“เพียงแค่รับน้ำใจ?” ลี่เฉินซีย้ำอีกครั้งอย่างจับผิด สายตาเย็นชาเล็กน้อยมองไปที่เธอ
ซูย้าวกะพริบตาโตๆ ที่สวยงามคู่นั้นอย่างทำตัวไม่ถูก ในทันที กลับยิ้มหวานมองไปที่เขา “ไม่เพียงแต่รับน้ำใจ แต่ยังขอบคุณ ขอบคุณสำหรับบุญคุณที่ยิ่งใหญ่ของประธานลี่ คุณจะร่ำรวยมากขึ้นไปอีกในวันข้างหน้า!”
ร่ำรวย……
ลี่เฉินซีเย้ยหยัน ยังคงเป็นเพียงแค่คำอวยพรจริงๆ
แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เขาหมดหนทางกับรอยยิ้มของเธอที่สุด เห็นรอยยิ้มที่งดงามอย่างนี้ ในทันทีเขาก็จนปัญญาที่จะตัดสินใจอย่างเด็ดขาด หลังหายใจเข้าลึกๆ แล้ว จึงพูดขึ้น “นิการากัว”
สี่พยางค์ ชื่อสถานที่แห่งหนึ่ง
ซูย้าวเข้าใจทันที “เจียงจี้เซิงไปนิการากัวแล้ว?”
“พูดให้ถูกต้องอีกหน่อย เขาออกจากที่นี่ก็ไปเบลเยียม แล้วถึงไปนิการากัว” หยุดเล็กน้อย หลังจากลี่เฉินซีดับบุหรี่ที่อยู่ในมือ จึงพูดขึ้นอีกครั้ง “ถ้าไม่เคลื่อนไหวให้เร็วหน่อย กลัวว่าเขาก็จะไปที่อื่นอีกแล้ว!”
ซูย้าวหายใจเข้าลึกๆ นี่เป็นปัญหาอะไร วันหยุดพักผ่อนก็วิ่งหนีไปทั่วโลกงั้นเหรอ? เสียเวลากับพลังงานไปบนเครื่องบินหมดแล้ว หนีแล้วหนีอีก!
แต่เธอจำเป็นต้องหาผู้ชายคนนี้ให้พบ คุยกับเขาให้รู้เรื่อง ถึงจะไม่เสียแรงเปล่ากับสิ่งที่ตนเองทำลงไปในตอนนี้และความเจ็บปวดกับความอัปยศทั้งหมดที่ได้รับก่อนหน้านี้
แต่ลี่เฉินซีกลับคิดๆ แล้ว “คุณจะต้องไปตอนนี้เลยเหรอ?”
“หมายความว่าไง?” ซูย้าวกลับมาที่ห้องพลางเก็บของที่มีเพียงเล็กน้อย แล้วเตรียมตัวออกจากห้อง
เธอหยิบมือถือออกมา เตรียมจะจองตั๋วเครื่องบิน
แต่มือถือกลับโดนลี่เฉินซีดึงไป เขามองเธอ “ถ้าตอนนี้คุณกลับประเทศกับผม ผมรับรองเลยว่าแค่เจียงจี้เซิงกลับมาที่เมือง B คุณจะเป็นคนแรกที่ได้พบเขา”
อย่างนี้ ก็ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยและกระทบกระแทกจากการเดินทาง แล้วยังหลีกเลี่ยงที่จะเกิดปัญหาเล็กๆ กับความยุ่งยากต่างๆ อีกด้วย ทั้งยังประหยัดเวลา ได้รีบกลับประเทศไปทำงานและดูแลเด็กๆ หลังจากครุ่นคิดจากหลายๆ ด้านแล้ว ลี่เฉินซีถึงได้เสนอแนะออกมา
ซูย้าวก็รู้ถึงความหวังดีของเขา และใจที่เป็นกังวล ดังนั้นตอนที่เผชิญกับข้อเสนอแนะนี้ เธอไม่ได้ตอบกลับอย่างสะเพร่า แต่กลับนั่งลงด้วยท่าทางเคร่งขรึม ครุ่นคิดอย่างรอบคอบ
