คนผมทองคิดว่าตัวเองป้องกันไว้อย่างแน่นหนาดีแล้ว แต่อวี๋หมิงหลางกลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
กลไกลูกบิดแบบนี้ถูกใช้กับตู้เซฟมากที่สุดภายในประเทศ แต่ก็ไม่ได้แปลกอะไร ความแปลกมันอยู่ที่โครงสร้างภายในของลูกบิดอันนี้
กลอนแบบแผ่นเหล็กซ้อนกันนี้ดูเหมือนจะมีการใช้เทคนิคพิเศษ โครงสร้างภายในมีความละเอียดสูง น่าจะถูกสร้างมาเป็นพิเศษ ทำให้เขายิ่งสงสัยถึงความเป็นมาของคนผมทองคนนี้ อดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงสนับมือที่เขาถอดมาจากอาเหม็ด
ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเหมือนกัน สองคนนี้จะรู้จักกันหรือเปล่า
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้นก็มีคนขึ้นลิฟท์มา อวี๋หมิงหลางรีบหลบเข้าข้างๆ หยิบอาหารเช้าแล้วเคาะประตูบ้านตัวเอง
ระหว่างรอคนเปิดประตูให้ ประตูลิฟท์ก็เปิดออก เด็กหนุ่มคนหนึ่งหอบกุหลาบช่อใหญ่เดินมา เขาหยิบกระดาษออกมาเพื่อเช็คดูว่าบ้านเลขที่ถูกต้องหรือเปล่า
อวี๋หมิงหลางยืนอยู่ข้างนอกพร้อมกับเด็กส่งดอกไม้ ประธานเชี่ยนเปิดประตูออก สิ่งที่ทำเป็นอย่างแรกก็คือมองถุงที่อวี๋หมิงหลางหิ้วอยู่ พอเห็นโลโก้ร้านที่ตัวเองอยากกินอยู่บนถุงถึงได้ยิ้มกว้างออกมา อวี๋หมิงหลางทำเสียง หึ
ผู้หญิงใจร้าย แทนที่จะมองเขาก่อน
เสี่ยวเชี่ยนแกล้งไอกลบเกลื่อน แล้วหันไปถามเด็กหนุ่ม
“มาหาใครเหรอคะ”
“สวัสดีครับ ผมเป็นเด็กส่งดอกไม้ร้านใจตรงกัน คุณอาเหม็ดให้ผมเอาดอกไม้มาส่งครับ”
เสี่ยวเชี่ยนเข้าใจทันที หันไปตะโกนเรียกในบ้าน
“สุ่ยเซียน ออกมารับแขก—รับดอกไม้”
อวี๋หมิงหลางทำเสียง หึ ว่าแล้วว่าไอ้อาเหม็ดมันทนไม่ไหวหรอก อยากจะมาแสดงตัวมากสินะ
วันนั้นอวี๋หมิงหลางกับเสี่ยวเชี่ยนร่วมมือกันยั่วโมโหอาเหม็ด อาเหม็ดเท้าโดนลวกจึงออกไปก่อน จากนั้นตลอดช่วงเย็นก็ไม่มีข่าวคราวของเขา คงกลับไปคิดแผนอื่น
จากการคาดเดาของเสี่ยวเชี่ยน อาเหม็ดน่าจะหอบหน้าหนาๆมาสุดเป็นครั้งสุดท้าย เขาคงจะเดินหน้าจีบสุ่ยเซียนอย่างบ้าคลั่ง ดูซิเนี่ย ส่งดอกไม้มาให้แต่เช้าตรู่
สุ่ยเซียนเดินออกมาตามเสียงเรียก
“สวัสดีครับคุณผู้หญิง นี่เป็นช่อดอกไม้ที่คุณอาเหม็ดส่งให้คุณเฉินเสี่ยวเชี่ยน ไม่ทราบว่าคุณใช่คุณเฉินเสี่ยวเชี่ยนไหมครับ เด็กส่งดอกไม้ยื่นช่อดอกกุหลาบสีแดงสด
“…ใครนะ” สุ่ยเซียนคิดว่าตัวเองฟังผิด
“นี่เป็นช่อดอกไม้ที่มอบให้คุณเฉินเสี่ยวเชี่ยน คุณอาเหม็ดเป็นคนสั่งครับ มีทั้งหมดเก้าสิบเก้าดอก เซ็นรับด้วยครับ”
