บทที่ 87 อยู่เป็นเพื่อนเธอก่อนไม่ได้หรือ
หลังจากงานแถลงข่าวการลงนามของกรุ๊ป Kและบริษัทลี่ซื่อในโครงการ CCU สิ้นสุดลงลี่เฉินซีก็ได้รับสายหนึ่งที่ติดต่อมาหาเขา
เป็นสายเรียกเขาจากหานฉ่ายหลิง
เธอพูดด้วยเสียงสั่นและกระวนกระวายอย่างมาก
“เฉินซี ฉันรู้ว่าไม่ควรรบกวนคุณในเวลานี้ แต่……นอกจากคุณฉันไม่รู้จะติดต่อใครแล้วจริง ๆ ขอโทษด้วยนะ!”
หานฉ่ายหลิงในโทรศัพท์เอาแต่ขอโทษด้วยความรู้สึกผิดที่ทำเช่นนี้ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจริง ๆ
ลี่เฉินซีเพิ่งจบงานแถลงข่าวประธานไซม่อนก็ได้ชวนเขาร่วมงานฉลองในเย็นวันนี้ ในฐานะประธานบริษัทลี่ซื่อเขาจำเป็นต้องเข้าร่วมงานนี้อยู่แล้ว
เขากำลังเตรียมตัวอย่างอารมณ์ดี แต่ได้ถามเธออย่างเฉยเมยว่า “มีอะไรเหรอ? เกิดอะไรขึ้น?”
“เป็นเรื่องในบริษัทของฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น วันนี้มีคณะกรรมการตรวจสอบวินัยเข้ามา เจ้าหน้าที่จากศาลอัยการและตำรวจก็เข้ามาเพื่อจะจับกุมรองประธานของฉัน แต่ตอนนี้รองประธานหลินหายตัวไปแล้ว!”
หานฉ่ายหลิงยังรู้สึกตื่นกลัวอยู่ ดังนั้นเธอจึงเล่าได้แค่คร่าว ๆ
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของเธอ ลี่เฉินซีก็รู้สึกใจไม่ดีแล้ว
เขาจึงรีบพูดตอบ “เดี๋ยวผมให้หวางอี้ตรวจสอบดูก่อน คุณรอผมติดต่อไปนะ!”
หลังจากวางสายลงเขาก็ให้หวางอี้ติดต่อกลับประเทศเพื่อสืบสถานการณ์ของบริษัทHSทันที
สำหรับหวางอี้แล้วไม่ใช่อุปสรรคใด ๆ นอกจากนี้บริษัทลี่ซื่อยังมีแหล่งข่าวเฉพาะ ดังนั้นเพียงไม่กี่นาทีก็ได้ข้อมูลนี้มาแล้ว
ผลการตรวจสอบก็คือรองประธานหลินของบริษัทHSได้ทำการยักยอกเงินหมุนทั้งหมดของบริษัทเข้าไปในทรัพย์สินภายใต้ชื่อของเขา จากนั้นได้หายตัวไป
เอาหนีไปใช้ชีวิตอย่างสบายใจในประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาของการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้หานฉ่ายหลิงต้องพลอยลำบากไปด้วย ก่อนหน้านี้เธอใช้เงินทุนทั้งหมดของบริษัทHSที่นำไปใช้ในการปกป้องบ้านหลังเก่าของซูย้าวไว้ก็ทำให้ผู้ถือหุ้นหลายคนต้องไม่พอใจเธออยู่แล้ว มันไม่ง่ายเลยที่ทุกอย่างมันจะสงบลงแต่ในที่สุดเธอก็ยังมีหนี้ก้อนโตอยู่ดี
จนถึงวันนี้รองประธานหลินก่อเรื่องให้เธออีกครั้ง ก่อนหนีไปเขาได้ใส่ร้ายหานฉ่ายหลิงเรื่องการร่วมทุนฉ้อโกงและอีกหลาย ๆ ความผิด ถ้าทุกอย่างถูกผุดขึ้นมาอีกครั้ง ภัยครั้งนี้คงเป็นชะตากรรมที่เธอหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน
เพียงไม่กี่วันก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
เมื่อลี่เฉินซีฟังคำอธิบายอย่างละเอียดของหวางอี้เสร็จเขาก็ทนนิ่งเฉยไม่ได้อีก เขารีบติดต่อกลับไปหาหานฉ่ายหลิงแล้วพูดเพียงสั้น ๆ คำเดียวและได้วางสายไป
แต่เป็นคำพูดสั้น ๆ ที่ทำให้ความกังวลของหานฉ่ายหลินหายไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นทันที
เขาบอกกับเธอว่า “รอผมนะ ผมจะกลับไปทันที!”
