พูดโดยสรุป ไม่มีความหมายประชดประชัน แต่ลี่เฉินซีฟังความหมายเธอออก
เขาคิดสักพัก ขณะเดียวกันก็เปล่งเสียงหัวเราะทุ้ม และปล่อยมือเธอ เงยหน้าพิงราวสีขาวหิมะ ดวงตาเฉี่ยวคู่สวยลึกซึ้ง “แค่สองครั้ง ครั้งนี้เรื่องใหญ่ รวมถึงเรื่องลูก”
ซูย้าวค่อยๆ ลุกขึ้น ดึงเก้าอี้มานั่งข้างเตียงผู้ป่วย มองเข็มฉีดยาหลังมือเขาที่ยกขึ้นมาเล็กน้อย ขยับมือกดมันลงไป “เมื่อผ่านสองเรื่องนี้ไป คุณอาจจะมี ‘ครั้งนี้’ อีกก็ได้นะ”
นิสัยเอาแต่ใจและแข็งแกร่งโดยธรรมชาติของเขานั้น แม้กระทั่งความปรารถนาที่จะควบคุมอย่างรุนแรง ทำให้ซูย้าวมั่นใจกับเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าเรื่องไหนๆ ลี่เฉินซีก็จะเตรียมการให้เธอเป็นอย่างดีโดยไม่ทันตั้งตัว จากนั้นก็ใช้วิธีต่างๆ เกลี้ยกล่อมให้คุณพยักหน้าเห็นด้วย
ลี่เฉินซีขยับตัวอยากนั่งขึ้นมา แต่เนื่องจากกระดูกซี่โครงหัก เจ็บเกินทน รวมถึงซูย้าวกดแขนเขาไว้ ไม่ให้เขาลุก เขาจึงหันตัวใช้มือข้างหนึ่งยันศีรษะขึ้นมา มองเธออย่างเงียบๆ “แต่งงานใหม่กับฉันสิ ต่อไปฉันจะเชื่อฟังคุณทุกอย่าง”
ชะงักไปเล็กน้อย เขาก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ถึงจะไม่มีลูกอีก ฉันก็จะฟังคุณ”
ยกเว้นเรื่องอานเจียเย้น เขาก็ยังทำต่อไปในแบบของตัวเอง เรื่องอื่นๆ เขาจะเชื่อฟังเธอ
นี่คือคำพูดจากใจจริง
ซูย้าวหันกลับมามองเขาอย่างอึมครึม ผู้ชายคนนี้ ไม่ได้ขอแต่งงานอย่างหรูหราและตั้งใจ และไม่มีการจัดสถานที่อันยิ่งใหญ่อะไร แค่ใช้คำพูดธรรมดาๆ พูดคำว่า ‘แต่งงานใหม่’ ออกมาอย่างแผ่วเบา
ดูเหมือนส่งเดช แต่ดวงตาลึกลับน่ากลัว มันเต็มไปด้วยความจริงใจและความมั่นใจ
ดูเหมือนนี่คือการต่อสู้ที่ดุเดือดและยาวนาน เขามั่นใจ และมุ่งมั่นตั้งใจนานแล้ว
ซูย้าวผลุบตาลงเล็กน้อย สายตามองไปยังท้องน้อยแบนราบของเธอ การบุกรุกกะทันหันของลูกคนที่สี่ บางทีนี่อาจจะแสดงว่าสุดท้ายเธอก็จะเลือกเขาอีกครั้ง
ทำไมเธอรู้สึกว่าแบบนี้ไม่เต็มใจเลยล่ะ?
เพราะฟื้นฟูความทรงจำ จำการกระทำทุกอย่างของเขาในอดีตได้ หรือเพราะการขัดขวางอันฉับพลันของอานเจียเย้น……
ไม่รู้
เธอไม่อยากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไปในชั่วขณะหนึ่ง แค่รู้สึกว่าต้องประนีประนอมและหลีกทางให้เพื่อลูก มักทำให้เธอก้าวผ่านอุปสรรคในใจไม่ได้ ถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดขึ้น “แต่งงานใหม่เป็นไปไม่ได้ ส่วนจะเชื่อฟังคุณไหม ฉันตัดสินใจเอง”
อย่างไรแล้ว เธอก็เป็นคนคนหนึ่ง ต้องอาศัยความยินยอมของตัวเอง ทำไมต้องเชื่อฟังการกระตุ้นและการจัดเตรียมของคนอื่นด้วยล่ะ?
