เมื่อชาติก่อนซ่งชิงอู๋ช่วยอาเหม็ดทำเรื่องเลวๆไปไม่น้อย ภายหลังมาก่อกวนในประเทศนี้ก็ไม่น้อยเช่นกัน สร้างความลำบากให้พวกอวี๋หมิงหลาง เมื่อชาติก่อนบางครั้งอวี๋หมิงหลางก็พาทหารไปชายแดน ล้วนเป็นเรื่องที่ซ่งชิงอู๋กับอาเหม็ดก่อทั้งนั้น มีการเหตุการณ์นองเลือดเกิดขึ้นด้วย
ดังนั้นเสี่ยวเชี่ยนจึงไม่เกิดความเห็นใจสองคนนี้เลยสักนิด เมื่อถึงเวลาคิดบัญชีเธอก็เต็มที่
“คุณคิดจะหาช่องทางใช้แผนส่งดอกไม้นี้ยังไง”
“ง่ายมาก ไปหาอาเหม็ดให้เขาทำแบบทดสอบที่ครอบคลุมทุกด้าน ดูว่าเขาเป็นคนยังไง ขอแค่วิเคราะห์นิสัยของเขาออกมาได้ ฉันก็จะสามารถสร้างแผนอันเพอร์เฟคให้ซ่งชิงอู๋ตามหาหัวใจได้ง่ายขึ้น”
“เจ๋งขนาดนั้นเลย”
“ฉันเจอเคสแบบนี้บ่อยๆ ฉันทำให้คนหย่ากันได้ และก็ช่วยคนให้พิชิตใจอีกฝ่ายได้ ถึงคนเราจะมีความรักในแบบฉบับของตัวเอง แต่อันที่จริงแล้วในสายตาของจิตแพทย์อย่างพวกฉันมันก็แค่สูตรการจับบุคลิกของคนให้มาคลิกกัน”
น้ำเสียงมั่นใจของเสี่ยวเชี่ยนได้แสดงให้เห็นความรู้ความสามารถในการเป็นจิตแพทย์ของเธอ ทำให้เพื่อนทหารของอวี๋หมิงหลางทั้งสองคนต่างรู้สึกนับถือ
“งั้นพี่สะใภ้…วางแผนจีบผู้ชายที่ซับซ้อนอย่างหัวหน้าใหญ่ของพวกเรายังไงครับ”
“ฉัน…เนี่ยนะจีบเขา”
เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกเหมือนได้ยินความลับสุดยอดบางอย่าง
อวี๋หมิงหลางรู้สึกอายมาก
อยากจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีเพื่อหลบสายตาเฉียบคมของเสี่ยวเชี่ยนที่มองมา
คนที่หน่วยเก่าต่างรู้ว่าอวี๋หมิงหลางกว่าจะจีบเสี่ยวเชี่ยนที่ทั้งไอคิวสูงทั้งสวยได้นั้นยากเย็นแสนเข็ญแค่ไหน ถึงจะไม่ขนาดต้องบุกน้ำลุยไฟ แค่ก็ต้องใช้สมองอย่างหนัก ตอนนั้นอวี๋หมิงหลางได้ใจมีเปิดคอร์สให้เพื่อนทหารได้ฟังเขาแบ่งปันประสบการณ์การจีบหญิง การแยกสีลิปสติกอะไรแนวๆนั้น
ตอนนี้เปลี่ยนสังกัดแล้วใช่ไหมล่ะ ก็ไม่มีใครรู้ถึงประวัติการจีบเมียที่แสนลำบากพวกนั้น อวี๋หมิงหลางจึงยิ่งได้ใจหนัก
หลายสัปดาห์ก่อนเพื่อสร้างเซอร์ไพร้ส์ให้เสี่ยวเชี่ยนเขาทำบ้านเสียจนสภาพดูไม่ได้ เพื่อนทหารของเขาไปเห็นแล้วก็ถึงกับตกตะลึง บอกว่าคนที่มีรสนิยมแบบนี้จีบหญิงติดได้ไง
อวี๋หมิงหลางด้วยความหัวร้อนขึ้นมาจึงเริ่มคุยโม้โอ้อวด
จีบหญิงอะไรกัน ตอนนั้นพี่สะใภ้พวกนายจีบฉันก่อนโว้ย
ปรากฏว่าเพื่อนทหารพวกนั้นพากันปากมาก ไม่นานทั้งค่ายก็รู้เรื่องนี้กันหมดว่าเมียหัวหน้าใหญ่เป็นฝ่ายจีบหัวหน้าใหญ่ก่อน
