ล้ำ คนที่ดูสองคนนี้อยู่อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้ง สมกับเป็นประธานเชี่ยน พูดอ้อมไปอ้อมมาให้งง พอหันไปดูอวี๋หมิงหลางที่ถูกคำพูดที่ดูเหมือนไม่มีอะไรนี้ แต่ทุกประโยคกลับเต็มไปด้วยคำชม เขาก็เริ่มเขิน แถมยังแอบดีใจที่ถูกเมียชม แต่ก็ยังคงทำสีหน้าวางมาดไม่ยอมอยู่ดี ส่วนประธานเชี่ยนก็ได้แสดงออกถึงความสามารถอันล้ำเลิศในการปั่นหัวผู้ชายของตัวเอง
อวี๋หมิงหลางคิดในใจ ไอ้ทักษะสุดล้ำที่ทำให้โมโหก่อนจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นชมแล้วตามด้วยประจบแบบนี้ไม่ใช่ของเขาหรือไง
ก่อนหน้านี้เป็นเขาที่ใช้วิธีแบบนี้ปั่นหัวเสี่ยวเชี่ยน แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ผลหรอก เสี่ยวเชี่ยนอยากจะลงไม้ลงมือเขาก็ย่อมไม่มีทางรอด แต่พอถูกเธอเอาไปปรับเปลี่ยนแล้วใช้วิธีนี้กับเขา อวี๋หมิงหลางกลับรู้สึกชอบใจ คล้ายกับกบที่ถูกมอมเหล้า แอบฟินในใจ แต่เขาก็ยังคงต้องพยายามทำเป็นวางมาด ลำบากจริง…
“สามีฉันเป็นคนที่เข้าใจฉันดีที่สุด และก็เข้าใจเรื่องขอบเขตความรักของฉันดีที่สุด เขารู้ว่าสไตล์การใช้ชีวิตของฉันไม่มีทางเกิดปัญหาแน่ ที่รัก ฉันพูดถูกไหม ที่รัก”
การล้างสมองห้าครั้งติดของเสี่ยวเชี่ยนไม่ใช่แค่ใช้กับฟู่กุ้ยได้ผล ยังใช้กับอวี๋หมิงหลางได้ด้วย ปกติแค่เรียกว่าที่รักก็เคลิ้มยอมทำตามที่สั่งทุกอย่าง ตอนนี้ถูกชมเข้าไปติดๆกัน เรื่องดอกไม้ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว สมองเต็มไปด้วยเสียงเสี่ยวเชี่ยนที่เรียกเขาว่าที่รัก
“ถูกไหม ที่รัก”
“ถูก” คุณพูดอะไรก็ถูกหมดเลยจ้า
“แย่ละ ท่าทางแบบนี้ของพี่ฉันถ้าอยู่ในยุคโบราณแบบนี้คือโดนล่อลวงชัดๆ” หลิวเหมยพูดแทนสิ่งที่ทุกคนคิด เมื่อกี้พี่ชายเธอทำท่าทางขึงขัง ทุกคนยังคิดว่าเขาจะอาละวาดแน่ นึกไม่ถึงว่าเสี่ยวเชี่ยนแค่พูดจาหวานๆเข้าหน่อย อวี๋หมิงหลางก็สลัดคราบคนขี้หึงไปเสียหมดสิ้น
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้น พี่ชายเธอถ้าอยู่ในยุคโบราณนะต้องเป็นฮ่องเต้ที่ปรีชาสามารถมากแน่นอน เพราะถ้าเขาไม่ได้เจอพี่ ผู้หญิงคนอื่นไม่มีทางมีอิทธิพลต่อการควบคุมเขาได้มากขนาดนี้ คนเรามีแค่ตอนที่อยู่กับคนที่ชอบเท่านั้นไอคิวถึงจะลดลง ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบล่ะก็ สมองปลอดโปร่งมาก”
“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะคะ” หลิวเหมยหลงกลตามเสี่ยวเชี่ยนที่พาเขว
