59 – ความจริงที่ซ่อนอยู่
โจวเจ๋อกำลังเก็บของอยู่หลังเคาน์เตอร์ ในเวลาเดียวกันเขาสั่งให้ไป๋อิ่งออกไปซื้อบุหรี่ในซอยถัดไป เขาต้องเปลี่ยนแผนในคืนนี้ เขาจะไปที่วัดขงจื๊อเพื่อคุยกับชายชราคนนั้น
ในขณะนั้นเองประตูร้านหนังสือก็ถูกเปิดออก และชายหนุ่มสวมแจ็คเก็ตสีขาวก็เดินเข้ามาในร้าน
“อาเล่อ! วันนี้ฉันต้องไปรับพ่อที่โรงพยาบาล”
โจวเจ๋อตกตะลึงครู่หนึ่งเขาเริ่มคิดเกี่ยวกับตัวตนของชายคนนี้ฝ่ายตรงข้ามน่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่อายุน้อยกว่าเขา เขาและซูเล่อควรเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
ครั้งล่าสุดที่เขาได้ข่าวเกี่ยวกับญาติก็คือซูเต๋อชวนประสบอุบัติเหตุซึ่งเขาได้ไปเยี่ยมและหมอหลินจ่ายค่ารักษาพยาบาลทุกอย่างแล้วดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีก
“สวัสดี.” โจวเจ๋อตอบอย่างเย็นชา
“อาเล่อ ฉันขาดเงินนิดหน่อยช่วงนี้ฉันต้องกลับบ้านมาดูแลพ่อจึงได้ลาออกจากงาน” ลูกพี่ลูกน้องยิ้มให้โจวเจ๋อ
“ฉันได้ให้เงินพ่อนายไปแล้วอย่ามาหลอกฉันซะให้ยาก” โจวเจ๋อมอบเงินให้กับซูเต๋อชวนติดไม้ติดมือไปบ้างตอนที่เขาอยู่โรงพยาบาล
“เฮ้ อาเล่อฉันไม่มีเงินจริงๆพี่ให้ฉันยืมหน่อยได้ไหม” ลูกพี่ลูกน้องยังคงตื้อไม่หยุด
“ช่วงนี้ธุรกิจไม่ดี”
“พี่ครับ เงินที่พี่ให้ไปมันยังไม่พอ” ลูกพี่ลูกน้องเริ่มโมโหแล้วตะโกนออกมาว่า “เงินก้อนสุดท้ายที่พี่สัญญาว่าจะให้”
“ว่าไงนะ?”
“พี่จำไม่ได้แล้วเหรองานพี่ๆให้ผมไปทำ พี่บอกว่าอีกครึ่งปีให้มาเอาส่วนที่เหลือตอนนี้ก็ครึ่งปีแล้ว คนขับรถสัญญาว่าจะไม่บอกใครเรื่องนี้แต่พี่ต้องให้เงินเขาอีก พี่ครับเงินไม่พอจริงๆอย่างน้อยๆ 2,000 ก็ยังดี “
โจวเจ๋อหยิบถ้วยชาที่เคาน์เตอร์ขึ้นมาจิบแล้วพูดว่า
“ฉันไม่เข้าใจเรื่องที่นายพูด”
“พี่ชาย พี่จะข้ามแม่น้ำแล้วรื้อสะพานไม่ได้นะ ครึ่งปีที่แล้วพี่บอกผมให้หาคนมาฆ่าหมอคนนั้น เงินค่าจ้างที่พี่ให้มาผมก็ให้คนขับรถหมดแล้ว แล้วเงินส่วนของผมอยู่ไหน…”
“แคร่ก”
ถ้วยชาในมือของโจวเจ๋อถูกบดขยี้โดยตรง
“อาเล่อ?” ลูกพี่ลูกน้องเห็นโจวเจ๋อบดขยี้ถ้วยกระเบื้องโดยตรงเขาก็ตกใจรีบกระโดดถอยหลังทันที
“พี่ใหญ่ถ้าพี่ขาดเงินก็ไม่เป็นไรฉันไม่กวนแล้ว” ลูกพี่ลูกน้องรู้สึกหวาดกลัวใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวเล็กน้อย
พวกเขาคือตั๊กแตนที่ผูกติดกับล้อรถด้วยกัน ไม่มีใครสามารถคุกคามใครได้ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความผิดเหมือนกัน เพียงแต่ว่าในตอนแรกเขาคิดจะข่มขู่เอาเงินจากลูกพี่ลูกน้องของเขาเท่านั้นเอง
ใช่ ลูกพี่ลูกน้องของเขาคือผู้บงการ แล้วเขาล่ะ?
