70 – ครอบครัวอบอุ่น
โจวเจ๋อนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้งและมองดูโทรศัพท์มือถือของเขาเพื่อหาข่าวเกี่ยวกับการตายของชายวัยกลางคนที่กำลังอ่านหนังสืออยู่
” เขาพยายามลวนลามนักเรียนของตัวเอง เมื่อถูกจับได้เขาจึงกระโดดตึกตาย”
ชายวัยกลางคนยังคงอ่านต่อไปราวกับว่าเขาไม่ได้ยินเลย แต่หมวกทรงสูงของเขานั้นชัดเจนและเป็นประกาย
นักโทษโบราณต้องแขวนป้ายไม้ไว้ที่ด้านหลังเพื่อแสดงให้เห็นถึงความผิดของพวกเขา ป้ายไม้นั้นเป็นป้ายที่บอกสถานะเช่นเดียวกันกับหมวกที่ชายวัยกลางคนสวม
ไป๋อิ่งทำงานเร็วมาก ในตอนนี้เธอเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทางเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อย
มันช่วยไม่ได้จริงๆในเรื่องนี้แม้ว่าเธอจะเกิดในตระกูลร่ำรวยแต่เมื่ออยู่ใต้ชายคาของผู้อื่นเธอก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าของบ้าน
อีกทั้งโจวเจ๋อยังเป็นคนรักความสะอาดจึงเป็นธรรมดาที่เธอจะต้องทำงานหนักขึ้นไปอีก
“เจ้านายฉันเหนื่อยแล้วนะ”
ไป๋อิ่งถอดเสื้อคลุมของเธอออก เธอไม่กลัวความหนาวเย็นในตอนนี้เธอสวมเพียงเสื้อแขนสั้นและมือของเธอถือผ้าขี้ริ้วอยู่
แม้ว่านิสัยของเธอจะเหมือนเด็กแต่เห็นได้ชัดว่ารูปร่างของเธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่แล้ว
“เจ้านายคุณคิดยังไงกับฉันกันแน่” ไป๋อิ่งกล่าวด้วยความสงสัย
“คุณเป็นคนตาย”
“แต่ฉันก็สวยเหมือนกันนะ” ไป๋อิ่งทำท่าทางประจบสอพลอ
“ใส่เสื้ออีกชั้นก่อน ถ้าใครมาเห็นคุณตอนนี้พวกเขาจะไม่คิดว่าคุณเป็นคนปกติอย่างแน่นอน”
“ก็ฉันไม่ใช่คนปกตินี่นา” ไป๋อิ่งมองไปที่โจวเจ๋อ “อ้อ น้องภรรยาของคุณกลับมาอีกรอบเหรอฉันได้ยินเสียงของเธอตอนอยู่ในห้องน้ำ ”
หลังจากนั้นโจวเจ๋อก็นึกอะไรบางอย่างออกอย่างกะทันหัน
ไป๋อิ่งและน้องภรรยาของเขาล้วนแล้วแต่มีลักษณะเหมือนกับเด็กนักเรียนมอปลาย แต่ชายวัยกลางคนก็ไม่ได้รู้สึกโมโหที่เห็นพวกเธอใช้ชีวิตแบบนี้
ดังนั้นมีสาเหตุเดียวเท่านั้นก็คือเด็กผู้หญิงที่เป็นเพื่อนน้องภรรยาของเขามีปัญหาบางอย่าง
รายงานของเขาที่เขาพบบนอินเทอร์เน็ตนั้นไม่ได้เปิดเผยใบหน้าของเหยื่ออาชญากรรมเพราะต้องการปกป้องเธอที่เป็นเด็ก
“เด็กผู้หญิงคนนั้นที่มากับน้องภรรยาของผมเป็นนักเรียนของคุณเหรอ” โจวเจ๋อถามชายวัยกลางคนที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือโดยไม่สนใจคำถามของโจวเจ๋อ
โจวเจ๋อ เอื้อมมือไปหยิบหนังสือที่เขาอ่านกลับมาถือไว้แล้วถามอีกครั้งว่า
“ผมกำลังถามคุณอยู่”
ชายวัยกลางคนมองโจวเจ๋อและพยักหน้า
“คุณพยายามจะข่มขืนเธอจริงๆเหรอ” โจวเจ๋อถามอีกครั้ง
ชายวัยกลางคนไม่ตอบ
“ถ้าคุณไม่ตอบผมดีๆ ผมจะส่งคุณลงนรกเดี๋ยวนี้” โจวเจ๋อขู่
“หลังจากอ่านหนังสือแล้วผมจะไปในที่ที่ผมควรไป” ชายวัยกลางคนยืนขึ้นและดูโล่งใจมาก
“ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง เธอเป็นนักเรียนของผมมันเป็นความรับผิดชอบของผมที่ไม่สามารถสอนเธอให้เป็นคนดีได้” ชายวัยกลางคนตอบกลับ
“หมายความว่าข่าวที่ผมเพิ่งอ่านนั้นเป็นข่าวปลอม คุณไม่ได้พยายามจะข่มขืนเธอ เธอจงใจสาดน้ำสกปรกใส่คุณเพื่อขอค่าชดเชยจากโรงเรียน?”