เหมือนเวลาจะหยุดลง
อวี๋หมิงหลางกำลังก้มไปเปลี่ยนรองเท้า เขาเพิ่งยื่นเท้าออกมาก็ถึงกับหยุดชะงัก
สุ่ยเซียนอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ยืนตัวแข็ง
เสี่ยวเชี่ยนคิดว่าไม่มีเรื่องของตัวเองแล้วจึงหันตัวเตรียมเดินเข้าบ้านเพื่อกินอาหารเช้าแสนรัก พอได้ยินชื่อตัวเองก็หยุดชะงัก
บรรยากาศกระอักกระอ่วนแบบบอกไม่ถูก
เด็กส่งดอกไม้มองทั้งสามคนด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมไม่ขยับกันล่ะ
เขาคิดว่าตัวเองพูดไม่ชัดเจนจึงพูดซ้ำอีกครั้ง
“ดอกไม้ช่อนี้มีเก้าสิบเก้าดอก เป็นสัญลักษณ์ของความรักที่มีอย่างเปี่ยมล้น นอกจากนี้ยังได้ใช้ดอกกุหลาบขาวทำเป็นรูปหัวใจ คุณอาเหม็ดต้องการมอบให้คุณเฉินเสี่ยวเชี่ยน กรุณาเซ็นรับด้วยครับ”
ต่อให้เสี่ยวเชี่ยนไม่หันไปก็รู้สึกได้ถึงอานุภาพแรงหึงอันแรงกล้าของผู้ชายที่กำลังเปลี่ยนรองเท้า
เธอหันไปอย่างจนใจ อวี๋หมิงหลางทำหน้าไม่พอใจคามคาด
อาเหม็ดคิดอะไรอยู่กันแน่นะ ไม่ส่งดอกไม้ให้สุ่ยเซียนมาส่งให้เธอทำไม
แล้วก็ผู้ชายที่กำลังเปลี่ยนรองเท้านั่น เปลี่ยนรองเท้าพลางถลึงตามองคนอื่นไม่เหนื่อยหรือไง
“มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยนะ” อวี๋หมิงหลางยืนขึ้น หันไปพูดกับเด็กส่งดอกไม้ด้วยความไม่พอใจ
เด็กหนุ่มไม่เคยเจอคนดุขนาดนี้ ตกใจรีบอุ้มดอกไม้ถอยหลังไปหนึ่งก้าว จากนั้นอวี๋หมิงหลางก็ปิดประตูแล้วหันไปถลึงตาใส่เสี่ยวเชี่ยน
เสี่ยวเชี่ยนเป็นคนที่ค่อนข้างรู้สึกตัวช้าในเรื่องความรักของตัวเอง เธอมองคนอื่นมีความรู้สึกให้กันออกอย่างง่ายดาย แต่พอถึงตาตัวเองกลับรู้สึกช้ากว่าคนอื่น เธอรับรู้ไม่ได้ว่าผู้ชายคนไหนมีใจให้เธอ สำหรับกรณีส่งดอกไม้นี้ ปฏิกิริยาของเสี่ยวเชี่ยนคือ งุนงง
อวี๋หมิงหลางเดาว่าเธอมองไม่ออกว่าอาเหม็ดมีใจให้ เขาเองก็ไม่ได้โมโหเสี่ยวเชี่ยนจริงๆ เพียงแค่นึกไม่ถึงว่าอาเหม็ดจะกล้าขนาดนี้ อดทนมาตั้งนานสุดท้ายเล็งเป้าหมายไปที่เสี่ยวเชี่ยน
ไม่มีใครชอบให้ผู้ชายคนอื่นมายุ่งกับภรรยาตัวเอง อวี๋หมิงหลางเดาว่าอาเหม็ดอาจนึกไม่ถึงว่าเขาจะอยู่กับเสี่ยวเชี่ยนที่นี่ ดังนั้นถึงได้กล้าส่งดอกไม้มาให้
หากจะบอกว่าอวี๋หมิงหลางจ้องเสี่ยวเชี่ยนด้วยความโกรธ ไม่สู้พูดว่าเขากำลังพาล เพราะตอนนี้เขาอยากไปอัดอาเหม็ดสักยก
“มองอะไร อวดว่าตาโตเหรอ” เสี่ยวเชี่ยนพูดใส่อวี๋หมิงหลาง ฉันยังงงเลยโอเคมะ ทำไมเขาต้องส่งดอกไม้ให้ฉันด้วย”
