175 – ค่าผลงานที่มากมายมหาศาล
โจวเจ๋อเริ่มเดินไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษและมองดูฝูงชนที่ส่งเสียงดังที่นั่น ดวงตาของเขาสบกับชายหนุ่มคนนั้นสองวิก่อนที่พวกเขาจะพยักหน้าให้กัน
หลังจากเก้าสิบเก้าปีแห่งชีวิต ชายหนุ่มได้ผ่านสงครามและสถานการณ์ที่ปั่นป่วนทุกรูปแบบ ชีวิตแบบนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและประสบการณ์ของเขานั้นเป็นสิ่งที่ยากจะเลียนแบบ
พวกเขาไม่ต้องพูดอะไรมากมายก็สามารถเข้าใจกัน
มือของโจวเจ๋อเปิดออกช้าๆ ประตูนรกก็ถูกเปิดออก นี่คือจุดจบ นี่คือปลายทางข
มันเป็นที่สุดท้ายสําหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหมด!
“ไปกันเถอะ!”
ชายหนุ่มนําชาวบ้านมาหาโจวเจ๋อ
หลังจาก 80 ปี ที่ชีวิตขึ้นๆลงๆ และพบเจอกับความขมขึ้นมากมาย นี่คือจุดจบที่ชายหนุ่มคนนั้นพอใจมากที่สุด
ในอดีตชาวบ้านเสียชีวิตเพราะเขา เมื่อเขาได้ยินข่าวเขาก็นั่งร้องไห้อยู่ที่หน้าค่ายของตัวเองเป็นเวลาหนึ่งคืน
จากนั้นเจ็ดปีผ่านไป เขาก็ต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาพยายามต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นโดยไม่คิดชีวิตเขาต้องการติดตามทุกคนในหมู่บ้านไปด้วยความสํานึกผิด!
แต่ในสนามรบ ยิ่งกล้าหาญมากเท่าไร เขาก็ยิ่งไม่ตาย เขาเอาตัวรอดในการต่อสู้และได้รับการเลื่อนตําแหน่งเมื่อพวกมารร้ายยอมจํานนเขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตแบบนี้
เขารู้สึกว่าภารกิจของเขาจบลงแล้วดังนั้นเขาจึงเกลียดสงครามกลางเมืองที่ดําเนินต่อจากสงครามโลกไปอีกหลายสิบปี
ในมุมมองของเขาสงครามกลางเมืองถือเป็นการดูหมิ่นหมู่บ้านที่สามและผู้ที่เสียชีวิตจากการโจมตีของกองทัพญี่ปุ่น!
ญี่ปุ่นพ่ายแพ้ไปแล้วและสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็จบลง แต่ในดินแดนทางตะวันออกของจีนในขณะนั้นยังมีระดับการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่ทําให้ผู้เสียชีวิตมีเป็นล้านคน
ดังนั้นเขาจึงเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อช่วยให้สงครามครั้งนี้จบลงอย่างรวดเร็ว บางครั้งการต่อสู้ของเขาก็เป็นการแสวงหาความตายด้วยเช่นกัน
ความรู้สึกยังคงฝังแน่นอยู่ในใจของเขา แต่เมื่อกลับมาที่นี่อีกครั้งเขาจึงรู้สึกได้ว่าตัวเองได้รับการปลดปล่อย
เขาเดินนําหน้าชาวบ้านเข้าสู่ประตูนรก ชาวบ้านทุกคนไม่มีใครขัดขึ้นทุกคนต่างยิ้มแย้มเดินไปข้างหน้าพูดคุยกันอย่างสนุกสนานพวกเขาทนทุกข์ทรมานมาพอแล้วพวกเขาต้องการได้รับการปลดปล่อย
บางสิ่งเป็นของปลอม ในเมื่อทุกคนที่อยู่ที่นี่มาอย่างยาวนานพวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าตัวเองติดอยู่ในโลกของความฝัน?
