63 – วัดขงจื้ออีกครั้ง
บุหรี่ถูกเสียบลงบนพื้น โจวเจ๋อวางมันไว้ทีละชิ้นแล้ววางถ้วยเกี๊ยวลงทีหลังสุด
“เด็กรุ่นหลังโจวเจ๋อนำบางอย่างมาถวายให้กับท่าน โปรดแสดงตัวด้วย”
พูดจบก็รออีกนานแต่ทุกอย่างก็ยังเงียบ
โจวเจ๋อหยิบบุหรี่อีกชิ้นหนึ่งออกมา และเมื่อเขากำลังจะจุดบุหรี่อีกครั้ง เขาก็พบว่าบุหรี่แถวยาวที่เขาเพิ่งจุดไฟก็หายไปพร้อมกัน
เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง โจวเจ๋อเห็นว่าชายชราเตี้ยแคระนั่งอยู่บนเนินดินด้านหน้า
“ทีหลังจะมาเยี่ยมก็ไม่ต้องเอาอะไรมาก็ได้”
ชายชราผู้ถือฆ้องไว้ในมือใบหน้าของเขามีรอยยิ้มสดใส
“ผมมีเรื่องจะถามท่านผู้เฒ่า” ท่าทางของโจวเจ๋อนอบน้อมเป็นอย่างมาก
ชายชราคนนี้สามารถนำขบวนภูติผีในวัดขงจื๊อได้ เขาต้องไม่ใช่ผีธรรมดาอย่างแน่นอนแต่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ในระบบด้วย ดังนั้นเขาควรจะรู้เรื่องผีมากกว่าผีทั่วไป
ชายชราหักนิ้วของตัวเองและมองไปที่โจวเจ๋ออย่างมีความหมายครู่หนึ่ง สงสัยว่า
“ในเมื่อคุณมีความปรารถนาอยากจะสอบถามชายชราคนนี้ทั้งยังนำของเซ่นไหว้มามากมายคุณก็จะได้รับคำตอบที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน”
โจวเจ๋อได้ยินคำพูดของชายชราเขาก็ยิ้มออกมา
“คุณอยากรู้เรื่องอะไร!”
“ขอผู้อาวุโสคลายความสงสัยด้วย” โจวเจ๋อถามด้วยความเคารพ
“ตอนนี้ผมเป็นพนักงานชั่วคราวการจะเลื่อนเป็นพนักงานที่แท้จริงผมต้องทำยังไงบ้าง?”
ชายชราลูบเคลาของตัวเองด้วยท่าทางสบายๆแล้วพูดว่า
“โชคดีที่คุณถามในสิ่งที่ชายชราคนนี้รู้ เห็นแก่ความดีของคุณชายชราคนนี้จะชี้ทางสว่างให้ ”
โจวเจ๋อมองเขาด้วยสายตามุ่งหวัง
“คุณเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งก็จงตักตวงความสุขใส่ตัวเองให้มากไว้ ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดแล้วบริษัทของคุณก็จะเลื่อนตำแหน่งให้เอง”
ชายชราพูดอย่างใจเย็น
โจวเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย ชายชราที่อยู่ข้างหน้าไม่รู้จริงๆเหรอว่าเขาเป็นผี หรือว่าชายชรากำลังแนะนำเขาในเรื่องอื่น?
เด็กหญิงตัวน้อยบอกโจวเจ๋อว่าตัวเขาเปรียบเสมือนสปอร์ตไลท์ตอนกลางคืนไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถมองเห็นเขาได้ แล้วเหตุไฉนชายชราคนนี้ถึงแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเขา?
โจวเจ๋อยื่นมือขวาให้ชายชราดูเพื่อแสดงให้เห็นถึงสัญลักษณ์ของประตูนรก
ใบหน้าของชายชราซีดลงทันที จากนั้นเขาก็บอกว่า
“ฉันรู้แล้วเด็กผู้หญิงลิ้นยาวคนนั้นคงพาคุณมาทำหน้าที่พนักงานชั่วคราวนี่เอง”
ในที่สุดชายชราก็ถามอีกครั้งว่า “คุณอยากถามเกี่ยวกับเรื่องงานของผีอย่างนั้นเหรอ”
“เพื่อความสงบสุขของนรกผมต้องการพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น”
“โอ้” ชายชราส่ายหัวและพยักหน้า เขาเดินไปเดินมาเหมือนกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง
“เฮ้ ฉันรู้แล้วว่าคุณต้องการอะไร ที่แท้คุณต้องการแทนที่เด็กผู้หญิงลิ้นยาวคนนั้น”
โจวเจ๋อไม่ได้หักล้างคำพูดของเขา
“ไม่ใช่ว่าไม่มีทาง และมันง่ายมาก” ชายชราพูดกับตัวเองว่า “ในเมื่อคุณนำของขวัญมามากมายฉันก็จะชี้ทางสว่างให้กับคุณ”
“น้อมรับฟัง”
“ในวัดขงจื๊อ มีนักบุญมากมายพวกเขาคือตัวตนที่ไม่ธรรมดาคุณน่าจะรู้อยู่? “