นอกจากนี้เขายังสั่งให้หวางอี้จัดทีมทนายของบริษัทลี่ซื่อเพื่อปกป้องหานฉ่ายหลิงคนเดียวด้วย
ก่อนขึ้นเครื่องเขาได้เตรียมการทุกอย่างจนเสร็จ
ทุกอย่างถูกจัดเตรียมด้วยความระมัดระวังและเฉียบขาด
ซึ่งนี่ก็คือวิธีการทำงานของเขา
แต่ในช่วงที่เขากล่าวลากับประธานไซม่อน คริสตินได้เห็นสีหน้าของเขาค่อนข้างรีบร้อนจึงได้แอบตามไปด้วยและเธอก็ได้ยินบทสนทนาระหว่างเขากับหวางอี้พอดี จึงทำให้เธอเข้าใจเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น
คริสตินจึงดีดตัวออกจากไซม่อนเพื่อไปดักรอลี่เฉินซีที่กำลังจะลงชั้นล่าง
“ประธานลี่รีบกลับไปแบบนี้คงเกิดเรื่องกับคนสำคัญในประเทศแล้วสินะ!”
เพียงแค่คำเดียวและการแสดงออกของคริสตินทำให้จุดประกายความโกรธในใจของลี่เฉินซีทันที
แต่เขาไม่ได้เป็นคนที่แสดงออกทางอารมณ์ได้ง่าย ๆ ดังนั้นเขาแค่มองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสีหน้าเย็นชา “บริษัทลี่ซื่อกับกรุ๊ป Kแค่ร่วมมือในโครงการเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงทุกการเคลื่อนไหวของเราต้องรายงานให้กับทางกรุ๊ป Kทราบนะครับ!”
“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว! แต่โดยส่วนตัวแล้วฉันค่อนข้างชอบคุณซูย้าว ดังนั้นจึงใช้เสรีภาพในการถามคำถามหน่อย เพราะที่ท่านประธานลี่กลับไปอย่างกระทันหันแบบนี้ แล้วคุณนายลี่ที่กำลังป่วยหนักอยู่ต้องไง?” เธอถามตรง ๆ
จู่ ๆ ก็พูดถึงซูย้าวขึ้นมา จึงทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลาของลี่เฉินซีกลายเป็นความเศร้าและแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน
หลังจากเงียบไปไม่กี่วินาทีคริสตินก็ได้พูดต่ออย่างไม่รอช้า “หรือว่าประธานลี่ไม่เคยคิดถึงซูย้าวเลย!”
การที่จะเข้าใจความคิดและความลับที่ซ้อนอยู่ในจิตใจคน ผ่านการสังเกตการแสดงออกที่ละเอียดอ่อนของคน ๆ นั้น เป็นความสามารถพิเศษของคริสตินอยู่แล้ว
ณ เวลานี้ เธอพูดต่ออย่างไม่เกรงใจใครอีก “ฉันสามารถมองออกได้ ในวงการนี้ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาเหมือนท่านประธานลี่กับคุณซูย้าวนั้นฉันเป็นเรื่องปกติมาก ดังนั้นไม่จำเป็นต้องปิดบังหรอก!”
ใบหน้าหล่อเหลาของลี่เฉินซีดูเคร่งขรึมและเย็นเยือกขึ้นมาทันที “สรุปคุณอยากจะพูดอะไร?”
“ฉันไม่ได้อยากพูดอะไรหรอก แต่ฉันอยากให้ประธานลี่ดูอะไรบางอย่างมากกว่า”
จากนั้นคริสตินก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเปิดคลิปวิดีโอให้ลี่เฉินซีดู
เป็นคลิปวิดีโอที่ซูย้าวบังคับให้เธอลบก่อนหน้านี้
คริสตินรู้ดี การที่เธอทำเช่นนี้มันไม่มีผลดีกับเธอเลย เธออาจจะทำให้ลี่เฉินซีรำคาญและอีกอย่าง……อาจนำไปสู่ความร่วมมือในโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จด้วย
เพราะถึงอย่างไรก็ตาม การที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งต้องรู้สึกแย่มันจะไม่เกิดผลดีอย่างแน่นอน!
แต่เธอแค่รู้สึกไม่มีความเป็นธรรมต่อซูย้าวเท่านั้น!
ในฐานะที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน เธอไม่ต้องการเห็นผู้หญิงใสซื่อคนหนึ่งต้องถูกดูถูกทั้ง ๆ ที่เบื้องหลังได้ทุ่มเทให้กับเขาอย่างสุดหัวใจ!
“ยังไงเธอก็เป็นภรรยาของคุณอยู่แล้ว เป็นแม่ของลูกคุณด้วย บางที่บริษัทลี่ซื่อของคุณอาจจะมีอิทธิพลต่อที่นี่และทำให้เธอได้รับการดูแลที่ดีก็จริง แต่ท่านประธานลี่ควรได้รับการยินยอมก่อนที่คุณจะกลับไปหาผู้หญิงอีกคนไหม?”
นี่คือเรื่องพื้นฐานที่สุดของการให้เกียรติกันในความสัมพันธ์ของสามีภรรยาก็ว่าได้!
