บทที่83 ข่าวลือ
ดวงตาของติงเมิ่งเหยนจ้องมองเป็นเวลานาน จากนั้นซูมเข้าที่ภาพเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่อาการวิงเวียนศีรษะของเธอ
“นี่มัน……”
เธอมองไปที่เจียงชื่อ แล้วกลับมามองโทรศัพท์อีกครั้ง เธอรู้สึกประหลาดใจจนพูดไม่ออก
เจียงชื่อกล่าวพร้อมกับยิ้มเยาะ “นี่แหละเขาเรียกว่าหนามยอกเอาหนามบ่ง เพื่อให้พวกเขาได้ลิ้มรสรสชาติของการถูกทำให้เสียชื่อเสียงอย่างร้ายกาจ”
ติงเมิ่งเหยนถามขึ้นว่า “คุณทำได้อย่างไร?”
“ฉันมีเพื่อนสองสามคนอยู่ในบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง พวกเขามีแหล่งข้อมูลสื่อใหม่อยู่บ้าง ดังนั้นฉันจึงขอให้พวกเขาช่วย”
“โอ้ ทำแบบนี้ … ไม่ดีมั้ง?”
เจียงชื่อยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นคุณต้องการให้ฉันยกเลิกไหม?”
ติงเมิ่งเหยนเงยหน้าขึ้นทันที “เห้อ ไม่”
ในขณะนี้ ในห้องทำงานของเจ้านายเฉิงหมิงหู้ต้ง ไห่ฉงเซิ่งคุยกับเจ้านายสักพักจากนั้นก็เปิดประตูเดินออกมา
ทันทีที่เขาเดินออกมา คนกลุ่มหนึ่งก็พากันวิพากษ์วิจารณ์เขา และมีคนแอบหัวเราะด้วย
ไห่ฉงเซิ่งซึ่งมีความละเอียดอ่อนด้วยอาชีพของเขาอยู่แล้ว รู้สึกได้ทันทีว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน รีบคว้าคนหนึ่งแล้วถามว่า “แกหัวเราะอะไร?”
“พี่เซิ่ง คุณรู้อยู่แล้วว่าผมหัวเราะอะไร”
“รู้บ้าบออะไร!”
“โอ้พี่เซิ่ง อย่าแสร้งทำเป็นหน่อยเลย ตอนนี้ทุกคนในโลกนี้รู้เรื่องของคุณกับเจ้านายหมดแล้ว ผมว่าคุณทำไม่ถูกนะ ทั้งๆที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้กกับเจ้านายอยู่ ครั้งที่แล้วผมขอให้คุณพูดกับเจ้านายเรื่องขอเพิ่มเงินเดือน คุณยังมาโกหกว่าไม่ค่อยคุ้นเคยกับเจ้านายอีก จุ๊ๆๆ”
พวกเขากำลังพูดอะไรอยู่เนี่ย?
ไห่ฉงเซิ่งหิ้วคอเสื้อของอีกฝ่ายหนึ่ง และตะโกนอย่างดุเดือด “แกบังอาจพูดจาไร้สาระอีกสักคำดู”
“พี่เซิ่ง ไม่ใช่ว่าผมพูดเรื่องไร้สาระหรอกนะ แต่มันมีข่าวรายงานออกมาแล้วในตอนนี้
“เอามาให้ฉันดูหน่อย”
ไห่ฉงเซิ่งเปิดดูข่าว และพบว่าสื่อหลายสิบแห่งรายงานเรื่องอื้อฉาวระหว่างเขากับหวางหย่าเหม่ยเจ้านายของเขาอย่างล้นหลามไปแล้ว
บางคนถึงกับเขียนอย่างเป็นทางการว่า ทั้งสองได้มีลูกด้วยกันแล้ว และพร้อมที่จะหนีไปด้วยกับโดยที่ไม่ให้ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรู้
“ไอ้บัดซบคนไหนเขียนเรื่องแบบนี้?”
ไห่ฉงเซิ่งรีบเข้าไปในห้องทำงานของเจ้านายพร้อมกับโทรศัพท์มือถือ และพูดอย่างรีบร้อนว่า “แย่แล้ว เจ้านาย คุณอ่านข่าวนี้ดู”
“มีอะไรเหรอ? ข่าวที่คุณเขียนโดนใครเอาเรื่องอีกเหรอ?”
“เปล่า คือ … โอ้ย ผมก็อธิบายไม่ถูก เจ้านายดูเองเถอะ”
หวางหย่าเหม่ยหยิบมันขึ้นมาดู และเธอก็ตัวแข็งทันที
“นี่มันไอ้บัดซบหน้าไหนที่เขียนข่าวลือนี้?!”
“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน”
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไม่ใช่แค่สื่อเดียวเท่านั้นที่แพร่ข่าวลือนี้ การรายงานข่าวนี้กว้างมาก และดูเหมือนจะมีหลายสิบบริษัท พูดได้ว่า มีการระดมสื่อมวลชนในเขตเจียงหนานทั้งหมดในครั้งนี้
หวางหย่าเหม่ยมองภาพอย่างละเอียดหลายครั้งและพูดว่า “ในรูปนี้ไม่ว่านายหรือฉันก็เป็นเสื้อผ้าที่เราใส่อยู่ในตอนนี้ และดูจากมุมกล้องนั้นก็เป็นการแอบถ่าย นึกออกแล้ว เป็นผู้ชายเมื่อกี้น่ะเหรอ?”
สิ่งนี้เตือนให้ไห่ฉงเซิ่งนึกบางอย่างขึ้นมาได้
เขาหวนนึกสิ่งที่เจียงชื่อพูดก่อนที่เขาจะจากไป “ฮ่าๆ ไม่น่าล่ะเขาถึงบอกว่าจะเปิดศึก ‘การแข่งขันทางปากกา’ กับเรา และยังบอกว่าให้เราไปขอโทษพวกเขาด้วย ที่แท้เขาต้องการใส่ร้ายพวกเราด้วยวิธีนี้ ”
ไห่ฉงเซิ่งกำหมัดแน่น “ไม่ใช่ว่าผมพูดเข้าข้างตัวเองเรื่อง ‘การแข่งขันทางปากกา’ ผมยังไม่เคยแพ้มาก่อน ความสามารถของไห่ฉงเซิ่งในการสร้างเรื่องราวนั้น เป็นลำดับต้นๆในอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้ ผมจะทำให้ตระกูลติงเสียชื่อเสียงอย่างสิ้นเชิง ผมต้องการให้ผู้หญิงที่ชื่อติงเมิ่งเหยนไม่กล้าก้าวออกจากบ้านอีก!”
“ผมจะเขียนเดี๋ยวนี้เลย”
ในเวลาที่พวกเขากำลังจะตอบโต้กลับ เลขานุการก็วิ่งเข้ามา และพูดอย่างกังวลว่า “เจ้านายค่ะ แย่แล้ว”
“เกิดอะไรขึ้นอีกแล้ว?”