ความรู้สึกแรกของหม่าลุ่ยหลังได้ยินเสี่ยวเชี่ยนพูดแบบนั้นก็คือไม่เชื่อ
ไม่ เป็นไปไม่ได้ หลิวเหมยบอกว่าที่บ้านทำงานเป็นข้าราชการทั่วไปไม่ใช่เหรอ เพราะแบบนี้หม่าลุ่ยถึงได้ลังเลอยู่นาน อันที่จริงเขายังมีตัวเลือกอื่นๆสำรองอยู่ หลังจากที่ได้คัดเลือกจากโปรไฟล์แล้วเขาก็ยังคงรู้สึกว่าภาพรวมฐานะของหลิวเหมยดีกว่า—ประเด็นคือผู้หญิงที่โปรไฟล์ดีกว่านี้ไม่ชอบเขา ข้อเดียวที่ไม่ผ่านของหลิวเหยก็คือตัวสูงเกินไป
“บอสครับ อยู่นี่นี่เอง” คนที่ดูเหมือนเป็นผู้จัดการวิ่งมา โค้งให้พี่ใหญ่หนึ่งทีแล้วพูด “หัวหน้าสำนักวางแผนรออยู่นานแล้วครับ—”
“ปล่อยเขารอไปก่อน” พี่ใหญ่โบกมือไล่อย่างรำคาญ หัวหน้าระดับสูงมีหรือจะสำคัญเท่าข่าวเม้าท์ซุบซิบ
พี่ใหญ่คิดว่าถ้าข่าวเม้าท์ขาดช่วงเขาอาจโดนเมียสั่งให้คุกเข่าบนกระดานซักผ้าได้ ไม่สิ ไม่ใช่อาจจะ ต้องโดนแน่ๆ
การมาของเสี่ยวเชี่ยนในช่วงท้ายนี้เท่ากับเป็นการทิ้งระเบิดปรมาณูลูกใหญ่ลงกลางใจหม่าลุ่ย จุดหักเหของละครเรื่องนี้มันสุดๆ
ยังจะมีอะไรทำให้ช็อคได้เท่าหลังเลิกกันแล้วรู้ว่าบ้านแฟนรวยสุดๆ ยังจะมีอะไรทรมานกันได้ยิ่งกว่านี้อีก
“เขา เขา เป็นพี่ใหญ่ของคุณเหรอ” หม่าลุ่ยถึงกับพูดติดอ่าง เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในสายตาเขาก็คือ เศรษฐี
“ใช่” หลิวเหมยพอเห็นพี่ใหญ่มาก็ดีใจ เธอค่อนข้างสนิทกับสี่พี่น้องบ้านนี้ แต่เธอก็ไม่อยากเล่าให้หม่าลุ่ยฟังมากมาย พอตบเขาเสร็จเวลาเธอมองหน้าเขาก็ยิ่งหงุดหงิด กล้ามาต่อว่าพี่สะใภ้เธอ
แต่เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้ในใจของหม่าลุ่ยเหมือนมีคลื่นกระหน่ำถาโถม
เสี่ยวเชี่ยนสะใจสีหน้าของหม่าลุ่ย แล้วจัดให้อีกดอก
“ถ้าเทียบเรื่องฐานะครอบครัวหลิวเหมยสู้พี่ใหญ่ไม่ได้แน่นอน แต่พ่อแม่หลิวเหมยทำงานให้หน่วยงานรัฐบาล พ่อเป็นถึงระดับรัฐมนตรีช่วย เรื่องที่ต้องซื้อรถให้มันแน่นอนอยู่แล้ว พ่อแม่หลิวเหมยเป็นข้าราชการน้ำดี เงินนี่พี่ชายที่เป็นสถาปนิกก็ออกให้ ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงหลิวเหมยมาซื้อบ้านที่ต่างจังหวัดไว้ให้ด้วย ต่อให้ลูกสาวแต่งออกไปแล้วก็ต้องกลับไปเยี่ยมบ้านบ่อยๆ เวลาหลิวเหมยกลับบ้านทีก็มีที่พัก”
คำพูดของเสี่ยวเชี่ยนทำให้หลิวเหมยขอบตารื้น เธอคิดมาตลอดว่าเธอไม่สนิทกับพ่อแม่ นึกไม่ถึงว่าพวกท่านจะเตรียมให้ของขวัญแต่งงานกับเธอขนาดนี้ ถึงแม้ก่อนหน้านี้ทุกคนในบ้านจะแสดงออกว่าไม่ชอบหม่าลุ่ยก็ตาม แต่ก็ยังเตรียมพร้อมให้เธอทุกอย่าง
