143 – ฝีมือคน
เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหันแลมีผู้เสียชีวิตจํานวนมาก ดังนั้น เพื่อที่จะย่นกระบวนการชันสูตรพลิกศพ ศพหลายศพจึงถูกย้ายไปยังโรงพยาบาลในเครือตงเฉิงเพื่อทําการชันสูตรอย่างรวดเร็ว
ตงเฉิงเป็นเมืองที่สงบสุข เมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมหมู่เช่นนี้จึงทําให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
ข่าวของเรื่องนี้กระจายไปทั่วทุกที่ในแพลตฟอร์มออนไลน์ และประชาชนจํานวนมากถึงกับตื่นตระหนกและไม่สบายใจ
สิ่งนี้ทําให้ตํารวจมีแรงกดดันในการจัดการคดีในระดับหนึ่ง
ตํารวจมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะค้นหาความจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด คณะทํางานถูกตั้งขึ้นโดยตรง แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับโจวเจ๋อ
ที่จริงแล้วโจวเจ๋อไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการตายของคนพวกนั้นและไม่ได้ให้ความสนใจเลยด้วยซ้ํา ยิ่งถ้ามีผีเป็นคนฆ่าพวกเขาเขาก็ยิ่งรู้สึกดีใจ
แต่สิ่งที่โจวเจ๋อทนไม่ได้ก็คือถ้ามีผีตัวอื่นที่ซ่อนอยู่ในความมืด แต่เขาไม่พบมัน เมื่อเขาจากมาผีตัวนั้นจึงเริ่มฆ่าคน นี่มันมีเจตนาจะให้เขาแบกหม้อดําแทนชัดๆ
ความรู้สึกของการถูกนกกระจอกจิกตาไม่ใช่เรื่องน่ายินดีนัก
โจวเจ๋อใส่เสื้อคลุมของหมอจากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องเก็บศพซึ่งมีศพสองศพถูกผ่าและยังเหลือศพอีกสามศพที่ยังไม่ลงมือทําอะไร
โจวเจ๋อเคยเป็นอดีตหมอที่นี่ เขาทํางานที่นี่มาสิบปีแล้วทําให้เขาคุ้นเคยกับสภาพห้องนี้เป็นอย่างดี
เหล่าเต๋าเดินทางมาพบกับโจวเจ๋อที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เขาเข้าไปตีสนิทกับนักข่าวบางคนและได้รับรายงานข้อมูลบางอย่างมาผิวเผินและเขารายงานเรื่องนี้ให้กับโจวเจ๋อทันที
อย่างไรก็ตามโจวเจ๋อไม่สนใจข่าวนี้ โจวเจ๋อต่างจากอดีตเจ้านายของเขา เพราะว่าโจวเจ๋อไม่มีวิญญาณของนักสืบอยู่ในตัว
“เจ้านายทําไมพวกเขาไม่ส่งศพทั้งหมดไปที่โรงพยาบาลตํารวจ?” เหล่าเต๋าไม่เข้าใจเรื่องนี้นัก
“ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนิติเวชแม้แต่ในประเทศที่พัฒนาแล้วก็ยังขาดแคลน ซึ่งในประเทศจีนก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน ถ้าหากมีศพเพียงแค่หนึ่งหรือสองคนก็คงไม่เท่าไหร่
แต่เหตุการณ์ครั้งนี้มีศพมากมายกว่าสิบศพ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ที่สถานีตํารวจตงเฉิงไม่เพียงพออย่างแน่นอน เราจึงทําได้แค่ช่วยพวกเขาด้วยความสามารถส่วนตัวเท่านั้น”
โจวเจ๋อมองไปที่ตู้แช่ศพทางด้านหลัง จากนั้นเขาดึงประตูตู้แช่ออกมา ศพที่นอนอยู่ภายในเป็นหญิงชราผมหงอกขาวคนหนึ่ง
