆเปิดออก และเปิดภาพถ่ายงานแต่งงานของ ลี่เฉินซีกับซูย้าววนไปมา
สิ่งนี้ถ่ายไว้เกือบหนึ่งปีที่แล้ว หลังจากที่ทั้งสองคนจดทะเบียนกัน เพื่อเก็บไว้ใช้ในยามต้องการ จึงได้ถ่ายเอาไว้….
ไม่เพียงแต่มีภาพงานแต่งงานของทั้งสองคน แต่ยังมีลี่เจิ้ง เด็กน้อยที่เพิ่งเกิดออกมา ที่ยังคงนอนอยู่ในตู้อบทารก ใบหน้าน้อยๆเป็นสีแดงก่ำ ยังไม่ลืมตา
หลังจากนั้นลี่เจิ้งก็เติบโตขึ้นทุกวัน ถึงตอนนี้ก็สองเดือนกว่าแล้ว รูปถ่ายนี้ได้ถูกตัดต่อเป็นพิเศษ ด้านข้างมีพัฒนาการแต่ละสัปดาห์ของลูกน้อย ซึ่งทำได้ละเอียดมาก
ซูย้าวเพลินอยู่กับภาพถ่ายและวิดีโอบนจอขนาดใหญ่ แม้กระทั่งตอนที่ลี่เฉินซีเข้ามาปรากฏตัวอยู่ด้านข้างตัวเอง ก็ไม่ได้สังเกตเห็น
ทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้น ซูย้าวถึงกับผงะด้วยความตกใจ
“ซูย้าว”
เขาเรียกเธอ ด้วยเสียงแผ่วเบาดุจควัน เสียงของเขาแหบเล็กน้อย
เธอจ้องมองเขาด้วยความงุนงง ผู้ชายที่อยู่ใกล้ๆนี้ มีร่างสูงใหญ่โอบล้อมไว้ อ่อนโยนและนุ่มนวล ดวงตาลึกล้ำเปล่งประกาย ไม่เหมือนกับสายตาที่เฉยเมยและหม่นหมองในวันปกติ แต่ก็มีความเคร่งขรึมอยู่เล็กน้อยอย่างชัดเจน
นี่มัน…..อะไรกัน
“วันนี้เมื่อปีที่แล้ว พวกเราจดทะเบียนสมรสกัน ยังจำได้ไหม” เสียงของลี่เฉินซีแผ่วเบา มีรอยยิ้มเล็กน้อยที่ยากจะเห็นอยู่มุมปาก
ไม่ทันรอให้เธอคิด เขาได้พูดขึ้นมาอีก “วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของเรา เช่นเดียวกัน วันนี้เมื่อสองเดือนก่อน คุณให้กำเนิดลูกของพวกเรา…….”
ฮึ้ม!
ซูย้าวรู้สึกเพียงว่าเหมือนสมองแทบบจะระเบิดในทันที เสียงจำนวนนับไม่ถ้วนดังกึกก้องอยู่ในหู เธอมองไปยังผู้ชายตรงหน้าด้วยความตกตะลึง เหมือนอยู่ท่ามกลางเมฆหมอก เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
วันครบรอบแต่งงานอะไรกัน วันนี้เมื่อเดือนที่แล้วอะไรกัน…..
ทันใดนั้น ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างกะทันหันและกดหน้าลงมาใกล้เธอ ประกบเข้ากับริมฝีปากของเธออย่างแม่นยำ จิกเบาๆ สายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง ผนวกกับความประหลาดใจของเธอ
เธอเพียงแต่รู้สึกหนาวที่คอเท่านั้น เมื่อลดสายตาลง ก็ได้เห็นกับสร้อยคอปรากฏบนคอของเธอ และยังมีจี้เพชร เม็ดเล็กแต่หรูหรา
ซูย้าวยิ่งรู้สึกสับสน
เมื่อสังเกตเห็นสายตาที่สงสัยของเธอ ลี่เฉินซีก็ยิ้มเบาๆ รอยยิ้มที่เรียบง่าย สุขสบายราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
ทันทีที่มืออันใหญ่ของเขาเอื้อมไปยังเอวที่ผอมเพรียวของเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ปรากฏภาพของตัวเธอเองเล็กๆสองคนในดวงตาคู่นั้น
“สุขสันต์วันเกิด!”
