นี่ นี่มันก็…
ถึงแม้อวี๋หมิงหลางจะเตรียมใจไว้บ้างแล้วว่าเสี่ยวเชี่ยนจะต้องมาลูกไม้ประหลาดๆ แต่นึกไม่ถึงว่าจะ…เออะ
เสี่ยวเชี่ยนพูดจบทั้งห้องก็เข้าสู่ความเงียบ เธอจึงพูดต่อ
“ฉันรู้ค่ะ นับตั้งแต่ประเทศเราปฏิวัติมา ประเทศเราก็ยึดนโยบายให้แต่งงานอย่างอิสระ คัดค้านการคลุมถุงชน เรื่องนี้ฉันจัดการด้วยมุมมองของฉันเอง ไม่เกี่ยวกับฝ่ายทหาร อย่างไรเสียฉันก็เป็นจิตแพทย์ ฉันทนเห็นคนไข้ต้องทุกข์ทรมานเพราะเรื่องความรักไม่ได้…”
พูดซะสมจริงมาก ผู้บัญชาการเกือบเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
“เธอมั่นใจแค่ไหน เท่าที่ผมรู้ ดูเหมือนอาเหม็ดจะไม่ได้ชอบผู้ชาย เขา…จะยอมเหรอ”
เสี่ยวเชี่ยนพอได้ยินผู้บัญชาการพูดแบบนี้ก็รู้ได้ว่าคล้อยตามแล้ว
“ฉันมั่นใจแค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ค่ะ แต่ด้วยความรั้นของจิตแพทย์คนหนึ่งที่อยากปกป้องประเทศ ฉันพร้อมที่จะแสดงความสามารถสองร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ กรุณาอนุญาตด้วยค่ะ”
“ผมไม่อนุญาต”
เสี่ยวเชี่ยนไม่แปลกใจ เธอรู้ว่าแผนของเธอมันบ้าระห่ำเกินไป ผู้บัญชาการไม่มีทางอนุญาตในครั้งแรก ประธานเชี่ยนเองก็มีแผนสำรอง แต่เธอยังไม่ทันพูดผู้บัญชาการก็พูดขึ้นมาก่อน
“ซ่งชิงอู๋มารักษากับคุณโดยมาแบบส่วนตัว คุณเองก็รับรักษาเขาโดยการตัดสินใจด้วยตัวคุณเอง ส่วนเรื่องที่ว่าพวกคุณจะตกลงกันยังไงนั่นก็เป็นเรื่องทางธุรกิจ ไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากผม ขอแค่ไม่เกี่ยวพันถึงความปลอดภัยของประเทศ เรื่องนี้จัดการไปตาม ‘หน้าที่จิตแพทย์’ ของคุณได้”
เสี่ยวเชี่ยนยิ้ม
“ขอบคุณค่ะท่าน ฉันจะพยายามรักษาเคสข้ามชาตินี้อย่างเต็มที่ค่ะ”
“ผมจะรอฟังข่าวดีของคุณนะ”
ผู้บัญชาการทำท่าเหมือนจะจบการสนทนา แต่เสี่ยวเชี่ยนเรียกไว้
“ท่านคะ”
“ยังมีอะไรที่ต้องการการสนับสนุนอีกเหรอ”
“ฉันเห็นท่านขอบตาดำหนักมาก แสดงว่าช่วงนี้คุณภาพการนอนหลับแย่มาก ฉันขอแนะนำให้ท่านปล่อยวางความคิดเพื่อปรับปรุงคุณภาพการนอน ถ้ายังคงไม่ได้ผลมาให้ฉันรักษานะคะ กันเองลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์”
“…นี่คุณมาเพื่อขายของเหรอ” ผู้บัญชาการมุมปากกระตุก
“ฉันรู้ค่ะว่ากองทัพมีกฎ จะมาคุยเรื่องเงินๆทองๆในนี้ไม่ได้ ท่านเป็นผู้บัญชาการของOne ถ้าฉันรักษาให้ท่านฟรีก็กลัวคนอื่นจะมองว่าประจบสอพลอ ติดสินบนแบบมีชั้นเชิง”