เรื่องนี้ค่อนข้างจะสมเหตุผลเพราะว่ากระเป๋าเงินของน้องภรรยาโจวเจ๋อเพิ่งถูกขโมยไป มันเป็นเรื่องที่แน่ชัดแล้วว่าหญิงสาวคนนั้นคือหัวขโมย
หญิงสาวที่มาจากครอบครัวยากจนที่มีแม่ขายของแล้วพ่อเป็นอัมพาต จะเป็นไปได้เหรอที่จะชอบออกไปท่องเที่ยวดิสโก้กับน้องภรรยาของเขาเป็นประจำหากว่าเธอไม่มีวิธีการหาเงิน
“น้องภรรยาของผมถูกต้มแล้ว”
“บอกความจริงกับผมได้ไหมว่าคุณไม่เคยลวนลามเธอจริงๆ” โจวเจ๋อเอื้อมมือไปหาชายวัยกลางคนและถามอย่างจริงจัง
ชายวัยกลางคนเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า
“นี่เป็นเรื่องของผมไม่เกี่ยวกับคุณ”
“ไม่เกี่ยวได้ยังไงก็ในเมื่อเงิน 5,000 หยวนนั้นมันเป็นของผม!”
โจวเจ๋อต้องการตบเขา แต่เมื่อมือของเขาสัมผัสกับหมวกของอีกฝ่ายเขาก็รู้สึกตกใจ
หมวกใบนี้แข็งมาก
อันที่จริงมันทำให้เขารู้สึกเจ็บมือเล็กน้อยด้วยซ้ำ
แม้ว่าคนจะตายไปแล้วแต่ชื่อเสียงที่เสียหายของเขายังคงอยู่ฝังแน่นไปตลอดกาล
โจวเจ๋อคิดถึงคำพูดของซูชิงหลาง ที่บอกว่าหมวกใบนี้ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือเท็จจะไม่สามารถถอดออกได้
…………..
“แม่คะหนูกลับมาแล้ว”
หญิงสาวเปิดประตูและตะโกน มีเสียงทะเลาะวิวาทจากพ่อแม่ของเธออยู่อีกห้อง
พ่อแม่ของเธอไม่เคยสนใจว่าเธอจะทำข้าวเย็นแล้วหรือยัง พวกเขาเอาแต่ทะเลาะกันอยู่ตลอดเวลา
พ่อของเธอเป็นอัมพาตนอนอยู่บนเตียง แม้ว่าเขาจะสามารถขยับตัวได้ชั่วขณะหนึ่ง แต่เขาไม่สามารถทำอะไรอย่างอื่นได้นอกจากถมน้ำลายและอึรดที่นอน
แม่ของเธอออกไปตั้งร้านแต่เช้าทุกวัน สถานการณ์ครอบครัวของเธอก็เป็นแบบที่โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์กล่าวไว้ไม่มีผิด
ถึงแม้ว่าครอบครัวนี้จะยากจนแต่ทุกคนก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และเธอดูแลพ่อแม่ของเธอเป็นอย่างดี
แต่นั่นก็เป็นเพียงเรื่องด้านดีที่คนรู้เท่านั้น หากทุกคนได้สัมผัสจริงๆจะเห็นได้ว่าครอบครัวของเธอนั้นไม่เหมือนกับที่ออกข่าวแม้แต่น้อย
พ่อของเธอเป็นอัมพาตและนอนอยู่ที่บ้าน มันทำให้เขารู้สึกไม่พอใจจึงตะโกนด่าว่าแม่ของเธอที่ออกไปหาเงินข้างนอกว่าแอบไปมีชู้
ดังนั้นเมื่อถึงตอนกลางคืนพ่อแม่ของเธอจะตะโกนด่าทอกันทุกวัน เรี่ยวแรงทั้งหมดของพ่อของเธอล้วนถูกใช้ออกไปจากการด่าทอ
แต่หญิงสาวก็ไม่ได้รู้สึกสงสารหรือเห็นใจแม่ของเธอเช่นกัน เพราะแม้ว่าร้านของแม่เธอจะกิจการไม่ดี แต่แม่ของเธอก็ยังสวมใส่เครื่องประดับมีค่ามากมาย ซึ่งของพวกนี้มั่นใจได้เลยว่าแม่ของเธอไม่มีปัญญาซื้อเอง
และในบางครั้งเมื่อเธอเข้าโรงแรมกับแฟนของเธอ เธอก็จะพบแม่ของเธอไปโรงแรมกับแฟนเช่นกัน
ในตอนนั้นทั้งสองคนแทบจะเดินเข้าไปในลิฟท์พร้อมกัน แต่ถึงจะไร้ยางอายแค่ไหนพวกเขาก็ยังอดรู้สึกแย่ไม่ได้จึงต้องมีคนหนึ่งรออยู่ข้างนอกลิฟท์
นี่เป็นบ้านที่ย่ำแย่จริงๆ เธอไม่รู้ว่าทำไมแม่ของเธอถึงไม่หย่ากับพ่อของเธอ ในขณะเดียวกันเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อของเธอถึงเอาแต่ดุด่าทั้งที่ตัวเองไม่มีปัญญาทำอะไรได้
แต่เธอก็ไม่สนใจเรื่องนี้เพราะเธอมีปัญญาหาเงินด้วยตัวเอง
เมื่อเธอกลับถึงห้องสิ่งแรกที่เธอทำก็คือเปิด Macbook ของเธออย่างเป็นนิสัย ก่อนจะหยิบน้ำยาล้างเครื่องสำอางออกมาจัดการทุกสิ่งทุกอย่างบนหน้าของตัวเองเหมือนที่เคยทำทุกครั้ง
หลังจากจัดการทุกสิ่งทุกอย่างแล้วเธอก็เปิด *Zhihu เพื่อดูผู้ติดตามของเธอว่ามีมากแค่ไหนแล้ว
นั่นคือชีวิตของเธอและนั่นคือสิ่งที่เธอทำอยู่ตอนนี้
Zhihu = เป็น Social Network ชนิดหนึ่งที่มีเนื้อหาหลักคือการถามตอบ