ซูย้าวตกใจ วันเกิดเหรอ
“จำไม่ได้เหรอ วันนี้เป็นวันเกิดของคุณไง! แล้วมันก็เป็นวันครบรอบแต่งงานของเราด้วย!”
น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวและอ่อนโยน เธอกลับยังคงจมอยู่กับความสับสนวุ่นวาย ความหอมหวานของเขาหยุดชะงักลง และลี่เฉินซีโน้มตัวลงไปอีกครั้ง ประกบจูบลงบนริมฝีปากของเธอ
มันเป็นแค่เพียงรสชาติที่เรียบง่าย แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอกลับเคลิบเคลิ้มจบควบคุมไม่ได้ ใคว่คว้าความอ่อนโยนของเธอ ครอบงำ แข็งแกร่ง
ซูย้าวเหมือนถูกขังอยู่ในวังวน ในสมองเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆมากมาย ราวกับว่าทั้งหมดจะว่างเปล่าอีกด้วย จนกระทั่งสิ้นสุดการจูบของเขา
แตกต่างกับสถานการณ์ของเธอ ลี่เฉินซียืดตัวขึ้น จับมือเธอ ประสานนิ้วทั้งสิบเข้าด้วยกัน “มาเต้นรำกับผมเถอะ!”
วินาทีต่อมา มืออันทรงพลังของเขาโอบกอดเอวของเธอ และเริ่มเต้นรำ และดนตรีก็มีการเปลี่ยนไปตามบรรยากาศ จากไวโอลิน เปลี่ยนเป็นดนตรีของการเต้นรำ
ความคิดทั้งหมดของซูย้าวจดจ่ออยู่กับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า ไม่ได้รู้สึกถึงบรรยากาศโดยรอบแม้แต่น้อย แม้แต่แสงกะพริบ ก็ไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากเธอได้
แต่ทั้งหมดนี้ กลับตกอยู่ในสายตาของลี่เฉินซี
เขาสังเกตเห็นได้ชัดตั้งแต่แรก ในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ ประตูที่อยู่ตรงหัวมุมถูกคนเปิดออก มีคนลักษณะคล้ายนักข่าวหลายคนแอบเข้ามา ยกกล้องถ่ายรูปไว้สูงเหมือนต้องการถ่ายภาพบางอย่าง
ซูย้าวเพิ่งรู้สึกตัว และความคิดมากมายก็ปรากฏขึ้นในใจ ก็เห็นชัดๆอยู่ว่าวันเกิดของตัวเองคือเดือนเจ็ด หรือว่าเมื่อคืนนี้คงจะบอกผิดไป
นอกจากนี้ วันที่จดทะเบียนสมรสเมื่อหนึ่งปีก่อน เห็นได้ชัดว่าเป็นปีต่อมา แล้วทำไมถึง…….
ในขณะที่ความคิดกำลังผันผวน กวาดสายตาไปเห็นคนสองสามคนอยู่ที่มุมห้อง ขนตาของซูย้าวก็สั่นในทันที จังหวะการเดินของเท้าก็เป็นไปอย่างทุลักทุเล
เมื่อสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของเธอ ลี่เฉินซีก็กางแขนออก ใช้แรงเล็กน้อย ร่างกายของซูย้าวก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา กระแทกลงบนหน้าอกอันแข็งแกร่งของเขา สายตาของซูย้าวก็ดูตื่นตระหนกและยังเลิกลัก
เขาเอนตัวลง หายใจลดลงข้างหูของเธอ มีความร้อนรุ่ม ราวกับว่าหัวใจของเธอกำลังถูกเผาไหม้ ริมฝีปากของลี่เฉินซีขยับเล็กน้อย “คุณรู้ว่าควรทำยังไง!”