“หึ” อวี๋หมิงหลางพูดในใจ ก็เพราะว่าคุณมันเสน่ห์ล้นเหลือไงล่ะ
ประตูถูกเคาะอีกครั้ง อวี๋หมิงหลางเปิดอย่างไม่สบอารมณ์ ก็เห็นเด็กส่งดอกไม้คนเดิมยืนตัวสั่น เอาดอกไม้บังหน้าไม่กล้ามองผู้ชายหน้าบึ้งตรงหน้า
“คือว่า…ถึงผมจะไม่รู้ว่าคุณกับลูกค้าผมมีเรื่องขัดแย้งอะไรกัน แต่ช่วยเซ็นรับได้ไหมครับ ผมคนทำงานลำบากใจ แม่ป่วยต้องใช้เงินรักษา ถ้าส่งไม่ถึงมือ เจ้านายหักเงินเดือนผมแน่เลยครับ…”
ฮือๆ แม่จ๋า เพื่อกตัญญูต่อแม่ ลูกกล้าเผชิญหน้ากับผู้ชายหน้าโหดคนนี้เลยนะ ผมกตัญญูสุดๆแล้วนะ เด็กส่งดอกไม้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความโมโหของผู้ชายตรงหน้าพลางคิดในใจ
อวี๋หมิงหลางเห็นดอกกุหลาบขาวที่ถูกจัดเป็นรูปหัวใจแล้วก็โมโห เด็กส่งดอกไม้เลยถูกพาลไปด้วย
“บอกให้ไปไม่เข้าใจภาษาคนหรือไง”
พอเห็นเด็กส่งดอกไม้ตกใจกลัวไม่กล้าส่งเสียงเสี่ยวเชี่ยนก็ทนดูต่อไปไม่ไหว ดันตัวอวี๋หมิงหลางออก
“นายอย่าไปลงกับคนทำงานบริการเลย ไม่เกี่ยวกับเขา”
เจ๊ช่างเมตตา เด็กหนุ่มซึ้งใจจนแทบร้องไห้
“ฉันคือเฉินเสี่ยวเชี่ยน ฉันเซ็นให้”
“เฉิน เสี่ยว เชี่ยน” อวี๋หมิงหลางโมโห กล้าเซ็นรับดอกไม้จากชายอื่นต่อหน้าเขา ผู้หญิงคนนี้อยากโดนตีเหรอ ไม่สิ เขาไม่กล้าตีเธอ งั้นเปลี่ยนคำใหม่ เอาเป็นผู้หญิงคนนี้อยากโดน ‘แส้ลงโทษ’ เหรอ
พอเห็นสถานการณ์ในตอนนี้ สุ่ยเซียนที่ยืนอยู่ข้างๆก็เครียดขึ้นมา เธอไม่เคยเห็นอวี๋หมิงหลางโมโหมาก่อน ถึงเธอจะได้ยินจูขี้บ่นพูดบ่อยๆว่าอวี๋หมิงหลางสร้างตำนานให้หน่วยอย่างไรบ้าง แต่เธอก็มักจะยากที่จะจินตนาการว่าผู้ชายที่ชอบทำตัวเอาอกเอาใจเสี่ยวเชี่ยนคนนี้เป็นคนเดียวกับซุปเปอร์ฮีโร่ที่จูขี้บ่นชอบพูดถึง
อวี๋หมิงหลางในเวลานี้ควบคุมความโมโหไว้ไม่อยู่ ทำให้สุ่ยเซียนสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากปกติ นี่เป็นตัวตนของเขาที่แท้จริงหรือเปล่าน่ากลัวมาก
สุ่ยเซียนมองเสี่ยวเชี่ยนอย่างเป็นกังวล เธอรู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนเป็นคนที่ไม่ยอมใคร กลัวสองคนนี้จะทะเลาะกัน
หลิวเหมยที่อยู่ในบ้านยืนขึ้น เธอเองก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศตึงเครียดระหว่างอวี๋หมิงหลางกับเสี่ยวเชี่ยน
หลิวเหมยรู้ดีว่าพี่ชายตัวเองเป็นจอมเผด็จการ แถมยังชอบเอะอะก็ถีบ หลิวเหมยเตรียมตัวไว้พร้อมแล้ว ถ้าอวี๋หมิงหลางควบคุมอารมณ์ไม่ได้ขึ้นมาเธอจะพุ่งเข้าไปปกป้องพี่สะใภ้เอง