ติดสินบนแบบมีชั้นเชิง…เธอคิดคำๆนี้ออกมาได้ยังไงกัน ผู้บัญชาการรีบกดปิดจบการสนทนา กลัวว่าถ้าพูดต่อผู้หญิงคนนี้จะนำเสนอการขายอีก
“เหล่าอวี๋ไปหาสะใภ้แบบนี้มาจากไหน ถึงกับมาทำการค้ากับผมเลยเหรอเนี่ย” ผู้บัญชาการจัดการปัญหาใหญ่ได้แล้วจึงอารมณ์ดี ขณะเดียวกันก็หันไปพูดเล่นกับเลขา
“ท่านครับ…ทำไมผมถึงรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เหมือนต้องการจะบอกท่านว่า ถ้าเธอทำเรื่องนี้สำเร็จท่านต้องให้รางวัลเธอ” สมกับเป็นเลขาที่มองเกมออก ติดสินบนแบบมีชั้นเชิง เอ่อ ยากนะที่จะให้ไม่คิดอะไร
ผู้บัญชาการถลึงตา “เด็กคนนี้จะมาหลอกฉันเลยเรอะ ตัวเขาพูดเองว่าเป็นงานส่วนตัว เขารับเงินจากซ่งชิงอู๋ ยังคิดจะได้ประโยชน์จากทางทหารด้วยเหรอ ถ้าเขากล้าเอา ฉันจะไปคุยกับพ่อสามีเขา”
“…ถ้าไม่เชื่อก็รอดูต่อไปครับ” จากการวิดีโอคอลเมื่อครู่เลขาเห็นแล้วว่าเสี่ยวเชี่ยนเป็นคนที่กล้ากับทุกคน
วิธีรักษาแบบตามใจคนไข้ฟังดูเหลือเชื่อ แต่ก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่เพอร์เฟคมาก เธอคิดได้ยังไง
ถึงคนอย่างซ่งชิงอู๋จะโหดเ**้ยม แต่ก็มีจุดยืนไม่ยุ่งกับประเทศนี้ การล่วงเกินคนแบบนี้มีแต่จะสร้างความยุ่งยากให้ตัวเอง ไม่ใช่ว่าสู้ไม่ได้ แต่ไม่มีความจำเป็นต้องสู้
วิธีของเสี่ยวเชี่ยนสามารถทำให้ซ่งชิงอู๋กับอาเหม็ดบุคคลอันตรายสองคนนี้กลับประเทศได้ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา
เลขามั่นใจว่า ประโยคที่เสี่ยวเชี่ยนพูดว่า ‘ให้พวกเขาล้างสมองกันเองแล้วไปจัดการประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นศัตรูกับเรา’ โดนใจผู้บัญชาการเป็นอย่างมาก
เสี่ยวเชี่ยนยังพูดอีกว่านี่เป็นเรื่องของเธอ ไม่เกี่ยวกับทางการทหาร เธอก็แค่อยู่ในสถานะที่สามีเป็นทหารเลยต้องมาแจ้งให้ทราบก่อน จะได้ไม่ยุ่งยากภายหลัง เรื่องที่ไม่จำเป็นต้องถึงมือเบื้องบนก็จัดการให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีได้แบบนี้ เธอก็แค่ต้องการ ‘ติดสินบนแบบมีชั้นเชิง’
“ถ้าเขาต้องการให้ฉันติดค้างบุญคุณก็ต้องไล่สองคนนั้นกลับไปให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน ไม่เคยเจอคนกล้าแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ แต่เด็กคนนี้น่าสนใจดีนะ”
อวี๋หมิงหลางยกนิ้วโป้งให้เสี่ยวเชี่ยน “สุดยอดเลยเมียจ๋า”
นึกไม่ถึงจริงๆว่าลูกเชี่ยนจะพูดให้ผู้บัญชาการยอมได้ง่ายแบบนี้
