113 – เทพอสูร
“นี่คือข้อมูลของหญิงสาวชุดฟ้า”
ถังซือมอบแท็บเล็ตให้โจวเจ๋อ
ผมของโจวเจ๋อยังคงเปียกอยู่ในขณะนี้ เขานั่งบนเสื่อพิงกำแพง ดูเหมือนชายหนุ่มรูปงามหลังจากเล่นบาสเก็ตบอลและอาบน้ำในวิทยาลัย
ซูเล่อมีข้อบกพร่องมากมายโดยเฉพาะนิสัยของเขา แต่คุณไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าซูเล่อนั้นดูดีจริงๆ ไม่เช่นนั้นพ่อแม่ของหมอหลินจะไม่เลือกเขาให้เป็นสามีของเธอ
โจวเจ๋อมองดูข้อมูลของหญิงสาวในชุดสีฟ้า หญิงชุดสีฟ้าเป็นเทพประจำศาลเจ้าเล็กๆในตงเฉิง ไม่มีเรื่องราวของเธอในบันทึกทางประวัติศาสตร์ หรือแม้แต่ในระบบตำนานกระแสหลัก
แม้แต่ในตงเฉิง คนที่บูชาเธอก็มีไม่กี่คนครัวเรือนเท่านั้น
ความนิยมของเธอไม่กว้างขวางนัก เรื่องราวบางเรื่องของเธอก็ถูกสร้างขึ้นโดยคนรุ่นหลัง
เช่นเดียวกับจุดชมวิวหลายแห่งในทะเลสาบตะวันตกเฉียงเหนือของหยางโจวที่เกี่ยวข้องกับการที่เฉียนหลงล่องเรือไปทางใต้ของแม่น้ำแยงซี
เมื่อจักรพรรดิเฉียนหลงจะล่องเรือไปทางใต้ของแม่น้ำแยงซี พระองค์ก็ปฏิบัติพระราชกรณียกิจหลายอย่าง จนเกิดเป็นตำนานเรื่องเล่ามากมาย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องไร้สาระบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องราวของผู้หญิงชุดฟ้า ว่ากันว่าสมัยก่อนมีหมู่บ้านหมู่บ้านหนึ่งในตงเฉิงที่มีหญิงหม้ายคนหนึ่งประกอบคุณความดีมากมาย
หลี่ตงปิง(เซียนคนหนึ่งในแปดเซียน)มาที่นี่สี่ครั้งและเขาได้พบกับหญิงหม้ายคนนั้น
หญิงม่ายไม่มีบุตรและเธอไม่ได้แต่งงานอีกหลังจากที่สามีตาย เธอยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไว้อย่างเคร่งครัด
หญิงหม้ายคนนี้ชอบเด็กและใจดี เธอจึงรับเด็กกำพร้าจำนวนมากมาเลี้ยงดูที่บ้าน ซึ่งบ้านของเธอถือได้ว่าเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งในสมัยโบราณ
เมื่อหลี่ตงปิงพบเห็นการกระทำของเธอ เขาจึงมอบเสื้อคลุมสีฟ้าให้เธอเพื่อเป็นกำลังใจ
หลังจากเธอตายไปแล้ว ชาวบ้านในท้องถิ่นได้ตั้งวัดให้กับเธอเพื่อระลึกถึงคุณความดีของเธอ ซึ่งพวกเขาเรียกเธอว่าหญิงสาวในชุดฟ้า
คนส่วนใหญ่ที่มาที่วัดนี้ก็เพื่อสวดภาวนาขอบุตรพวกเขาเคารพเธอเหมือนกับเจ้าแม่กวนอิม
อย่างไรก็ตาม ดังที่กล่าวไว้ วิหารของเธอในตงเฉิงได้ถูกทำลายจากการสร้างผังเมืองใหม่
ส่วนการบูรณะนั้นยากมาก อย่างแรกเลยเธอไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าไหร่ ประการที่สองมันยากมากที่จะสร้างวิหารใหม่ขึ้นมาและนักพัฒนาจะไม่เพิ่มความยุ่งยากให้กับงานของตนเอง
แม้ว่าผู้เฒ่าในท้องถิ่นบางคนจะคัดค้าน แต่ในที่สุดวิหารก็ถูกทำลายลง มีรูปภาพจากเมื่อสองสามปีก่อนในข้อมูล