แต่ถึงจะอย่างนั้นพวกเขาก็ยังยึดติด เพื่อรอคอยชายหนุ่มคนนี้ เมื่อเขามาที่นี่ครั้งทุกคนจึงได้รับการปลดปล่อยอย่างแท้จริง
ซูชิงหลางยืนอยู่ด้านข้าง เขานับชาวบ้านทุกคนอย่างเงียบๆ
คนสุดท้ายเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆที่มีอมยิ้มและมีใบหน้าคล้ายกับเด็กหญิงที่อยู่ในร้านหนังสือเธอยิ้มแปลกๆให้กลับโจวเจ๋อจากนั้นเธอก็มองไปที่ดวงจันทร์พร้อมกับเดินเข้าประตูนรกไป
โจวเจ๋อปิดประตูแล้วหมู่บ้านนี้ก็หายไปอย่างรวดเร็ว
“กลับกันเถอะ”
โจวเจ๋อพูดช้าๆ ซูชิงหลางโค้งคํานับให้กับบริเวณที่ตั้งของหมู่บ้านด้วยความซาบซึ้ง
“กลับกันเถอะ”
ความจริงแล้วการรักษาประตูนรกก็เป็นสิ่งที่เหนื่อยมากเช่นกัน แต่ในครั้งนี้โจวเจ๋อรู้สึกเต็มใจและยินดีที่ได้ช่วยเหลือทุกคนในหมู่บ้าน
โจวเจ๋อต้องการหยิบแผ่นพับของเขาออกมาดู แต่ในสถานการณ์นี้มันคงไม่เหมาะสมอย่างมากเพราะในขณะนี้ซูชิงหลางกําลังร้องไห้อยู่!
แต่ความรู้สึกอิ่มเอมยินดียังคงกระตุ้นโจวเจ๋ออย่างต่อเนื่อง เขาพยายามบีบคั้นอารมณ์ของตัวเองให้ร้องไห้ออกมาแต่มันไม่สําเร็จ
เพราะจริงๆแล้วเขาต้องการหัวเราะ หัวเราะอย่างมีความสุข
ซูชิงหลางมองดูสีหน้าพิลึกพิลั่นของโจวเจ๋อแล้วพูดว่า
“ถ้าคุณอยากหัวเราะก็หัวเราะออกมาเลย ปัญหาได้รับการจัดการแล้ว”
จากนั้นเขาก็เสริมว่า
“ฉันคิดว่าพวกเราควรสร้างอนุสาวรีย์ให้พวกเขาดีหรือเปล่า”
“แต่ผมไม่มีเงิน ผมยังติดหนี้คุณกับอึ้งยิ่งอยู่ไม่น้อย”
“………” ซูชิงหลาง
ซูชิงหลางมีลางสังหรณ์บางอย่างปรากฏขึ้นมาในหัวใจของเขา
ไม่! ไม่มีทาง
“ในฐานะคนที่มีคอนโดมากกว่า 20 หลัง ผมคิดว่าคุณควรขายคอนโดไปสักหลังเพื่อมาสร้างอนุสาวรีย์ให้พวกเขา” โจวเจ๋อกล่าว
“…………” ซูชิงหลาง
“คุณต้องคิดให้ดี หากปราศจากความเสียสละของคนเหล่านี้เมื่อ 80 ปีที่แล้ว คุณจะไม่สามารถอยู่อย่างราชาได้แบบนี้ อย่างน้อยที่สุดราคาที่ดินก็จะแพงมากและคุณไม่มีทางที่จะครอบครองคอนโดได้ถึง 20 หลังอย่างแน่นอน?”
..” ซูชิงหลาง
“คุณคิดว่ายังไง”
“ฉันว่าคนที่ได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ฉันนะ” ซูชิงหลางกล่าวอย่างไม่พอใจ
“คุณดูตัวเองสิ คุณเห็นความเสียสละของคนพวกนี้อยู่ต่อหน้าต่อตา แต่คุณก็ยังไม่คิดจะทําอะไรเพื่อพวกเขาเหรอ?” โจวเจ๋อเอื้อมมือออกไปและตบไหล่ซูชิงหลางเบาๆ
“ไปพูดกันวันหลัง”
โจวเจ๋อไม่ได้พยายามเซ้าซี้ต่อไปแต่หยิบสมุดประจําตัวของเขาออกมาโดยไม่รู้ตัว
ชาวบ้านที่นี่มี 40-50 คนไม่รู้ว่าค่าผลงานของเขาจะพอหรือเปล่า?
ที่ด้านหน้าของหนังสือรับรอง คําว่า “ชั่วคราว” จะเปลี่ยนเป็นประจําหรือไม่?
อย่างไรก็ตามเมื่อเปิดหนังสือรับรองของเขา โจวเจ๋อก็พบว่าค่าผลงานของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 99%
“เท่าไหร่?”
