เสี่ยวเชี่ยนเห็นอาเหม็ดยืนอยู่ข้างถนนพร้อมช่อดอกไม้ ดูเหมือนเขาจะไม่เห็นเหตุการณ์อันตรายเมื่อครู่ เขากำลังจ่ายเงินค่าแท็กซี่ หรือสองคนนั้นจะถอยเพราะอาเหม็ด
มันไม่สมเหตุสมผล ถ้าอาเหม็ดอยากมาเสนอหน้าให้เธอเห็นงั้นก็ควรใช้โอกาสนี้ทำตัวเป็นฮีโร่เข้ามาช่วยสิ ทำไมอาเหม็ดทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร
เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสงสัยมาก ปะติดปะต่อยังไงก็ดูจะไม่เข้ากัน
อาเหม็ดจัดดอกไม้ให้เข้าที่ จากนั้นก็ยิ้มในแบบที่เขาคิดว่าเป็นรอยยิ้มพิชิตใจสาว จากนั้นก็ออกเดินเพื่อไปหาเสี่ยวเชี่ยน
แค่ไม่กี่ก้าวนี้เขาฝึกอยู่นานมาก
ชุดสูทสีขาว ทรงผมที่ลงแวกซ์จัดทรงอย่างดี รอยยิ้มสุดเพอร์เฟค ลมฤดูร้อนในเวลานี้พัดเส้นผมที่เขาจงใจปล่อยทิ้งลงมาข้างหน้าเล็กน้อย อาเหม็ดคล้ายกับรู้สึกว่าอีกเดี๋ยวเสี่ยวเชี่ยนจะต้องหลงเขาอย่างหัวปักหัวปำแน่นอน
รถที่มีป้านทะเบียนทหารคันหนึ่งขับเข้ามาอย่างรวดเร็ว ขับผ่านแอ่งน้ำที่อยู่ข้างถนน น้ำโคลนกระเด็นเลอะชุดสูทของอาเหม็ด ที่หน้าก็ด้วย…
รถเบรกอย่างกะทันหัน อาเหม็ดโมโหสุดขีด เขาเตรียมจะไปเอาเรื่อง ใครกันที่กล้าบังอาจทำลายภาพลักษณ์สุดเพอร์เฟคของเขา
ปรากฏว่าพอเห็นผู้ชายที่ลงจากรถมาคืออวี๋หมิงหลาง อาเหม็ดก็รีบหอบดอกไม้หันหลังเดินกลับ เฮ่ แท็กซี่มารับหน่อย
ทำไมทุกครั้งเวลาจีบสาวต้องถูกอวี๋หมิงหลางก่อกวนด้วยวะ ทำไมมันถึงได้มาไวแบบนี้…อาเหม็ดครุ่นคิดหลังจากขึ้นรถแท็กซี่ไปแล้ว
ตอนที่อวี๋หมิงหลางได้ยินว่าเสี่ยวเชี่ยนมีอันตราย เขากำลังจะมารับเธอที่มหาวิทยาลัยพอดีถึงได้มาไวขนาดนี้
พอเขากระโดดลงจากรถก็เห็นกระจกรถเก๋งสีแดงของเสี่ยวเชี่ยนแตกละเอียด บนพื้นมีรอยเลือด หัวใจของเขาแทบเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ลูกเชี่ยนบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“ฉันไม่เป็นไร อาข่าบาดเจ็บเพราะปกป้องฉัน”
เสี่ยวเชี่ยนพอเห็นเขามาก็โล่งใจ
“ตัวการล่ะ” อวี๋หมิงหลางโกรธมาก กล้าทำร้ายเมียเขา เรื่องนี้ไม่มีทางจบง่ายๆ
“ขับหนีไปทางนั้น ฉันจำทะเบียนรถได้ น่าจะไปได้สามนาทีแล้วมั้ง” เสี่ยวเชี่ยนชี้ไปทางทิศเหนือ
“ขึ้นรถ ผมจะพาไปตาม”
เสี่ยวเชี่ยนเอากุญแจรถตัวเองให้อาข่า
“เธอขับรถฉันกลับไป”
อาข่ามองรถที่กระจกแตกละเอียดพลางเอามือกุมท้องตัวเอง
“ฉันเป็นคนเจ็บนะ…เธอทำกับคนที่ช่วยเธอไว้แบบนี้เหรอ”