ลี่เฉินซีจึงถือโอกาส เดินเข้าไป แล้วปลอบใจเธอ “ผมเข้าใจที่เจียงจี้เซิงฟ้องร้องคุณ ศาลพิจารณาคดีหลังจากนั้นอีกสิบเจ็ดวัน ก็บอกได้ว่า วันที่สองหลังจากเขาพักผ่อนเสร็จกลับมาในประเทศถึงจะพิจารณาคดี แต่ผมก็รับรองได้ว่าแค่เขากลับมาที่เมือง B ก็จะจัดการให้พวกคุณได้เจอกันทันที”
เรียกได้ว่า ยังมีเวลาเพียงพอ ที่จะทำให้เจียงจี้เซิงถอนฟ้อง ไม่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของซูย้าว รวมไปถึงผลกระทบใดๆ จากด้านนอก
เรื่องที่ลี่เฉินซีรับปาก พูดออกมาแล้วก็ต้องทำได้
อีกอย่าง เขามีความสามารถนี้
สำหรับเรื่องนี้ ซูย้าวเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย
เพียงแต่นึกถึงเรื่องที่ต้องเจอกับเคราะห์ร้ายของตนเองก่อนหน้านี้ เพิ่งจะออกจากเมือง A ตามเขามาถึงฟิลิปปินส์ ไม่กี่วันก็โดนจับตัว แล้วก็ปรากฏเรื่องนั้นก่อนหน้านี้ ยังเกือบจะถูกฆ่าตายอีก
คิดอย่างละเอียดแล้ว ในใจของเธอก็มีความโกรธอัดอั้นอยู่เต็มอก
เจียงจี้เซิงอยากจะรักษาวันหยุดหนึ่งเดือนที่หาได้ยากนี้เอาไว้ ไม่อยากโดนใครทำลาย แต่ก็ไม่ควรจะใช้พฤติกรรม ‘ป่าเถื่อน’ เพื่อมาหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของเธอ แม้แต่อานซินเออร์ ก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย
ทำเกินไปนะ!
ถ้าไม่ใช่จู่ๆ เจียงจี้เซิงสั่งให้จับตัวพวกเธอ ลู่เหมินกับพรรคพวก ก็คงไม่จับเธอและอานซินเออร์เอาไว้ง่ายดายขนาดนั้น แล้วก็คงไม่เกิดผลที่ตามมาทั้งหมดด้วย
ซูย้าวคิดๆ แล้ว ในที่สุดก็มองไปที่ลี่เฉินซีอย่างสงบนิ่ง พูดเรียบๆ “ฉันรู้ ว่าคุณหวังดีกับฉัน อยากให้ปลอดภัยมากขึ้นสักหน่อย แต่เรื่องเป็นอย่างนี้ไปแล้ว ฉันก็มาที่นี่แล้ว ถึงไปนิการากัวยังต้องเสียเวลาอีกมาก แต่ฉันรู้สึกว่า จำเป็นต้องไป”
ลี่เฉินซีมองเธอ “คุณแน่ใจ?”
เธอพยักหน้า ท่าทางแน่วแน่ไม่ลังเล
“โอเค! งั้นผมจะพาคุณไป!” ลี่เฉินซีไม่สบายใจที่จะปล่อยเธอไปคนเดียว ‘สู้รบอย่างโดดเดี่ยว’ อีก ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ความตื่นตระหนกกับความกังวลอย่างนั้น เขาเคยประสบมาแล้วหนึ่งครั้ง ก็ไม่อยากจะลิ้มลองมันอีกแล้ว!
“คุณจะพาฉันไป?” ซูย้าวถามกลับ เหมือนในน้ำเสียงยังคงมีความไม่แน่ใจ
เขาขมวดคิ้ว “ทำไมล่ะ? คุณพูดอย่างนี้ เหมือนไม่ค่อยพอใจผม?”