เสี่ยวเชี่ยนไม่มา ทุกคนต่างคิดว่านี่เป็นเรื่องจริง อย่างไรเสียอวี๋หมิงหลางก็เป็นหัวหน้าใหญ่ที่อายุน้อยที่สุดของทหารบก และเป็นเพียงคนเดียวที่ขึ้นมาในตำแหน่งนี้ได้ด้วยยศพันโท
ฮีโร่สุดเท่ห์แบบนี้จะมีสาวๆมาชอบก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่วันนี้หัวหน้ากลางกับพลาธิการได้เห็นแล้วว่า อวี๋หมิงหลางปกป้องแฟนตัวเองขนาดไหน และได้เห็นมาดบอสสาวของเสี่ยวเชี่ยนที่แตกต่างจากผู้หญิงธรรมดา ผู้หญิงที่พูดคุยกับผู้บัญชาการอย่างสบายๆ ผู้หญิงที่มีความรู้ในด้านจิตวิทยาอย่างแตกฉาน ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนที่ตามจีบผู้ชายก่อนหรือเปล่า
ดังนั้นหัวหน้ากลางจึงถามคำถามนี้ออกมาด้วยความคิดชั่วร้าย อย่างมากก็แค่ถูกหัวหน้าใหญ่ไล่เตะ แต่โอกาสที่จะได้จับโป๊ะหัวหน้าใหญ่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมี
เสี่ยวเชี่ยนเหลือบมองอวี๋หมิงหลางที่ร้อนตัว เธอพอจะเข้าใจเรื่องราวแล้ว ในใจรู้สึกขำ ยื่นมือออกไปจับมืออวี๋หมิงหลาง ตอนจับอวี๋หมิงหลางหดมืออย่างเห็นได้ชัด ตานี่ไม่คิดถึงผลลัพธ์ของการคุยโม้เลยหรือไง
อวี๋หมิงหลางถูกเปิดโปง เขาเตรียมใจกลับบ้านไปคุกเข่าบนกระดานซักผ้าแล้ว
แต่กลับได้ยินเสี่ยวเชี่ยนพูดออกมาว่า “ฉันเองก็ไม่รู้ตอนนั้นประทับใจเขาตรงไหน แต่ฉันบอกได้ว่า ตอนที่ฉัน ‘ตามจีบ’ หัวหน้าใหญ่ของพวกคุณ ฉันไม่ต้องใช้ความรู้จิตวิทยาที่เรียนมาเลย ไม่ใช่แค่ตอนจีบเขา รวมถึงการใช้ชีวิตด้วยกันในช่วงเวลาต่อมาด้วย ฉันใช้จิตวิทยาวิเคราะห์เขาไม่ได้ ดังนั้นเวลาเราอยู่บ้านด้วยกันจึงเป็นตัวของตัวเอง เป็นเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วไป”
อวี๋หมิงหลางประทับจิตประทับใจไม่ไหวแล้ว เมียผมโคตรยิ่งใหญ่ ไม่แฉเขาต่อหน้าคนอื่น ซึ้งใจจัง~
สวีทหวานอย่างกะทันหันแบบนี้เล่นเอาหัวหน้ากลางไม่ทันตั้งตัว รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
“ทำไมน้องสะใภ้ถึงพูดว่าใช้จิตวิทยาวิเคราะห์เขาไม่ได้ล่ะ” พลาธิการจับใจความสำคัญได้
“พูดภาษาบ้านๆหน่อยก็คนนอกย่อมมองออกมากกว่าเจ้าตัว จิตแพทย์ไม่สามารถวิเคราะห์คนในครอบครัวตัวเองได้ ดังนั้นพวกเราจัดการแก้ปัญหาให้คนอื่นได้ แต่รักษาคนในครอบครัวไม่ได้ ระหว่างฉันกับเขาก็เลยไม่ต้องใช้แผนจีบอะไรกัน ก็แค่ใจตรงกัน เคมีเข้ากัน”
พลาธิการเองก็โดนสาดน้ำตาลใส่ อยากจะพูดอะไรก็พูดไม่ออก ทำได้แค่ตบบ่าอวี๋หมิงหลางด้วยความอิจฉาริษยาและหมั่นไส้
“นายนี่ทำไมถึงได้โชคดีขนาดนี้นะ ได้เจอกับผู้หญิงที่ดีขนาดนี้”
อวี๋หมิงหลางหัวเราะฮี่ๆ สายตาที่มองเสี่ยวเชี่ยนเต็มไปด้วยความประทับใจ