ลี่เฉินซีเงียบไป สายตาอันเย็นชาของเขาคู่นั้นได้แต่จับจ้องไปที่คลิปวิดีโอในโทรศัพท์ เขาเห็นผู้หญิงซื่อบื้อคนนั้นวิ่งออกไปในค่ำคืนที่ฝนฟ้ากระหน่ำ เธอเปียกไปทั้งตัวแต่ยังเก็บยาไว้ในอ้อมแขนอย่างระมัดระวัง……
ดังนั้นเธอถึงป่วยหนักขนาดนี้
ดังนั้นเธอถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้
ดังนั้นเธอถึงมีรอยขีดข่วนมากมายที่เทาของเธอ!
ที่แท้คนร้ายได้ทำร้ายเขาคนเดียวเท่านั้น
ช่างเป็นผู้หญิงที่ซื่อบื้อจริง ๆ
คริสตินได้พูดในขณะที่ยื่นโทรศัพท์มือถือให้เขาด้วยว่า “คนที่จ้างวางคนร้ายให้ไปทำร้ายท่านประธานลี่คือฉันเอง ฉันเสียใจมากที่ทำเช่นนี้ แต่หากคุณต้องการให้ฉันชดใช้ในสิ่งทำไปฉันยินดียอมรับมัน ไม่ว่าจะเป็นไปตามกฎหมายหรือชดใช้ค่าเสียหายฉันขอรับผิดชอบคนเดียว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ กรุ๊ป K”
หลังจากพูดจบเธอเก็บโทรศัพท์แล้วเดินจากไปทันที
ช่างเป็นผู้หญิงที่เด็ดเดี่ยวจริง ๆ เด็ดเดี่ยวจนทำให้เขาต้องรู้สึกตกใจ
หลังจากนั้นไม่นานลี่เฉินซีถึงจะดึงสติกลับมาได้ เขาลงไปชั้นล่างแล้วขึ้นรถและสั่งให้หวางอี้ตรงไปที่สนามบินทันที
แต่พอรถมาได้ครึ่งทางเขาก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“ไปโรงพยาบาล”
หวางอี้ถึงกับงุนงงแต่ไม่กล้าขัดคำสั่ง เขาจึงกลับรถแล้วตรงไปที่โรงพยาบาล
ในขณะที่ลี่เฉินซีไปถึงโรงพยาบาลซูย้าวยังคงหลับสนิทอยู่
ไข้ของเธอยังคงขึ้นสูงและร่างกายก็ยังอ่อนเพลีย
เมื่อหมอไมค์ผู้รับผิดชอบดูแลอาการซูย้าวเห็นลี่เฉินซีเดินเข้ามาก็รีบเชิญเขาไปที่ห้องทำงาน “คุณลี่ครับ ร่างกายของภรรยาคุณเป็นกรณีพิเศษ เธอคงเคยได้รับสารพิษบางชนิดมาก่อน จนทำให้ทุกวันนี้ร่างกายที่เคยดูดซึมสารพิษก็เกิดสภาวะอวัยวะบางส่วนล้มเหลว……”
ผลลัพธ์ดังกล่าวปกติแล้วมักจะไม่เห็นปัญหาใด ๆ แต่เมื่อร่างกายที่เจ็บไข้ได้ป่วยหรือได้รับการบาดเจ็บก็จะสามารถมองเห็นได้ทันที ซึ่งมันแตกต่างจากสรีระของคนทั่วไป
อาการของลี่เฉินซีนั้นหายเป็นปกติภายในไม่กี่วัน แต่สำหรับซูย้าวแล้วมันแตกต่างกัน
แม้จะเป็นแค่ไข้หวัด
สำหรับคนอื่น ๆ แล้วเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับเธอแล้วมันจะเป็นไข้ที่สูงต่อเนื่องและรักษาให้หายได้ช้ากว่าปกติ
“ท่านประธานลี่ครับ ในเวลาเดียวกันของการใช้ยารักษา สภาพร่างกายของภรรยาคุณนั้นก็ต้องการกำลังใจจากคุณด้วยนะครับ ยังไงผมก็ขอแนะนำให้คุณใช้เวลากับเธอให้มากขึ้นนะครับ!” เมื่อเสียงพูดนั้นจบลงเสียงโทรศัพท์ของลี่เฉินซีก็ดังขึ้น
เขามองไปที่หน้าจอโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นทันที แต่ก่อนที่จะหันไปเขาได้ทิ้งไว้ประโยคหนึ่ง “ถ้าการที่ผมใช้เวลากับเธอให้มากขึ้นแล้วจะทำให้เธอหายดีได้ แล้วผมจะใช้แพทย์อย่างพวกคุณไปทำไม?”
“……”
ไมค์ถึงกับอึ้งไปเลย เขายังไม่ทันพูดจบแต่ลี่เฉินซีก็ได้ปิดประตูออกจากห้องไปแล้ว ไร้คำบรรยายจริง ๆ