“ไม่เกี่ยวกับไม่พอใจ เพียงแต่ฉันแค่กังวลคู่หมั้นของคุณ ถ้าคุณหานรู้ว่าคุณพาฉันไป กลัวว่า……จะเกิดเรื่องยุ่งยากมากมายขึ้นน่ะสิ?” เธอพูด
แต่ลี่เฉินซีกลับได้ยินถึงความรู้สึกเสียใจเล็กน้อยในคำพูดนี้ ค่อยๆ หรี่ตาลง “เหมือนคุณจะใส่ใจเธอมากนะ เอาแต่พูดถึงอยู่ตลอดเลย”
“ไม่ใช่ว่าฉันใส่ใจ เพียงแต่นี่เป็นความจริง กลับกันถ้าฉันมีคู่หมั้น ฉันก็ไม่หวังให้เขาอยู่กับอดีตภรรยาทั้งวันหรอก!” เธออธิบาย
“อ้อ? แค่นี้เองเหรอ?”
เขายิ้ม แล้วพูดขึ้น “แต่ว่าไม่เป็นไร เธอคิดว่าผมอยู่ที่ออสเตรเลีย ไม่มีเรื่องเข้าใจผิดหรอก!”
ก็บอกได้ว่า เขาโกหกตั้งแต่แรกแล้ว หานฉ่ายหลิงเอาแต่คิดว่าเขาทำงานอยู่ที่ออสเตรเลียเท่านั้น
ซูย้าวท่าทางตกใจ “คุณกำลังโกหก……”
“โกหกเพื่อคุณสักครั้ง จะเป็นไรไป?” เขาพูดอย่างเอื่อยเฉื่อย ราวกับไม่ได้ใส่ใจ
“พวกผู้ชายอย่างคุณ โกหกผู้หญิงของตนเองตามอำเภอใจ ก็รู้สึกว่าเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยกันทั้งนั้นใช่ไหม?” เธอพูดจาแฝงความหมาย
ในหัวของซูย้าวก็นึกขึ้นได้ทันที ตอนแรกที่พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน เขาก็โกหกตนเองอย่างนี้บ่อยๆ ใช่ไหม ที่บอกว่าทำงาน จริงๆ แล้วอยู่กับผู้หญิงคนอื่น?
ดูแล้ว ผู้ชายสิ่งมีชีวิตประเภทนี้ คงเป็นพวกคนหลายใจจริงๆ !
ลี่เฉินซียิ้มเย็นชา พูดแก้ไขให้ถูกต้องด้วยน้ำเสียงสบายๆ “ก่อนอื่นเลย เธอไม่ใช่ผู้หญิงของผม ที่เรียกว่า ‘คู่หมั้น’ เป็นเพียงแค่ตำแหน่งหนึ่ง สำหรับคนภายนอกก็เท่านั้น แสดงไปตามสถานการณ์คุณเข้าใจไหม? ถ้าเป็นผู้หญิงของผมจริงๆ ผมจะไม่โกหก ก็เหมือนกับตอนแรก ที่ผมไม่เคยโกหกคุณแม้เพียงครึ่งประโยค……”
“……”
ความไม่ชัดเจนที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนี้ ทำให้หัวใจของซูย้าวเต้นตึกตักหดตัวแน่น ตาบ้าลี่เฉินซี เต๊าะสาวเก่งจริงๆ เลยนะ
เธอเกือบจะควบคุมใจของตนเองไม่อยู่แล้ว
“คงเป็นงั้นสินะ! คงเป็นไปได้ว่าฉันในตอนแรก แค่โกหกฉันสักประโยค คุณก็คงรู้สึกว่าไม่จำเป็นสินะ!” พูดอย่างเย็นชา
ลี่เฉินซีขมวดคิ้วแน่นมากขึ้น “คำพูดนี้ฟังยังไงก็……ไม่ใช่นะ! ผมไม่เคยโกหกคุณสักหน่อย! เริ่มแรกผม……”
เขายังพูดไม่ทันจบ แต่ซูย้าวกลับหยิบมือถือไปจากในมือของเขา เตรียมจะโทรไปจองตั๋วเครื่องบิน