ซูชิงหลางโน้มตัวเพื่อให้เห็นว่าโจวเจ๋อเป็นพนักงานประจําแล้วหรือยัง
เมื่อซูชิงหลางเห็น 99% เขาก็ยิ้มเยาะออกมา จากนั้นก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
โจวเจ๋อถอนหายใจ มองไปที่ซูชิงหลางยิ้มแล้วพูดว่า:
“เหล่าซูผมมีเรื่องอยากปรึกษาคุณ”
“พูด.”
“เรื่องนี้มันสําคัญมากคุณพอจะช่วยผมได้หรือเปล่า”
“อืม ถ้าช่วยได้ก็ช่วย”
“คุณคือ*ซวนซิ่ว เมื่อคุณตายไปแล้วคุณก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นผีมากกว่าคนทั่วไป ใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็ให้ผมฆ่าคุณ หลังจากที่คุณตายผมจะส่งคุณไปนรกแล้ว 1% ของผมก็จะเสร็จสมบูรณ์ตกลงไหม ” ……….“ซู ชิงหลาง
โจวเจ๋อส่ายหัวยิ้มและกล่าวว่า
“ฮ่าๆๆ ไม่ต้องประหม่า ผมไม่คิดพึ่งพาคุณหรอก ยังมีเด็กหญิงตัวเล็กๆอีกคนอยู่ในร้านหนังสือ ผมให้สาวใช้ของผมจับตาดูเธอไว้แล้วหลังจากที่ส่งเธอไปนรกผมก็จะกลายเป็นพนักงานประจําทันที”
ในเวลานี้พวกเขาสามารถออกมาสู่โลกภายนอกโดยไม่ต้องผ่านกองฟางพวกนั้น หลังจากที่ชาวบ้านเข้าไปในประตูนรกหมดแล้วหมู่บ้านก็สลายหายไปเอง
ซูชิงหลางและโจวเจ๋อกําลังยืนคุยกันอยู่บนถนน เหล่าเต่าและลิงน้อยก็อยู่อีกฝั่งของถนน
หลังจากขึ้นรถ ซูชิงหลางก็เป็นคนขับเหมือนเดิม โจวเจ๋อนั่งอยู่ที่ที่นั่งคนขับและเล่นหนังสือรับรองในมือต่อไป
พูดตามตรง ตอนนี้โจวเจ๋อมีความรู้สึกเหมือนกับตอนที่เขาได้เป็นหัวหน้าห้องเมื่อครั้งที่เรียนหนังสือในชั้นประถม
เขารู้สึกตื่นเต้นจริงๆ ตื่นเต้นจนรอยยิ้มของเขาทําให้คนอื่นหมั่นไส้
“เฮอะ” ซูชิงหลางฉีกยิ้ม” มีความสุขไปเถอะ คุณรู้ได้ยังไงว่าเมื่อคุณได้รับการเลื่อนตําแหน่งให้เป็นพนักงาน ประจําแล้ว พวกที่อยู่ในนรกจะไม่เปลี่ยนให้คุณกลายเป็นผีจริงๆ? “มันไม่เกิดขึ้นหรอก”ฉันช่วยคุณมากมายวันนี้ แล้วไหนผลประโยชน์ของฉัน”ซูชิงหลางเริ่มทวงบุญคุณ
“ไม่ต้องห่วงถ้าคุณตายไปแล้วชาติหน้าผมจะให้คุณเกิดเป็นผู้หญิงและคลอดลูกสาวที่น่ารักสักคนทุกอย่างนี้ก็เพื่อชดเชยปมด้อยที่อยู่ในใจของคุณ”เอี้ยด..”
ซูชิงหลางเหยียบเบรกกะทันหันทําให้ทุกคนในรถใจหายใจคว่ํา
ซูชิงหลางสูดหายใจเข้าลึกๆหลายครั้งเพื่อระงับแรงกระตุ้นที่จะบีบคอโจวเจ๋อ
บัดซบจริงๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นคําพูดที่ไม่จริงจังแต่ซูชิงหลางรู้ว่าโจวเจ๋อทําเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน!
*ซวนซิ่ว คือผู้ชายที่มีธาตุหยินอยู่ในร่างกายมากเกินไปจึงเกิดการเบี่ยงเบนทางเพศ