วิหารของหญิงสาวชุดฟ้าได้รับความเสียหายเป็นเวลานาน แม้แต่หัวของรูปปั้นก็ไม่รู้ว่ามันหลุดหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มีเพียงรูปปั้นหัวขาดเท่านั้นที่ยืนอยู่ที่เดิม
“เทพอสูรชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นจากดวงวิญญาณที่หล่อหลอมด้วยความศรัทธาของผู้คน เฉกเช่นสาวไร้หน้าที่มารังควานคุณ เธอเป็นผลจากความโศกเศร้าของผู้ที่เดินบนเส้นทางหวงเฉวียน” ถังซืออธิบาย
“เธอรู้ว่าวิหารของเธอกำลังจะถูกทำลาย และเธอกำลังจะหายตัวไป ดังนั้นเธอจึงออกมาฆ่าคนเพื่อระบายความโกรธ?” โจวเจ๋อถามด้วยความสงสัย เขาไม่คิดว่ามันน่าจะเป็นแบบนั้นไปได้
“เทพอสูรที่มีวิหารเป็นของตัวเองจะมีจรรยาบรรณเหนือกว่าคนธรรมดาอย่างแน่นอน ต่อให้พวกเขาบ้าคลั่งขึ้นมาก็ต้องทำอย่างมีจุดหมาย เรื่องแบบที่คุณพูดจะไม่มีวันเกิดขึ้น”
“ฉันรู้ ฉันตรวจสอบแล้ว” ซูชิงหลางขึ้นมาจากบันไดในเวลานี้
“เด็กสาวคนนั้นที่ถูกพัดลมตัดหัวขาด เธอเคยตั้งครรภ์มาสามครั้งแล้วและเธอก็ทำแท้งทุกครั้งดังนั้นคิดว่าผู้หญิงชุดฟ้าคงกำลังลงโทษเธออยู่”
“ลงโทษ?” โจวเจ๋อถามว่า “ใครให้สิทธิ์เธอทำเช่นนี้?”
ซูชิงหลางยักไหล่ “มุมของทุกคนแตกต่างกัน ในสายตาของเธอ เด็กคือชีวิต แน่นอนว่าในสายตาเธอผู้ใหญ่อย่างพวกเราไม่มีค่าอะไรเลย”
“แล้วถ้าผมไม่บังเอิญเจอเธอ เธอจะมองหาคนแบบนี้ต่อไปและลงมือฆ่าพวกเขาไหม?” โจวเจ๋อถาม
“ก็น่าจะเป็นแบบนั้น” ถังซือพยักหน้า “เธอกำลังบ้าคลั่ง ไม่ว่าใครก็ตามที่เดินทางมาจนสุดเส้นทางของตัวเองแล้ว เมื่อจะได้กลับสู่นรกพวกเขาก็ล้วนแล้วแต่แสดงอาการแบบนี้ออกมาทั้งสิ้น ยิ่งเป็นเทพยิ่งมีอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป”
“ขอเตือนไว้ก่อนคราวหน้าอย่าพยายามสอดรู้สอดเห็นอะไรให้มากนัก” ถังซือเตือน
“ความสิ้นหวังของเทพเจ้านั้นเป็นสิ่งที่คุณไม่อาจต้านทานได้แม้แต่นรกก็ยังปิดตาทำเป็นมองไม่เห็นเรื่องนี้ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรเธอก็มีเหตุผลเป็นของตัวเองมันไม่ใช่สิ่งที่คนระดับเราจะไปยุ่งเกี่ยวได้”
“มันไม่ใช่ว่าผมต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่ผมบังเอิญไปเจอเท่านั้น…”
แต่พอพูดจบโจวเจ๋อก็นึกถึงลิงตัวเดิมอีกครั้ง
เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าทั้งสองเหตุการณ์ก็มีลักษณะคล้ายคลึงกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน
“ตกลง เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก”
แต่ถังซือก็ยิ้มออกมาแล้วกล่าวว่า “ตอนแรกฉันคิดว่าคุณแตกต่างจากเขา ทันใดนั้นฉันก็พบว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นพวกคุณก็มีนิสัยเหมือนกันจริงๆ”
“ผมไม่ต้องการรนหาที่ตายเหมือนเขา อย่างไรก็ตาม คุณยังมาทำอะไรที่นี่ คุณไม่ไปช่วยเพื่อนคุณเหรอผมสามารถจองตั๋วรถไฟให้คุณไปเฉิงตูได้ทันที”
