77 – ลดครึ่งราคา
หลังจากตื่นนอนในเช้าวันรุ่งขึ้น โจวเจ๋อก็เดินไปที่ร้านข้างๆเพื่อทานอาหารเหมือนปกติ แต่ประตูร้านของซูชิงหลางยังคงปิดอยู่
สิ่งนี้ทำให้โจวเจ๋อกังวลว่าซูชิงหลางจะได้รับความเจ็บปวดมากเกินไปจนเขาท้อแท้หรือเปล่า?
ไม่สำคัญว่าเขาหงุดหงิดหรือเกียจคร้าน แต่น้ำบ๊วยของเขาเป็นสิ่งที่โจวเจ๋อขาดไม่ได้
โจวเจ๋อหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทร ซูชิงหลางรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ปรากฎว่าเขาไปขึ้นรางวัลลอตเตอรีและบอกว่าเขาจะซื้อของขวัญให้ทุกคนในภายหลัง
โจวเจ๋อได้แต่เดินกลับมาที่ร้านของตัวเองและโทรสั่งอาหารเช้าเดลิเวอรี่
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขากลับมานั่งบนเก้าอี้หลังเคาน์เตอร์และเปิดลิ้นชัก โจวเจ๋อก็พบว่ามีกระดาษเงินกระดาษทองกองหนาอยู่ในลิ้นชัก
ตอนแรกโจวเจ๋อคิดว่าเป็นไป๋อิ่งเป็นคนเอามาใส่ไว้เพื่อเซอร์ไพรส์เขาหรือเปล่า แต่คิดไปคิดมาไป๋อิ่งก็ไม่ควรไร้เดียงสาขนาดนั้น
โจวเจ๋อคิดอยู่ครู่หนึ่งและได้ข้อสรุป น่าจะเป็นเพราะว่าเขาส่งเจ้าหน้าที่ราชสำนักคนนั้นไปนรกเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่คนนั้นเป็นถึงจิ่วชิง ครอบครัวของเขายังคงอยู่ดีมีสุขในตอนที่เขาตายใหม่ๆ ดังนั้นพวกเครื่องหอมและกระดาษเงินกระดาษทองจึงถูกเผาส่งไปให้เขามากมาย
โจวเจ๋อคาดคำนวณว่าหาเขาเผาเงินพวกนี้ทั้งหมดน่าจะทำให้เขาได้รับเงินกลับมาถึง 5000 หยวน
เขาสามารถทำเงินได้ในคืนเดียวถึง 5000 หยวนโดยไม่ต้องทำอะไร และค่าใช้จ่ายเพียงอย่างเดียวคือค่าแท็กซี่ไปกลับที่น้อยกว่าหนึ่งร้อยหยวน
โจวเจ๋อไม่รีบร้อนออกไปเผาเงินกระดาษ ธนบัตรเหล่านี้มีประโยชน์เมื่อเก็บไว้
พวกมันสามารถช่วยเขากำจัดภัยพิบัติเล็กๆน้อยๆและหลีกเลี่ยงปัญหาได้ การหลีกเลี่ยงปัญหาบางอย่างนั้นบางทีอาจมีมูลค่ามากกว่าเงิน 5,000 ได้ซ้ำ
“ซูเล่อ!”
คนยังมาไม่ถึงแต่เสียงมาก่อนแล้ว
โจวเจ๋อเงยหน้าขึ้นและน้องภรรยาของเขาเดินเข้ามาในร้าน
“มีอะไรอีก”
วันนี้น้องภรรยาของเขาถือกระเป๋าใบใหม่พร้อมกับหยิบเงินออกมากองไว้ที่หน้าโต๊ะของโจวเจ๋อ
“ใช้หนี้คืน”
โจวเจ๋อยิ้มและพูดว่า
“ตรงเวลาเป๊ะ”
ระยะหลังๆนี้น้องภรรยาของเขามีความประทับใจต่อโจวเจ๋อมากขึ้น แน่นอนว่าเป็นเพราะซูเล่อขี้ขลาดมากเกินไปจนแม้กระทั่งน้องภรรยาของเขาก็ยังดูถูก
แต่ตอนนี้โจวเจ๋อไม่ได้สนใจเธอด้วยซ้ำ เขาทำตัวเหมือนกับรุ่นพี่อย่างแท้จริง ดังนั้นมันทำให้เธออดรู้สึกเคารพเขาขึ้นมาไม่ได้
“ซูเล่อกิจการของคุณแย่มาก” น้องภรรยาพูดอย่างร่าเริง
“วันนี้ฉันว่าจะไปเที่ยวบาร์ แต่บอกพี่สาวว่าจะมาที่ร้านของพี่”
‘พี่สาวของเธอไม่ติดต่อฉันมาครึ่งเดือนแล้ว’
โจวเจ๋อรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่หมอหลินโอบกอดเขาหลังจากที่เขาสารภาพไปแล้ว แต่มันอาจจะเป็นความกล้าหาญเพียงชั่วคราวของเธอเท่านั้น
ทันทีที่จิตใจของเธอสงบลงเธออาจจะคิดเรื่องราวได้มากขึ้น
สามีที่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งเธอไม่เคยรักชอบได้ตายไปแล้ว และตอนนี้คนที่เธอชอบกลับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งด้วยร่างกายของสามีเธอ
ต้องเข้าใจว่าหมอหลินเป็นหญิงสาวที่เกิดขึ้นมาในครอบครัวที่ค่อนข้างหัวโบราณ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เธอจะไม่สามารถเอาชนะศีลธรรมในใจได้
โชคดีที่โจวเจ๋อไม่รีบร้อนในเรื่องนี้หลังจากครั้งสุดท้ายที่เขาพบกับสาวไร้หน้า
อย่างน้อย “หมอหลินก็ไม่ได้นอนกับเขา” ดังนั้นเขาจึงได้รับผลกระทบในเรื่องนี้มากเท่าไหร่
อาจมีสาเหตุจากที่ไป๋อิ่งนอนนอนกับเขาทุกคืนด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้โหยหาเพศตรงข้ามถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนจริงๆก็ตาม
“เธอไม่ควรไปสถานที่แบบนั้นในตอนนี้ อย่างน้อยตอนที่เธอเข้ามหาวิทยาลัยเธอก็จะมีเวลาในเรื่องพวกนี้อย่างเต็มที่โดยไม่มีใครห้ามเธอ” โจวเตือน
“คุณก็เหมือนกับพ่อแม่และพี่สาวของฉัน อยู่ที่บ้านทุกคนก็สั่งสอนชั้นจนน่ารำคาญไปหมด มาที่นี่คุณก็ยังจะสอนฉันอีก?”