หม่าลุ่ยเองก็ตาแดงๆแต่ไม่ใช่เพราะประทับใจหรอกนะ เขากำลังโกรธ
“ไหนคุณบอกว่าภูมิลำเนาอยู่บ้านนอกไง” หม่าลุ่ยรู้สึกเหมือนถูกรางวัลใหญ่แต่ถูกลมพัดหายไป รัฐมนตรีช่วย—แบบนั้นไม่เทียบเท่าตำแหน่งผู้ว่ามณฑลเลยเหรอ หลิวเหมยเป็นถึงทายาทของข้าราชการระดับสูง
ความจริงข้อนี้ถึงกับทำให้หม่าลุ่ยหัวใจเต้นแรง ไม่สนใจเรื่องที่หลิวเหมยตบหน้าแล้ว
เขาจินตนาการไม่ออกเลยจริงๆว่าผู้หญิงที่ชอบสวมเสื้อผ้าราคาถูก ทำตัวสนุกสนานไปวันๆคนนี้จะมีภูมิหลังขนาดนี้
ฐานะทางบ้านขนาดนี้ชนะผู้หญิงที่เขาเคยไปนัดดูตัวทุกคน—ในระหว่างที่หม่าลุ่ยเป็นแฟนกับหลิวเหมยเขาก็เคยไปดูตัวผู้หญิงหลายคน แต่ส่วนใหญ่ก็แค่รักษาความสัมพันธ์ไว้ สุดท้ายเลือกไปเลือกมาก็ฝืนเลือกหลิวเหมยทั้งๆที่ในใจไม่อยากเท่าไร
แต่ไม่นึกเลยว่า เมื่อกี้หลิวเหมยเพิ่งบอกเลิกเขา เพียงแค่ไม่กี่นาทีต่อมาฐานะที่แท้จริงอันน่าตกใจของเธอก็ถูกเปิดเผย
โอกาสที่เขาจะได้เลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วมันอีกแค่ก้าวเดียวเองนะ
พอรู้สึกได้ถึงจุดประสงค์ของเสี่ยวเชี่ยน พี่ใหญ่ก็ฉลองในใจไปแล้ว
สะใจสุดๆ เสียดายที่ถ่ายสีหน้าของผู้ชายคนนี้ไปให้แม่กับเมียดูไม่ได้
แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับไปจะไปคอลหา เรื่องสนุกๆแบบนี้ถ้าได้เล่าออกไป สถานะของเขาในบ้านจะต้องเลื่อนขึ้นสูงหลายขั้นแน่ๆ
พี่ใหญ่ดีใจไม่ไหวแล้ว แต่ใบหน้ายังต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าหลิวเหมยบอกเลิกหม่าลุ่ยไปแล้ว เขาพูดเสริมจากเสี่ยวเชี่ยน
“ใช่ๆ หลิวเหมยเป็นผู้หญิง สุขภาพอ่อนแอตั้งแต่เด็ก พวกพี่ๆผู้ชายในครอบครัวเลยเอ็นดูน้องคนนี้เป็นพิเศษ ครอบครัวเรามีทั้งคนที่ทำงานเป็นทหารและนักธุรกิจ ใครจะทนดูพวกเธอใช้ชีวิตอย่างลำบากได้ล่ะ งั้นเอาแบบนี้ หลิวเหมยเธออยากได้อะไรเป็นของขวัญแต่งงานบอกมาเลย เดี๋ยวพี่จัดให้”
อยากได้รถจี๊ป อยากได้บ้าน อ้อ ไม่สิ เอาแค่งานราชการตำแหน่งสูงๆก็พอ ขอแบบที่พอย้ายสายงานแล้วชีวิตราบรื่นสุดๆ เอาชนะใจสาวๆสวยๆได้ ปีศาจในใจหม่าลุ่ยตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
แต่คำพูดของหลิวเหมยดับความหวังของหม่าลุ่ย
“พี่ใหญ่ พวกเราไม่แต่งงานแล้วค่ะ เขาไม่เหมาะกับฉัน พวกเราเพิ่งตัดสินใจเลิกกันค่ะ”
หลิวเหมยพูดจบก็มองเสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้าให้อย่างพอใจ
“พวกเราไม่ได้เลิกกัน”
ขาใหญ่ๆเคลือบทองแบบนี้ถ้าเขาไม่กอดให้แน่น ชีวิตที่เหลืออยู่ไม่มั่นคงชัวร์