เขาก็มีส่วนร่วมในเรื่องนี้โดยตรง หากพวกเขาถูกตำรวจจับได้มีเพียงโทษประหารชีวิตเท่านั้นที่รออยู่ เขาจึงไม่กล้าข่มขู่ซูเล่อไปมากกว่านี้
ในที่สุดโจวเจ๋อก็เข้าใจว่าทำไมซูเล่อถึงมีเงินเพียงเล็กน้อยหลังจากที่ฟื้นคืนชีพกลับมา ร้านหนังสือก็มีส่วนในการผลาญเงินที่พ่อแม่ของหมอหลินให้มาก้อนนั้น แต่เงินส่วนใหญ่ถูกใช้ไปเพื่อการนี้
นี่มันไร้สาระจริงๆ เขาถูกฆ่าตายเพราะเรื่องไร้สาระแบบนี้
โจวเจ๋อแข้งขาอ่อนแรงเขานั่งลงบนเก้าอี้หลังเคาน์เตอร์ เลือดที่มือของเขายังคงไหลออกมาไม่หยุด แต่เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดใดๆ
นี่มันไร้สาระจริงๆ ในตอนแรกเขารู้สึกว่าซูเล่อเป็นคนน่าสงสาร
เขาใจเสาะไร้ประโยชน์ หาคุณสมบัติดีๆของผู้ชายไม่ได้สักอย่าง
แต่ใครจะรู้ว่าซูเล่อคือฆาตกรที่แท้จริงในเบื้องหลังการตายของเขา!
เรื่องราวทุกอย่างหมุนกลับมาเป็นวงกลม
ใช่
ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับถูกกำหนดล่วงหน้า!
ใช่
ทุกคนสามารถบอกได้ว่าพระเจ้ามีความยุติธรรมเสมอ พระองค์มีดวงตาที่มองเห็นทุกอย่าง!
นี่เป็นมุมมองที่ผู้ชมต้องการจะเห็น ในที่สุดคนร้ายก็ได้รับการลงโทษในสิ่งที่เขาทำ นี่เป็นพล็อตในฝันสำหรับผู้ที่ชอบดูละครหลังอาหารเย็น
อย่างไรก็ตามใครจะคืนชีวิตเดิมให้เขาได้?
โจวเจ๋อก้มศีรษะลงเล็กน้อย ร่างกายของเขาเริ่มกระตุกช้าๆ และความโกรธเกรี้ยวเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างของเขา
หมอโจวออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและเลี้ยงดูตัวเองด้วยความยากลำบาก ทุกก้าวเดินของเขานั้นเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ!
เขาไม่มีภูมิหลังเขาอาศัยความสามารถของตัวเองจนกระทั่งเรียนจบแพทย์ ในขณะเดียวกันเขาก็ยึดถือหลักจริยธรรมทางการแพทย์และหวังว่าจะประสบความสำเร็จมากขึ้นและมีตำแหน่งที่สูงขึ้น
ความยากลำบากของเขานั้นเหมือนกับก้าวเดินไปบนแผ่นน้ำแข็งบางๆ มันไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าที่เขาจะได้เป็นหัวหน้าแผนกและเป็นศัลยแพทย์มือดีที่มีชื่อเสียงของเมือง
เขาต้องเสียเหงื่อไปเท่าไหร่แล้ว?