น้องภรรยาพูดอย่างตรงไปตรงมา
โจวเจ๋อเชื่อว่าซู่เล่อคนนี้ขี้ขาดเกินไป บางทีในช่วงเวลาปกติเขาอาจจะเป็นที่ระบายความโกรธของน้องภรรยาก็ได้ ดูได้จากปฏิกิริยาของเธอวันนี้ก็พอจะมองออกแล้ว
แต่โจวเจ๋อก็ไม่ได้ใส่ใจว่าน้องภรรยาของเขาจะไปเที่ยวหรือเปล่า ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนั้นของเธอกำลังมีปัญหา
“กลับมาแล้ว!”
ซูชิงหลางกลับมาพร้อมกับถุงขนาดใหญ่ 2 ถุงที่แบกมาด้วย
“เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว พวกคุณรู้ไหมว่าฉันต้องเดินไกลแค่ไหน ไม่รู้ว่าพวกแท็กซี่มันไปตายที่ไหนกันหมด ฉันต้องเดินจากกลางเมืองมาถึงที่นี่เกือบ 5 กิโลเลยนะ”
ซูชิงหลางวางสิ่งของลงและเช็ดเหงื่อบนใบหน้า
ในเวลานี้ไป๋อิ่งรีบวิ่งเข้าหาถุงของซูชิงหลางด้วยดวงตาเปล่งประกาย
“หยุดอยู่ตรงนั้นเลย” ซูชิงหลางพูดกับไป๋อิ่ง
จากนั้นซูชิงหลางหยิบกระเป๋าแบรนด์เนมออกมาใบหนึ่งแล้วโยนให้ไป๋อิ่งและหยิบไฟแช็คที่ค่อนข้างสวยงามออกมาโยนให้โจวเจ๋อ
“นี่คืออะไร?”
น้องภรรยาไม่สนใจของขวัญเหล่านี้ สิ่งที่เธอสนใจคือซูชิงหลางมีพัดพลาสติกอยู่ที่ด้านหลังคอเสื้อของเขา
ตอนนี้ยังเป็นฤดูหนาวอยู่ มันไม่ปกติที่ใครจะพกพัดไว้กับตัว
“มีคนกลุ่มหนึ่งทำกิจกรรมตอนที่ฉันเดินผ่านห้างและพวกเขาก็ยัดมันให้ฉัน” ซูชิงหลางตอบกลับ
น้องภรรยาหยิบพัดมาดู มันเป็นพัดพลาสติกทั่วไปที่มีโฆษณาพิมพ์อยู่ด้านหลัง จากนั้นเธอก็หัวเราะออกมา
“มีอะไรเหรอ?” โจวเจ๋อถาม
“มันบอกว่า พ่ออยู่ที่ไหน?” น้องภรรยาตอบ
“ตลกขนาดนั้นเลยเหรอ? ” ซูชิงหลางเอื้อมมือไปหาพัด
“พวกคุณน่าจะไปด้วยกันนะ” น้องภรรยากวาดตาดูซูชิงหลางและโจวเจ๋อด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
” พ่ออยู่ที่ไหน?” โจวเจ๋อถาม
สีหน้าของซูชิงหลางมืดครึ้มลงทันที เขาโยนพัดให้โจวเจ๋อแล้วพูดว่า
“ดูเองสิ”
โจวเจ๋อหยิบพัดขึ้นมาแล้วมองเห็นตึกโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีข้อความกำกับไว้ว่า
“พ่ออยู่ไหน”
ด้านล่างมีตัวหนังสืออีก 2 บรรทัดที่มีขนาดเล็กกว่าถูกเขียนไว้
“มาด้วยกันกับลูก!
ลดครึ่งราคา! “
(อันนี้ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันเป็นมุขตลกหรืออะไร ก็เลยต้องแปลตามตัวอักษร)