ใช่” โจวเจ๋อพยักหน้า
“เด็กหญิงลิ้นยาวให้กุญแจดอกนี้แก่คุณ ซึ่งเทียบเท่ากับการให้ตัวตนของคุณเพียงครึ่งเดียว แต่เธอสามารถเอามันกลับไปได้ทุกเมื่อ” ชายชราพูดกับตัวเอง
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็เข้าสู่วิหารขงจื้อและสวดอ้อนวอนต่อนักบุญเหล่านั้นด้วยความจริงใจและนอบน้อมเพื่อให้พวกเขามอบพรให้แก่คุณ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง นักบุญเหล่านั้นมีความฉลาดเฉลียวและตระหนักในทุกสิ่ง เมื่อคุณมีความคิดชั่วร้ายในใจหรือทำอะไรที่ผิดมโนธรรมในอนาคต คุณจะถูกลงโทษ
ไม่เพียงตามกฎหมายและข้อบังคับของฝ่ายหยินเท่านั้น แต่ยังถูกลงโทษด้วยพระพิโรธของธรรมิกชนอีกด้วย! “
ชายชราดูจริงจัง
“มันยากหรือเปล่า” โจวเจ๋อถาม
“อยากหรือเปล่างั้นเหรอ?” ชายชราถอนหายใจ “ถ้าคุณอยากจะได้รับความโปรดปรานจากนักบุญและให้พวกเขามอบอัตลักษณ์แก่คุณสิ่งที่คุณทำได้มีเพียงลองดูเท่านั้น”
โจวเจ๋อพยักหน้าและพูดว่า “ลองก็ลอง”
ชายชราพาโจวเจ๋อเดินไปที่วิหารพร้อมกับเปิดประตูออก
“เข้าไปข้างในแล้วอธิษฐานต่อหน้านักบุญ ที่เหลือฉันจัดการเอง”
โจวเจ๋อเอื้อมมือออกไปเปิดประตูก่อนจะมองดูชายชราที่ยืนอยู่ด้านนอกด้วยสีหน้าแปลกๆ
“คุณไม่เข้ามากับผมหรือท่านผู้เฒ่า?”
“ฉันเป็นเพียงสุนัขที่คอยรับใช้นักบุญเหล่านี้ คุณไม่เห็นเหรอว่าฉันมีเพียงแค่วิญญาณเท่านั้นเหตุไฉนถึงจะกล้าเดินอยู่ต่อหน้าพวกเขา คุณมีร่างกายที่แท้จริงคุณเข้าไปเถอะ”
โจวเจ๋อลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่เขาก็ก้าวเข้าไปตามคำบอกของชายชรา
ชายชราปิดประตูไม้เบาๆพร้อมกับตะโกนว่า
“เวลาพูดต้องมีความนอบน้อมด้วย!”
ต่อมาชายชราหยิบบุหรี่มวนหนึ่งออกมาคาบไว้ก่อนจะจุดไฟขึ้นมาในความว่างเปล่า
หลังจากสูบบุหรี่ชายชราก็ยิ้ม หลังจากนั้นชายชราก็ปลดฆ้องที่อยู่หัวไหล่ลงมาตีอย่างแรง! พร้อมกับตะโกนเสียงดังว่า
“ตอนนี้หน้าแล้งระวังฟืนไฟ!”
หลังจากนั้นเขาก็ตีฆ้องอีกหนึ่งครั้ง
“ตอนนี้หน้าแล้งระวังฟืนไฟ!”
ชายชรากำลังตีฆ้อง ร้องเพลงและเต้นรำที่ประตูวัดขงจื๊อ เหมือนกำลังอัญเชิญเทพเจ้าลงมาที่นี่
เขาเป็นชายร่างเล็กการกระโดดโลดเต้นของเขาทำให้ดูคล้ายกับตัวตลกเล็กน้อย
“เจ้าหนูคุณควรแสดงความเคารพออกมาอย่างนอบน้อมและขอร้องนักบุญเหล่านั้นอย่างจริงจัง!”
ชายชราตะโกนใส่วิหารขงจื๊อ
“อืม ผมกำลังทำ” โจวเจ๋อไม่รู้ว่จะเชื่อชายชราคนนี้ได้หรือเปล่า วิธีการของเขามันดูเลื่อนลอยไร้สาระยังไงชอบกล
“ไม่ยากหรอกทำต่อไป หากวันนี้ทำไม่ได้วันหน้าคุณก็มาอีกขอแค่นำบุหรี่มาด้วยทุกครั้งก็พอ “
ชายชราหัวเราะอย่างมีความสุข หลังจากพูดจบเขาก็ตีฆ้องอีกครั้ง
“ตอนนี้หน้าแล้งระวังฟืนไฟ!”
“ปัง!”
“ตอนนี้หน้าแล้งระวังฟืนไฟ!”
“ปัง!”
ในเวลาเดียวกัน ค้อนของคนแคระชราที่ห่อด้วยผ้าขาวก็เริ่มชุ่มไปด้วยเลือด
ในตอนแรกสีของเลือดมีเพียงเล็กน้อย แต่ด้วยฆ้องที่ถูกตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า สีของเลือดก็เริ่มแพร่กระจาย
ในตอนท้ายร่างกายของชายชราก็เต็มไปด้วยเลือดและดูเหมือนว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังตีฆ้องไม่หยุด!
“ปัง!”
เมื่อเสียงฆ้องสุดท้ายดังขึ้นชายชราก็โยนฆ้องสีแดงในมือเข้าไปในวิหารขงจื๊อโดยตรง พร้อมกันนั้นเขาก็ตวาดออกไปว่า
“พระผู้มีพระภาคโปรดลืมตาเพื่อกำจัดผีร้ายตนนี้!”