เสี่ยวเชี่ยนแอบดีใจพลางหอบช่อดอกไม้เดินไปทางห้องน้ำ เธอต้องการย้ายดอกไม้ไปให้พ้นสายตาอวี๋หมิงหลาง จะได้ง่ายต่อการเปลี่ยนเรื่องคุย ขจัดความคิดในแง่ลบ วิชาความรู้จิตวิทยาที่เรียนมาเธอได้นำมาใช้ในตอนนี้แล้ว เพอร์เฟค
“เพราะมนุษย์จะไอคิวลดต่ำลงตอนที่เราดีใจมากๆกับโมโหมากๆ ดังนั้นศัตรูจึงมักจะพยายามยั่วโมโหเรา พอเราขาดสติยั้งคิดก็จะโจมตีทันที และพฤติกรรมของคนที่เรารักก็ทำให้ไอคิวเราลดลงได้เหมือนกัน ดังนั้นแต่งงานกับคนที่ต่างชอบพอกันทั้งสองฝ่ายจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เวลาที่เราดีใจจนไอคิวลดลง ไอคิวเขาก็จะลดลงตามไปด้วย คู่รักที่พากันไอคิวต่ำ ไม่มีใครรังแกใคร”
ทุกคนพยักหน้า ใช่ แบบนั้นนั่นแหละ
ตอนนี้เสี่ยวเชี่ยนกำลังจะประสบความสำเร็จในการใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา ทุกคนถูกเธอพาออกทะเลกันหมด อวี๋หมิงหลางทั้งขำทั้งจนใจ
เจอเมียแบบนี้เขาจะทำไงได้
ในขณะที่เสี่ยวเชี่ยนกำลังดีใจที่ตัวเองเปลี่ยนเรื่องได้สำเร็จ หลิวเหมยมิตรที่แสนซื่ออยู่ๆก็พูดขึ้น
“คนต่างชาติคนนั้นไม่ได้ชอบสุ่ยเซียนตั้งแต่แรกเหรอคะ ทำไมอยู่ๆกลายเป็นมาส่งดอกไม้ให้พี่สะใภ้ได้ล่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนตัดสินใจแล้วว่าจะขโมยชาชั้นดีที่เลี่ยวฟู่กุ้ยให้หลิวเหมยมาให้หมด เด็กโง่คนนี้นี่ แค่ประโยคเดียวผลักเธอไปยืนตรงหน้าผาอีกแล้ว
อวี๋หมิงหลางเป็นผู้ชายที่พอหึงขึ้นมาก็แสดงออกทางสีหน้า เธอน่ะอยากจะเปลี่ยนๆเรื่องให้เขาได้ใจเย็นลง ไว้รอตอนเขาตั้งสติได้เธอค่อยนั่งวิเคราะห์เหตุการณ์กับเขา แต่ปรากฏว่าหลิวเหมย…
เสี่ยวเชี่ยนแอบเหล่มอง จอมหึงแห่งเอเชียองค์ลงอีกแล้วจ้า
“เรื่องที่เขาส่งดอกไม้ให้คุณ คุณจะวิเคราะห์ว่ายังไง” ยังดีที่จอมหึงแค่หน้าบึ้ง ยังไม่ถึงกับจะอาละวาดกัดทุกคน เห็นได้ชัดว่าอวี๋หมิงหลางให้เกียรติเสี่ยวเชี่ยนมาก
“ฉันคิดว่าจุดประสงค์ที่อาเหม็ดทำแบบนี้เพราะต้องการทำลายความสัมพันธ์ของฉันกับสุ่ยเซียน”
เสี่ยวเชี่ยนให้คำตอบที่อวี๋หมิงหลางไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี อารมณ์หึงหวงหายหมด
“ทำลายความสัมพันธ์พวกเรา” สุ่ยเซียนยังคิดไม่ทัน สีหน้าของประธานเชี่ยนบ่งบอกว่าเธอจริงจังกับคำพูด
“ใช่ เธอลองคิดดูนะ จุดประสงค์เดิมที่เขามาคือมาจีบเธอ แต่พอถูกฉันจับได้ เขาก็แค้นฉันในใจ ถึงได้คิดหาวิธีแบบนี้มาเล่นงานไงล่ะ ยุให้พวกเราแตกกัน กลายมาเป็นศัตรู ผู้หญิงล้วนมีความแก่งแย่งชิงดีอยู่ในใจ ระหว่างคนที่สนิทกัน ถ้าเขาแสดงออกว่าชอบฉันไม่ชอบเธอ ไม่ว่าเธอจะชอบเขาหรือเปล่า ก็ยังรู้สึกไม่โอเคอยู่ดี จากนั้นเขาก็จะใช้โอกาสนี้ทำลายความสัมพันธ์ของพวกเรา ทำให้พวกเราห่างเหินกันไป”