ลี่เฉินซีจึงต้องเดินเข้าไป ขวางเธอที่กำลังจะโทรศัพท์ พูดขึ้น “ไปกับผม ไม่ต้องจองตั๋วเครื่องบิน”
เธอจึงนึกขึ้นได้ ลืมได้ยังไงกันล่ะ? เขามีเครื่องบินส่วนตัว อยากจะไปไหนก็ได้ทั้งนั้น
เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย
แต่ทว่า เธอยังต้องใช้มือถือ
ซูย้าวผลักมือของเขาออก พลางส่งวีแชทพลางพูดขึ้น “ฉันจะติดต่อคุณอานหน่อย เธออาจจะอยากไปด้วย……”
“อานซินเออร์?” ลี่เฉินซีส่งเสียงประหลาดใจออกมา เดิมทีคิดว่าจะเป็นการเดินทางที่ไปด้วยกันสองคน ไม่ว่าจะได้เจอเจียงจี้เซิงหรือไม่ แต่ท่ามกลางการเดินทางที่ยาวนาน พวกเขาทั้งสองคน จะค่อยๆ เป็นไปตามธรรมชาติ แล้วก็……
การเดินทางแสนสุขของเขายังไม่ทันได้เริ่มต้น ก็มีอีกคนเพิ่มเข้ามาแล้ว?
อารมณ์ดีๆ ของลี่เฉินซีโดนทำลายในทันที สีหน้าหล่อเหลาหม่นหมอง ท่าทางอึมครึม สามารถผลักดันความหม่นหมองในใจให้เด่นชัดออกมา
แต่ซูย้าวกลับเอาแต่สนใจการตอบกลับในมือถือ แล้วพูดขึ้น “อื้ม เธอไปกับเราด้วย! ตอนนี้กำลังมาที่นี่! บอกว่าอีกห้านาทีถึง……”
“อีกห้านาทีถึง?” ลี่เฉินซีชะงักงัน อานซินเออร์อยู่ที่ไหนน่ะ? ไม่นึกว่าจะแค่ห้านาที……
เสียงพูดของเขาเพิ่งจบ เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นทันที
ซูย้าวเก็บมือถือ แล้วเดินไปเปิดประตู
ก็เห็นอานซินเออร์ยืนลากกระเป๋าเดินทางอยู่หน้าห้อง “ซูย้าว ในที่สุดเธอก็หายดีแล้ว!”
ความรู้สึกของลี่เฉินซี พังทลายไปหมด
อานซินเออร์กระโจนเข้ามาด้วยความอบอุ่น กอดกับซูย้าวแน่น “ตอนที่คุณเข้าโรงพยาบาล ฉันก็เคยไปเยี่ยมเธอ แต่ตอนนั้นเธอยังไม่ฟื้น……”
หลังจากที่ซูย้าวฟื้นแล้ว แต่อานซินเออร์กลับปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ไม่ได้ ร่างกายจึงอ่อนแอเป็นไข้ ต้องให้น้ำเกลือกินยาหลายต่อหลายครั้ง จึงไม่ได้ไปเยี่ยมซูย้าวอีก แต่ก็ยังติดต่อทางมือถืออยู่ตลอด
ซูย้าวยิ้มมองเธอ แล้วจึงหันไปพูดกับลี่เฉินซี “ตอนนี้เราไปกันเลยเถอะ! คุณจัดการได้เลย!”
ลี่เฉินซีมองผู้หญิงสองคนตรงหน้า หายใจเข้าลึกๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้ อดกลั้นความยุ่งเหยิงในใจเอาไว้ พักใหญ่จึงหยิบมือถือขึ้นมา ติดต่อให้ผู้ช่วยเตรียมเครื่องบิน…..