ถึงแม้คนคนนี้จะเป็นลี่เฉินซี เธอก็ไม่ตั้งใจจะทำตาม
เพราะเธอมีการพิจารณาและเหตุผลของเธอ และไม่สะดวกที่จะอธิบายให้เขาฟังทีละอย่าง
ลี่เฉินซีเดาว่าเธอจะปฏิเสธ แค่ไม่คิดว่าเธอจะปฏิเสธได้อย่างรุนแรงแบบนี้ ขมวดคิ้วอย่างเลี่ยงไม่ได้ “รายละเอียดจะฟังใคร เราจะไม่เถียงกันตอนนี้ ยังไงแล้วฉันกับลูกๆ ก็เป็นของคุณ เชื่อฟังคุณก็เป็นเรื่องปกติ”
ยกเว้นแค่เรื่องนี้เท่านั้น
จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปจับเธออีกครั้ง ดึงมาข้างๆ ใบหน้าตัวเองแล้วลูบเบาๆ ก้มจุ๊บมือเล็กๆ ของเธอ “สำหรับเรื่องมีลูก เหมือนว่า……”
เขาพิจารณาเกี่ยวกับร่างกายตัวเองอย่างรอบคอบ ก่อนพูดขึ้น “ยังไงก็ต้องรออีกสองสามวัน แต่ย้าวย้าว คุณไปตรวจสอบหรือยัง?”
“ที่นี่คือโรงพยาบาล คุณไปตรวจที่แผนกสูตินารีเวชสิ ฉันจะรอคุณ”
ซูย้าว “……”
ลี่เฉินซีอยากเร่งอีกครั้ง ซูย้าวก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เปิดเผยโดยตรง “ฉันเคยตรวจแล้ว”
“ฮะ?” เขาตกตะลึงเล็กน้อย “แล้วผลสรุปล่ะ?”
เธอขยับดวงตา ชักมือเล็กกลับไป “ไม่ได้ท้อง และหมอบอกอีกว่าร่างกายฉันไม่เหมาะที่จะท้องแล้ว อัตราน้อยมาก แทบเป็นไปไม่ได้เลย”
ดวงตาประหลาดใจของลี่เฉินซีมืดลง “ทำไมเป็นแบบนี้?”
“เมื่อก่อนตอนคลอดซีซีกับหมิงเอ๋อ มันไม่ค่อยราบรื่น สรุปแล้วร่างกายฉันไม่เหมาะที่จะท้องอีกต่อไป ดังนั้นคุณทิ้งความคิดนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ เถอะ!”
ซูย้าวชะงักคำพูดเล็กน้อย นึกถึงอะไรบางอย่างอย่างรวดเร็ว “อ่อ ไม่สิ คุณลี่ก็สามารถมีลูกได้อีก มีลูกกับผู้หญิงคนอื่นก็ได้ ยังไงคุณก็ยังหนุ่ม ยังมีพลังงาน มีลูกให้ตระกูลลี่ได้ตลอดเวลา”
ลี่เฉินซี “……”
ใบหน้าหล่อของเขาหมดความอดทน ขยับมือบังคับดึงข้อมือบอบบางของเธอ กำไว้ในมือแน่น ราวกับเป็นการลงโทษ แถมกัดหลังมือเธอหนึ่งที แค่แรงไม่มาก ไม่ถึงกับทำให้เธอเจ็บ “ทั้งๆ ที่คุณรู้ว่าฉันมีลูกกับคุณได้เพียงคนเดียว นอนกับผู้หญิงอย่างคุณได้คนเดียว ยังจะพูดไร้สาระไปเพื่ออะไร?”
“ช่างเถอะ มีไม่ได้ก็ไม่มีแล้ว แต่ไม่ตรวจละเอียดหน่อยเหรอ? ต้องรักษาไหม?” เขาถามอีกครั้ง
ซูย้าวผลักเขาออกอย่างไม่พอใจ “ไม่ต้องรักษา ยังไงฉันก็มีอายุแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีลูกอีก ยังจะรักษาไปทำไม?”