“มันไม่สำคัญว่าฉันจะไปหรือเปล่า ตัวตนของฉันนั้นเล็กกระจ้อยร่อยมากเกินไปจนไม่มีผลกระทบต่อเหตุการณ์ที่เขากำลังเผชิญ อีกอย่างฉันรู้ดีว่าเขาจะปลอดภัย”
ซูชิงหลางพร้อมที่จะออกไปในเวลานี้ ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงอะไรบางอย่างและพูดว่า
“อ้อ ทุกอย่างในร้านตรงนั้นพวกเราจัดการหมดแล้วสามารถเคลื่อนย้ายได้ตลอดเวลา”
“รอจนกว่าผมจะหายดี” โจวเจ๋อกล่าว
เขาไม่ต้องการนั่งรถเข็นเพื่อดูแลธุรกิจในร้าน
“ไม่เป็นไร สุขภาพแข็งแรงแล้วค่อยไปก็ได้”
ซูชิงหลางพูดจบก็ลงไปข้างล่าง
ถังซือยังคงยืนอยู่ที่นี่ ด้วยการสะบัดนิ้ว ลูกอมกระต่ายสีขาวลูกใหญ่เกาะแกะตัวเองออกจากถุงพลาสติกแล้วลอยเข้าปากของเธอ เธอเคี้ยวมันและถามโจวเจ๋อว่า
“ดูเหมือนคุณจะเปลี่ยนไปมาก”
“อาจจะใช่”
“แต่ฉันยังอยากเตือนคุณให้ดูแลร่างกายของคุณให้ดี เพราะสำหรับเรา มีโอกาสเดียวเท่านั้นที่จะกลับมาจากนรกและเลือกร่างกายเป็นของตัวเอง เมื่อคุณตายอีกครั้งคุณจะกลายเป็นผีที่ไม่มีวันค้นพบร่างกาย”
“ไม่มีข้อยกเว้นเหรอ?”
โจวเจ๋อขมวดคิ้ว เขาไม่ชอบร่างกายนี้ แม้ว่าเขาจะเคยชินกับมันแล้วแต่เขาก็ยังมีปัญหาอยู่บ้าง โดยเฉพาะหมอหลิน
ถังซือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า
“เพื่อนของฉันมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงร่างกายได้ แต่เขาเป็นเพียงตัวอย่างที่พิเศษ สำหรับเรามีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
“วันนี้คุณดูอารมณ์ดีนะ”
โจวเจ๋อสังเกตว่าถังซือมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะพูดในวันนี้ โจวเจ๋อไม่ได้หลงตัวเองว่าเพราะเขากลับมาอย่างปลอดภัย ดังนั้นผู้หญิงคนนี้จึงมีความสุขและเริ่มพูดมาก
“เขาส่งข้อความมา การต่อสู้จะจบลงภายในสิ้นเดือนนี้”
“โอ้ ผมหวังจริงๆว่าเขาจะทำสำเร็จ” โจวเจ๋อยืดออกแล้วกล่าวว่า “ต่อให้เขาทำไม่สำเร็จผมก็หวังให้เขาสามารถลากพวกเธอให้ตายไปด้วยกัน”
เด็กหญิงตัวน้อยและสาวไร้หน้าคือดาบประหารที่ห้อยอยู่บนหัวของโจวเจ๋อซึ่งทำให้เขารู้สึกกดดันอยู่เสมอ
“เมื่อเรื่องที่นั่นจบลง เขาจะมาที่นี่แล้วพวกคุณก็อาจจะกลายเป็นเพื่อนบ้านกันก็ได้”
โอ้ผู้หญิง!
พูดตามตรง โจวเจ๋อไม่มีความมั่นใจมากนักว่าคนที่อยู่ในเฉิงตูจะกลับมาอย่างปลอดภัยเมื่อเห็นปฏิบัติการจากนรกแล้ว แต่เขาก็รู้ดีว่าสำหรับถังซือแล้วเธอไม่ต้องการผลลัพธ์แบบอื่น
โจวเจ๋อทำได้เพียงพูดว่า
“ก็ดี ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ก่อตั้งอเวนเจอร์ของตัวเองขึ้นมาเลย”
“ไร้สาระชะมัด อย่างน้อยก็ตั้งชื่อให้มันเท่กว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง” เห็นได้ชัดว่าถังซือไม่พอใจกับคำนี้
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็คิดมาก็แล้วกัน”