เหล่าเต๋ามองดูศพแล้วเบิกตากว้างทันที
โจวเจ๋อเหยียดมือออกแล้วเคาะแผ่นเหล็ก
“นี่คือร่างของผู้ป่วยในห้องใต้ดินของโรงพยาบาลเล็กๆนั่น”
“เอ่อ นั่นสินะ”
เหล่าเต๋ารู้สึกเขินอายเล็กน้อย
“เธอตายได้ยังไง” เหล่าเต๋าถามด้วยความสงสัย
“ร่างกายเป็นมะเร็งก่อนตาย คนที่นอนอยู่ในห้องใต้ดินและถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการพนัน พวกเขาถูกระงับการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ทั้งหมดมาเป็นเวลานาน ดังนั้นพวกเขาอาจจะเสียชีวิตได้ตลอดเวลา
สันนิษฐานว่าไม่มีการบาดเจ็บภายนอกที่ชัดเจน และผมไม่สามารถสัมผัสได้ถึงวิญญาณชั่วร้ายของเธอ
“มันแปลกและยากที่จะหาสาเหตุการตายของเธอเหรอ?” เหล่าเต๋าแตะคางของตัวเองอย่างเสแสร้งแล้วพูดราวกับว่าตอนนี้เขาคือเชอร์ล็อกโฮม
“น่าสนใจ สาเหตุการตายคาดเดาไม่ได้ มันต้องมีอะไรแปลกแน่ๆ”
“ผมพึ่งบอกไปว่าเธอตายจากอาการปวย”
ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่โจวเจ๋ออยู่ตรงหน้าเขา เหล่าเต๋าคงต้องเสี่ยงชีวิตกับฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน
“ก็เธอตายจากอาการปวยคุณยังแกล้งทําเป็นวิเคราะห์อยู่นานเพื่อประโยชน์อะไร”
โจวเจ๋อไม่สนใจความคิดของเหล่าเต๋า เขาดึงศพที่สองออกมา ซึ่งเป็นศพผู้ชาย เป็นศพของชายหนุ่มคนหนึ่ง
“เป็นรูปภคนนั้น”
เหล่าเต๋าจําร่างนี้ได้ ท้ายที่สุดพวกเขาก็เคยเกือบจะต่อสู้กัน
โจวเจ๋อเอื้อมมือไปที่ขากรรไกรล่างของร่างกายและมองเห็นบาดแผลสีแดงอยู่รอบคอเขา
“ถูกปาดคอหรือเปล่า”
ชายชราคาดเดา
โจวเจ๋อพยักหน้า สาเหตุการตายคือเขาถูกของมีคมบาดคอทําให้เสียเลือดมากเกินไปจนเสียชีวิต
โจวเจ๋อเปิดตู้ที่สามออกมา นี่คือร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่ง
“ผมจําเธอได้ เธอเป็นพยาบาลที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์”
โจวเจ๋อตรวจสอบตําแหน่งขากรรไกรล่างของศพผู้หญิงและพบว่าไม่มีบาดแผลที่นี่
แต่แล้วโจวเจ๋อก็เห็นที่คอของเธอมีบาดแผลตื้นๆอยู่รอยหนึ่งและใต้หน้าอกด้านซ้ายของศพ ผู้หญิงมีบาดแผลเล็กๆอยู่ เพียงแต่ว่าบาดแผลนี้ลึกมาก
จากประสบการณ์ในชีวิตที่แล้วของโจวเจ๋อคนทั้งสองนี้น่าจะเสียชีวิตจากการลงมือของคนเดียวกัน
“ดูเหมือนว่าเธอจะถูกแทงด้วยมีดสั้น”
แม้ว่าเหล่าเต๋าจะดูเหมือนไม่ฉลาดเท่าไหร่ แต่ถึงยังไงเขาก็เร่ร่อนมาตั้งแต่เด็กย่อมมีประสบการณ์การคลุกคลีกับคนในโลกมืดมาไม่น้อย
“น่าจะเป็นมีดที่มีลักษณะเฉพาะ อาจเป็นกริชก็ได้” โจวเจ๋อพยักหน้า
เมื่อผีฆ่าคนจะไม่ใช้มีดดังนั้นนี่จึงเป็นการลงมือของคนอย่างแน่นอน