เขาขมวดคิ้ว “อายุมากที่ไหนกัน? ทั้งๆ ที่ยังสาวขนาดนี้ มา ให้สามีกอดหน่อย ภรรยาฉันหน้าตาอ่อนเยาว์ เหมือนสาวน้อยสิบเจ็ดสิบแปด โดยเฉพาะร่างกายนั้น……”
ไม่ปล่อยให้เขาพูดคำพูดไร้ยางอายออกไป ซูย้าวปิดปากเขาอย่างรวดเร็ว “พอได้แล้ว คุณรีบหุบปากเถอะ!”
เขากลับจูบฝ่ามือเธอโดยตรง ความรู้สึกอุ่น เปียกชื้นอย่างคลุมเครือ ในขณะนั้น ซูย้าวรู้สึกเย็นๆ สัมผัสถึงอะไรบางอย่างที่น่าสะอิดสะเอียน รีบหลีกเลี่ยงออกมาอีกครั้ง “ลี่เฉินซี คุณมัน……”
เธอหาคำศัพท์ที่ถูกต้องมาบรรยายเขาไม่ได้แล้ว!
แต่เขาอารมณ์ดีกับท่าทางเล็กๆ ของเธอ เงยหน้าพิงหัวเตียงผู้ป่วย เอียงศีรษะแล้วสั่ง “ฉันหิวน้ำ”
ซูย้าวลุกขึ้นรินน้ำให้เขา เมื่อส่งไปให้ ลี่เฉินซีไม่ยอมยื่นมือไปรับ แค่เงยใบหน้าหล่อร้ายกาจ เหมือนพวกหยิ่งจองหอง ขยับริมฝีปาก “ป้อนฉัน”
“อะไรนะ?” ซูย้าวน่าเกรงขาม “คุณแค่ซี่โครงหัก ไม่ได้แขนหักนี่ คุณดื่มเอง!”
เขายกยิ้มเล็กน้อย ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้นจับคอเธอไว้โดยไม่ทันตั้งตัว ออกแรงเล็กน้อย บังคับให้เธอโน้มตัวโดยตรง ทันใดนั้นก็ประกบปากเธออย่างแม่นยำ ดิ้นไปมาอย่างรุนแรง นานสักพักก่อนจะค่อยๆ ลดลง
แต่มือใหญ่ลี่เฉินซียังคงไม่ยอมปล่อย จับซูย้าวไว้แน่น มืออีกข้างที่ให้น้ำเกลืออยู่ก็ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มหนึ่งอึก แล้วประกบเธออีกครั้ง น้ำแร่ไหลเข้าไปในปากเธอ แล้วไหลกลับมาหาเขาอีกครั้ง ซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้ง สุดท้าย เกิดเสียงในลำคอตามการขยับเล็กน้อยของลูกกระเดือกเขา แล้วกลืนลงไปทั้งหมด
ซูย้าวรีบฉวยโอกาสหนีและผลักเขาออก หลังจากร่างกายถอยไปแล้ว แก้มก็แดงอย่างยุ่งเหยิงตั้งนานแล้ว ทั้งกระอักกระอ่วนและน่าอาย ทำได้แค่หันหลังกลับ พยายามควบคุมหัวใจที่เต้นแรง
ต่างกับความเขินอายของเธอ ลี่เฉินซีเขาลูบมุมปากราวกับรสชาติยังติดอยู่ ด้วยความกล้าหาญ ก็ฝืนยิ้มจางๆ อีกครั้ง “ก็คุณไม่ยอมป้อนฉัน ฉันก็ต้องลงมือเอง”
จากนั้นก็เสริมอีกประโยค “คุณมักจะปล่อยให้ฉันลงมือ ได้ทุกอย่างตามต้องการเองไม่ใช่เหรอ?”
ซูย้าวหันตัวมาด้วยความไม่พอใจ กลอกตาใส่เขาอย่างโหดเหี้ยม “คุณมันเกินเยียวยาแล้วจริงๆ!”
ขณะที่พูด เธอหันตัวจะเดินออกไป แต่เสียงผู้ชายด้านหลังก็ดังขึ้นทันเวลา “จะไปไหน? คุณอย่ากลับโรงแรมคนเดียว”
โรงแรมนั้นเป็นโรงแรมที่ประธานหลี่รับผิดชอบ และประธานหลี่คนนี้ก็คือคนของอานเจียเย้น ตอนที่เขาไม่อยู่ ไม่วางใจให้ซูย้าวกลับไปคนเดียว
ซูย้าวฝีเท้าชะงักเล็กน้อย และไม่หันร่างกลับ แค่พูดขึ้นว่า “ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ โอเคหรือยัง?”