เธอคิดว่าสองผัวเมียจอมเจ้าเล่ห์คู่นี้จะมีน้ำใจขับรถพาเธอกลับไปเสียอีก เธอถึงขนาดลงทุนเจ็บตัวเพื่อช่วยเสี่ยวเชี่ยน ตอนนี้ฟกช้ำไปทั้งตัวเลยนะ
“มันเทียบกันไม่ได้ มากสุดอีกหน่อยฉันก็แค่เอาคืนเธอให้น้อยลง” ถึงอาข่าจะเพิ่งช่วยเธอไป แต่ประธานเชี่ยนยังไม่ลืมเรื่องที่อาข่าแอบดักฟังเธอ
นึกถึงตอนที่เธอกับเสี่ยวเฉียงมีอะไรกันแล้วถูกคนอื่นได้ยินเข้า แค่นี้ประธานเชี่ยนก็รู้สึกติดลบกับอาข่าแล้ว
“เมียผมไม่ชอบให้ผู้หญิงอื่นนั่งรถผม เรื่องครั้งนี้ผมจะจำไว้ ต่อไปค่อยว่ากัน” อวี๋หมิงหลางพยักหน้าให้อาข่า เขามีท่าทางดีขึ้นมาหน่อยเมื่ออยู่กับคนที่ช่วยภรรยาของเขาไว้ ถึงจะยังไม่รู้ที่มาที่ไปของอาข่าก็ตาม
พอสองคนนี้ขับรถออกไปแล้ว อาข่าก็เอามือกุมท้องพลางมองรถที่หน้าต่างแตกคันนี้อย่างลังเล นี่เธอต้องขับกลับไปเองจริงเหรอ ฮือๆ
เธอทำความสะอาดรถอย่างยากลำบาก จากนั้นก็นั่งตรงเบาะข้างคนขับโทรหาบอส
“เขาเป็นไงบ้าง”
“แฟนมาช่วยไปแล้ว…เห็นบอกว่าจะไปไล่ตามชายชุดดำ แต่ฉันบาดเจ็บค่ะบอส”
“ชายชุดดำเหรอ ช่วงนี้เขาไปมีเรื่องกับใครหรือเปล่า”
“ไม่มีนะ ช่วงนี้เห็นไปปั่นหัวรักร่วมเพศที่จะหลอกผู้หญิงแต่งงานแค่นั้น แต่ฉันคิดว่าเขาทำดีนะ ฉันมั่นใจว่าครอบครัวนั้นไม่กล้าเอาคืนเขาหรอก ส่วนชายชุดดำสองคนนี้ดูเหมือนจะเป็นลูกน้องของอาเหม็ด หน้าตาเหมือนคนต่างชาติ”
“เธอแน่ใจนะว่าหน้าตาเหมือนคนต่างชาติ”
“ใช่ค่ะ ร่างกายกำยำ ชอบใช้ความรุนแรง ไม่พูดไม่จาเอะอะก็ใช้กำลัง เบบี๋ของบอสไม่รู้อยู่ๆเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนฟาดล้มไปหนึ่ง จากนั้นพอสองคนนั้นเห็นอาเหม็ดก็เผ่นไปเลย ต่อมาผู้ชายที่แสนเก่งกาจเหมือนตกลงมาจากฟ้า มาพาตัวผู้หญิงของตัวเองไปไล่ล่าสองคนนั้น ฉันว่ามันแปลกๆอยู่นะบอส ประธานเชี่ยนไม่ได้โทรศัพท์บอกแล้วเขามาที่นี่ได้ยังไง แล้วประธานเชี่ยนก็บอกว่าไม่ให้ฉันไปด้วย ให้ขับรถพังๆนี่กลับไป…”
“เธอหมายความว่า เขาทิ้งรถไว้ให้เธอขับ”
“ใช่ค่ะ กระจกแตกละเอียดเต็มพื้นเลย เอ๊ะ เบบี๋ของบอสลืมโทรศัพท์ไว้ ให้ฉันเปิดดูไหมคะว่าในโทรศัพท์มีข้อมูลอะไรบ้าง”
“…หยุดการดักฟังทั้งหมด คอยคุ้มกันเขาก็พอแล้ว นับแต่นี้ไประวังคำพูดด้วย อีกอย่างฉันจะหักโบนัสเธอหนึ่งเดือน”
“ทำไมอ้ะ” อาข่าอยากจะกระอักเลือด กว่าเธอจะได้เงินมาแต่ละบาททำไมช่างยากเย็นแบบนี้
“เพราะความโง่ของเธอเลยถูกเสี่ยวเชี่ยนหลอกเข้าแล้วไง แค่โง่ยังไม่เท่าไร ทำไมไม่ลงไปโทรข้างนอก”