เสียงอันทุ้มต่ำและเยือกเย็น มีเพียงคนสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน
เห็นได้ชัดว่ามันหนาวเหน็บ ดูอันตราย
นอกจากนี้ชายคนนี้ยังดูเป็นคนโหดเหี้ยม และก้าวร้าว
ในช่วงเวลาหนึ่ง ซูย้าวเปรียบเหมือนหุ่นเชิดที่ถูกชักด้วยเชือก ถูกควบคุมโดยเขา สูญเสียความเป็นตัวเอง
ไม่ง่ายเลยกว่าเพลงเต้นรำจะจบลง เขาจับมือของเธอไว้ ดวงตาที่ดูดุร้ายมองกดลงมา ประกายของความเยือกเย็นก็ปรากฏขึ้น
“คืนนี้ งานเลี้ยงเย็นนี้ เตรียมไว้สำหรับเราสองคนโดยเฉพาะ คุณชอบไหม”
ซูย้าวมองไปที่เขา ดวงตาดุจดั่งดวงดาว ที่อ่อนโยนส่องแสงสว่างเหมือนทางช้างเผือก ที่มีแสงสว่างไร้ขอบเขต
เธอแทบจะเหมือนจมน้ำลงต่อหน้าเขา แต่ในช่วงเวลาที่ถูกครอบครอง กลับรู้สึกกลัว ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียง…..การแสดงฉากหนึ่งที่ถูกเตรียมมาอย่างดี
ต้องขอบคุณความงี่เง่าของเธอ จนเกือบจะหลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง!
“ทำไมเหรอ ไม่ชอบหรือไง”
ลี่เฉินซีถาม มืออันบางใสลูบไล้ไหล่ของเธอด้วยความอ่อนโยน แต่ความแข็งแกร่งก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นนี่ไม่ใช่คำถาม แต่เป็นการคุกคาม
ซูย้าวไม่สามารถอธิบายได้ จู่ๆก็มีความรู้สึกที่ไร้เหตุผลเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วหัวเราะ!
ฉากทั้งหมดนี้ที่เรียกว่าการแต่งงาน ในสายตาของเขา ก็เป็นเพียงแค่ข้อต่อรองของการแสดงงั้นเหรอ
ถ้าหากว่าใช่ อย่างนั้นเธอจะคิดอะไรอีก
แล้วลี่เจิ้งคิดอะไร
ซูย้าวกดริมฝีปากล่างของเธอแน่น และพยักหน้าอย่างแรงเหมือนการทุบกระเทียม
มุมริมฝีปากถูกยกขึ้น รอยยิ้มที่สดใสกลับมาเหมือนเดิม แต่เพียงว่าเพราะอะไร หัวใจของเธอถึงยังรู้สึกเจ็บปวด ภายในเต็มไปด้วยพลังอันมหาศาลที่ทำร้ายเธออย่างไม่เต็มใจ สั่นคลอนนั้นไม่ได้เป็นไปตามสภาพจิตใจ ทำให้ปวดแทบเป็นบ้า!
รุ่งขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ก็ได้ถูกเปิดเผยออกไป
ครองตำแหน่งพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับอย่างเบ็ดเสร็จ ครองความยอดนิยมอันดับสามของเวยป๋อ
และลี่เฉินซีกลายเป็นภาพลักษณ์ของผู้ชายที่แสนดีคนใหม่ที่ได้รับความคาดหวังอย่างสูง ในขณะที่มีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น ซูย้าวก็กลายเป็นที่อิจฉาของกลุ่มผู้หญิงนับไม่ถ้วน
ซินเดอเรลล่าและเจ้าชาย ซินเดอเรลล่ายุคใหม่ ดูเหมือนจะกลายเป็นชื่อใหม่ของซูย้าว
เมื่อดูความคิดเห็นของชาวเน็ตจำนวนนับไม่ถ้วนบนเวยป๋อในมือถือ มือที่จับโทรศัพท์ของซูย้าว มีอาการสั่นเล็กน้อย