เนื่องจากเป็นฝีมือมนุษย์ จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจวเจ๋อ เขามีหน้าที่รับผิดชอบในการส่งผีไปนรกเท่านั้น
อย่างไรก็ตามโจวเจ๋อยังคงรู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์นี้มาก แพทย์และพยาบาลเหล่านี้คือคนที่เขาต้องการให้ตาย แต่เมื่อเขาปล่อยคนพวกนี้ไปแล้วเขาก็ไม่ต้องการให้คนพวกนี้ถูกคนอื่นฆ่าเช่นกัน
โจวเจ๋อสามารถอนุมานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้พอคร่าวๆ
นั่นคือหลังจากที่พวกเขาออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ก็มีคนมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับกริชหรือมีดในมือ พยาบาลและแพทย์เหล่านี้ยังคงนอนอยู่ไม่ได้สติ
คนคนนั้นจึงลงมือใช้กริชปาดคอและแทงซ้ําเข้าที่ร่างกายของหมอและพยาบาลพวกนั้น ผีไม่ได้เป็นคนฆ่า แต่คนต่างหากที่ฆ่าคนพวกนี้
“ไปกันเถอะ” โจวเจ๋อกล่าว
เนื่องจากไม่ใช่ผี โจวเจ๋อจึงขี้เกียจจะสนใจเรื่องนี้
“แล้ผมต้องมอบตัวไหม”
“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปกปิดบางสิ่งบางอย่างในเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แม้ว่าคุณจะไม่มอบตัวแต่สุดท้ายแล้วพวกตํารวจก็จะตามหาลูกค้าทุกคนที่เคยเล่นการพนันกับพวกเขา”
“ถ้าอย่างนั้นก็รอให้ตํารวจมาจับดีกว่า”
เหล่าเต๋ากังวลว่าโจวเจ๋อจะส่งตัวเขาไปให้ตํารวจในฐานะพยาน
หลังจากออกจากโรงพยาบาลก็ดึกมากแล้ว มีร้านอาหารข้างทางมากมายอยู่ข้างนอก พวกเขาจึงแวะกินอะไรบางอย่างเพราะว่าพวกเขาไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เที่ยงแล้ว
อย่างไรก็ตามเนื่องจากโจวเจ๋อไม่ได้พกน้ําป่วยเปรี้ยวมาด้วยมันจึงเป็นความยากลําบาก สําหรับเขาที่ต้องทนต่ออาการคลื่นไส้ และกลืนอาหารพวกนั้นด้วยความเจ็บปวด
“เจ้านาย คุณควรกินอะไรเบาๆก่อน ผมจะซื้อซาลาเปามาให้คุณ 2 อัน
โจวเจ๋อวางตะเกียบลงและหยิบซาลาเปามากินแทน เขาต้องกินอะไรบางอย่างอย่างน้อยๆเพื่อรักษาพลังงานที่จําเป็นสําหรับการดํารงชีวิตอยู่
เขาไม่อาจปล่อยให้ร่างกายของเขาต้องทรุดโทรมลงได้
โจวเจ๋อถือซาลาเปาไว้ในมือแล้วส่ายหัว
“ซาลาเปานี้กินไม่ได้แล้ว มันไม่ได้ทําขึ้นใหม่”
“เอ่อ…”
เหล่าเต๋าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพูดว่า
“ตอนนี้มันเย็นแล้ว คิดว่าถ้าจะกินแบบสดใหม่ก็คงต้องรอพรุ่งนี้เช้า”
โจวเจ๋อบีบซาลาเปาด้วยเล็บข้างหนึ่ง แม่ว่าข้างนอกจะดูนุ่มนิ่มแต่ข้างในน้ําแข็งมาก แต่เมื่อเล็บของเขาแทงเข้าไปในซาลาเปามันก็เกิดรอยแปลกๆที่คุ้นเคย
ทันใดนั้นโจวเจ๋อลุกขึ้นยืนแล้วรีบวิ่งไปที่โรงพยาบาลทันที
“เจ้านาย!”
เหล่าเต๋าตะโกน เมื่อเห็นว่าโจวเจ๋อไม่สนใจ เขาจึงทิ้งเงิน 200 หยวนไว้ที่โต๊ะ เขาตะโกนบอกเจ้าของร้านก่อนจะวิ่งตามโจวเจ๋อไป