“พวกเราเลิกกันแล้ว” หลิวเหมยพูดกับหม่าลุ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
“ฉันทำตามที่คุณต้องการไม่ได้ แล้วก็ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครด้วย ฉันชอบใส่รองเท้าส้นสูงเวลาที่ไม่ต้องออกกำลัง ฉันชอบหัวเราะสนุกสนาน ฉันให้ครอบครัวของฉันซื้อบ้านแล้วเชิญพ่อแม่ที่สูงส่งของคุณไปอยู่ไม่ได้ แล้วก็คลอดลูกคนแรกให้เป็นผู้ชายไม่ได้ด้วย และที่รับไม่ได้ยิ่งกว่าก็คือการที่คุณต่อว่าครอบครัวฉัน คุณว่าหนึ่งทีฉันก็จะต่อยคุณ ดังนั้นทางที่ดีรีบไปให้พ้นหน้าก่อนที่ฉันจะอัดคุณตาย”
พูดได้เยี่ยมมาก พี่ใหญ่กับเสี่ยวเชี่ยนต่างคิดในใจแบบนั้น
ไม่มีความจำเป็นต้องต่อล้อต่อเถียงกับผู้ชายฟีนิกซ์ และก็ไม่เหลือโอกาสให้ปรับปรุงตัวแล้วด้วย ความคิดของเขาถูกบ่มเพาะมาเป็นสิบๆปี หลิวเหมยไม่อยากลำบากเปลี่ยนแปลงทัศนคติตัวเองเพื่อให้เข้ากับคนอื่น ถ้าอย่างนั้นก็อย่าไปยุ่งด้วยเลยดีกว่า เธอรู้สึกว่าถ้าผู้ชายฟีนิกซ์รักเธอจริงก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอบ้าง
รับมือกับครอบครัวแบบนี้การทรมานทางร่างกายไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่การตัดขาดกับคนพวกนี้โดยสิ้นเชิงต่างหากที่เป็นการทรมานใจอย่างได้ผล ยังจะมีอะไรทรมานใจยิ่งกว่าการที่เห็นกองเงินกองทองอยู่ตรงหน้าแต่จับต้องไม่ได้แล้ว
เวลานี้หม่าลุ่ยไม่มีเวลามาทำตัวเย่อหยิ่งอีกต่อไป เขาอยากจะรั้งบ่อเงินบ่อทองเอาไว้ แต่ประธานเชี่ยนกลับพูดขึ้น
“สิ่งที่คุณเป็นทุกข์อยู่ไม่ใช่เพราะเสียคนรักไป แต่เป็นเพราะเงินหลุดลอยไปต่างหาก ครอบครัวเราไม่อนุญาตให้หลิวเหมยแต่งกับคนแบบนี้หรอกนะ”
“ผมรู้สึกดีกับหลิวเหมย” หม่าลุ่ยเถียง
“ช่วงที่คุณคบกับหลิวเหมยโทรหาเธอกี่ครั้ง”
“…งานผมค่อนข้างยุ่ง”
“ความหมายที่ซ่อนอยู่เวลาที่ผู้ชายบอกว่างานยุ่งก็คือ ‘มีคนอื่นสำรอง’ หรือไม่ก็ ‘ผมสนใจงานมากกว่าคุณ’ คุณเป็นแบบไหนล่ะ”
ทั้งสองแบบ แต่พูดไม่ได้
เวลานี้จิตใจของหม่าลุ่ยร้อนรุ่มเหมือนถูกไฟเผา เธอยืนยันจะเลิกกับเขา ทันใดนั้นหม่าลุ่ยก็ทำในสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง
“หลิวเหมย อย่าไปจากผมเลยนะ ผมชอบคุณจริงๆ”
เขากอดหลิวเหมยแน่นจากทางด้านหลัง
หลิวเหมยตกใจ พี่ใหญ่ตกใจ เสี่ยวเชี่ยนก็ตกใจ
ไม่เคยเจอคนหน้าไม่อายขนาดนี้มาก่อน
“ปล่อยเธอนะ” ทันใดนั้นเลี่ยวฟู่กุ้ยก็วิ่งเข้ามาดึงตัวหม่าลุ่ยออกแล้วถีบไปหนึ่งที ไอ้คนเฮงซวยfaceด้านมันสมควรตาย