เมียจ๋า เอาแค่การแสดงออกของคุณวันนี้ ภารกิจทำอาหารหกสิบปีในอนาคตยกให้ผมโลด
เสี่ยวเชี่ยนเหล่มองเขา คล้ายกับกำลังพูดว่า ต่อให้ไม่มีเรื่องที่ฉันรักษาหน้านายในวันนี้ แล้วคิดว่าจะหนีเรื่องทำอาหารได้เหรอ
พอคุยธุระเสร็จอวี๋หมิงหลางก็พาเสี่ยวเชี่ยนกลับบ้าน ระหว่างทางเขาพยายามประดิษฐ์คำชมเสี่ยวเชี่ยน
“เมียจ๋า ผมคิดไปคิดมาในที่สุดก็หาคำมาบรรยายความรู้สึกที่มีต่อคุณในตอนนี้ได้แล้ว”
อะไร”
“ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก”
แค่สุภาษิตนี้ก็สามารถใช้อธิบายแผนส่งดอกไม้ของเสี่ยวเชี่ยนได้อย่างเพอร์เฟค
เรื่องซ่งชิงอู๋ใหญ่ขนาดนี้ แต่กลับถูกเสี่ยวเชี่ยนวางแผนได้อย่างแยบยล
“ฉันก็มีคำจะมอบให้นาย แสดงถึงความรู้สึกที่มีต่อนายในวันนี้”
“หืม”
“คนหน้าปูนซีเมนต์”
“…ทำไมไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่อะไรแบบนั้นล่ะ” อวี๋หมิงหลางรู้สึกว่าวันนี้เขาทำหน้าที่ได้อย่างสุดยอดแล้วนะ
“เรื่องที่นายไปโม้ไว้ว่าฉันตามจีบนายไม่คิดว่ามันหน้าด้านมากเหรอ”
“ฮี่ๆ…” เรื่องนี้อวี๋หมิงหลางไม่ขอออกความเห็น เสียวเหม่ยพูดความจริง หน้าไม่หนาจะจีบเมียที่แสนดีขนาดนี้ได้เหรอ
“แต่ฉันไม่รีบแก้ข่าวหรอกนะ ไว้รอฉันย้ายเข้ามาเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงว่าใครจีบใครกันแน่ ช้าเร็วทุกคนต้องเห็น”
ต้องมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านทหารอีกหลายปี เกราะของหมาที่ซื่อสัตย์อย่างอวี๋หมิงหลางสักวันต้องถูกเปิดออก เสี่ยวเชี่ยนไม่รีบเลยแม้แต่น้อย
เมื่อมีแผนในขั้นแรกแล้ว เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางก็วางใจ ตอนนี้รีบร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์ ทำได้แค่ทำตามแผนของเสี่ยวเชี่ยน วางแผนดักอาเหม็ดก่อน จากนั้นค่อยใช้อาเหม็ดเป็นตัวจัดการซ่งชิงอู๋
หลังกินข้าวเย็น อวี๋หมิงหลางล้างชามเสร็จแล้วก็เข้าไปหาเสี่ยวเชี่ยนในห้องนอน
“เสียวเหม่ย ผมอยากคุยกับคุณเรื่อง—ว้าก”
เสี่ยวเชี่ยนที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งหันหน้ามา เสี่ยวเฉียงเห็นใบหน้าเสี่ยวเชี่ยนแดงไปหมด เหลือแค่ตากับปากที่โผล่ออกมา ปีศาจมาร์คหน้ามาจากไหนเนี่ย
“ผู้หญิงอย่างพวกคุณสติดีกันหรือเปล่า เอะอะก็เอาอะไรไปถูหน้า ครั้งนี้เอาเลือดใครมาอาบหน้า ดึกดื่นโผล่ออกไปข้างนอกได้ทำคนเป็นโรคหัวใจช็อคตายพอดี” อวี๋หมิงหลางรู้สึกโชคดีที่ตัวเองหัวใจแข็งแรง ใบหน้าแดงโหดแบบนี้น่ากลัวจะตาย ว่าแต่มีมาร์คหน้าสีแดงด้วยเหรอ