“มันซับซ้อนขนาดนั้นเลยเหรอ” สุ่ยเซียนเริ่มมึนกับคำพูดเสี่ยวเชี่ยนที่พูดวกไปวนมา
“ใช่ หลังจากที่พวกเรามองหน้ากันไม่ติดแล้ว เธอกับฉันก็ไม่สนิทกันอีกต่อไป เขาก็จะรู้สึกว่าเธอไม่เหลือใครเป็นที่ปรึกษาแล้ว จากนั้นก็วางแผนใกล้ชิดเธอ แล้วเผด็จศึกซะ”
การให้ประธานเชี่ยนที่ความรู้สึกไวต่อเรื่องความรักคนอื่นแต่เชื่องช้าถ้าเป็นเรื่องของตัวเองมาทำการวิเคราะห์เรื่องแบบนี้ ก็จะกลายเป็นเอาเรื่องที่แสนจะธรรมดาจินตนาการให้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนยิ่งขึ้น
“ทำไมฉันรู้สึกว่า…” เหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น สุ่ยเซียนรู้สึกว่าอาเหม็ดชอบเสี่ยวเชี่ยนเข้าแล้วจริงๆ
ขนาดเธอยังรู้สึกว่าถ้าตัวเองเป็นผู้ชายก็ต้องชอบผู้หญิงแบบเสี่ยวเชี่ยนแน่นอน เมื่อเทียบกับเธอที่แค่มีพ่อรวยแล้ว มีเรื่องไหนที่โดดเด่นกว่าเสี่ยวเชี่ยนบ้าง อีกอย่างเธอไม่มีทางอิจฉาเสี่ยวเชี่ยนอยู่แล้ว เสี่ยวเชี่ยนยอดเยี่ยมแค่ไหนเธอรู้ดีกว่าใคร อันที่จริงสุ่ยเซียนไม่เข้าใจเรื่องหนึ่งมาตลอด
ผู้หญิงที่โปรไฟล์ดีแบบเสี่ยวเชี่ยน ข้างกายกลับไม่มีใครมาจีบยกเว้นอวี๋หมิงหลาง นี่เป็นเรื่องที่ดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไร
สุ่ยเซียนไม่รู้หรอกว่าอวี๋หมิงหลางต่างหากที่เป็นคนจัดการวางแผนซื้อคนรอบตัวเสี่ยวเชี่ยนไว้หมดแล้ว ถ้าเขาเจอคนที่คิดจะเข้าใกล้เมียเขา ก็จะรีบแสดงตัวถอนต้นอ่อนที่กำลังจะเติบโตนั้นเสีย
“แล้วคุณคิดจะเอาไง” อวี๋หมิงหลางถามเสี่ยวเชี่ยน
สุ่ยเซียนเหลือบมองอวี๋หมิงหลางด้วยความสงสัย เสี่ยวเชี่ยนคิดแบบนั้น ทำไมเขาก็เอาด้วย ฟังแบบนี้แล้วเขาก็ยอมรับในความคิดของเสี่ยวเชี่ยนงั้นเหรอ
“ฉันคิดว่าจะปล่อยไปก่อน เขาจะจีบก็ปล่อยเขา ฉันก็จะรักษาท่าทีไม่รุก ไม่จริงจัง ไม่เล่นด้วย ไม่ให้ความร่วมมือ ปล่อยให้เขาเดาทางฉันไม่ถูก หลังจากนั้นสุ่ยเซียนก็จะฉวยโอกาสจัดการเรื่องในครอบครัวซะ กว่าเขาจะรู้ว่านี่เป็นกับดักก็สายไปแล้ว สุ่ยเซียนก็ได้กุมอำนาจไว้ในมือ ถึงตอนนั้นเขาก็จะอยากกลับบ้านไปเอง พวกเราก็เท่ากับว่าได้ให้ความร่วมมือกับเสี่ยวเฉียงขับไล่ ‘ปีศาจอุทกภัย’”
เพอร์เฟค
อวี๋หมิงหลางเงียบไปสักพักแล้วยิ้มแบบมีเลศนัย “อืม คุณพูดถูก”
พอเห็นสองคนนี้มองหน้าแล้วยิ้มให้กัน สุ่ยเซียนก็ดูเหมือนจะเข้าใจแล้ว
เสี่ยวเชี่ยนคิดไม่ถึงเลยสักนิดว่าอาเหม็ดอยากจีบเธอจริงๆ เธอคิดเรื่องนี้ให้ซับซ้อนกลายเป็นวางแผนซ้อนแผน ส่วนอวี๋หมิงหลางเขาไม่รู้จริงๆหรือแกล้งไม่รู้แล้วเออออไปตามเสี่ยวเชี่ยน เรื่องนี้ก็น่าคิดอยู่