เขาต้องนอนดึกเหน็ดเหนื่อยและต้องพยายามให้กำลังใจตัวเองกี่ครั้ง แล้วใครจะสามารถคืนชีวิตให้เขาได้!
เพราะไอ้สารเลวคนนี้ มันพบว่าเมียของมันแอบหลงรักคนอื่น
นั่นเป็นเหตุผลให้เมียไม่นอนกับมัน
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาถูกฆ่า
ซูเล่อโกรธแค้นและไม่ยินยอมพร้อมใจ!
มันไม่เคยคิดว่าทำไมตัวเองถึงยอมเสียศักดิ์ศรีเพื่อให้ได้แต่งเข้าบ้านของฝ่ายหญิง มันไม่เคยไต่ตรองว่าเหตุไฉนตัวเองถึงต้องยอมถูกพ่อตาแม่ยายและน้องภรรยาดูถูกเหยียดหยาม
มันไม่เคยไต่ตรองถึงตัวมันเอง
แต่มันกลับระบายความโกรธใส่คนอื่น!
หากโจวเจ๋อมีความสัมพันธ์กับหมอหลินจริงๆเขาก็ยังพอให้อภัยได้
แต่ในความเป็นจริงเขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเธอคือเด็กฝึกงานของเขาเมื่อห้าหกปีก่อน!
โจวเจ๋อไม่เคยรู้เลย
แต่ระหว่างกลับจากที่ทำงานโจวเจ๋อกำลังไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าพร้อมเค้กและของขวัญวันเด็ก ในขณะที่รถของเขาวิ่งผ่านไฟเขียวรถบรรทุกคันนั้นก็ผ่าไฟแดงเข้ามาพร้อมกับบดขยี้ชีวิตที่ดำเนินมาอย่างยากลำบากของเขา!
ดวงตาของโจวเจ๋อแดงก่ำเขามองไปที่ลูกพี่ลูกน้องของซูเล่อด้วยสายตาโกรธแค้นอย่างถึงที่สุด
“อาเล่อฉันไปก่อนนะ ดูแลสุขภาพด้วย”
ลูกพี่ลูกน้องของซูเล่อไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขาหมุนตัวและผลักประตูกระจกของร้านหนังสือพร้อมกับวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนี้เขาตั้งใจจะพาพ่อหนีออกจากบ้านเดิมที่เคยอยู่และไม่ติดต่อกับซูเล่ออีก ซูเล่อคนนี้แม้ว่าตั้งแต่เกิดมาจะเป็นคนที่ไม่เคยสู้คนเลย แต่ในวันนั้นเขากลับต้องการฆ่าคนให้ตายจริงๆ!
” ฉันจะฆ่าผู้ชายคนนั้น ฆ่าเขา! ใช้เงินที่ได้จากเธอเพื่อฆ่าเขา
ลูกพี่ลูกน้องของซูเล่อยังจำคืนนั้นเมื่อครึ่งปีที่แล้วได้ดี ซูเล่อวางเงินก้อนหนึ่งตรงหน้าเขาและกรีดร้องออกมาด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว
ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ที่ครั้งหนึ่งเคยหัวเราะเยาะซูเล่ออย่างลับๆ เพราะเขาเป็นคนอ่อนโยนและขี้ขลาดเกินไป เขากล้าแม้แต่ละทิ้งชื่อแซ่ของตัวเองเพื่อแต่งงานเข้าตระกูลของฝ่ายหญิง
แต่เหตุการณ์ในวันนั้นเปลี่ยนภาพลักษณ์ของซูเล่อในใจของเขาอย่างสิ้นเชิง เขาต้องพาพ่อหนีออกจากเมืองนี้ เขาไม่มั่นใจว่าซูเล่อจะจ้างใครมาฆ่าปิดปากเขาหรือไม่ เรื่องนี้เขาเสี่ยงไม่ได้