“ฉันเจ็บท้องนี่นา…”
“สปายที่ถูกโละทิ้งพึ่งพาไม่ได้เลยจริงๆ สมควรแล้วที่ถูกหักเงินเดือน” บอสหมดคำจะพูด เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆว่าทำไมถึงได้เอาคนแบบนี้มาไว้ข้างตัวเสี่ยวเชี่ยน แค่ลงไปโทรนอกรถเรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้
ที่อวี๋หมิงหลางมาหาเสี่ยวเชี่ยนได้อย่างรวดเร็ว มีความเป็นไปได้สูงว่าที่ตัวเสี่ยวเชี่ยนติดเครื่องดักฟังไว้ และที่เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางไม่พาอาข่าไปด้วยก็เพราะมีแผน และลูกน้องโง่ของเขาก็หลงกลเข้าเต็มๆ โง่จริงๆ
“พวกหักเงินเดือนมันตะกร้า…” อาข่าบ่นเสียงเบา ช่วงนี้เธอถูกหักเงินบ่อยมาก
“เป็นผู้หญิงพูดคำแบบนี้ติดปากคิดว่าน่ารักเหรอ” บอสไม่พอใจสุดๆ
“ให้ตายเหอะบอส ตะกร้าเป็นคำด่าที่เสี่ยวเชี่ยนเบบี๋ของบอสใช้ด่าบ่อยที่สุดเคมะ เขาพูดคล่องปากมากพูดเลย”
“…อันที่จริงฟังดีๆคำๆนี้ก็ดูมีระดับเข้ากับท้องถิ่นดีนะ แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง เวลาด่าคนไม่ดูเชยเกินไป ใช้ได้”
โวะ เปลี่ยนไวจังนะ อาข่าไม่โอเค
“บอส ทำไมทีกับประธานเชี่ยนมีแต่คำชมล่ะ บอสกับเขาเป็นอะไรกัน”
“ที่ไม่ควรถามก็ไม่ต้องถาม”
บอสวางสาย นึกถึงคำพูดของอาข่าเมื่อครู่คงถูกเสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางได้ยินแล้ว แต่เขาก็ไม่กังวลอะไร กลับรู้สึกรอคอยมากกว่า
ผู้หญิงที่ฉลาดแบบนี้น่าจะสงสัยอาข่าแล้วสินะ ไม่รู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนจะรู้สึกเซอร์ไพร้ส์แค่ไหน อยากให้ถึงวันที่ได้เจอกันเร็วๆ
บนรถ อวี๋หมิงหลางถอดหูฟังบลูทูธพลางขมวดคิ้ว
“มีอะไรเหรอ” เสี่ยวเชี่ยนถามอวี๋หมิงหลาง
“แปลกๆ อาข่าไม่ใช่คนของอาเหม็ด”
เหมือนกับที่คิดไว้ เสี่ยวเชี่ยนแค่เสนอให้อาข่าขับรถกลับไป อวี๋หมิงหลางก็เข้าใจจุดประสงค์ ให้ความร่วมมือกับเสี่ยวเชี่ยนเปิดโหมดสามีภรรยาผนึกกำลังหลอกต้มคน
ถูกอาข่าดักฟังมานานขนาดนี้ มันก็ถึงคราวที่ต้องเอาคืนบ้างแล้ว
แต่ผลที่ได้จากครั้งนี้ทำให้อวี๋หมิงหลางรู้สึกเหนือความคาดหมาย
“ไม่น่ามั้ง”
“ตอนเขาคุยโทรศัพท์ น้ำเสียงของ ‘บอส’ ที่ใช้ถามเขาไม่เหมือนอาเหม็ด ยิ่งไปกว่านั้นประโยคสุดท้ายถามได้แปลกมาก เขาถามคนลึกลับคนนั้นว่า ทำไมทีกับคุณมีแต่คำชม เป็นอะไรกับคุณกันแน่ คุณว่าถ้าปลายสายเป็นอาเหม็ดเขาจะถามแบบนั้นเหรอ”