“อันที่จริงฉันก็กังวลนะ” เสี่ยวเชี่ยนถอนหายใจโล่งอก เธอตั้งใจใช้วิธีสบายๆคุยเรื่องนี้ เพราะกลัวจะสร้างความยุ่งยากให้อวี๋หมิงหลาง
ดีที่ผู้บัญชาการของเขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร
“วันนี้เมียผมสร้างผลงานยอดเยี่ยม ไม่เพียงแต่จะต้มพ่อค้าอาวุธสงครามได้ ยังหาทางออกให้ผู้บัญชาการได้ด้วย”
คนโลภมากมีไม่น้อย แต่คนที่โลภขนาดเสี่ยวเชี่ยนก็มีไม่เยอะ อวี๋หมิงหลางสาบานเลยว่า เมื่อกี้เขาเห็นผู้บัญชาการที่หน้านิ่งฟังเสี่ยวเชี่ยนพูดเรื่องติดสินบนแบบมีชั้นเชิงยังแอบมุมปากกระตุก
ทหารอีกสองคนที่อยู่ภายในห้องยังหัวเราะ
บรรยากาศเมื่อครู่ประหลาดมาก พวกเขาได้เห็นกับตาแล้วว่าภรรยาของหัวหน้าใหญ่ที่เล่าลือกันเป็นอย่างไร สมคำร่ำลือจริงๆ ร้ายกาจมากๆ
“ผมขอแนะนำให้รู้จักนะ นี่ภรรยาผมเฉินเสี่ยวเชี่ยน เขาเป็น—”
“จิตแพทย์” ทหารสองคนนั้นตะโกนขึ้นพร้อมกัน เมื่อครู่ท่าทางตอนที่เสี่ยวเชี่ยนแนะนำตัวกับผู้บัญชาการพวกเขายังจำได้ดี
“ลูกเชี่ยน นี่เป็นฝ่ายพลาธิการของผมอวี๋หลิว กับหัวหน้ากลางหลิวฮุย”
“สวัสดีครับหมอเฉิน”
“สวัสดีค่ะ ทำงานกับสามีฉันคงลำบากน่าดูเลยนะคะ เขาเป็นคนที่อยู่ด้วยยาก” เสี่ยวเชี่ยนจับมือกับทั้งสองคน
“ฮ่าๆ ก็จริงครับ เขาน่ะ เป็นหัวหน้าใหญ่หน่วยรบพิเศษทหารบกที่ยศพันโทเพียงคนเดียว หน่วยอื่นหัวหน้าใหญ่อย่างน้อยๆก็ต้องพันเอก แต่ของพวกเราเป็นแค่พันโทเอง ไม่เพียงแต่จะไม่มีความอ่อนโยนแบบคนอายุน้อย กลับโหดสุด เอาใจยากสุดในบรรดาหัวหน้าใหญ่ทั้งหมด หมอเฉินเดี๋ยวผมพาไปเดินชมนะครับ จะได้ฟังเสียงที่อยู่ในใจของทุกคน—”
“ไร้สาระ หน่วยรบพิเศษใช่ที่ให้มาเดินเล่นง่ายๆเหรอ นายเป็นพลาธิการยังไง ไม่รู้จักรักษาความลับราชการเหรอ” อวี๋หมิงหลางขัดจังหวะ เขาพูดในใจ ถ้าลูกเชี่ยนไปเดินชมไม่เท่ากับภาพลักษณ์สามีอันสวยหรูที่เขาสร้างมาต้องพังหมดเหรอ
ลูกน้องด่าเขาไว้เละขนาดไหน ถ้าให้เจ้าพวกนั้นเจอเมียเขาแล้วแฉต่อหน้า ต่อไปเขาจะคุมอยู่ไหม
“นายอย่ามาพูดมั่วๆ พาน้องสะใภ้ไปเยี่ยมชมหน่วยขัดต่อระเบียบที่ไหนกัน สมาชิกครอบครัวทหารมาทั้งทีจะห้ามไม่ให้เยี่ยมชมเหรอ ไม่ได้พาไปชมที่ต้องห้ามเสียหน่อย”
“นั่นสิ หัวหน้าใหญ่อย่าลืมนะครับว่าเมื่อกี้หัวหน้าตบโต๊ะพูดกับผู้บัญชาการว่ายังไง พี่สะใภ้อยากรู้ไหมครับ ผมจะทำให้ดู”
หัวหน้ากลางเลียนแบบท่าทางของอวี๋หมิงหลาง “เรียนผู้บัญชาการ ผมขอรับรองแทนภรรยาของผม ถ้าเขา—”
หัวหน้ากลางหลบลูกถีบของอวี๋หมิงหลางอย่างหวุดหวิด “พี่สะใภ้ดูสิครับ เขาทำร้ายผม”